กรณีศึกษา หุ้นเติบโตมีทุกช่วงเวลาจริงหรือ?
การลงทุนแบบพื้นฐานผสานเทคนิค
การเลือกหุ้น : ปัจจัยพื้นฐาน
จังหวะเข้าซื้อ : เทคนิคอล
ตัดสินใจขาย : ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไป
จังหวะขาย : เทคนิคอล
การเลือกหุ้น
ใน EP02 นี้เราสมมติชื่อว่า 601 ค่ะ
1. เลือกลงทุนในธุรกิจที่เราเข้าใจ
ศึกษา Business model ของตัวธุรกิจให้เข้าใจค่ะ ทั้งจาก เว็บไซต์บริษัท แบบรายงาน 56-1 Oppday
ข่าวสารต่างๆ ปกติเราจะเสิร์ชอ่านทั้งหมดที่มีนักลงทุนพูดถึงหุ้นตัวที่เราสนใจค่ะ
ตัวธุรกิจเราใช้หลักการประเมินแบบ SWOT analysis ค่ะ
ทุกธุรกิจต้องมีทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยง
หากธุรกิจใดที่เรามองเห็นไม่ครบ 4 ด้านนี้แปลว่าเรายังศึกษาไม่มากพอค่ะ
หากเรามองครบทั้ง 4 ด้านด้วยตัวเองแล้ว
วันหนึ่งหากมีปัจจัยใดมากระทบกับตัวธุรกิจเราจะสามารถประเมินได้ด้วยตนเองว่า
ควรตัดสินใจแบบใดค่ะ ไม่หวั่นไหวไปตามข่าวซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งแง่บวกและแง่ลบค่ะ
2. คุณภาพของกิจการ
หุ้นที่เราเลือกเราหวังให้เป็นหุ้นเติบโตค่ะ
ฉะนั้นอัตราส่วนทางการเงินที่เราสนใจคือ ROE ROA GPM NPM ยิ่งสูงยิ่งดีค่ะ จะชอบมากค่ะ
และถ้า D/E <1 จะรักเลยค่ะ
3. งบการเงิน
การอ่านงบการเงินสำหรับหุ้นเติบโตมีสูตร 3 ข้อที่ควรท่องให้ขึ้นใจค่ะ
1. ยอดขายโต
2. กำไรโต
3. หุ้นโต
ท่องวนไปค่ะ ยอดขายโต กำไรโต หุ้นโต ท่องอีกค่ะ ยอดขายโต กำไรโต หุ้นโต ครบ 3 รอบแล้วค่ะ
จริงๆแล้ว 3 ข้อนี้ไม่ได้เป็นสูตรอะไรหรอกค่ะ โดนหลอกแล้ว 555
แต่
มันคือความจริงของธุรกิจค่ะ หากยอดขายโต ธุรกิจมีกำไรดีขึ้น หุ้นก็ควรจะโตตามไปด้วยค่ะ
จาก 3 ข้อที่กล่าวมาสรุปได้ว่าสำหรับเรา หุ้น 601 ผ่านเกณฑ์เข้ารอบค่ะ
ภาคที่แล้วเราลืมเขียนเรื่อง ภาพการเติบโตของธุรกิจค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ
การเติบโตของธุรกิจเราติดตามจากข่าวของบริษัทและอย่างที่บอกไว้ข้างต้นค่ะ
เสิร์ชอ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับหุ้นตัวที่เราสนใจค่ะ
ทุกข่าวจะมี "อารมณ์" ของผู้เขียนและ "ข้อเท็จจริง"
