ทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดใจผ่าน FM 98.5 เมื่อเวลา 09.00-11.00 น. ในวันที่ 24 มกราคม 2560
ก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 25 มกราคม 2560 นี้
ว่ากันว่าเป็นนัดชี้ชะตา...และอนาคตของ IFEC จะเป็นอย่างไร ? ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น
ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวจริง...และพร้อมเสนอรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ มืออาชีพ เข้ามาพลิกฟื้นสถานการณ์ให้กับ IFEC
งานนี้...เขาไม่ได้มาเล่นๆ แน่ แม้จะมีวิชามาร สารพัด สะกัดกั้น!!!!
นักข่าว :วันพรุ่งนี้จะมาถึงแล้ว 25 มกราคม 2560 วันประชุมผู้ถือหุ้น ดูแล้วสถานะการณ์เมื่ออะไรที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจากก่อนหน้านี้บ้าง ??
คุณทวิช: มีความตื่นตัวมาก ไม่รวมถึงข่าวเรื่อง SMS เรื่องการล่าขอพรอกซี่ ตอนนี้มีข่าวเริ่มพยายามกีดกันผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ให้เข้าประชุม
นักข่าว : กีดกันยังไงครับ
คุณทวิช: ผมก็ไม่ทราบ ระวังตัวให้ดีมีคนเตือนมาผู้ถือหุ้นใหญ่ 60 รายแรก เราหวังว่าการประชุมคงสงบ ข่าวลือคือข่าวลือ เราต้องมั่นใจในความเที่ยงธรรม และผู้รักษาความปลอดภัย ผมไม่ห่วง
นักข่าว : 2 เรื่องใหญ่ๆ 1 เมื่อวานมีการส่ง SMS มีการโทรไปขอพอคซี่ เป็นการขอให้มอบฉันทะ 2. มีการโทรลอบบี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางราย มีการโทรมาว่าถ้ามาจะไม่ปลอดภัย
คุณทวิช : ไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ได้โทรเพียงเค้าเตือนมาว่าถ้ามาเค้าจะกีดกัน คงเป็นข่าวลือเฉยๆ
นักข่าว: อาจจะเป็นข่าวลือ
นักข่าว : พรุ่งนี้ไฮไลท์สำคัญคือ การคัดเลือกคณะกรรมการที่จะต้องทำให้เสร็จสิ้น ก่อนที่จะสามารถจ่ายหนี้ตั๋วบีอี วันที่ 26 มกราฯ ได้ วันพรุ่งนี้หากว่ามีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นถึงแม้ว่าที่ประชุมอาจมีมติออกมาได้แล้ว แต่ไม่สามารถนำมตินั้นออกมาจดทะเบียนได้ คุณทวิชมีแผนการรองรับสำหรับเรื่องนี้แล้วหรือยัง
คุณทวิช: ในกรณีถ้าได้รับเลือก การประชุมราบรื่น ยังไงก็ตาม ผลสรุปการเลือกตั้ง ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมคิดว่า ควรประชุมด่วนกับกรรมการผู้บริหารและทางเจ้าหนี้ว่ามันจะไม่อีกกี่ชั่วโมงแล้วจะทำอย่างไร ควรจะต้องคุยกับเค้า ไม่ควรปิดเงียบ ถ้าจะรอขายทรัพย์สินพวกนี้ต้องใช้เวลา อันนี้พูดตรงๆ ใครมันจะซื้อขายทรัพย์สิน เป็นร้อยๆพันๆล้าน ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน อันนี้เป็นความคิดของพวกเรา
