เราเคยลองขายของออนไลน์มา 2 ครั้ง ครั้งแรกขายนาฬิกา เพราะเห็นญาติขายแล้วได้กำไรเยอะ และเราก็เคยทำงานในร้านขายนาฬิกามาก่อน เราก็เลยเปิดเว็บขายเป็นของตัวเอง แต่ไม่ทันไรก็เลิก เพราะตอนนั้นเราไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการขายออนไลน์ คิดแต่ว่าอยากขาย ไม่อยากเป็นลูกจ้าง แต่ไม่มีทุนซื้อของมาสต๊อก (นาฬิกาดีๆ ราคาเป็นพันๆ) ไม่รู้ว่าควรไปรับของจากที่ไหนมาขายจึงจะได้กำไรดีๆ (จะไปรับจากร้านที่ตัวเองเคยทำงานก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ถูกกับเจ้าของร้าน แถมเจ้าของร้านยังติดต่อยากด้วย) เราไม่กล้าที่จะไปปรึกษาญาติ เพราะเราขายของเหมือนเขา กลัวเขาจะมองเราไม่ดี สุดท้ายก็เลิกขายไปตั้งแต่ยังไม่ทันได้ขายสักเรือน แล้วไปหางานประจำทำ
ต่อมาเราก็ลาออกจากงานประจำ แล้วเริ่มขายของอีกครั้ง เป็นเครื่องประดับ-ของเล่นราคาถูก เรารับของจีนมาขาย ขายทั้งทางเว็บและทางเฟซบุ๊ค ต่อมาพ่อเราบอกว่าเลิกขายเถอะ สินค้าเรากำไรน้อยเกิน ไม่คุ้ม ไปขายอย่างอื่นดีกว่า แต่เราก็ยังไม่เลิก เพราะเราไม่รู้ว่าจะหาสินค้าอะไรมาขายแทน เราเป็นคนที่ไม่ค่อยจะสนใจหรือมีความรู้ในสินค้าอะไรทั้งนั้น ยิ่งพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหารเสริม เรายิ่งไม่สนใจ (ถ้าต้องขายของที่ตัวเองไม่สนใจ เราก็ไม่อยากขายหรอก) เราขายของได้นิดหน่อย เพราะมันเป็นสินค้าที่เหมาะกับคนเพียงบางกลุ่ม เราเองก็โฆษณาไม่เยอะ เพราะมันมีค่าใช้จ่ายด้วย แถมมันยังเป็นสินค้าที่จีนผลิตเลียนแบบอเมริกาอีก เท่ากับว่าเรารับของผิดลิขสิทธิ์มาขาย (แต่จีนขายถูกกว่าอเมริกามาก และเราไม่รู้วิธีสั่งซื้อของจากอเมริกา จะใช้บริการชิปปิ้งก็กลัวจะไม่คุ้ม เพราะของอเมริกามันแพงอยู่แล้ว เราสั่งมาขายครั้งละไม่กี่ชิ้น ค่าชิปปิ้งก็แพง ถ้าเราเอาส่วนค่าชิปปิ้งมาบวกในต้นทุนสินค้าอีก แล้วก็ต้องบวกกำไรอีก ของมันจะยิ่งแพงเว่อร์ แพงกว่าเจ้าอื่นๆที่ขายเหมือนกัน คิดว่าคงไม่มีใครอยากซื้อของเรา) ถึงแม้ว่าคนไทยจะรับมาขายกันเกลื่อนกลาด ถึงแม้เจ้าของลิขสิทธิ์จะไม่มาจับ แต่พอขายไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยภูมิใจ ยิ่งขายได้ไม่ค่อยดีด้วย คุณภาพสินค้าก็สมกับราคาถูกๆของมัน เก็บไว้ได้ไม่นานมันก็เสื่อมสภาพ เอามาขายไม่ได้
