เรื่องมีอยู่ว่า ทางคุณแม่ผม ได้เปิดบัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาตลาดหนองบัว อุดรธานี ซึ่งจะมีดอกเบี้ยเข้าทุกเดือนครับ
แล้วตอนนี้สมุดบัญชีก็อยู่กับคุณแม่มาตลอด ซึ่งทำให้ไม่ได้ไป update book bank เกิน 1ปี ซึ่งตอนแรกในระบบ krungsri online (ของคุณแม่) อยู่ดีๆ ก็ไม่ขึ้นโชว์ยอดเงินสำหรับบัญชีออมทรัพย์ตัวนี้ไป แรกๆ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอคราวนี้จะเอาสมุดไป up book ที่ธนาคารสาขาอุดรธานี (คนละสาขากับที่เปิดบัญชีครับ) ทางหน้าเคาน์เตอร์แจ้งว่า บัญชีถูก in-active ไปแล้ว ผมก็เลยถามว่าต้องทำยังไง ทางเจ้าหน้าที่ teller ก็บอกว่า ต้องทำหนังสือมอบอำนาจมานะคะ แล้วจะปลดล็อคให้
หลายวันต่อมา ผมก็เลยทำหนังสือมอบอำนาจจากคุณแม่ให้ผมเรียบร้อย ไปที่สาขาอุดรธานีอีกครั้ง (เพราะมีบัญชีส่วนตัวผม และ OD ของบริษัทอยู่ที่นี่ เลยสะดวกที่จะติดต่อสาขานี้บ่อยกว่า) ทางเจ้าหน้าที่ (อีกท่านนึง) มารับเรื่อง แล้วก็เลยแจ้งว่า ให้เอาเอกสารไปติดต่อที่สาขาเจ้าของบัญชี (ซึ่งคือสาขาตลาดหนองบัว) เพราะทางนี้ปลดล็อคข้ามสาขาให้ไม่ได้
ผมเลยขับรถไปที่สาขาตลาดหนองบัว แล้วนำเอกสารไปยื่น เจ้าหน้าที่ของสาขาหนองบัวก็เลยแจ้งว่า ในกรณีนี้ เจ้าของบัญชีต้องเดินทางมาเองเท่านั้น ไม่สามารถทำใบมอบอำนาจมาให้ได้ ผมเลยค่อนข้างโมโหครับ ว่าทำไมมันยากอะไรกันนักกันหนา เลยตอบไปว่า "ขนาดถอนเงินในบัญชี ยังมอบอำนาจมาให้ได้ ทำไมทำเรื่องปลดล็อค in-active บัญชีตัวนี้มันยากจัง แถม teller สาขาอุดร ก็เป็นคนแจ้งกับผมว่าให้ทำใบมอบอำนาจมานะ ซึ่งผมก็ทำมาแล้ว"
ทางเจ้าหน้าที่สาขาตลาดหนองบัวก็ได้ขอโทษผม เพราะตามกฎระเบียบของธนาคาร ยืนยันว่าเจ้าของบัญชีต้องมาทำเรื่องด้วยตัวเองเท่านั้น
ผมก็เลยคาใจโทรถาม call center ว่า จริงมั้ยที่พอบัญชีถูก in-active แล้ว เจ้าของบัญชีต้องเดินทางมาด้วยตนเอง ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าจริง ==> OK ครับ ผมเข้าใจแล้ว คงต้องทำตามนี้เท่านั้น
แต่มีเรื่องที่ผมสงสัยเกี่ยวกับการ in-active บัญชีของธนาคารกรุงศรีครับ (เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีถูก in-active แล้วต้องมาหงุดหงิดกับการปลดล็อคที่ยากลำบากนี้) ว่า
1. การที่บัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ที่มีดอกเบี้ยเข้าทุกเดือนนี้ ไม่ถือว่าเป็นการเดินบัญชี จนทำให้บัญชีถูก in-active ใช่มั้ยครับ? ถึงแม้จะ up book ทุกเดือน แต่ไม่ได้มีการฝากถอนเงินสดด้วยคน ก็จะถูกล็อค in-active อยู่ดีหรือเปล่า?
2. หรือว่า การที่เราไม่ได้เอาสมุดไป up book เกิน1ปีต่างหาก ที่เป็นเหตุให้บัญชึถูก in-active กันแน่?
ไม่ทราบว่าคนที่มีเงินเย็น แล้วไปฝากเข้าบัญชีแบบต่างๆ กินดอกเฉยๆ แล้วไม่ได้ up book นานๆ เกิน1ปีแบบนี้ ของธนาคารอื่น เคยเจอเรื่องบัญชึถูก in-active แบบนี้มั้ยครับ ถ้าเจอแล้วปลดล็อคโดยการมอบอำนาจได้มั้ยครับ?