นักข่าว: มันจะมีเงื่อนไขทางที่ประชุมสามารถมีมติออกมาได้แล้ว แต่มันต้องมีการนำบริคณห์สนธิไปจดทะเบียน ที่กระทรวงพาณิชย์ และหากมีการไปร้องเรียนก่อนหน้านั้น มันจะเกิดภาวะชะงักงันเกิดขึ้นได้ มันทำให้กรรมการไม่สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้
คุณทวิช : ต้องดูว่าใครร้องเรียน เพื่ออะไร ถ้าจะทำเพื่อผลประโยชน์บริษัท ถ้าร้องเรียนว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส คำว่าไม่โปร่งใส มันครอบคลุมกว้าง คงจะมีประเด็นนี้ประเด็นเดียว ประเด็นอื่นไม่น่าจะมี
นักข่าว : ถ้าเกิดพรุ่งนี้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าฝ่ายคุณทวิช ทั้ง 7 ท่าน ปัญหาที่คุณทวิชไปคุยกับผู้บริหาร เนื่องจากว่าเป็นฉันฑามติก็จริง ในทางปฎิบัติ ในทางนิตินัย จะเรียกมาอย่างไง ปัญหาก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่าย กลุ่มเดิมเค้าก็ไม่ยอมอยู่แล้วเนี้ย มันจะมีปัญหาตรงนี้มั้ยครับ
คุณทวิช : ประเด็นแรกที่เราจะได้มาก็คือความเชื่อมั่นจากทางเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ตั๋วบีอี ซึ่งหลังจากวันที่เปิดตัวมีธนาคาร และสถาบันทางเงิน 3-4 แห่งคุยกับเราแล้ว คิดว่าทุกรายทราบถึงสถานณ์ดี แล้วก็คิดว่าทุกรายก็รู้ว่า ด้วยเวลาอันสั้นถึงแม้คุณมีความตั้งใจอย่างไร แต่โดยขั้นตอนการปฎิบัติ ขั้นตอนบางทีมันทำไม่ได้ เค้าน่าจะให้ความผ่อนปรนได้ อาจจะต่อไปให้ 3วัน 7 วัน
นักข่าว : ในทางปฎิบัติ อาจจะลุล่วงไปได้ แต่ในทางกฎหมาย ต้องใช้เวลาไปอีกนิดนึง เพราะฉะนั้นวันที่ 26 นี้อาจไม่ต้องกังวลมาก
คุณทวิช : มันมีข้อกังวลหลายข้อที่เราเสนอไป คือกรรมการทุกท่าน....ยกเว้นผมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายเดียว ที่อีกหกท่านเป็นกรรมการอิสระที่มีคุณสมบัติที่เรียกว่าพอเพียงในการบริหาร และในการบริหารเป็นการบริหารและตรวจสอบไปในตัว ทุกคนตั้งใจมาทำงานในระยะเวลาสั้นๆ เวลาหนึ่งเดือน สามเดือน การแก้ปัญหาน่าจะจบได้ แต่ประเด็นที่อยากจะให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาคือ
1.ทำไมกรรมการถึงลาออกทั้ง 7 ท่าน ทั้งที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาด้วยกัน มีเรื่องอะไรผิดปกติหรือเปล่า กรรมการท่านเห็นหรือตรวจสอบพบอะไรที่ไม่ชอบมาพากล กับการบริหารแบบวันแมนโชว์ เป็นเรื่องที่น่าคิด ทำไมกรรมการถึงลาออก
2 .ในการบริหารงานทำไม CEO คนเดียวลาออกบริษัททำอะไรไม่ได้เลย เพราะนี้เป็นบริษัทมหาชน ทำไมร่วมเซ็นกันแค่ 2 คน มีไรงุบงิบกันอยู่หรือเปล่าทำไมจึงไม่ให้คนอื่นมีส่วนร่วม อันนี้ผมพูดแบบเป็นกลาง ไม่ได้เข้าข้างใคร หรือคุณสิทธิชัยเห็นหรือได้กลิ่นอะไรมาจากแดนไกลหรือเปล่า จึงชิ่งลาออกซะก่อน
