มีใครที่เกิดมาลำบากตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจบันก็ยังลำบากอยู่แบบเดิมบ้าง

ตอนเด็กๆเราลำบากมาก บางวันก็กินข้าวอิ่มท้องบ้าง-ไม่อิ่มท้องบ้าง ไม่เคยมีเสื้อผ้าใหม่ๆหรือสวยๆใส่ ไม่เคยได้กินอาหารดีๆ โตมากับน้ำพริกผัก ไม่เคยได้ไปเที่ยวในวันหยุดเทศการ หลังเลิกเรียนก็ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานรับจ้างในสวนในไร่ รวมทั้งงานเสริมอื่นๆที่ได้เงิน..กว่าจะได้นอนก็ตี 1-2 ทุกคืน ไม่เคยได้เงินค่าขนมไปกินโรงเรียนจนกระทั่งเรียนจบ ต้องห่อข้าวไปกินที่โรงเรียนเพื่อช่วยพ่อกับแม่ประหยัด ฯลฯ

จบ ม.6 แล้ว พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ แต่เราอยากเรียนก็ขวนขวายเรียนต่อที่มศธ.จนจบ ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย (แต่กว่าจะจบก็ทุลักทุเลพอสมควร)  จบมากว่าจะหางานทำ กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท และกว่าผ่านไปแต่ละเดือนชั่งยากลำบากเเสนเข็น เงินไม่เคยชนเดือน เหลือส่งให้ครอบครัวก็แทบจะน้อยนิด บางเดือนก็ต้องประหยัดแบบสุดๆ เหตุการณ์เยอะแยะมากมายที่เล่าไปแล้วจะมองว่ามันช่างเหมือนนิยายน้ำเน่าอะไรขนาดนี้  มีบางทีก็น้อยใจในโชคชะตา ตัดพ้อ (แต่ก็ไม่เคยกล่าวโทดพ่อแม่เพราะถ้าท่านเลือกได้ ก็คงอยากให้ลูกเกิดมาสุขสบายกันทุกคน) มองย้อนไปเห็นเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างเค้าประสบความสำเร็จ มีฐานนะ การเงินการงาน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เลี้ยงดูพ่อแม่ได้สุขสบาย บางทีก็นึกมองโลกในแง่ดี..มองย้อนกลับไป..ที่ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกตั้งมากมายบนโลกใบนี้ เค้ายังสู้ชีวิตไม่เคยคิดท้อแท้ หรือท้อถอยเลย ก็คงต้องเช่นเดียวกันกับเรา..ยังมีชีวิตอยู่..ก็คงต้องสู้กันต่อไปคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมเข้าใจ จขกท มากๆนะ คนต้นทุนต่ำ ทำไรลำบากจริงๆ พูดมากไม่ได้ เดี๋ยวพวกบ้านรวยจะด่า หาว่าโทษอย่างอื่น ไม่โทษตัวเอง จริงๆเขาไม่เคยลำบาก เจอสภาพแบบไม่มีจะกิน ไม่มีเงินจะเรียนไง แต่จขกท อดทน และ พยายามได้ดีมากๆ แม้จะไม่ดีเท่าคนต้นทุนดี แต่จขกท น่านับถือครับ
ความคิดเห็นที่ 39
ไม่รู้ลำบากไม๊
ไข่เจียวไม่เคยได้กิน แม่ไม่มีเงินชื้อน้ำมันพืช.แถมไข่ก็ถือว่าแพงนะ 2 ฟองบาท บอกตรงเพิ่งได้กินตอนโตนี่หล่ะ
ทั้งบ้านมีไฟหลอดเดียว ใต้ถุนโล่ง.มีแคร่ไม่ไผ่ 1 อัน ด้านบนล้อมไม้ไผ่ 3 แถว หลังคาสังกะสี ตรงนอนตีไม่แผ่นรอบห้องเล็กๆ นอน ทั้งครอบครัว.
พัดลมหรอ เอามือพัดเอาค่ะ