เมื่อเราอ่านข่าวแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ
คิด วิเคราะห์ และแยกแยะ
อารมณ์ของผู้เขียนและข้อเท็จจริงออกจากกันค่ะ
ภาพการเติบโตของธุรกิจถือว่าเป็นหัวใจสำคัญมากนะคะ
เพราะหากขาดภาพการเติบโตแล้วหุ้นเราคงไม่สามารถเป็นหุ้นเติบโตได้ค่ะ
หากหุ้นที่เราสนใจผ่านเกณฑ์ข้อนี้ได้
ก็ถือว่าได้เข้ารอบชิงมงกุฎค่ะ
จังหวะเข้าซื้อหุ้น
อย่างที่บอกไว้ข้างต้นค่ะ เราใช้จังหวะเข้าซื้อหุ้นด้วยกราฟเทคนิคอลค่ะ
จังหวะที่เราจะเข้าซื้อคือเมื่อหุ้น "ทะลุ"ออกจากกรอบ side way ค่ะ
การจะซื้อจังหวะแบบนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่ายค่ะ
เพราะเราอาจต้องใช้เวลาเฝ้าดูหุ้นสักระยะค่ะ
สาเหตุที่ไม่ซื้อก่อนที่หุ้นจะ "ทะลุ"
เพราะบางครั้งหุ้นอาจขึ้นมาแค่ "แตะ" เส้นกรอบ side way
แล้วลงไป side way ต่อค่ะ
ช่วงจังหวะที่หุ้น side way ออกด้านข้างแบบนี้เราจะเรียกว่าเป็นการ
สะสมพลังงานบางอย่างก็ได้ค่ะ ช่วงเวลาแบบนี้บางครั้งนานมากค่ะ
ระยะเวลาที่ยาวนานเคยทำให้เรารู้สึกอึดอัดจนขายหุ้นทิ้งไปค่ะ
แล้วไม่นานหุ้นก็ขึ้นแรงมากเสยหน้าเราไปเลยค่ะ
55555555
ในเลข 5 มีน้ำตาทุกตัวค่ะ
ประสบการณ์นี้เป็นที่มาของการรอคอยหุ้นให้ทะลุกรอบ Side way ค่ะ
เมื่อหุ้นทะลุออกจากกรอบ side way แล้ว
สิ่งที่เราควรทำต่อไปคือ การวางแผนเข้าซื้อและวาง Stop loss ค่ะ
การวาง Stop loss เป็นเรื่องที่มีนักลงทุนคิดเห็นต่างกันเป็นจำนวนมากค่ะ
บ้างก็ว่า หุ้นพื้นฐานดี ไม่ต้องมีการวาง Stop loss
ตรงส่วนนี้เราอยากให้มองว่าการวาง Stop loss เป็นการบริหารความเสี่ยง
ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตที่เราไม่อาจคาดเดาได้ค่ะ
การวางจุด Stop loss สำหรับเราเปรียบเสมือนการมี Save T cut ค่ะ (เล่นคำ)
ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอดค่ะ
.
.
.
.
เมื่อซื้อหุ้นแล้วสิ่งที่ควรทำคือการหาซีรีย์ดูสักเรื่องหนึ่งค่ะ
เพราะเมื่อเรามีเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นที่ดีแล้ว
มีจุดเข้าซื้อที่(มโนเอาเองว่า)ยอดเยี่ยมแล้ว
ที่เหลือเราก็แค่ทำตามระบบที่วางไว้ค่ะ
.
.
.
