1. ราเมงหมูย่างจากญี่ปุ่น เป็นร่างย่อของราเมงอีกร้าน คือยามาโกย่าราเมงที่จานนึง200กว่าๆ แต่แบรนด์นี้เน้นราคาที่ 100 นิดๆ ผมเคยมากินตั้งแต่สมัยเปิดร้านใหม่ๆ จนตอนนี้ก็ผ่านมา...จะสิบปีแล้วเหรอ ถถถ วันนี้ลองแวะมากินสักหน่อยหลังจากห่างหายมานานมากกก ก็ถือว่าพอถูๆไถๆ แม้จะไม่ top form เหมือนตอนสมัยร้านเปิดใหม่ๆก็ตาม
2. เส้นราเม็งเป็นแบบเส้นเล็ก คล้ายๆเส้นหมี่ซั่วไหว้เจ้าของจีน แต่เหนียวกว่านิดนึง (เพราะไม่เจ (มั้ง)) กินเพลินอร่อยดี (แต่ระวังอย่าแช่น้ำซุปนานเส้นจะอืดเปื่อยเชียว) น้ำซุปกระดูกหมูรสหวานนิดๆแม้จะไม่รสจัดจ้านแบบตอนยุคแรก แต่ก็ซดได้คล่องคอดีจัง
3. ร้านนี้เคยเด่นมากตรงหมูย่าง คือจะใช้เนื้อหมูที่ติดมันเล็กๆมาย่างโปะเป็น topping บนราเมง (แต่วันนี้มีโปรโมชั่นวันพุธราเมงหมูชาชูใส่สาหร่ายมันลดราคาพิเศษ ผมเลยสั่งจานนี้มากินเป็นจานหลัก และสั่งหมูย่างมากินเสริมเพิ่มเติมอีกอย่าง) ปัจจุบันหมูไม่ติดมันเหมือนสมัยก่อนแล้ว (สงสัยลูกค้าจะไม่ชอบหมูมันๆ แบบคอหมูย่างแน่เลย แต่สมัยก่อนหมูย่างอร่อยมากกก ยังประทับใจไม่ลืม) รสชาติหมูย่างปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์กินเพลิน ดีกว่ากินหมูชาชูเยอะ (แต่เนื่องจากหมูไม่ได้ย่างสดก่อนเสิร์ฟ หมูเลยแห้งๆไปนิด)
4. อีกจานที่แนะนำจริงๆ สำหรับร้านนี้ ได้แก่เมนูยากิราเม็ง (บะหมี่ผัดหมูชาชู) ผมติดใจมาตั้งแต่สมัยทานในร้านยามาโกย่าแล้ว พอมาอยู่ในเมนูร้านนี้ ยอมรับว่ารสชาติยังอร่อยคงเส้นคงวาดีใช้ได้เลย เส้นเหนียวหนึบพอดี ปรุงรสเค็มนิดๆหอมกะทะร้อนคลุกเคล้ากับหมูชาชูหั่นเต๋า ราคาก็ไม่แพงเกิน แค่จานละ 115 บาท net แต่คุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ
5. การออกแบบเมนูของร้านนี้เด่นมากๆอีกอย่างตั้งแต่สมัยเป็นยามาโกย่าแล้ว คือ topping ต่างๆ สามารถสั่งมากินเพิ่มเติมเองได้ตามใจชอบ (โดยไม่ต้องสั่งราเม็งจานใหญ่มากิน) วันนี้นอกจาก topping คอหมูย่างแล้ว ผมก็สั่งเกี้ยวน้ำมาอีกจาน ราคาไม่แพงจานละ 25 บาท ไส้หมูในเกี้ยวน้อยไปนิด แต่เนื้อเกี้ยวอร่อยเหนียวนุ่มดี อีกอย่างถ้าสั่งเป็นเมนูจานเดี่ยว ทางร้านจะใส่น้ำจิ้มโชยุสูตรพิเศษเติมรสชาติให้อร่อยมากกว่าที่ใส่เป็นเครื่องในราเมงซะอีกด้วยนะ