อีกประเด็นคือหมอทดสอบสังคมว่าทำไมถึงปลดควบคุมพนักงานออกมา 26 คน โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา ไม่เลิกจ้าง ไม่ชดเชย จนเป็นที่ฟ้องร้องกัน ผมคิดว่าสังคมคงอยากรู้ กว่าเดือนแล้ว ทางบริษัทตรวจสอบเจออะไรบ้าง ที่พนักงาน26 คนทำผิด ผมคิดว่าสังคมคงอยากรู้ รังแกเด็กรึป่าว
ข้อสำคัญคือเรื่องการเบี้ยวตั๋วบีอีที่โด่งดังไปทั่วประเทศ เรื่องนี้ทำให้หนาวไปทั้งวงการเลย ทุกคนคงอยากทราบบริษัทใหญ่ๆ อย่าง IFEC ไม่สามารถบริหารเงินหรือชำระเงินเพียง 200-300 ล้านได้ คือปกติทั่วไป ถ้าเป็นผม ผมลาออกไปแล้ว พิจารณาตัวเอง ทำไม่ได้ก็ลาออกไป ตัวนี้ก็ฝากว่าทางบริษัทจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ถ้าสมมติว่าโอเค พรุ่งนี้ถ้าได้รับเลือกทั้ง 5 ท่าน จะเป็นระยะสั้น ระยะยาว เรื่องนี้คิดว่าทุกคนคงอยากทราบ อันนี้เพื่อประโยชน์ของบริษัทระยะยาว
นักข่าว : อันนี้หมายถึงทางฝั่งผู้บริหาร เดิมที่พรุ่งนี้จะมีการนำเสนอคณะกรรมการด้วย อันนี้มองว่าสัดส่วนของหุ้น ถ้าเกิดฝั่งโน้นเกิดชนะขึ้นมา คุณทวิชต้องการว่าเค้าต้องออกมาแจ้งต่อผู้ถือหุ้นว่าในระยะสั้นและระยะยาวจะดำเนินการแก้ไขปัญหายังไง
คุณทวิช : นี่ก็เป็นห่วง เพราะถือหุ้นอยู่ด้วย ผมไม่อยากเรียกว่าปฏิหาริย์ ฝั่งหมอเองมีความพยายามสูงสุด ต้องชมว่ามีความพยายามมากๆ เลย เรียกว่าพยายามสุดชีวิตที่จะรั้งบริษัทไว้กับตัวเอง ความจริง พรุ่งนี้มีการเลือกตั้งระหว่างสองฝ่าย ถ้าสามารถมีคนกลางมาเป็นประธานในที่ประชุมได้ มันจะดีกว่านี้ แต่นี่ผมคิดว่าทุกคนมีส่วนได้ส่วนเสีย ประธานเลือกตั้ง ประธานเป็นของอีกฝ่าย ถ้ากรรมการเอนเอียงได้เหมือนกัน เรื่องมันเคยเกิดมาแล้ว เราสามารถป้องกันได้ไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
นักข่าว : ดูเหมือนฟังจะพบพิรุธทั้งสองฝ่าย ทั้งฝั่งคุณสิทธิชัยและคุณวิชัย ว่ามันมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า
คุณทวิช : อันนี้เป็นเรื่องน่าสนใจ ทำไมคนนึงลาออกแล้วง่อยเปลี้ยเสียขา ทำไมอีกคนนั่งทับไม่ยอมออก ทั้งที่แข่งกันขายหุ้น ฉะนั้นต้องดูประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
นักข่าว : คุณทวิชพอจะทราบมั้ยหลังจากวันที่ 26 นี้ที่ว่าจะต้องจ่ายค่าหนี้ตั๋วบีอี 200 ล้านบาทแล้วเนี้ย หลังจากนั้นจะมีงวดไหนใกล้งวดเข้ามาอีกบ้าง
คุณทวิช : มีประมาณกลางเดือนกุมภาฯ อีกประมาณ 3 งวด ก็หลายร้อยล้านอยู่ ตอนนี้ก็จะมาเป็นแถว เพราะว่าเดือนนึงอย่างน้อย 3 ใบ ตั๋วบีอี ประมาณ 500 ล้านโดยประมาณ ฉะนั้นทีผมเคยเรียนว่า ถ้าผมเข้าไปตัวเปล่าคงบริหารไม่ได้ ก็คง ต้องหาเงินระยะสั้น คงต้อง 1000 ล้าน เข้าไปแก้ไข หุ้นผมในบริษัทก็ 1000 ล้านแล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องมีศักยภาพที่จะมีกำลังสำรองที่ต้องมาเสริมในยามฉุกเฉินอย่างนี้ ผมเข้ามาไม่นาน แก้ปัญหาเสร็จก็ไปแล้ว
