มันดีแค่ไหน ที่เสียเงินนิดเดียว แต่เหมือนได้เที่ยวบนเกาะส่วนตัว
ทำไมน่ะหรอ? เพราะมันเป็นเกาะที่แทบบบบจะไม่มีใครมาค้างเลยอ่ะดิ ขนาดเราไปวันหยุดยาว เรายังอยู่กันแค่ 2 คน กับพี่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบนเกาะอีกไม่กี่คน โคตรรรจะ Exclusive
พอตกเย็น นักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำกลับกันหมด เวลานี้แหละ! เกาะส่วนตัวของเราชัดๆ มันไม่ได้รู้สึกเหงานะ แต่มันเป็นความสงบภายใต้ธรรมชาติที่ใครๆก็ตามหา
https://www.facebook.com/travelmundee
วันแรกเราออกจากกทมวันศุกร์หลังเลิกงาน ไปแวะพักที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ไปถึงประมาณเที่ยงคืนได้ พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ใจดีมาช่วยกางเต้นท์กันดึกๆดื่นๆ
วันที่สองมาเราตื่นเช้าไปที่ท่าเรือ เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะช้าง
พอเรามาถึงเกาะช้างก็ไปหา Agency ที่ติดต่อไว้ทันทีเพื่อไปขึ้นเรือ สำหรับ 1 Day Trip
เราเริ่มต้นดำน้ำตามจุดต่างๆที่เรือจอด
พอเรือมาถึงจุดที่อยู่ใกล้กับชายหาดเกาะรัง เรือพี่ทหารก็มารับเรากลางทะเลกันเลยทีเดียว
เรือลำด้านขวานี่แหละที่มารับเรา
พอมาถึงเกาะเราก็เริ่มเดินสำรวจและหาตำแหน่งที่กางเต้นท์ของเรา
หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราก็ไปดำน้ำกันต่อหน้าเกาะรัง
หลังจากดำน้ำเสร็จเราก็เริ่มหิวกันแล้ว ไปบุกครัวกันดีกว่า
และนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน
เมนูที่เราเตรียมไปเป็นแค่ โบโลน่าทอด กับข้าวเปล่า สงสัยพี่ๆเจ้าหน้าที่สงสารเลยแบ่งอาหารมาให้เรากินด้วย
วันที่สาม ตื่นเช้ามาเก็บของเตรียมกลับ
พอออกจากเกาะรัง เราก็ขึ้นฝั่งและตรงต่อไปพักที่บ้านสุขิตา จันทรบุรีเลย
วันที่สี่ ตื่นเช้ามาถ่ายรูปหน้าที่พัก
ออกไปขับรถเล่นที่ ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ
ก่อนออกจากที่พักเราเปิดทีวีดูเจอพี่ติ๊กพาไปเรือรบประแส เราก็ขอไปแวะก่อนกลับซะหน่อยแล้วกัน
ภาพรวมของทริป :
ทริปนี้เราไปด้วยกัน 2 คน 3 วัน 3 คืน ออกจากกทม. วันศุกร์เย็นและกลับถึงกทม.จันทร์เย็น (คืนแรกนอนที่น้ำตกพลิ้ว คืนที่ 2 เกาะรัง และคืนที่ 3 อ่าวยาง) ภายใน 3 วันนี้ มีทั้งความสนุก ประทับใจ ตื่นเต้น และโหยหิว เรียกว่าครบเครื่องเลยก็ได้ ตั้งแต่วันแรกที่มีเรือของพี่ทหารขับมารับกลางทะเล เราต้องปีนเรือใหญ่เพื่อลงเรือยางเล็ก โคตรตื่นเต้น ไหนจะอาหารการกินมื้อเย็นที่ไม่กินมาก่อนว่าอยู่บนเกาะที่แทบจะไม่มีใครอยู่ แต่ได้กินแบบจัดเต็มมาก แต่ก็มาหักมุมตอนจบอีก เราดันไม่ได้เผื่ออาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงก่อนออกจากเกาะ เหลือแค่มาม่าห่อเดียว แต่ก็นะ... พอใส่น้ำร้อนมาแล้ว ก็เดินสะดุดก้อนหิน มาม่านี่ลอยละล่องเลยจ้าาา ทนหิวไปตามระเบียบ TT