6. จริงๆยังมีเครื่อง topping อีกหลายอย่าง ที่ถ้าใครชอบแบบไหนก็สั่งมาปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นสาหร่าย, ผักดองญี่ปุ่น, น้ำพริกหมูแบบญี่ปุ่น (เอามาปรุงรสน้ำซุปราเม็งให้เข้มข้นพิเศษมากขึ้น) ราคาก็สมเหตุสมผล ไม่แพงเกิน ดีกว่าซื้อราเม็งอีกชามราคาเกือบ 200 มากินเพิ่มแต่ได้เครื่องพอๆกับสั่งเป็น topping แยก
7. ส่วนเรื่องรสชาติ อย่างที่บอกคือ แม้จะไม่ top form แบบตอนสมัยเปิดร้านใหม่ๆ แต่ก็ไม่แย่เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ทางร้านเปิดสาขาเยอะซะจนคุณภาพตกลง จนในที่สุดก็ทยอยปิดสาขาไปจนเหลือแต่สาขาที่ทำเลดีๆเท่านั้น แต่ถ้าถามถึงคุณภาพแบบญ่ปุ่นแล้ว จริงๆอยากบอกว่าที่ญี่ปุ่นเอง ก็ใช่ว่าคุณภาพจะดีนะเออ (อย่างร้านจัมปง Ringer Hut ของญี่ปุ่นเอง เคยไปกินแล้ว คุณภาพกลับแย่กว่าที่เมืองไทยด้วยซ้ำไปนะ)
8. สำหรับเรื่องราคา ถ้าเทียบกับแบรนด์ราเม็งจากญี่ปุ่นแล้ว ถือว่าราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้ในแต่ละจาน (ราเมงบางร้านอาจจะจานละ 100 แต่ให้น้อยอย่างกะก๋วยเตี๋ยวเรือซะอีก) พอดีวันนี้ไปกินกับน้องแค่ 2 คน เลยสั่งเมนูพวกข้าวแกงกะหรี่ กับพวกของทอดต่างๆไม่ได้ (เดี๋ยวมันจะอิ่มเกิน) แต่เมนูกลุ่มข้าว ก็ถือว่าราคาประหยัด เมื่อเทียบกับข้าวแกงเติมหมูทอดข้างทาง ที่ราคาพุ่งไปร่วม 80 บาท (หรือเกือบร้อยในบางร้าน) (อันนี้ไม่นับหมูทอดเจ้จงนะ ที่ขายถูกดี)
อ้อ ราคาอาหารเป็นราคา net แล้ว ไม่บวก vat หรือ service เพิ่ม (ถ้าเป็นร้านยามาโกย่าจะมีชาจีน เซอร์วิส แต่ร้านนี้ผมลืมถามเขาว่ามีเซอร์วิสฟรีไหม เลยสั่งเป็นน้ำเปล่ามากินแทนครับ) อ้อ ถ้าทานมากกว่า 200 บาท สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ครับ
9. สำหรับเมนูอื่นๆที่วันนี้ไม่ได้สั่งมากิน แต่เคยกินมาแล้ว และคาดว่าน่าจะอร่อยเหมือนเดิม คือเมนูข้าวผัดชาฮั่งครับ ผัดได้หอมกระทะร้อนแบบจีนดีจัง / ที่แนะนำอีกอันนึง คือเมนูข้าวราดหน้าหมูตุ๋น ราดซอสสูตรเข้มข้น อร่อยเหมือนกินหมูพะโล้หวานๆหอมอร่อย
เมนูกลุ่มของทอด แนะนำโคโรเกะกุ้งครับ หอมมันกรอบอร่อยดีจัง ส่วนเมนูของทอดอื่นๆได้มาตราฐานครับ (แป้งชุบทอดอาจจะไม่โดดเด่นแบบร้านชาโบเต็น แต่อร่อยไม่แพ้ไปทานที่ญี่ปุ่นเลยครับ)
10. สรุป... สำหรับเมนูอร่อยบอกต่อ แนะนำราเมงผัดหมูชาชูนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง / ส่วนเมนูราเมง อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่สำหรับผมถือว่าอร่อยพอใช้ครับ
#มะพร้าวห้าว #OohCocoNUT
[CR] #อร่อย?บอกต่อ BasarakaRamen จามจุรีสแควร์
