มาแล้วคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ มีความรู้สึกภูมิใจมากคะ และมีความสุขกับการปั่นทริปนี้มาก ทำให้นึกถึงการเข้าค่ายลูกเสือสมัยเรียนมัธยม “ถ้านี่คือค่ายลูกเสือ จะเป็นค่ายลูกเสือบนอานจักรยานที่ฝึกความอดทน อดกลั้น ความพยายาม การสอนวินัย ได้มากที่สุดอีกหนึ่งที่” ถ้าใครที่ติดตามจากกระทู้เดิม ( ตามลิ้ง https://ppantip.com/topic/36780252) จะทราบว่า จขกท. ตั้งใจที่จะมาปั่นสนามนี้ เพราะอยากได้ SR ของสายเขา  ให้สมกับความรักในการปั่นเขา   ตอนนี้ทำตามความตั้งใจสำเร็จแล้วนะคะ ทั้งหมดของปี 2017  
Audax 200 : เขาโจด
Audax 300 : เขาใหญ่
Audax 400 : เขาสอยดาว
Audax 600 : พัทยา-ตราด
Audax 600 : ไทรโยค (สนามในฝัน)

เนื่องจาก..เคยได้ยินพี่คนหนึงบอกว่า การปั่นชนด่าน 2 รอบ นี่ยากกว่าการปั่นไทรโยคนะน้อง  ทำให้เราจำฝังใจมาตลอด ว่าสนามที่เคยปั่นมามันยากกว่า (จริงๆจำมาแบบผิดๆคะ) ทำให้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการฝีกซ้อมมาก และมาเห็นกราฟเปรียบเทียบกับสนามพัทยา-ตราด คือช่วงที่ใกล้วันงานแล้ว ทำให้ฝึกซ้อมไม่ทัน และปัญหาใหญ่ของ จขกท. คือ.....ช่วงของการจัดงานเป็นช่วงสิ้นปีงบประมาณ ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกปี จขกท.จะไม่มีการฝึกซ้อมแต่อย่างใด  ปีนี้ก็เช่นกันคะ  ดังนั้นในกระทู้นี้จะไม่พูดเรื่องการเตรียมร่างกายมากนะคะ

เรื่องการเตรียมร่างกาย
บอกคร่าวๆ 1 เดือนในการเตรียมตัวทริปนี้ จขกท. ไม่ได้ปั่นแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีเวลา จึงคิดว่าทำยังไงให้ตัวเองขายังพอปั่นมีแรงได้  จึงเลือกวิ่งวันละประมาณ 5 กม. และเลือกทำการ บอดี้เวท (Body weight)  เพิ่มกล้ามเนื้อขา และสะโพก  และก่อนมาทริปไทรโยค 1 อาทิตย์  เอารถหนักๆ ปั่นรอบเขาใหญ่ 4 ด่าน เพื่อเป็นการทดสอบร่างกาย ระบบหายใจคะ และการฝึกการเฉลี่ยแรง

เรื่องการเตรียมอุปกรณ์และเตรียมแผน
- แผนปั่นตามแผนของพี่กวีคะ เพราะเป็นคนมีประสบการณ์และทำแผนค่อนข้างรอบคอบ และแก้ไขสถานการณ์ได้เร็ว  ส่วน จขกท. เตรียมตัวปั่นตามแผน และทำแผนของตัวเองไว้ที่เฟรมจักรยาน เพื่อไม่ถามบ่อยๆ ให้คนปั่นด้วยรำคาน
- การเตรียมอุปกรณ์   รายการอุปกรณ์ที่จำเป็น พี่กวีจะเป็นคนช่วยเตือนว่าเตรียมอะไรบ้าง   รวมทั้งอาหาร ของใช้ที่จำเป็นล่วงหน้า 3 วัน เพื่อป้องกันการหลงลืม และแยกกระเป๋า แยกถุงให้เป็นสัดส่วน  เน้นที่อาหารที่สามารถทานบนอานได้ เนื่องจากมีคนบอกว่าของกินค่อนข้างหายาก บางช่วงเราต้องทานอาหารบนจักรยานบ้าง  

- การเตรียมรถ   เนื่องจาก จขกท.  ซื้อล้อใหม่ เป็นล้อที่เหมาะสมกับการขึ้นเขา และสามารถทนฝน ทนน้ำ ทนหิน ดิน ทราย แต่เนื่องจากเพิ่งเปลี่ยนล้อ ทำให้ล้อยังไม่พ้นรันอิน ทำได้แค่ทดสอบรถโดยปั่นทดลอง ระบบเบรก ระบบเกียร์ ล้อ และอื่นๆ  รวมทั้งการทดลองระบบไฟให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา  ส่วนเรื่องการเซ็ทรถทั้งหมด ผู้ดูแลคือพี่เบ๊น #B-Full-Service  ทีม BKB เป็นคนดูแลรถให้ตลอดทุกทริปของการปั่นคะ

จากการเตรียมตัวดังกล่าว  จะทำให้ จขกท. พบปัญหาอะไรบ้างในการปั่นครั้งนี้ ลองติดตามอ่านกันดูคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆที่กำลังจะเตรียมตัวปั่นทางไกล

ปล. เป็นประสบการณ์การปั่นของ จขกท. เอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