ตอนนี้อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัญหารถติดในประเทศไทย เกิดขึ้นแทบทุกแยกไฟแดงในตัวเมืองจังหวัดทั่วประเทศต่างๆ และมีแนวโน้มที่จะติดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมกลับมองว่า การขยายถนน , การทำแอพดูสภาพการจราจร ,ประชาสัมพันธ์เส้นทางที่รถไม่ติด เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเอามากๆ ผมว่าวิธีการแก้ปัญหาจริงๆแล้วมันควรอยู่ที่ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งถ้าสามารถแก้ไข พัฒนาระบบขนส่งมวลชลให้มีความพร้อมและสะดวกกว่านี้ คงจะแก้ปัญหารถติดได้พอสมควร สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ ประเทศไทย ล้มเหลวกับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชลตั้งแต่ยุคแรกๆ (จนถึงปัจจุบัน) ทำให้คนไทยเกิดคำพูดฮิตกันติดปากว่า
"มีรถ = สะดวก" จากที่ผมพึ่งกลับจากตปท. ผมเกิดคำถามว่าตอนอยู่ที่นั่นไม่มีรถก็ไม่ถึงกับลำบาก แถมสะดวกอีกต่างหาก ซึ่งที่นั่นไม่จำเป็นต้องมีรถ แต่ก็สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสะบาย และเร็ว เนื่องจากมีรถผ่านตลอด มีป้ายบอกชัดเจน เวลาก็ตรงเป๊ะ  ซึ่งผมก็ถามเพื่อนที่อยู่ที่นั่นมา 7 ปี เค้าก็บอกว่าคนที่ นั่นไม่นิยมมีรถ เพราะค่าจอดก็แพง หาที่จอดก็ยาก หากทำผิดกฏหมายค่าปรับก็สูง คนที่นั่นเลยมองว่าระบบขนส่งมวลชลสะดวกกว่าการมีรถส่วนตัว ถ้าหากประเทศเราพัฒนาระบบขนส่งมวลชลให้สะดวกกว่าการมีรถยนต์ส่วนตัวจะเป็นไปได้ไหม เช่น
- มีรถประจำทางที่ตรงต่อเวลา สะอาด รวดเร็ว และมีช่องทางในการซื้อตั๋วที่สะดวก
- มีรถผ่านทุกถนนเส้นหลัก มีเวลามีเวลาบอกชัดเจน
- มีรถไฟความเร็วสูงผ่านตามเมืองใหญ่ และ สนามบิน (ฝันไปก่อน..)
- ผู้บริการรถรับจ้าง(วินมอไซต์ แท็กซี่ .. ) ต้องถูกควบคุมกับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ไว้หากขับรถไม่มีมารยาท(ขับขึ้นฟุตบาท ย้อนศร ไม่รับคน)  หรือ ไม่ตรงต่อเวลาก็สามารถ ลงโทษได้หรือออกได้ หรือถอนใบอนุญาติ
- ราคาไม่เวอร์เกินไป
ผมเชื่อว่าทุกอย่างบนโลกนี้สามารถทำให้มันง่ายและสะดวกขึ้นได้ แต่อยู่ที่ว่าจะทำหรือป่าว ถ้าทั้งหมด 5 ข้อมีในประเทศไทย ผมละคนนึงจากที่ใช้รถส่วนตัว 7 วัน/อาทิต จะเหลือ แค่ 1 - 2 วัน

ปล. แอบเสียดายโครงการของชัชชาติที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงผ่านทุกสนามบิน ทุกภาคและผ่านสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