1. ราเมงหมูย่างจากญี่ปุ่น เป็นร่างย่อของราเมงอีกร้าน คือยามาโกย่าราเมงที่จานนึง200กว่าๆ แต่แบรนด์นี้เน้นราคาที่ 100 นิดๆ ผมเคยมากินตั้งแต่สมัยเปิดร้านใหม่ๆ จนตอนนี้ก็ผ่านมา...จะสิบปีแล้วเหรอ ถถถ วันนี้ลองแวะมากินสักหน่อยหลังจากห่างหายมานานมากกก ก็ถือว่าพอถูๆไถๆ แม้จะไม่ top form เหมือนตอนสมัยร้านเปิดใหม่ๆก็ตาม
2. เส้นราเม็งเป็นแบบเส้นเล็ก คล้ายๆเส้นหมี่ซั่วไหว้เจ้าของจีน แต่เหนียวกว่านิดนึง (เพราะไม่เจ (มั้ง)) กินเพลินอร่อยดี (แต่ระวังอย่าแช่น้ำซุปนานเส้นจะอืดเปื่อยเชียว) น้ำซุปกระดูกหมูรสหวานนิดๆแม้จะไม่รสจัดจ้านแบบตอนยุคแรก แต่ก็ซดได้คล่องคอดีจัง
3. ร้านนี้เคยเด่นมากตรงหมูย่าง คือจะใช้เนื้อหมูที่ติดมันเล็กๆมาย่างโปะเป็น topping บนราเมง (แต่วันนี้มีโปรโมชั่นวันพุธราเมงหมูชาชูใส่สาหร่ายมันลดราคาพิเศษ ผมเลยสั่งจานนี้มากินเป็นจานหลัก และสั่งหมูย่างมากินเสริมเพิ่มเติมอีกอย่าง) ปัจจุบันหมูไม่ติดมันเหมือนสมัยก่อนแล้ว (สงสัยลูกค้าจะไม่ชอบหมูมันๆ แบบคอหมูย่างแน่เลย แต่สมัยก่อนหมูย่างอร่อยมากกก ยังประทับใจไม่ลืม) รสชาติหมูย่างปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์กินเพลิน ดีกว่ากินหมูชาชูเยอะ (แต่เนื่องจากหมูไม่ได้ย่างสดก่อนเสิร์ฟ หมูเลยแห้งๆไปนิด)
4. อีกจานที่แนะนำจริงๆ สำหรับร้านนี้ ได้แก่เมนูยากิราเม็ง (บะหมี่ผัดหมูชาชู) ผมติดใจมาตั้งแต่สมัยทานในร้านยามาโกย่าแล้ว พอมาอยู่ในเมนูร้านนี้ ยอมรับว่ารสชาติยังอร่อยคงเส้นคงวาดีใช้ได้เลย เส้นเหนียวหนึบพอดี ปรุงรสเค็มนิดๆหอมกะทะร้อนคลุกเคล้ากับหมูชาชูหั่นเต๋า ราคาก็ไม่แพงเกิน แค่จานละ 115 บาท net แต่คุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ
5. การออกแบบเมนูของร้านนี้เด่นมากๆอีกอย่างตั้งแต่สมัยเป็นยามาโกย่าแล้ว คือ topping ต่างๆ สามารถสั่งมากินเพิ่มเติมเองได้ตามใจชอบ (โดยไม่ต้องสั่งราเม็งจานใหญ่มากิน) วันนี้นอกจาก topping คอหมูย่างแล้ว ผมก็สั่งเกี้ยวน้ำมาอีกจาน ราคาไม่แพงจานละ 25 บาท ไส้หมูในเกี้ยวน้อยไปนิด แต่เนื้อเกี้ยวอร่อยเหนียวนุ่มดี อีกอย่างถ้าสั่งเป็นเมนูจานเดี่ยว ทางร้านจะใส่น้ำจิ้มโชยุสูตรพิเศษเติมรสชาติให้อร่อยมากกว่าที่ใส่เป็นเครื่องในราเมงซะอีกด้วยนะ