สถานที่เที่ยวที่เราไป : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว -> เกาะช้าง -> เกาะรัง -> อ่าวยาง -> ชายหาดแหลมสิงห์ -> ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ -> เรือรบประแส
เรามาดูสิ่งที่น่าสนใจของแต่ละสถานที่กันเถอะ
น้ำตกพลิ้ว : ที่นี่มีทั้งบเนพักและลานกางเต๊นท์ให้กางได้แบบสบายๆเลย บริเวณลานกางเต๊นท์เห็นวิวเมืองสวยงามมาก
เกาะช้าง, อ่าวยาง, ชายหาดแหลมสิงห์, ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ, เรือรบประแส : เราแวะถ่ายรูป นั่งกินบรรยากาศกันเฉยๆ มีร้านอาหารแม่สมจิตรที่หาดแหลมสิงห์ปิดช้า รสชาดใช้ได้เลย แต่ทั้งหมดก็ไม่ใช่ไฮไลท์ของทริปนี้หรอก เพราะไฮไลท์ของเราอยู่ที่ "เกาะรังงงงง"
เกาะรัง :
หมู่เกาะรังอยู่ในจ.ตราด ข้างๆเกาะหมาก เดินทางมาจากเกาะช้างได้ ซึ่งเกาะรังถือเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของระแวกนี้ (เราเห็นเรือดำน้ำ จะพานักท่องเที่ยวมาแวะดำน้ำ กินข้าว แล้วก็กลับ) แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่คนนิยมมาพัก เพราะอะไรน่ะหรออ... นั่นสิ เราก็ยังสงสัย 5555 อาจจะเพราะว่าเป็นเกาะเล็กๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แล้วบนเกาะก็ไม่ได้มีอะไรอำนวยความสะดวกมากมายนัก ไฟมาจากเครื่องปั่นไฟที่จะตัดตอน 6 โมงเย็น หลังจากนั้นเราจะเหลือแค่ไฟทางเดินไม่กี่ดวง ไฟฉาย แล้วก็เทียน มันเป็นการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติมากๆอ่ะ
จากที่เราบอกว่าเกาะนี้ไม่ค่อยมีคนมาพัก (ไม่ใช่เกาะร้างนะ ก็มีพี่เจ้าหน้าที่อุทยานอยู่ด้วย) ทำให้ติดต่อเรื่องเรือค่อนข้างลำบาก ถ้ามากันเยอะก็เหมา Speed Boat ไปเลยก็ได้ แต่เรามา 2 คน เลยต้องหา one day trip ดำน้ำจากเกาะช้าง ซึ่งจะได้ดำน้ำหลายๆเกาะ แล้วก็มีอาหารแบบฟูลอ็อบชั่นมาก จากนั้นต้องแจ้งกัปตันเรือว่าเราจะไปลงที่เกาะรัง และขากลับจะติดเรือกลับเข้าฝั่งด้วย ซึ่งกัปตันจะโทรหาเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อนัดหมายมารับเราตามจุดที่เค้ากำหนด และนี่แหละที่เราบอกว่าได้ปีนลงเรือยางเล็กไปเกาะรัง สนุกกกก!
