เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมอ่านกระทู้เกี่ยวกับเรื่องปัญหาที่มีผู้หลงทำประกันเพราะเชื่อ sell ซึ่งบางทีให้ข้อมูลไม่ครบใน webboard ยังคิดอยู่ว่าโชคดีที่ไม่เกิดกับครอบครัวเรา พอกลับมาถึงบ้านไม่นึกไม่ฝันว่าแม่ผมจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
เข้าเรื่องเลยนะครับ คือ เมื่อปี 2552 แม่ผมได้ทำประกันกับ sell ที่มาขายประกันที่ทำงาน ซึ่งเท่าที่ฟังคือเค้ามากันเป็นกลุ่มไม่ต่ำกว่า 4 - 5 คน ซึ่งในนั้นก็แต่มีคนที่แต่งตัวเหมือนพนักงานธนาคารกรุงไทยซึ่งทำให้ทางแม่ผมเข้าใจว่าเป็นประกันของธนาคารกรุงไทย (ซึ่งตอนหลังพ่อผมก็ทำประกันกับและคุยกับเจ้าหน้าที่ จึงทราบว่าไม่ใช่ธรุกิจของกรุงไทย แต่เป็นบริษัทอื่นที่มา co กับกรุงไทย ซึ่งทางกรุงไทยทำหน้าที่แค่รับจ่ายเงินเท่านั้น)
ทางพนักงานได้มาเสนอประกันแบบ 12 PL ทางพนักงานบอกแม่ว่าจ่ายแค่ 12 ปี ถ้าไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ยกเลิกได้และได้เงินคืน โดยที่เท่าที่ฟังจากคุณแม่เล่าคือไม่มีการทำตารางมาให้ดูว่าทุนประกันเท่าไหร่เมื่อชำระไปกี่ปีแล้วถ้าเวนคืนจะได้เท่าไหร่ ซึ่งแม่ผมก็เข้าใจว่าเมื่อยกเลิกแล้วได้เงินคืนก็จะได้คืนตามที่จ่ายไป ซึ่งแม่ผมเข้าใจว่าเป็นของธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารที่รัฐถือหุ้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ได้ดอกเบี้ยแล้วก็นำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วยจึงทำไป ซึ่งเข้าใจว่าที่ทำงานคุณแม่ก็น่าจะทำกันหลายคน
แต่พอมราบว่าไม่ใช่ของธนาคารกรุงไทยจึงได้เอากรมธรรม์มาอ่าน (ซึ่งผมก็เพิ่งเห็นแนี่ยแหละ) แล้วก็เจอว่าเงื่อนไขที่จะได้คืนมากว่าทุนประกันก็คือต้องอายุ 85 หรือ 30 ปี (ซึ่ง 30 ปีแม่ผมก็อายุ 85 เหมือนกัน) ซึ่งเงินที่ได้คืนเมื่อครบ 85 ก็น้อยกว่าเบี้ยที่คุณแม่จ่าย คือท่านจ่ายปีละ 18,000 รวม 12 ปี ก็เกือบ ๆ 220,000 แต่ถ้าเวนคืนตอนครบ 30 ปีได้คืนประมาณ 158,000 ซึ่งถ้าใช้คำว่าไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ยกเลิกได้แล้วได้เงินคืนตามความเข้าใจของคนปกติก็น่าจะเข้าใจว่าได้คืนเท่ากับที่จ่ายไปแต่นี้อยู่ครบสัญญาก็ยังได้คืนน้อยกว่าที่จ่าย แล้วทุนประกันหลังจาก 12 ปีก็ยังได้น้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายด้วย (ทุนประกัน 150,000) ซึ่งเท่าเข้าใจคือเวนคืนได้กรณีเดียวคือเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือเปล่าอย่างเช่นเสียชีวิตเพราะโรคนี้ไม่ได้ ฯลฯ เพราะไม่มีรายละเอียดระบุในกรมธรรม์และพนังานขายก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนนี้ด้วย (ซึ่งคุณพ่อก็เป็นห่วงในส่วนนี้เหมือนกัน กลัวว่าสมมุติเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือ etc บางบริษัทก็เหมือนจะไม่จ่ายให้หรือเปล่าครับ โดยให้เหตุผลว่าถ้าทางบริษัทรู้ว่าเป็นก็จะคิดเบี้ยแพงกว่านี้ เพราะงั้นสัญยาเลยเป็นโมฆียะ)