ต่อมาเราได้งานประจำ เราก็เอาเวลาส่วนใหญ่ไปทุ่มเทกับงานประจำ จนแทบเลิกสนใจงานขายของออนไลน์ของตัวเองไปเลย ขี้เกียจด้วย ทำงานประจำถึงจะได้เงินเดือนไม่เยอะ แต่ก็ยังได้เยอะกว่าขายของออนไลน์ เราไม่ได้อัพเดทสินค้าทางเฟซบุ๊คมาหลายเดือนแล้ว เว็บขายของเราก็หลายๆวันจะเข้าไปดูสักครั้ง ไม่มีการโฆษณาหรือจัดโปรโมชั่นอะไรทั้งสิ้น เรากำลังคิดว่า ถ้าเราขายของในสต๊อกเราหมดแล้ว เราจะปิดเว็บไปเลยดีไหม หรือจะขายต่อไปแบบพรีออเดอร์ล้วนๆแทน ใจเรายังอยากขายของอยู่ แต่อยากเปลี่ยนไปขายอย่างอื่นแทน ปัญหาคือไม่รู้จะขายอะไร รู้สึกหดหู่ตัวเอง
ขายของออนไลน์มาปีกว่าๆ ขายไม่ดีเลย เริ่มรู้สึกไม่อยากขายแล้ว เลิกดีไหม
ต่อมาเราก็ลาออกจากงานประจำ แล้วเริ่มขายของอีกครั้ง เป็นเครื่องประดับ-ของเล่นราคาถูก เรารับของจีนมาขาย ขายทั้งทางเว็บและทางเฟซบุ๊ค ต่อมาพ่อเราบอกว่าเลิกขายเถอะ สินค้าเรากำไรน้อยเกิน ไม่คุ้ม ไปขายอย่างอื่นดีกว่า แต่เราก็ยังไม่เลิก เพราะเราไม่รู้ว่าจะหาสินค้าอะไรมาขายแทน เราเป็นคนที่ไม่ค่อยจะสนใจหรือมีความรู้ในสินค้าอะไรทั้งนั้น ยิ่งพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อาหารเสริม เรายิ่งไม่สนใจ (ถ้าต้องขายของที่ตัวเองไม่สนใจ เราก็ไม่อยากขายหรอก) เราขายของได้นิดหน่อย เพราะมันเป็นสินค้าที่เหมาะกับคนเพียงบางกลุ่ม เราเองก็โฆษณาไม่เยอะ เพราะมันมีค่าใช้จ่ายด้วย แถมมันยังเป็นสินค้าที่จีนผลิตเลียนแบบอเมริกาอีก เท่ากับว่าเรารับของผิดลิขสิทธิ์มาขาย (แต่จีนขายถูกกว่าอเมริกามาก และเราไม่รู้วิธีสั่งซื้อของจากอเมริกา จะใช้บริการชิปปิ้งก็กลัวจะไม่คุ้ม เพราะของอเมริกามันแพงอยู่แล้ว เราสั่งมาขายครั้งละไม่กี่ชิ้น ค่าชิปปิ้งก็แพง ถ้าเราเอาส่วนค่าชิปปิ้งมาบวกในต้นทุนสินค้าอีก แล้วก็ต้องบวกกำไรอีก ของมันจะยิ่งแพงเว่อร์ แพงกว่าเจ้าอื่นๆที่ขายเหมือนกัน คิดว่าคงไม่มีใครอยากซื้อของเรา) ถึงแม้ว่าคนไทยจะรับมาขายกันเกลื่อนกลาด ถึงแม้เจ้าของลิขสิทธิ์จะไม่มาจับ แต่พอขายไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยภูมิใจ ยิ่งขายได้ไม่ค่อยดีด้วย คุณภาพสินค้าก็สมกับราคาถูกๆของมัน เก็บไว้ได้ไม่นานมันก็เสื่อมสภาพ เอามาขายไม่ได้
ต่อมาเราได้งานประจำ เราก็เอาเวลาส่วนใหญ่ไปทุ่มเทกับงานประจำ จนแทบเลิกสนใจงานขายของออนไลน์ของตัวเองไปเลย ขี้เกียจด้วย ทำงานประจำถึงจะได้เงินเดือนไม่เยอะ แต่ก็ยังได้เยอะกว่าขายของออนไลน์ เราไม่ได้อัพเดทสินค้าทางเฟซบุ๊คมาหลายเดือนแล้ว เว็บขายของเราก็หลายๆวันจะเข้าไปดูสักครั้ง ไม่มีการโฆษณาหรือจัดโปรโมชั่นอะไรทั้งสิ้น เรากำลังคิดว่า ถ้าเราขายของในสต๊อกเราหมดแล้ว เราจะปิดเว็บไปเลยดีไหม หรือจะขายต่อไปแบบพรีออเดอร์ล้วนๆแทน ใจเรายังอยากขายของอยู่ แต่อยากเปลี่ยนไปขายอย่างอื่นแทน ปัญหาคือไม่รู้จะขายอะไร รู้สึกหดหู่ตัวเอง