6. จริงๆยังมีเครื่อง topping อีกหลายอย่าง ที่ถ้าใครชอบแบบไหนก็สั่งมาปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นสาหร่าย, ผักดองญี่ปุ่น, น้ำพริกหมูแบบญี่ปุ่น (เอามาปรุงรสน้ำซุปราเม็งให้เข้มข้นพิเศษมากขึ้น) ราคาก็สมเหตุสมผล ไม่แพงเกิน ดีกว่าซื้อราเม็งอีกชามราคาเกือบ 200 มากินเพิ่มแต่ได้เครื่องพอๆกับสั่งเป็น topping แยก
7. ส่วนเรื่องรสชาติ อย่างที่บอกคือ แม้จะไม่ top form แบบตอนสมัยเปิดร้านใหม่ๆ แต่ก็ไม่แย่เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ทางร้านเปิดสาขาเยอะซะจนคุณภาพตกลง จนในที่สุดก็ทยอยปิดสาขาไปจนเหลือแต่สาขาที่ทำเลดีๆเท่านั้น แต่ถ้าถามถึงคุณภาพแบบญ่ปุ่นแล้ว จริงๆอยากบอกว่าที่ญี่ปุ่นเอง ก็ใช่ว่าคุณภาพจะดีนะเออ (อย่างร้านจัมปง Ringer Hut ของญี่ปุ่นเอง เคยไปกินแล้ว คุณภาพกลับแย่กว่าที่เมืองไทยด้วยซ้ำไปนะ)
8. สำหรับเรื่องราคา ถ้าเทียบกับแบรนด์ราเม็งจากญี่ปุ่นแล้ว ถือว่าราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้ในแต่ละจาน (ราเมงบางร้านอาจจะจานละ 100 แต่ให้น้อยอย่างกะก๋วยเตี๋ยวเรือซะอีก) พอดีวันนี้ไปกินกับน้องแค่ 2 คน เลยสั่งเมนูพวกข้าวแกงกะหรี่ กับพวกของทอดต่างๆไม่ได้ (เดี๋ยวมันจะอิ่มเกิน) แต่เมนูกลุ่มข้าว ก็ถือว่าราคาประหยัด เมื่อเทียบกับข้าวแกงเติมหมูทอดข้างทาง ที่ราคาพุ่งไปร่วม 80 บาท (หรือเกือบร้อยในบางร้าน) (อันนี้ไม่นับหมูทอดเจ้จงนะ ที่ขายถูกดี)
อ้อ ราคาอาหารเป็นราคา net แล้ว ไม่บวก vat หรือ service เพิ่ม (ถ้าเป็นร้านยามาโกย่าจะมีชาจีน เซอร์วิส แต่ร้านนี้ผมลืมถามเขาว่ามีเซอร์วิสฟรีไหม เลยสั่งเป็นน้ำเปล่ามากินแทนครับ) อ้อ ถ้าทานมากกว่า 200 บาท สามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ครับ
9. สำหรับเมนูอื่นๆที่วันนี้ไม่ได้สั่งมากิน แต่เคยกินมาแล้ว และคาดว่าน่าจะอร่อยเหมือนเดิม คือเมนูข้าวผัดชาฮั่งครับ ผัดได้หอมกระทะร้อนแบบจีนดีจัง / ที่แนะนำอีกอันนึง คือเมนูข้าวราดหน้าหมูตุ๋น ราดซอสสูตรเข้มข้น อร่อยเหมือนกินหมูพะโล้หวานๆหอมอร่อย
เมนูกลุ่มของทอด แนะนำโคโรเกะกุ้งครับ หอมมันกรอบอร่อยดีจัง ส่วนเมนูของทอดอื่นๆได้มาตราฐานครับ (แป้งชุบทอดอาจจะไม่โดดเด่นแบบร้านชาโบเต็น แต่อร่อยไม่แพ้ไปทานที่ญี่ปุ่นเลยครับ)
10. สรุป... สำหรับเมนูอร่อยบอกต่อ แนะนำราเมงผัดหมูชาชูนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง / ส่วนเมนูราเมง อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แต่สำหรับผมถือว่าอร่อยพอใช้ครับ
#มะพร้าวห้าว #OohCocoNUT