อ้ออ 1 day จะมีแบบ Speed boat (ราคาประมาณ 1200 บาท) และ เรือไม้เฟอรี่ (ราคาประมาณ 600 บาท) กรณีติดต่อค้างคืนบาง Agency จะคิดราคา 2 เท่า อย่าไปจองนะ เปลี่ยน Agency ใหม่ไปเลย (เราจำชื่อ Agency ที่เราจองไม่ได้ ฮือออ..TT) ค่าเข้าอุทยานก็รวมไปในใช้จ่ายนี้แล้วด้วยนะ
บรรยากาศบนเกาะพอตกเย็นก็ไม่มีนักท่องเที่ยวแล้ว เหลือแต่เรากับพี่เจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งเค้าก็จะอยู่ในบ้านพักกัน พอถึงเวลาอาหารเย็น เราก็เอาเสบียงที่เตรียมไว้มาเปิดกิน (ที่นี่มีครัวนะ สามารถมาทำอาหารที่นี่ได้ เตรียมของสดหรือของที่จะทำกินมาก็พอ) แล้วพี่ๆที่ใจดี๊ใจดี ก็เอาปู ปลา แกงส้มกุ้งมาให้เรากิน เป็นมื้ออาหารเย็นที่กินจนพุงกางเลยอ่ะ
เกาะที่แทบจะไม่มีคนมาแบบเนี้ย ไม่ใช่ไม่น่าสนใจนะ ความจิงมันมีเสน่ห์มาก คนมาน้อยธรรมชาติก็ยังคงความสวยงามอยู่ และที่สำคัญ เราเสียเงินน้อยม๊ากกกก แต่แทบจะเหมือนได้เกาะส่วนตัวไปพักผ่อนเลยอ่ะ
ก่อนจบ ขอสรุปค่าใช้จ่ายนิดนึงน๊า (ค่าใช้จ่ายต่อคน) : ค่าน้ำมัน 700 บาท (700 กม.) +ค่าเข้าอุทยานน้ำตกพลิ้ว 40 บาท + ค่าเรือไป-กลับเกาะช้าง 110 บาท + ค่าทริปดำน้ำ 600 บาท + ค่าที่พักคืนที่ 3 ห้องละ 1,352 บาท คนละ 676 บาท = 2,200 บาท ไม่รวมอาหารนะ
https://www.facebook.com/travelmundee
มนต์สเน่ห์แห่งเกาะรัง จ.ตราด
ทำไมน่ะหรอ? เพราะมันเป็นเกาะที่แทบบบบจะไม่มีใครมาค้างเลยอ่ะดิ ขนาดเราไปวันหยุดยาว เรายังอยู่กันแค่ 2 คน กับพี่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบนเกาะอีกไม่กี่คน โคตรรรจะ Exclusive
พอตกเย็น นักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำกลับกันหมด เวลานี้แหละ! เกาะส่วนตัวของเราชัดๆ มันไม่ได้รู้สึกเหงานะ แต่มันเป็นความสงบภายใต้ธรรมชาติที่ใครๆก็ตามหา
https://www.facebook.com/travelmundee
วันแรกเราออกจากกทมวันศุกร์หลังเลิกงาน ไปแวะพักที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ไปถึงประมาณเที่ยงคืนได้ พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็ใจดีมาช่วยกางเต้นท์กันดึกๆดื่นๆ
วันที่สองมาเราตื่นเช้าไปที่ท่าเรือ เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะช้าง
พอเรามาถึงเกาะช้างก็ไปหา Agency ที่ติดต่อไว้ทันทีเพื่อไปขึ้นเรือ สำหรับ 1 Day Trip
เราเริ่มต้นดำน้ำตามจุดต่างๆที่เรือจอด
พอเรือมาถึงจุดที่อยู่ใกล้กับชายหาดเกาะรัง เรือพี่ทหารก็มารับเรากลางทะเลกันเลยทีเดียว
เรือลำด้านขวานี่แหละที่มารับเรา