นักข่าว : อันนี้ชัดเจนว่ามาแบบนักลงทุน
คุณทวิช : มาแบบนักลงทุน แก้ไข ดูเรื่องผลประโยชน์ของบริษัท ถ้าเราเข้ามาได้สองสามวันคงดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ตลาดปลด SP ได้ผู้ถือหุ้นส่วนย่อยคงสบายใจที่โดนปิดล็อกอยู่
นักข่าว : เรียนถามเรื่องโรงแรมดาราเทวี ในส่วนนี้นี่อยู่ในแผนการ การแก้ไขปัญหาของคุณทวิชด้วยหรือไม่
คุณทวิช : ตัวนี้เป็นภาระใหญ่ แต่ผมเชื่อในทุกเรื่องว่าในวิกฤตินั้นมีโอกาส ตัวดาราเทวีอาจเป็นภาระ แต่ถ้าจับแต่งตัวให้สวยขึ้นมาเค้าก็มีเสน่ห์ เขาอยู่ได้มาเป็น 10 ปี เป็นอันดับหนึ่ง 5 ดาว 6 ดาว ต้องขอโทษที่วิจารณ์เจ้าของเดิมคือท่านอาจไม่คิดแผนการไกลเนื่องจากที่ดินและทรัพย์สินแบกไว้เยอะ และรายได้มันไม่คุ้มใน ฉะนั้นก็ต้องดู ผมเป็นผู้พัฒนาและมีนักการเงิน คุณสมชาย และอีกหลายๆคน ซึ่งทุกๆ คน จะเข้ามาทำประโยชน์กับก้อนนี้ดี โรงแรมบางส่วนตัดขาย บางส่วนร่วมพัฒนา แต่ไม่รีบขาย เพราะรีบขายจะถูกบีบขาย ถูกฟอร์ซเซลแบหุ้น
ตัวนี้มีเสน่ห์ มีคนมาจีบแน่นอน หลายคนสนใจ ดาราเทวี อาจจะเก็บบางส่วนและขายบางส่วน ของดีๆเราจะไม่ตัดขาย
นักข่าว : อย่างพวกพาวเวอร์แพลนท์และวินด์
คุณทวิช : พวกนี้ต้องดู ต้องดูสิ่งที่ทำรายได้ให้บริษัทเช่นโซล่าร์ที่มี COD จริงๆ ควรเก็บไว้ ถ้าขายไป อนาคตไม่มีรายได้ ควรพิจารณาขายตัวที่พึ่งไปลงทุน อะไรที่อยู่ต่างแดน ควบคุมยาก ทำไมไปลงทุน คนในประเทศเขาทำไมไม่ลงทุน อันนี้ผมไม่อยากพาดพิง เดี๋ยวเรื่องมันไกล
แต่อะไรที่สร้างค้างอยู่และยังไม่ทำประโยชน์ให้กับบริษัท ไม่ได้ทำกำไรให้บริษัท ควรพิจารณาขาย ถ้าเราขายหม้อข้าว ทุบหม้อข้าว จะเอาอะไรกินในอนาคต แต่อะไรที่ยังไม่เกิด ความไม่แน่นอนมีสูง คงพิจารณาขายพวกนั้นออกไปก่อน เงินก็ต้องลงเพิ่ม ออกมาแล้วจะทำได้ตามประมาณการณ์หรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ แต่ถ้ามีคนซื้อ ผมว่าก็ขายพวกนี้ไป หรือพวกทรัพย์สินที่ไม่ก่อรายได้เช่น ที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานก็ควรที่จะขายไป
”ทวิช เตชะนาวากุล” อัศวินม้าขาว กอบกู้วิกฤติศรัทธา IFEC
ก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 25 มกราคม 2560 นี้
ว่ากันว่าเป็นนัดชี้ชะตา...และอนาคตของ IFEC จะเป็นอย่างไร ? ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาเจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น
ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ตัวจริง...และพร้อมเสนอรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ มืออาชีพ เข้ามาพลิกฟื้นสถานการณ์ให้กับ IFEC
งานนี้...เขาไม่ได้มาเล่นๆ แน่ แม้จะมีวิชามาร สารพัด สะกัดกั้น!!!!