หน้านา ต้องไปนอนนา การบ้าน จุดตะไก้.(ขี้กระบอง ภาษาอิสาน)..ตะเกียงไม่มีเพราะไม่มีเงินชื้อจ้า น้ำมันก๊าดอีก. หากวันไหนไปนอนนายาย จะอ่านหนังสือใต้แสงจันทร์ก็ปวดตาดีๆนี้แหละ

จักรยานหรอ ฝันไปเถอะ ไปไหนเดินเอา นอกจากไม่มี ยังขี่ไม่เป็นด้วย. เพื่อนคนรวยเขาสงสาร เขาอยากให้ขี่แบบเขา ก็กลัวพาจักรยานล้มอีก สุดท้ายวิ่งตามเพื่อนจ้า

ทีวีตู้เย็น อย่าพูดถึงเลย ขอดูบ้าน ข้างๆๆ เปิดก็ได้ดู เขาปิดก็กลับบ้าน
น้ำปะปา...ไม่มีจ้า ต้องไปหาบน้ำจากบ่อ.มาใช้ในครัวเรือน หาบมากิน หาบมาอาบ ลำบากมาก

กระโปรงนักเรียนเสื้อผ้า ของเก่าทั้งหมด. กระเป๋านักเรียน ของเก่าคนอื่นทั้งนั้น.หนังสือเรียนของพี่สาว..ทุกสิ่งอย่างคือของบริจาคมา. แม้แต่ กกน.

ช่วงเริ่มเป็นสาว มีหน้าอก. ไม่มีเสื้อซับ ไม่มีเสื้อในใส่.. แม่ชื้อให้ 1 ตัวใส่ทุกวันจน ราขึ้นแบบจุดดำๆ ใหญ่ คือมันราแบบเกาะผ้าซักไม่ออก ใส่อยุ่หลายไป จนจบ ม.3 มั้ง..สายขาด้วย แต่เหลือ ขอบๆ รอบตะเข็บยังไม่ขาด.คือ ลายการ์ตูน สีชมพู มองไม่เห็นเลย

เสื้อผ้า สกปรก ...ไม่ค่อยมีแฟ๊บซัก (แทบไม่มีเลยดีกว่า)
อาหารการกิน...อย่าพูดเลย...ป่นปลาน้ำใส่ กินกะข้าวเหนียวทั้งปีทั้งชาติ(ไข่เจียวรสชาติเป็นไงไม่รู้)

เดินไปนาหลังเลิกเรียน ขี้โคลนบนทาง 1.5 กม. สูงเกือบเข่า. แถวต้องผ่านน้ำเชี่ยวด้วย. จุดสูงสุดถึงคอจ้า..ต้องจับมือกันเดินนะ...ไม่งั้นลอยไปกับน้ำแล้ว...ที่แย่คือ น้ำวนไปวนมาจ้า วัวควายกะผ่านตรงนี้แหละ. แต่แปลกลงน้ำแล้วมันชอบขี้. พอเราลงน้ำผ่านจุดนี้ทีไร ขี้ความจะลอยมาตรงหน้าเลย

สาธยายไม่หมด.ความยากเข็ญ....พูดแล้วน้ำตาจะไหลโดยเฉพาะเรื่องเสื้อซับ..ผ้าอนามัยไแต่ก่อนชิ้นละ 5บาท นี่แพงมากนะ เพราะไข่ 3 ฟอง 5 บาท ยังไม่มีเงินจะซื้อกิน... ใครจะเชื่อ เอาผ้าขี้ริ้วมาทำผ้าอนามัย..แล้วมันกะเปื้อน มาก็ 15 วันช่วงแรกๆ. ไป รร. ลำบาก ไม่ลุก ไม่ยืน ไม่เดิน. นั่งจมกองเลือด เพือนกลับหมดเราค่อยกลับ..เก้าอี้เปื้อน

เคยไม๊ หาบน้ำขึ้นบันได้บ้าน แบบบันไดลิง หาบพาหงาย ตกบันได้ ถังเหล็กตีปาก บันไดฟาดซ้ำ...ลำเข็ญมาก...หาบน้ำไกลเป็น กิโลนะ ไม่ใช่ใกล้ๆ.

ปัจจุบัน...อายุ 33 เงินเดือนพอกิน แต่ไกลบ้าน
ความคิดเห็นที่ 10
ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่