กลับมาอีก 1 กระทู้หลังจากที่ห่างหายจากการเขียนกระทู้ไปนาน กระทู้นี้มาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์การปั่นจักรยาน ซึ่งแต่ละทริปจะมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป  

ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูการ TC 100 อีกแล้ว วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้เป็นสนาม 1 (พระพุทธบาตร – เขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์ – ทุ่งทานตะวัน – เขาจีนแล) เสาร์นี้คงมีเพื่อนๆ ไปปั่น Testrun Final (สนุกสนานแน่ๆ)  จขกท. เลยถือโอกาสนี้มาบอกเล่า เก้าสิบ เกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งหนึ่งของการปั่น Testrun Final สนามสัตหีบ ซึ่งผ่านมาแล้วเมื่อวันที่  10 กันยายน 2559  ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายปิดฤดูกาล 2016 ที่ผ่านมา

ทริปนี้ เป็นประสบการณ์ใหม่ซึ่งจะจดจำไม่มีวันลืมอีกทริป TC100  โดยผู้จัด TC Randonneurs  ฤดูการ 2016 ที่ผ่านมา มีสิ่งหลอกล่อ ยั่วยวน ให้ขาดไม่ได้แม้แต่ทริปเดียว คือเหรียญ 3 เหรียญ ที่ประกอบกัน เป็นหนึ่งเหรียญใหญ่ ถ้าขาดไป 1 รายการ จะกลายเป็นเหรียญที่ไม่สมบูรณ์  เพราะว่ากลัวจะได้เหรียญไม่สวยงามและกลัวว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือปั่น TC100 ให้ครบทุกสนาม เพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนจะไป Audax Randonneurs ต่อไป  ต้องบอกก่อนว่าการปั่น TC100 ครบทุกสนามก่อนไปปั่น Audax สามารถช่วยเราได้จริงๆเมื่อออกสนาม Audax จริงๆ จขกท. ใช้ประสบการณ์ทั้งหมดจากการปั่น TC100 ทุกสนาม มาประสมประสานกันทำให้การปั่น Audax สนุกมากขึ้นคะ

ซึ่งทริปนี้มีการเตรียมตัวน้อยมาก เรียกได้ว่าไม่เตรียมตัวเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่เรื่องงาน เรื่องเรียน ค่อนข้างจะแน่นมาก การปั่นครั้งสุดท้ายก่อนออกงานในครั้งนี้ คือ 6 วัน ไมได้จับจักรยานเลยก็ว่าได้ ทริปสุดท้ายคือ งานปั่นจักรยานเขาอีโต้คลาสสิค เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2016 ตามลิ้งนี้คะ https://ppantip.com/topic/35660546  แล้วทำยังไง ..จะสามารถปั่นจักรยานระยะ 109 กิโลเมตรให้ประสบความสำเร็จได้ นั่นสิ...นี่คือปัญหา ซึ่ง จขกท. ทราบดีว่าการไม่ซ้อมมีปัญหาแน่สำหรับการปั่นระยะไกล
จากประสบการณ์ทริปนี้ ซึ่งเป็นประสบการณ์ทรมานสังขารตัวเอง ทำให้ จขกท. ได้ประสบการณ์ ได้ข้อคิด การเตรียมตัว มิตรภาพ และอะไรอีกมากมายจากทริปนี้ ซึ่งเป็นที่มาของการบอกเล่าเรื่องราวในวันนี้   เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของการปั่นจักรยานเลยก็ว่าได้ ตามไปอ่านกันว่าเป็นอย่างไรบ้างคะ