เริ่มเลยนะคะ คือ เราต้องบอกก่อนว่าเราไปเช่าล็อคขายของไว้ที่ห้างสีเขียว การเช่าของเราคือ ห้างสีเขียวให้ออแกไนซ์นอก มานำพื้นที่ส่วนนั้นมาทำเป็นพื้นที่ให้เช่า และเราคือคนที่มาเช่าพื้นที่กับออแกไนซ์อีกที เราทำสัญญา 6 เดือน แต่พื้นที่เป็นพื้นที่เปล่า คนที่มาเช่าทุกคนต้องทำล็อคขึ้นมาเองในพื้นที่ของตัวเอง คือ 2.5*2.5เมตร คราวนี้เราขายไปได้ 1 เดือน เข้าเดือนที่ 2 เราคิดว่าเราจะปล่อยให้เช่าต่อ เพราะเราได้บ้านที่เคยอยากได้คืน เราจะไปทำตรงนั้น เราเลยหาคนมาเช่าต่อ คือเช่าช่วงต่อจากเรา โดยเราก็ทำสัญญาเช่าช่วงขึ้นมา ระยะเวลา 6 เดือน (ต้องบอกว่าคนที่มาเช่าเค้าอยากได้ คือเซ้งสิทธิ์ไปเลย แต่เรายังเสียดาย เลยให้ทดลองเช่าไปก่อน ถ้าขายดีเราจะเซ้งให้ เรื่องเซ้ง ออแกไนซ์บอกว่าเซ้งได้ เพราะร้านเราเสียเงินทำขึ้นมาเอง)
ผู้เช่าช่วงต่อเค้าจะมาทำร้านชาพะยอม ก่อนเราให้เช่า มีการถามจากออแกไนซ์แล้วว่าอนุญาตให้ขายหรือไม่ ทางออแกไนซ์บอกว่าอนุญาต ห้างเขียวไม่ได้ว่าอะไร เราจึงทำสัญญาเช่าช่วงให้เค้ามาเช่า เมื่อเค้าขายไปได้ 1 สัปดาห์ ทางออแกไนซ์ติดต่อเรามา บอกว่า ทางห้างเขียวมีผู้ใหญ่มาเดินตรวจ บอกว่าไม่อนุญาติให้ขายชาพะยอม ให้เปลี่ยนเป็นสินค้าอื่น ซึ่งให้เราไปบอกทางร้านชาพะยอมอีกที คราวนี้เท้าความนิดค่ะ วันที่ชาพะยอมมาเช่าก่อนทำสัญญา ทางชาพะยอมได้มีการคุยกับออแกไนซ์โดยตรง ว่าอนุญาตให้ขายได้ใช่หรือไม่ ทางออแกไนซ์ไม่ได้มีปัญหาอะไรบอกว่าขายได้ ทั้งยังตกลงจะมาเก็บค่าเช่าทุกเดือนกันเป็นการส่วนตัวไม่ต้องผ่านเรา รวมถึงขอค่าไฟเพิ่ม แต่พอผู้ใหญ่ห้างเขียวมาบอกไม่อนุญาตให้ขาย กลับมาโบ้ยเราโดยไม่รับผิดชอบ อ้างว่าใกล้หมดสัญญากับเราแล้ว เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้ทางชาพะยอมก็เข้าใจเรานะคะ แต่เค้าเสียหายเพราะเลิกจากที่อื่น ทิ้งเงินประกันมา 8หมื่น เค้าจะฟ้องค่ะ เราคงโดนเค้าฟ้องเต็มๆเพราะถือสัญญากับเรา แต่เค้าชวนให้เราฟ้องร่วมค่ะ เพื่อเรียกค่าเสียหายกับทางออแกไนซ์ เราควรทำไงดีค่ะอยากได้คำแนะนำ ตอนนี้ที่เราทำได้ คือยืนให้กรานให้ร้านชาพะยอมอยู่ต่อ ไม่ย้ายออกค่ะ
ขอความช่วยเหลือเรื่องให้ร้านค้ามาเช่าช่วงต่อแล้วถูกเจ้าของที่ไล่ให้ออกไม่ให้ขาย
ผู้เช่าช่วงต่อเค้าจะมาทำร้านชาพะยอม ก่อนเราให้เช่า มีการถามจากออแกไนซ์แล้วว่าอนุญาตให้ขายหรือไม่ ทางออแกไนซ์บอกว่าอนุญาต ห้างเขียวไม่ได้ว่าอะไร เราจึงทำสัญญาเช่าช่วงให้เค้ามาเช่า เมื่อเค้าขายไปได้ 1 สัปดาห์ ทางออแกไนซ์ติดต่อเรามา บอกว่า ทางห้างเขียวมีผู้ใหญ่มาเดินตรวจ บอกว่าไม่อนุญาติให้ขายชาพะยอม ให้เปลี่ยนเป็นสินค้าอื่น ซึ่งให้เราไปบอกทางร้านชาพะยอมอีกที คราวนี้เท้าความนิดค่ะ วันที่ชาพะยอมมาเช่าก่อนทำสัญญา ทางชาพะยอมได้มีการคุยกับออแกไนซ์โดยตรง ว่าอนุญาตให้ขายได้ใช่หรือไม่ ทางออแกไนซ์ไม่ได้มีปัญหาอะไรบอกว่าขายได้ ทั้งยังตกลงจะมาเก็บค่าเช่าทุกเดือนกันเป็นการส่วนตัวไม่ต้องผ่านเรา รวมถึงขอค่าไฟเพิ่ม แต่พอผู้ใหญ่ห้างเขียวมาบอกไม่อนุญาตให้ขาย กลับมาโบ้ยเราโดยไม่รับผิดชอบ อ้างว่าใกล้หมดสัญญากับเราแล้ว เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้ทางชาพะยอมก็เข้าใจเรานะคะ แต่เค้าเสียหายเพราะเลิกจากที่อื่น ทิ้งเงินประกันมา 8หมื่น เค้าจะฟ้องค่ะ เราคงโดนเค้าฟ้องเต็มๆเพราะถือสัญญากับเรา แต่เค้าชวนให้เราฟ้องร่วมค่ะ เพื่อเรียกค่าเสียหายกับทางออแกไนซ์ เราควรทำไงดีค่ะอยากได้คำแนะนำ ตอนนี้ที่เราทำได้ คือยืนให้กรานให้ร้านชาพะยอมอยู่ต่อ ไม่ย้ายออกค่ะ