ถ้าธนาคารอื่นไม่ in-active บัญชีแบบที่ผมรู้สึกว่าไม่สะดวกแบบธ.กรุงศรี จะได้ให้คุณแม่ทำการย้ายเงินไปฝากที่อื่นครับ
ป.ล. บัญชี in-active นี่ ดอกเบี้ยที่ได้ ก็ยังเข้าทุกเดือนนะครับ แต่เราดูยอดปัจจุบันไม่ได้เลย จนกว่าเจ้าของบัญชีซึ่งเป็นคุณแม่ผมไปทำการปลดล็อคด้วยตนเองที่สาขาตลาดหนองบัวอุดร เท่านั้น (ซึ่งคุณแม่ยังไม่สะดวกเดินทางไปครับ)
สอบถามเรื่องการที่เราไม่ได้นำสมุดบัญชีไป up book เกินระยะเวลา 1 ปีหน่อยครับ แต่ละธนาคารมีข้อแตกต่างกันมั้ยครับ
แล้วตอนนี้สมุดบัญชีก็อยู่กับคุณแม่มาตลอด ซึ่งทำให้ไม่ได้ไป update book bank เกิน 1ปี ซึ่งตอนแรกในระบบ krungsri online (ของคุณแม่) อยู่ดีๆ ก็ไม่ขึ้นโชว์ยอดเงินสำหรับบัญชีออมทรัพย์ตัวนี้ไป แรกๆ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอคราวนี้จะเอาสมุดไป up book ที่ธนาคารสาขาอุดรธานี (คนละสาขากับที่เปิดบัญชีครับ) ทางหน้าเคาน์เตอร์แจ้งว่า บัญชีถูก in-active ไปแล้ว ผมก็เลยถามว่าต้องทำยังไง ทางเจ้าหน้าที่ teller ก็บอกว่า ต้องทำหนังสือมอบอำนาจมานะคะ แล้วจะปลดล็อคให้
หลายวันต่อมา ผมก็เลยทำหนังสือมอบอำนาจจากคุณแม่ให้ผมเรียบร้อย ไปที่สาขาอุดรธานีอีกครั้ง (เพราะมีบัญชีส่วนตัวผม และ OD ของบริษัทอยู่ที่นี่ เลยสะดวกที่จะติดต่อสาขานี้บ่อยกว่า) ทางเจ้าหน้าที่ (อีกท่านนึง) มารับเรื่อง แล้วก็เลยแจ้งว่า ให้เอาเอกสารไปติดต่อที่สาขาเจ้าของบัญชี (ซึ่งคือสาขาตลาดหนองบัว) เพราะทางนี้ปลดล็อคข้ามสาขาให้ไม่ได้
ผมเลยขับรถไปที่สาขาตลาดหนองบัว แล้วนำเอกสารไปยื่น เจ้าหน้าที่ของสาขาหนองบัวก็เลยแจ้งว่า ในกรณีนี้ เจ้าของบัญชีต้องเดินทางมาเองเท่านั้น ไม่สามารถทำใบมอบอำนาจมาให้ได้ ผมเลยค่อนข้างโมโหครับ ว่าทำไมมันยากอะไรกันนักกันหนา เลยตอบไปว่า "ขนาดถอนเงินในบัญชี ยังมอบอำนาจมาให้ได้ ทำไมทำเรื่องปลดล็อค in-active บัญชีตัวนี้มันยากจัง แถม teller สาขาอุดร ก็เป็นคนแจ้งกับผมว่าให้ทำใบมอบอำนาจมานะ ซึ่งผมก็ทำมาแล้ว"
ทางเจ้าหน้าที่สาขาตลาดหนองบัวก็ได้ขอโทษผม เพราะตามกฎระเบียบของธนาคาร ยืนยันว่าเจ้าของบัญชีต้องมาทำเรื่องด้วยตัวเองเท่านั้น
ผมก็เลยคาใจโทรถาม call center ว่า จริงมั้ยที่พอบัญชีถูก in-active แล้ว เจ้าของบัญชีต้องเดินทางมาด้วยตนเอง ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าจริง ==> OK ครับ ผมเข้าใจแล้ว คงต้องทำตามนี้เท่านั้น
แต่มีเรื่องที่ผมสงสัยเกี่ยวกับการ in-active บัญชีของธนาคารกรุงศรีครับ (เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีถูก in-active แล้วต้องมาหงุดหงิดกับการปลดล็อคที่ยากลำบากนี้) ว่า
1. การที่บัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ที่มีดอกเบี้ยเข้าทุกเดือนนี้ ไม่ถือว่าเป็นการเดินบัญชี จนทำให้บัญชีถูก in-active ใช่มั้ยครับ? ถึงแม้จะ up book ทุกเดือน แต่ไม่ได้มีการฝากถอนเงินสดด้วยคน ก็จะถูกล็อค in-active อยู่ดีหรือเปล่า?
2. หรือว่า การที่เราไม่ได้เอาสมุดไป up book เกิน1ปีต่างหาก ที่เป็นเหตุให้บัญชึถูก in-active กันแน่?
ไม่ทราบว่าคนที่มีเงินเย็น แล้วไปฝากเข้าบัญชีแบบต่างๆ กินดอกเฉยๆ แล้วไม่ได้ up book นานๆ เกิน1ปีแบบนี้ ของธนาคารอื่น เคยเจอเรื่องบัญชึถูก in-active แบบนี้มั้ยครับ ถ้าเจอแล้วปลดล็อคโดยการมอบอำนาจได้มั้ยครับ?
ถ้าธนาคารอื่นไม่ in-active บัญชีแบบที่ผมรู้สึกว่าไม่สะดวกแบบธ.กรุงศรี จะได้ให้คุณแม่ทำการย้ายเงินไปฝากที่อื่นครับ
ป.ล. บัญชี in-active นี่ ดอกเบี้ยที่ได้ ก็ยังเข้าทุกเดือนนะครับ แต่เราดูยอดปัจจุบันไม่ได้เลย จนกว่าเจ้าของบัญชีซึ่งเป็นคุณแม่ผมไปทำการปลดล็อคด้วยตนเองที่สาขาตลาดหนองบัวอุดร เท่านั้น (ซึ่งคุณแม่ยังไม่สะดวกเดินทางไปครับ)