และแล้ววันประกาศผลก็มาถึง
หุ้นที่ได้จะได้สวมมงกุฎได้แก่
หมายเลข 601
ผลตอบแทนเกินคาดจริงๆค่ะ
สุดท้ายแล้วค่ะ
เราอยากขอบคุณ
สำหรับกำลังใจและการโหวตกระทู้ที่ผ่านมาจากทุกคนมากค่ะ
หากมีประสบการณ์การลงทุนดีๆจะมาแบ่งปันอีกนะคะ
รัก
ปล. จากกระทู้แรกมีคนหลังไมค์มาถามกันเลยขอตอบไว้ตรงนี้เลยค่ะ
ภาพอัตราส่วนทางการเงินจากแอป Stock Radars ค่ะ
ภาพงบการเงินจาก เว็บ
www.settrade.com
ภาพกราฟเทคนิคอลจาก
http://www.investorz.com/
กระทู้ EP 01 แชร์ประสบการณ์การลงทุนแบบพื้นฐานผสานเทคนิคค่ะ
https://ppantip.com/topic/35987674
มากกว่าหุ้น คือ การลงทุนในความรู้
แชร์ประสบการณ์การลงทุนแบบพื้นฐานผสานเทคนิคค่ะ EP02
การลงทุนแบบพื้นฐานผสานเทคนิค
การเลือกหุ้น : ปัจจัยพื้นฐาน
จังหวะเข้าซื้อ : เทคนิคอล
ตัดสินใจขาย : ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไป
จังหวะขาย : เทคนิคอล
การเลือกหุ้น
ใน EP02 นี้เราสมมติชื่อว่า 601 ค่ะ
1. เลือกลงทุนในธุรกิจที่เราเข้าใจ
ศึกษา Business model ของตัวธุรกิจให้เข้าใจค่ะ ทั้งจาก เว็บไซต์บริษัท แบบรายงาน 56-1 Oppday
ข่าวสารต่างๆ ปกติเราจะเสิร์ชอ่านทั้งหมดที่มีนักลงทุนพูดถึงหุ้นตัวที่เราสนใจค่ะ
ตัวธุรกิจเราใช้หลักการประเมินแบบ SWOT analysis ค่ะ
ทุกธุรกิจต้องมีทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยง
หากธุรกิจใดที่เรามองเห็นไม่ครบ 4 ด้านนี้แปลว่าเรายังศึกษาไม่มากพอค่ะ
หากเรามองครบทั้ง 4 ด้านด้วยตัวเองแล้ว
วันหนึ่งหากมีปัจจัยใดมากระทบกับตัวธุรกิจเราจะสามารถประเมินได้ด้วยตนเองว่า
ควรตัดสินใจแบบใดค่ะ ไม่หวั่นไหวไปตามข่าวซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งแง่บวกและแง่ลบค่ะ
2. คุณภาพของกิจการ
หุ้นที่เราเลือกเราหวังให้เป็นหุ้นเติบโตค่ะ
ฉะนั้นอัตราส่วนทางการเงินที่เราสนใจคือ ROE ROA GPM NPM ยิ่งสูงยิ่งดีค่ะ จะชอบมากค่ะ
และถ้า D/E <1 จะรักเลยค่ะ
3. งบการเงิน
การอ่านงบการเงินสำหรับหุ้นเติบโตมีสูตร 3 ข้อที่ควรท่องให้ขึ้นใจค่ะ
1. ยอดขายโต
2. กำไรโต
3. หุ้นโต
ท่องวนไปค่ะ ยอดขายโต กำไรโต หุ้นโต ท่องอีกค่ะ ยอดขายโต กำไรโต หุ้นโต ครบ 3 รอบแล้วค่ะ
จริงๆแล้ว 3 ข้อนี้ไม่ได้เป็นสูตรอะไรหรอกค่ะ โดนหลอกแล้ว 555
แต่
มันคือความจริงของธุรกิจค่ะ หากยอดขายโต ธุรกิจมีกำไรดีขึ้น หุ้นก็ควรจะโตตามไปด้วยค่ะ
จาก 3 ข้อที่กล่าวมาสรุปได้ว่าสำหรับเรา หุ้น 601 ผ่านเกณฑ์เข้ารอบค่ะ
ภาคที่แล้วเราลืมเขียนเรื่อง ภาพการเติบโตของธุรกิจค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ
การเติบโตของธุรกิจเราติดตามจากข่าวของบริษัทและอย่างที่บอกไว้ข้างต้นค่ะ
เสิร์ชอ่านทุกอย่างที่เกี่ยวกับหุ้นตัวที่เราสนใจค่ะ
ทุกข่าวจะมี "อารมณ์" ของผู้เขียนและ "ข้อเท็จจริง"