นักข่าว :วันพรุ่งนี้จะมาถึงแล้ว 25 มกราคม 2560 วันประชุมผู้ถือหุ้น ดูแล้วสถานะการณ์เมื่ออะไรที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจากก่อนหน้านี้บ้าง ??
คุณทวิช: มีความตื่นตัวมาก ไม่รวมถึงข่าวเรื่อง SMS เรื่องการล่าขอพรอกซี่ ตอนนี้มีข่าวเริ่มพยายามกีดกันผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ให้เข้าประชุม
นักข่าว : กีดกันยังไงครับ
คุณทวิช: ผมก็ไม่ทราบ ระวังตัวให้ดีมีคนเตือนมาผู้ถือหุ้นใหญ่ 60 รายแรก เราหวังว่าการประชุมคงสงบ ข่าวลือคือข่าวลือ เราต้องมั่นใจในความเที่ยงธรรม และผู้รักษาความปลอดภัย ผมไม่ห่วง
นักข่าว : 2 เรื่องใหญ่ๆ 1 เมื่อวานมีการส่ง SMS มีการโทรไปขอพอคซี่ เป็นการขอให้มอบฉันทะ 2. มีการโทรลอบบี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางราย มีการโทรมาว่าถ้ามาจะไม่ปลอดภัย
คุณทวิช : ไม่ถึงขนาดนั้น ไม่ได้โทรเพียงเค้าเตือนมาว่าถ้ามาเค้าจะกีดกัน คงเป็นข่าวลือเฉยๆ
นักข่าว: อาจจะเป็นข่าวลือ
นักข่าว : พรุ่งนี้ไฮไลท์สำคัญคือ การคัดเลือกคณะกรรมการที่จะต้องทำให้เสร็จสิ้น ก่อนที่จะสามารถจ่ายหนี้ตั๋วบีอี วันที่ 26 มกราฯ ได้ วันพรุ่งนี้หากว่ามีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นถึงแม้ว่าที่ประชุมอาจมีมติออกมาได้แล้ว แต่ไม่สามารถนำมตินั้นออกมาจดทะเบียนได้ คุณทวิชมีแผนการรองรับสำหรับเรื่องนี้แล้วหรือยัง
คุณทวิช: ในกรณีถ้าได้รับเลือก การประชุมราบรื่น ยังไงก็ตาม ผลสรุปการเลือกตั้ง ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมคิดว่า ควรประชุมด่วนกับกรรมการผู้บริหารและทางเจ้าหนี้ว่ามันจะไม่อีกกี่ชั่วโมงแล้วจะทำอย่างไร ควรจะต้องคุยกับเค้า ไม่ควรปิดเงียบ ถ้าจะรอขายทรัพย์สินพวกนี้ต้องใช้เวลา อันนี้พูดตรงๆ ใครมันจะซื้อขายทรัพย์สิน เป็นร้อยๆพันๆล้าน ได้ภายในเวลาไม่กี่วัน อันนี้เป็นความคิดของพวกเรา
นักข่าว: มันจะมีเงื่อนไขทางที่ประชุมสามารถมีมติออกมาได้แล้ว แต่มันต้องมีการนำบริคณห์สนธิไปจดทะเบียน ที่กระทรวงพาณิชย์ และหากมีการไปร้องเรียนก่อนหน้านั้น มันจะเกิดภาวะชะงักงันเกิดขึ้นได้ มันทำให้กรรมการไม่สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้
คุณทวิช : ต้องดูว่าใครร้องเรียน เพื่ออะไร ถ้าจะทำเพื่อผลประโยชน์บริษัท ถ้าร้องเรียนว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส คำว่าไม่โปร่งใส มันครอบคลุมกว้าง คงจะมีประเด็นนี้ประเด็นเดียว ประเด็นอื่นไม่น่าจะมี