พอมาถึงเกาะเราก็เริ่มเดินสำรวจและหาตำแหน่งที่กางเต้นท์ของเรา
หลังจากเก็บของเรียบร้อยเราก็ไปดำน้ำกันต่อหน้าเกาะรัง
หลังจากดำน้ำเสร็จเราก็เริ่มหิวกันแล้ว ไปบุกครัวกันดีกว่า
และนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน
เมนูที่เราเตรียมไปเป็นแค่ โบโลน่าทอด กับข้าวเปล่า สงสัยพี่ๆเจ้าหน้าที่สงสารเลยแบ่งอาหารมาให้เรากินด้วย
วันที่สาม ตื่นเช้ามาเก็บของเตรียมกลับ
พอออกจากเกาะรัง เราก็ขึ้นฝั่งและตรงต่อไปพักที่บ้านสุขิตา จันทรบุรีเลย
วันที่สี่ ตื่นเช้ามาถ่ายรูปหน้าที่พัก
ออกไปขับรถเล่นที่ ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ
ก่อนออกจากที่พักเราเปิดทีวีดูเจอพี่ติ๊กพาไปเรือรบประแส เราก็ขอไปแวะก่อนกลับซะหน่อยแล้วกัน
ภาพรวมของทริป :
ทริปนี้เราไปด้วยกัน 2 คน 3 วัน 3 คืน ออกจากกทม. วันศุกร์เย็นและกลับถึงกทม.จันทร์เย็น (คืนแรกนอนที่น้ำตกพลิ้ว คืนที่ 2 เกาะรัง และคืนที่ 3 อ่าวยาง) ภายใน 3 วันนี้ มีทั้งความสนุก ประทับใจ ตื่นเต้น และโหยหิว เรียกว่าครบเครื่องเลยก็ได้ ตั้งแต่วันแรกที่มีเรือของพี่ทหารขับมารับกลางทะเล เราต้องปีนเรือใหญ่เพื่อลงเรือยางเล็ก โคตรตื่นเต้น ไหนจะอาหารการกินมื้อเย็นที่ไม่กินมาก่อนว่าอยู่บนเกาะที่แทบจะไม่มีใครอยู่ แต่ได้กินแบบจัดเต็มมาก แต่ก็มาหักมุมตอนจบอีก เราดันไม่ได้เผื่ออาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงก่อนออกจากเกาะ เหลือแค่มาม่าห่อเดียว แต่ก็นะ... พอใส่น้ำร้อนมาแล้ว ก็เดินสะดุดก้อนหิน มาม่านี่ลอยละล่องเลยจ้าาา ทนหิวไปตามระเบียบ TT
สถานที่เที่ยวที่เราไป : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว -> เกาะช้าง -> เกาะรัง -> อ่าวยาง -> ชายหาดแหลมสิงห์ -> ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ -> เรือรบประแส
เรามาดูสิ่งที่น่าสนใจของแต่ละสถานที่กันเถอะ
น้ำตกพลิ้ว : ที่นี่มีทั้งบเนพักและลานกางเต๊นท์ให้กางได้แบบสบายๆเลย บริเวณลานกางเต๊นท์เห็นวิวเมืองสวยงามมาก
เกาะช้าง, อ่าวยาง, ชายหาดแหลมสิงห์, ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ, เรือรบประแส : เราแวะถ่ายรูป นั่งกินบรรยากาศกันเฉยๆ มีร้านอาหารแม่สมจิตรที่หาดแหลมสิงห์ปิดช้า รสชาดใช้ได้เลย แต่ทั้งหมดก็ไม่ใช่ไฮไลท์ของทริปนี้หรอก เพราะไฮไลท์ของเราอยู่ที่ "เกาะรังงงงง"
เกาะรัง :