ในกรณีอย่างนี้ทุกท่านมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างครับ ถ้าอยากขอยกเลิกสํญญาแล้วขอเงินคืนเต็มจำนวนได้หรือเปล่าครับ คือถ้าพนักงานให้ข้อมูลตามความเป็นจริงเหมือนอย่างของที่พ่อผมทำอันนี้ผมว่าก็ OK นะครับ แต่ในกรณีขอแม่ผมเนี่ยจากที่ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่อย่างงั้นหนะครับ รบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ด้วยครับ เนื่องจากตอนนี้แม่ผมเกษียรแล้วซึ่งการที่ต้องมาส่งเบี้ยผมว่ามันก็เป็นภาระประมาณนึงนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอคำแนะนำในการขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตของกรุงไทยแอกซ่าหน่อยครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับ คือ เมื่อปี 2552 แม่ผมได้ทำประกันกับ sell ที่มาขายประกันที่ทำงาน ซึ่งเท่าที่ฟังคือเค้ามากันเป็นกลุ่มไม่ต่ำกว่า 4 - 5 คน ซึ่งในนั้นก็แต่มีคนที่แต่งตัวเหมือนพนักงานธนาคารกรุงไทยซึ่งทำให้ทางแม่ผมเข้าใจว่าเป็นประกันของธนาคารกรุงไทย (ซึ่งตอนหลังพ่อผมก็ทำประกันกับและคุยกับเจ้าหน้าที่ จึงทราบว่าไม่ใช่ธรุกิจของกรุงไทย แต่เป็นบริษัทอื่นที่มา co กับกรุงไทย ซึ่งทางกรุงไทยทำหน้าที่แค่รับจ่ายเงินเท่านั้น)
ทางพนักงานได้มาเสนอประกันแบบ 12 PL ทางพนักงานบอกแม่ว่าจ่ายแค่ 12 ปี ถ้าไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ยกเลิกได้และได้เงินคืน โดยที่เท่าที่ฟังจากคุณแม่เล่าคือไม่มีการทำตารางมาให้ดูว่าทุนประกันเท่าไหร่เมื่อชำระไปกี่ปีแล้วถ้าเวนคืนจะได้เท่าไหร่ ซึ่งแม่ผมก็เข้าใจว่าเมื่อยกเลิกแล้วได้เงินคืนก็จะได้คืนตามที่จ่ายไป ซึ่งแม่ผมเข้าใจว่าเป็นของธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารที่รัฐถือหุ้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ได้ดอกเบี้ยแล้วก็นำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วยจึงทำไป ซึ่งเข้าใจว่าที่ทำงานคุณแม่ก็น่าจะทำกันหลายคน
แต่พอมราบว่าไม่ใช่ของธนาคารกรุงไทยจึงได้เอากรมธรรม์มาอ่าน (ซึ่งผมก็เพิ่งเห็นแนี่ยแหละ) แล้วก็เจอว่าเงื่อนไขที่จะได้คืนมากว่าทุนประกันก็คือต้องอายุ 85 หรือ 30 ปี (ซึ่ง 30 ปีแม่ผมก็อายุ 85 เหมือนกัน) ซึ่งเงินที่ได้คืนเมื่อครบ 85 ก็น้อยกว่าเบี้ยที่คุณแม่จ่าย คือท่านจ่ายปีละ 18,000 รวม 12 ปี ก็เกือบ ๆ 220,000 แต่ถ้าเวนคืนตอนครบ 30 ปีได้คืนประมาณ 158,000 ซึ่งถ้าใช้คำว่าไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ยกเลิกได้แล้วได้เงินคืนตามความเข้าใจของคนปกติก็น่าจะเข้าใจว่าได้คืนเท่ากับที่จ่ายไปแต่นี้อยู่ครบสัญญาก็ยังได้คืนน้อยกว่าที่จ่าย แล้วทุนประกันหลังจาก 12 ปีก็ยังได้น้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายด้วย (ทุนประกัน 150,000) ซึ่งเท่าเข้าใจคือเวนคืนได้กรณีเดียวคือเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือเปล่าอย่างเช่นเสียชีวิตเพราะโรคนี้ไม่ได้ ฯลฯ เพราะไม่มีรายละเอียดระบุในกรมธรรม์และพนังานขายก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนนี้ด้วย (ซึ่งคุณพ่อก็เป็นห่วงในส่วนนี้เหมือนกัน กลัวว่าสมมุติเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือ etc บางบริษัทก็เหมือนจะไม่จ่ายให้หรือเปล่าครับ โดยให้เหตุผลว่าถ้าทางบริษัทรู้ว่าเป็นก็จะคิดเบี้ยแพงกว่านี้ เพราะงั้นสัญยาเลยเป็นโมฆียะ)
ในกรณีอย่างนี้ทุกท่านมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างครับ ถ้าอยากขอยกเลิกสํญญาแล้วขอเงินคืนเต็มจำนวนได้หรือเปล่าครับ คือถ้าพนักงานให้ข้อมูลตามความเป็นจริงเหมือนอย่างของที่พ่อผมทำอันนี้ผมว่าก็ OK นะครับ แต่ในกรณีขอแม่ผมเนี่ยจากที่ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่อย่างงั้นหนะครับ รบกวนขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ด้วยครับ เนื่องจากตอนนี้แม่ผมเกษียรแล้วซึ่งการที่ต้องมาส่งเบี้ยผมว่ามันก็เป็นภาระประมาณนึงนะครับ
ขอบคุณครับ