นักข่าว : ถ้าเกิดพรุ่งนี้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าฝ่ายคุณทวิช ทั้ง 7 ท่าน ปัญหาที่คุณทวิชไปคุยกับผู้บริหาร เนื่องจากว่าเป็นฉันฑามติก็จริง ในทางปฎิบัติ ในทางนิตินัย จะเรียกมาอย่างไง ปัญหาก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่าย กลุ่มเดิมเค้าก็ไม่ยอมอยู่แล้วเนี้ย มันจะมีปัญหาตรงนี้มั้ยครับ
คุณทวิช : ประเด็นแรกที่เราจะได้มาก็คือความเชื่อมั่นจากทางเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ตั๋วบีอี ซึ่งหลังจากวันที่เปิดตัวมีธนาคาร และสถาบันทางเงิน 3-4 แห่งคุยกับเราแล้ว คิดว่าทุกรายทราบถึงสถานณ์ดี แล้วก็คิดว่าทุกรายก็รู้ว่า ด้วยเวลาอันสั้นถึงแม้คุณมีความตั้งใจอย่างไร แต่โดยขั้นตอนการปฎิบัติ ขั้นตอนบางทีมันทำไม่ได้ เค้าน่าจะให้ความผ่อนปรนได้ อาจจะต่อไปให้ 3วัน 7 วัน
นักข่าว : ในทางปฎิบัติ อาจจะลุล่วงไปได้ แต่ในทางกฎหมาย ต้องใช้เวลาไปอีกนิดนึง เพราะฉะนั้นวันที่ 26 นี้อาจไม่ต้องกังวลมาก
คุณทวิช : มันมีข้อกังวลหลายข้อที่เราเสนอไป คือกรรมการทุกท่าน....ยกเว้นผมเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายเดียว ที่อีกหกท่านเป็นกรรมการอิสระที่มีคุณสมบัติที่เรียกว่าพอเพียงในการบริหาร และในการบริหารเป็นการบริหารและตรวจสอบไปในตัว ทุกคนตั้งใจมาทำงานในระยะเวลาสั้นๆ เวลาหนึ่งเดือน สามเดือน การแก้ปัญหาน่าจะจบได้ แต่ประเด็นที่อยากจะให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาคือ
1.ทำไมกรรมการถึงลาออกทั้ง 7 ท่าน ทั้งที่ร่วมหัวจมท้ายกันมาด้วยกัน มีเรื่องอะไรผิดปกติหรือเปล่า กรรมการท่านเห็นหรือตรวจสอบพบอะไรที่ไม่ชอบมาพากล กับการบริหารแบบวันแมนโชว์ เป็นเรื่องที่น่าคิด ทำไมกรรมการถึงลาออก
2 .ในการบริหารงานทำไม CEO คนเดียวลาออกบริษัททำอะไรไม่ได้เลย เพราะนี้เป็นบริษัทมหาชน ทำไมร่วมเซ็นกันแค่ 2 คน มีไรงุบงิบกันอยู่หรือเปล่าทำไมจึงไม่ให้คนอื่นมีส่วนร่วม อันนี้ผมพูดแบบเป็นกลาง ไม่ได้เข้าข้างใคร หรือคุณสิทธิชัยเห็นหรือได้กลิ่นอะไรมาจากแดนไกลหรือเปล่า จึงชิ่งลาออกซะก่อน
อีกประเด็นคือหมอทดสอบสังคมว่าทำไมถึงปลดควบคุมพนักงานออกมา 26 คน โดยไม่แจ้งข้อกล่าวหา ไม่เลิกจ้าง ไม่ชดเชย จนเป็นที่ฟ้องร้องกัน ผมคิดว่าสังคมคงอยากรู้ กว่าเดือนแล้ว ทางบริษัทตรวจสอบเจออะไรบ้าง ที่พนักงาน26 คนทำผิด ผมคิดว่าสังคมคงอยากรู้ รังแกเด็กรึป่าว