เมื่อเราอ่านข่าวแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ
คิด วิเคราะห์ และแยกแยะ
อารมณ์ของผู้เขียนและข้อเท็จจริงออกจากกันค่ะ
ภาพการเติบโตของธุรกิจถือว่าเป็นหัวใจสำคัญมากนะคะ
เพราะหากขาดภาพการเติบโตแล้วหุ้นเราคงไม่สามารถเป็นหุ้นเติบโตได้ค่ะ
หากหุ้นที่เราสนใจผ่านเกณฑ์ข้อนี้ได้
ก็ถือว่าได้เข้ารอบชิงมงกุฎค่ะ
จังหวะเข้าซื้อหุ้น
อย่างที่บอกไว้ข้างต้นค่ะ เราใช้จังหวะเข้าซื้อหุ้นด้วยกราฟเทคนิคอลค่ะ
จังหวะที่เราจะเข้าซื้อคือเมื่อหุ้น "ทะลุ"ออกจากกรอบ side way ค่ะ
การจะซื้อจังหวะแบบนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็ไม่ง่ายค่ะ
เพราะเราอาจต้องใช้เวลาเฝ้าดูหุ้นสักระยะค่ะ
สาเหตุที่ไม่ซื้อก่อนที่หุ้นจะ "ทะลุ"
เพราะบางครั้งหุ้นอาจขึ้นมาแค่ "แตะ" เส้นกรอบ side way
แล้วลงไป side way ต่อค่ะ
ช่วงจังหวะที่หุ้น side way ออกด้านข้างแบบนี้เราจะเรียกว่าเป็นการ
สะสมพลังงานบางอย่างก็ได้ค่ะ ช่วงเวลาแบบนี้บางครั้งนานมากค่ะ
ระยะเวลาที่ยาวนานเคยทำให้เรารู้สึกอึดอัดจนขายหุ้นทิ้งไปค่ะ
แล้วไม่นานหุ้นก็ขึ้นแรงมากเสยหน้าเราไปเลยค่ะ
55555555
ในเลข 5 มีน้ำตาทุกตัวค่ะ
ประสบการณ์นี้เป็นที่มาของการรอคอยหุ้นให้ทะลุกรอบ Side way ค่ะ
เมื่อหุ้นทะลุออกจากกรอบ side way แล้ว
สิ่งที่เราควรทำต่อไปคือ การวางแผนเข้าซื้อและวาง Stop loss ค่ะ
การวาง Stop loss เป็นเรื่องที่มีนักลงทุนคิดเห็นต่างกันเป็นจำนวนมากค่ะ
บ้างก็ว่า หุ้นพื้นฐานดี ไม่ต้องมีการวาง Stop loss
ตรงส่วนนี้เราอยากให้มองว่าการวาง Stop loss เป็นการบริหารความเสี่ยง
ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตที่เราไม่อาจคาดเดาได้ค่ะ
การวางจุด Stop loss สำหรับเราเปรียบเสมือนการมี Save T cut ค่ะ (เล่นคำ)
ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอดค่ะ
.
.
.
.
เมื่อซื้อหุ้นแล้วสิ่งที่ควรทำคือการหาซีรีย์ดูสักเรื่องหนึ่งค่ะ
เพราะเมื่อเรามีเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นที่ดีแล้ว
มีจุดเข้าซื้อที่(มโนเอาเองว่า)ยอดเยี่ยมแล้ว
ที่เหลือเราก็แค่ทำตามระบบที่วางไว้ค่ะ
.
.
.
และแล้ววันประกาศผลก็มาถึง
หุ้นที่ได้จะได้สวมมงกุฎได้แก่
หมายเลข 601
ผลตอบแทนเกินคาดจริงๆค่ะ
สุดท้ายแล้วค่ะ
เราอยากขอบคุณ
สำหรับกำลังใจและการโหวตกระทู้ที่ผ่านมาจากทุกคนมากค่ะ
หากมีประสบการณ์การลงทุนดีๆจะมาแบ่งปันอีกนะคะ
รัก
ปล. จากกระทู้แรกมีคนหลังไมค์มาถามกันเลยขอตอบไว้ตรงนี้เลยค่ะ
ภาพอัตราส่วนทางการเงินจากแอป Stock Radars ค่ะ
ภาพงบการเงินจาก เว็บ www.settrade.com
ภาพกราฟเทคนิคอลจาก http://www.investorz.com/
กระทู้ EP 01 แชร์ประสบการณ์การลงทุนแบบพื้นฐานผสานเทคนิคค่ะ
https://ppantip.com/topic/35987674
มากกว่าหุ้น คือ การลงทุนในความรู้