หมู่เกาะรังอยู่ในจ.ตราด ข้างๆเกาะหมาก เดินทางมาจากเกาะช้างได้ ซึ่งเกาะรังถือเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของระแวกนี้ (เราเห็นเรือดำน้ำ จะพานักท่องเที่ยวมาแวะดำน้ำ กินข้าว แล้วก็กลับ) แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่คนนิยมมาพัก เพราะอะไรน่ะหรออ... นั่นสิ เราก็ยังสงสัย 5555 อาจจะเพราะว่าเป็นเกาะเล็กๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แล้วบนเกาะก็ไม่ได้มีอะไรอำนวยความสะดวกมากมายนัก ไฟมาจากเครื่องปั่นไฟที่จะตัดตอน 6 โมงเย็น หลังจากนั้นเราจะเหลือแค่ไฟทางเดินไม่กี่ดวง ไฟฉาย แล้วก็เทียน มันเป็นการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติมากๆอ่ะ
จากที่เราบอกว่าเกาะนี้ไม่ค่อยมีคนมาพัก (ไม่ใช่เกาะร้างนะ ก็มีพี่เจ้าหน้าที่อุทยานอยู่ด้วย) ทำให้ติดต่อเรื่องเรือค่อนข้างลำบาก ถ้ามากันเยอะก็เหมา Speed Boat ไปเลยก็ได้ แต่เรามา 2 คน เลยต้องหา one day trip ดำน้ำจากเกาะช้าง ซึ่งจะได้ดำน้ำหลายๆเกาะ แล้วก็มีอาหารแบบฟูลอ็อบชั่นมาก จากนั้นต้องแจ้งกัปตันเรือว่าเราจะไปลงที่เกาะรัง และขากลับจะติดเรือกลับเข้าฝั่งด้วย ซึ่งกัปตันจะโทรหาเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อนัดหมายมารับเราตามจุดที่เค้ากำหนด และนี่แหละที่เราบอกว่าได้ปีนลงเรือยางเล็กไปเกาะรัง สนุกกกก!
อ้ออ 1 day จะมีแบบ Speed boat (ราคาประมาณ 1200 บาท) และ เรือไม้เฟอรี่ (ราคาประมาณ 600 บาท) กรณีติดต่อค้างคืนบาง Agency จะคิดราคา 2 เท่า อย่าไปจองนะ เปลี่ยน Agency ใหม่ไปเลย (เราจำชื่อ Agency ที่เราจองไม่ได้ ฮือออ..TT) ค่าเข้าอุทยานก็รวมไปในใช้จ่ายนี้แล้วด้วยนะ
บรรยากาศบนเกาะพอตกเย็นก็ไม่มีนักท่องเที่ยวแล้ว เหลือแต่เรากับพี่เจ้าหน้าที่อุทยาน ซึ่งเค้าก็จะอยู่ในบ้านพักกัน พอถึงเวลาอาหารเย็น เราก็เอาเสบียงที่เตรียมไว้มาเปิดกิน (ที่นี่มีครัวนะ สามารถมาทำอาหารที่นี่ได้ เตรียมของสดหรือของที่จะทำกินมาก็พอ) แล้วพี่ๆที่ใจดี๊ใจดี ก็เอาปู ปลา แกงส้มกุ้งมาให้เรากิน เป็นมื้ออาหารเย็นที่กินจนพุงกางเลยอ่ะ
เกาะที่แทบจะไม่มีคนมาแบบเนี้ย ไม่ใช่ไม่น่าสนใจนะ ความจิงมันมีเสน่ห์มาก คนมาน้อยธรรมชาติก็ยังคงความสวยงามอยู่ และที่สำคัญ เราเสียเงินน้อยม๊ากกกก แต่แทบจะเหมือนได้เกาะส่วนตัวไปพักผ่อนเลยอ่ะ
ก่อนจบ ขอสรุปค่าใช้จ่ายนิดนึงน๊า (ค่าใช้จ่ายต่อคน) : ค่าน้ำมัน 700 บาท (700 กม.) +ค่าเข้าอุทยานน้ำตกพลิ้ว 40 บาท + ค่าเรือไป-กลับเกาะช้าง 110 บาท + ค่าทริปดำน้ำ 600 บาท + ค่าที่พักคืนที่ 3 ห้องละ 1,352 บาท คนละ 676 บาท = 2,200 บาท ไม่รวมอาหารนะ
https://www.facebook.com/travelmundee