"ชีวิตรันทดของราชนิกูลต้าซ่ง"

จากกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/36027697
เผื่อใครสนใจเนื้อเรื่องความรันทดของบรรดาราชนิกูลราชวงค์ซ่งเหนือที่ถูกอาณาจักต้าจินบุกทำลายที่ไคเฟิง แล้วโดนกวาดต้อนไปทางเหนือ


"คำเตือน เรื่องค่อนข้างเศร้า"

เครดิต  https://www.facebook.com/groups/783674078384718/permalink/1182765031808952/

ชีวิตรันทดของราชนิกูลต้าซ่ง



ศักราชจิ้งคัง ปีที่ 2 ค.ศ. 1127 แห่งราชวงศ์ซ่งเหนือ กองทัพต้าจินพิชิตซ่งเหนือสำเร็จ หลังจากกวาดปล้นทรัพย์สมบัติแล้ว ยังกวาดต้อนฮ่องเต้ 2 พระองค์คือ ซ่งฮุยจงและซ่งชินจง รวมทั้งเหล่าราชนิกูลและขุนนางรวม 3,000 คน ไปยังดินแดนภาคเหนือ
ในจำนวนนั้นมีพระโอรส 32 พระองค์ พระธิดา 22 พระองค์ของซ่งฮุยจง ผู้ที่รอดไปได้คือ คังหวางจ้าวโก้ว โอรสองค์ที่ 9 ซึ่งขณะนั้นไปราชการต่างถิ่นและพระธิดาพระชนม์หนึ่งชันษา เชลยส่วนใหญ่เป็นสตรี นอกจากนางกำนัลแล้วยังมีเติ้งฮองเฮาของซ่งฮุยจง จูฮองเฮาของซ่งชินจง รวมถึงพระเทวีเหวยมารดาและพระชายาสิงของคังหวางจ้าวโก้ว
พระนางจูฮองเฮาของฮ่องเต้ซ่งชินจงอายุ 26 ปี อยู่ในวัยที่พระสิริโฉมงดงามจึงไม่พ้นถูกทหารจินข่มเหง ระหว่างทางขึ้นเหนือฮองเฮาผู้นี้ถูกบังคับให้ร้องเพลงให้ทหารจินฟัง ครั้งหนึ่งพระนางถูกหยอกล้อและลวนลาม พระนางตกพระทัยจนโรคหัวใจกำเริบ ทหารจินจึงนำฝ่ามือมาจับที่หน้าอกของพระนางแล้วบอกว่า " หายแล้ว ๆ"
หลังจากไปถึงต้าจิน ก็ต้องเข้าสู่พิธีการส่งมอบเชลย พิธีส่งมอบเชลยของชาวหนี่ว์เจินพิสดารยิ่ง กล่าวคือ ให้ซ่งฮุยจงและซ่งชินจง รวมถึงเหล่าราชนิกูลและข้าราชบริพารทั้งชายหญิง สวมเสื้อผ้าแบบชาวหนี่ว์เจิน เอาผ้าโพกหัว หนังแกะคลุมตัว และเปลือยท่อนบนเข้าพิธี "จูงแพะ" ที่ศาลประจำพระองค์ของหวันเหยียนอากู่ต้า ฮ่องเต้ผู้สถาปนาต้าจิน จูฮองเฮาไม่อาจทนรับการเหยียดหยามเช่นนี้ได้ หลังจากพิธีจูงแพะผ่านไป คืนนั้นพระนางก็ปลงพระชนม์พระองค์เอง
เคราะห์ดีที่พระนางจูฮองเฮาพ้นทุกข์ไปก่อน เชลยหญิงคนอื่นๆลำบากยิ่งกว่าตกนรก หลังสิ้นพิธีส่งมอบเชลยผ่านไป เชลยชายจะถูกนำตัวไปเป็นทาส มีเพียงอาหารและเสื้อผ้าให้เท่านั้น อาหารมีแต่ข้าวสาลีทั้งเปลือกเดือนละ 5 โต้ว (ประมาณ 50 ทะนาน) ยังต้องตำเอาเปลือกออกก่อน เหลือจริงๆไม่ถึง 2 โต้ว เสื้อผ้าให้ป่านคนละ 5 กองต่อปีและต้องเอาไปทอเอง
ทุกคนจึงผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกและแทบไม่ได้สวมเสื้อผ้าแม้ในฤดูหนาว จึงมีคนหนาวตายเป็นจำนวนมาก ชนชั้นสูงเหล่านี้ต้องฝ่าความหนาวไปหาฟืนมาก่อไฟเพื่อไม่ให้หนาวตาย คงเป็นเพราะร่างกายหนาวจัดเมื่อได้รับความร้อนในทันที ปลายหูนิ้วมือนิ้วเท้าที่ชาด้วยความหนาว เมื่อได้รับความอบอุ่นจึงเริ่มรู้สึกเจ็บระบมจนร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
พวกทหารหนี่ว์เจินคัดเลือกพระสนมและพระธิดารวมกว่า 50 นางถวายให้ฮ่องเต้ต้าจิน นางกำนัลรูปงามจะถูกส่งตัวไปให้เหล่าแม่ทัพ ส่วนที่เหลือจะถูกนำตัวไปเป็นทาสรับใช้ชนชั้นสูง ก่อนถูกส่งตัวไปสตรีเหล่านี้ต่างถูกข่มขืนทารุณ หลังจากนั้นยิ่งถูกกระทำอย่างรุนแรง
องค์หญิงโหรวฝู พระธิดาองค์ที่ 10 ของฮ่องเต้ซ่งฮุยจงถูกจับไปเมื่ออายุ 17 ปี เป็นองค์หญิงที่มีอายุมากที่สุดในบรรดาพระธิดาที่ยังไม่ออกเรือน แม่ทัพต้าจินดูแลนางเป็นพิเศษเพื่อถวายให้ฮ่องเต้ แต่ก่อนหน้านั้นระหว่างเดินทางนางก็ถูกทหารหนี่ว์เจินข่มขืน
ฮ่องเต้จินไท่จงทราบว่า นางไม่ใช่สาวบริสุทธิจึงไม่รับตัวไว้ แต่ส่งไปที่ "โรงซักผ้า" ซึ่งเป็นซ่องโสเภณีชั้นต่ำ ที่ต้าซ่งโสเภณีไม่ต้องทำงานหนัก แต่ที่นี่หญิงสาวจากต้าซ่งกลางวันต้องทำงานหนัก กลางคืนต้องเป็นโสเภณี ชีวิตหญิงสาวเหล่านี้ทุกข์ยากแสนเข็ญ ทุกนางต้องเปลือยอก มีเพียงขนแกะพันท่อนล่างเท่านั้น
องค์หญิงโหรวฝูเป็นโสเภณีในโรงซักผ้าหลายปี ต่อมามีอ๋องคนหนึ่งรับนางไปแต่ไม่นานเขาก็เบื่อ แล้วยกนางให้ชาวซ่งระดับล่าง ผ่านไปไม่กี่ปีองค์หญิงก็สิ้นพระชนม์เพราะร่างกายทรุดโทรม ขณะชันษาเพียง 31 ปี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าก่อนตาย องค์หญิงได้รำพันเช่นเดียวกับลูกหลานฮ่องเต้ที่หมดอำนาจและตกระกำลำบาก ที่เคยกล่าวไว้ว่า
"ชาติหน้าชาติไหนขออย่าเกิดในราชสกุล" (เป็นคำกล่าวของซ่งซุ่นตี้ สมัยหลิวซ่ง ฮ่องเต้น้อยผู้ถูกปลงพระชนม์เพียง 12 ชันษา)
บทความจาก
ประโยคอมตะประวัติศาสตร์จีน โดย เหยียนมู่สุ่ย แปลโดย รำพรรณ รักศรีอักษร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่