ข้อสำคัญคือเรื่องการเบี้ยวตั๋วบีอีที่โด่งดังไปทั่วประเทศ เรื่องนี้ทำให้หนาวไปทั้งวงการเลย ทุกคนคงอยากทราบบริษัทใหญ่ๆ อย่าง IFEC ไม่สามารถบริหารเงินหรือชำระเงินเพียง 200-300 ล้านได้ คือปกติทั่วไป ถ้าเป็นผม ผมลาออกไปแล้ว พิจารณาตัวเอง ทำไม่ได้ก็ลาออกไป ตัวนี้ก็ฝากว่าทางบริษัทจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ถ้าสมมติว่าโอเค พรุ่งนี้ถ้าได้รับเลือกทั้ง 5 ท่าน จะเป็นระยะสั้น ระยะยาว เรื่องนี้คิดว่าทุกคนคงอยากทราบ อันนี้เพื่อประโยชน์ของบริษัทระยะยาว
นักข่าว : อันนี้หมายถึงทางฝั่งผู้บริหาร เดิมที่พรุ่งนี้จะมีการนำเสนอคณะกรรมการด้วย อันนี้มองว่าสัดส่วนของหุ้น ถ้าเกิดฝั่งโน้นเกิดชนะขึ้นมา คุณทวิชต้องการว่าเค้าต้องออกมาแจ้งต่อผู้ถือหุ้นว่าในระยะสั้นและระยะยาวจะดำเนินการแก้ไขปัญหายังไง
คุณทวิช : นี่ก็เป็นห่วง เพราะถือหุ้นอยู่ด้วย ผมไม่อยากเรียกว่าปฏิหาริย์ ฝั่งหมอเองมีความพยายามสูงสุด ต้องชมว่ามีความพยายามมากๆ เลย เรียกว่าพยายามสุดชีวิตที่จะรั้งบริษัทไว้กับตัวเอง ความจริง พรุ่งนี้มีการเลือกตั้งระหว่างสองฝ่าย ถ้าสามารถมีคนกลางมาเป็นประธานในที่ประชุมได้ มันจะดีกว่านี้ แต่นี่ผมคิดว่าทุกคนมีส่วนได้ส่วนเสีย ประธานเลือกตั้ง ประธานเป็นของอีกฝ่าย ถ้ากรรมการเอนเอียงได้เหมือนกัน เรื่องมันเคยเกิดมาแล้ว เราสามารถป้องกันได้ไม่ว่าจะเป็นตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
นักข่าว : ดูเหมือนฟังจะพบพิรุธทั้งสองฝ่าย ทั้งฝั่งคุณสิทธิชัยและคุณวิชัย ว่ามันมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า
คุณทวิช : อันนี้เป็นเรื่องน่าสนใจ ทำไมคนนึงลาออกแล้วง่อยเปลี้ยเสียขา ทำไมอีกคนนั่งทับไม่ยอมออก ทั้งที่แข่งกันขายหุ้น ฉะนั้นต้องดูประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
นักข่าว : คุณทวิชพอจะทราบมั้ยหลังจากวันที่ 26 นี้ที่ว่าจะต้องจ่ายค่าหนี้ตั๋วบีอี 200 ล้านบาทแล้วเนี้ย หลังจากนั้นจะมีงวดไหนใกล้งวดเข้ามาอีกบ้าง
คุณทวิช : มีประมาณกลางเดือนกุมภาฯ อีกประมาณ 3 งวด ก็หลายร้อยล้านอยู่ ตอนนี้ก็จะมาเป็นแถว เพราะว่าเดือนนึงอย่างน้อย 3 ใบ ตั๋วบีอี ประมาณ 500 ล้านโดยประมาณ ฉะนั้นทีผมเคยเรียนว่า ถ้าผมเข้าไปตัวเปล่าคงบริหารไม่ได้ ก็คง ต้องหาเงินระยะสั้น คงต้อง 1000 ล้าน เข้าไปแก้ไข หุ้นผมในบริษัทก็ 1000 ล้านแล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องมีศักยภาพที่จะมีกำลังสำรองที่ต้องมาเสริมในยามฉุกเฉินอย่างนี้ ผมเข้ามาไม่นาน แก้ปัญหาเสร็จก็ไปแล้ว
นักข่าว : อันนี้ชัดเจนว่ามาแบบนักลงทุน
คุณทวิช : มาแบบนักลงทุน แก้ไข ดูเรื่องผลประโยชน์ของบริษัท ถ้าเราเข้ามาได้สองสามวันคงดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ตลาดปลด SP ได้ผู้ถือหุ้นส่วนย่อยคงสบายใจที่โดนปิดล็อกอยู่
นักข่าว : เรียนถามเรื่องโรงแรมดาราเทวี ในส่วนนี้นี่อยู่ในแผนการ การแก้ไขปัญหาของคุณทวิชด้วยหรือไม่
คุณทวิช : ตัวนี้เป็นภาระใหญ่ แต่ผมเชื่อในทุกเรื่องว่าในวิกฤตินั้นมีโอกาส ตัวดาราเทวีอาจเป็นภาระ แต่ถ้าจับแต่งตัวให้สวยขึ้นมาเค้าก็มีเสน่ห์ เขาอยู่ได้มาเป็น 10 ปี เป็นอันดับหนึ่ง 5 ดาว 6 ดาว ต้องขอโทษที่วิจารณ์เจ้าของเดิมคือท่านอาจไม่คิดแผนการไกลเนื่องจากที่ดินและทรัพย์สินแบกไว้เยอะ และรายได้มันไม่คุ้มใน ฉะนั้นก็ต้องดู ผมเป็นผู้พัฒนาและมีนักการเงิน คุณสมชาย และอีกหลายๆคน ซึ่งทุกๆ คน จะเข้ามาทำประโยชน์กับก้อนนี้ดี โรงแรมบางส่วนตัดขาย บางส่วนร่วมพัฒนา แต่ไม่รีบขาย เพราะรีบขายจะถูกบีบขาย ถูกฟอร์ซเซลแบหุ้น
ตัวนี้มีเสน่ห์ มีคนมาจีบแน่นอน หลายคนสนใจ ดาราเทวี อาจจะเก็บบางส่วนและขายบางส่วน ของดีๆเราจะไม่ตัดขาย
นักข่าว : อย่างพวกพาวเวอร์แพลนท์และวินด์
คุณทวิช : พวกนี้ต้องดู ต้องดูสิ่งที่ทำรายได้ให้บริษัทเช่นโซล่าร์ที่มี COD จริงๆ ควรเก็บไว้ ถ้าขายไป อนาคตไม่มีรายได้ ควรพิจารณาขายตัวที่พึ่งไปลงทุน อะไรที่อยู่ต่างแดน ควบคุมยาก ทำไมไปลงทุน คนในประเทศเขาทำไมไม่ลงทุน อันนี้ผมไม่อยากพาดพิง เดี๋ยวเรื่องมันไกล
แต่อะไรที่สร้างค้างอยู่และยังไม่ทำประโยชน์ให้กับบริษัท ไม่ได้ทำกำไรให้บริษัท ควรพิจารณาขาย ถ้าเราขายหม้อข้าว ทุบหม้อข้าว จะเอาอะไรกินในอนาคต แต่อะไรที่ยังไม่เกิด ความไม่แน่นอนมีสูง คงพิจารณาขายพวกนั้นออกไปก่อน เงินก็ต้องลงเพิ่ม ออกมาแล้วจะทำได้ตามประมาณการณ์หรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ แต่ถ้ามีคนซื้อ ผมว่าก็ขายพวกนี้ไป หรือพวกทรัพย์สินที่ไม่ก่อรายได้เช่น ที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานก็ควรที่จะขายไป