สาวน้อยพลังจิต บทที่ 5 ระลึกชาติ

กระทู้สนทนา
สาวน้อยพลังจิต
บทที่ 5 ระลึกชาติ
    “เอาไรมาให้กรอกวะแพรว”
    ทรายถาม เมื่อแพรวยื่นแบบฟอร์มเอกสารใบหนึ่งให้
    “ชิงโชคโว้ย ชิงโชค ที่ทำงานแม่ฉันเขาออกแบบสอบถามการใช้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทขาย จะได้เอาผลสอบถามไปวิจัยต่อ คนที่กรอกแบบสอบถาม 1 คนที่ถูกจับรายชื่อขึ้นมา จะได้รางวัลเงินสด 1 หมื่นบาทโว้ย”
    “แล้วที่ทำงานแม่แกขายอะไรอ่ะ”
    “เออ อย่ารู้เลยน่ะ กรอกชื่อ นามสกุลกะที่อยู่มาเหอะ แค่นี้พอ ที่เหลือเดี๋ยวแม่ฉันกรอกให้เอง”
    “ไรวะ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวแม่แกว่าเอา”
    ทรายอิดออด ไม่เห็นดีเห็นงามไปกับแพรวด้วย
    “ไม่อยากได้รางวัลเหรอ เผื่อฟลุคนะโว้ย”

    แพรวมองทรายอย่างไม่พอใจ
    “ก็บอกมาซิว่าขายอะไร จะได้กรอกตามความเป็นจริง เขียนแต่ชื่อนามสกุลเดี๋ยวแม่แกก็ว่าเอาหรอก”
    ทรายพูดไปด้วยใจซื่อ ไม่ได้คิดอยากได้เงินได้ทองแม้แต่น้อย
    “แหม จริงๆโว้ย” แพรวพูดอย่างหงุดหงิด
“ บริษัทแม่ฉันขายถุงยางอนามัย แกจะตอบได้เหรอ”
    “ว้าย ไม่เอาหรอก ยิ่งให้กรอกชื่อนามสกุลเฉยๆยิ่งไม่เอา เดี๋ยวเกิดโรงเรียนรู้ขึ้นมาละก็เป็นเรื่อง”
    แพรวถอนหายใจกับตัวเอง กำลังเข้าตาจนอยู่ สงสัยว่าแผนที่วางไว้จะสำเร็จหรือเปล่า
    “เออ เออ จะไปสนทำไมวะ ได้เงินมาเรื่องก็จบๆ จะคิดไรมาก ใครถามเราก็ตอบไปตามจริงก็ได้”
    แพรวยังไม่ลดละ
    “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวแม่รู้แล้วเข้าใจผิดละโดนด่าเปิง”
    “เออ เออ เอางี้ เอาไปให้แม่แกกรอกละกัน นะ นะ นะ เพื่อนนะ ช่วยหน่อยนะ บริษัทเขาบังคับพนักงานด้วย ว่าต้องรวบรวมแบบสอบถามให้ได้คนละร้อยใบ นี่แม่ฉันยังขาดอีกตั้งหลายใบ แกช่วยหน่อยเหอะนะ

..................................................................................................................................................................................
    “ให้ตอบแบบสอบถามเรื่องอะไรก็ไม่รู้ บัดสีบัดเถลิง นี่ถ้าเป็นเด็กผู้ชายเอามาให้ตอบนะ แม่จะไปเอาเรื่องถึงที่โรงเรียนเลย”
    แม่อรอ่านคำถามพลางบ่นพลาง
    “ว่าแต่ที่ทรายไปพบจิตแพทย์คนใหม่ แล้วเขาแนะนำให้ไปหาอาจารย์อะไรอีกทีนึงนั่น่ะ ไม่เห็นทรายพูดถึงเลย จะไปเมื่อไหร่ล่ะ”
    “เออ ไม่มีอะไรค่ะแม่ คงไม่ไปแล้ว”
    ทรายตอบระล่ำระลัก
    “ทำไมล่ะ จะได้หยุดฝันร้ายซะที เผื่อเขาพอจะช่วยได้”
    แม่อรหยุดเขียนคำตอบตอบในแบบสอบถามหันมาทางทราย เอ่ยถามอย่างสงสัย
    “ถึงไปเขาก็ไม่รับรองว่าจะหาย และทรายก็ดีขึ้นแล้วด้วย อาศัยนั่งสมาธิ แผ่เมตตาก็ช่วยได้เยอะนะแม่”
    “ถ้าตกลงจะทำอะไรก็บอกแม่ละกัน เอ้า กรอกเสร็จแล้ว เอาไปให้แพรวได้แล้ว”
    แม่อรพูดจบก็หยิบแบบฟอร์มขึ้นมาพับ แล้วเดินไปหยิบซองเอาแบบสอบถามมาใส่
    “แม่ทำไรอ่ะ”
    “ก็มันน่าเกลียด ถามความพึงพอใจของการใช้ถุงยางอนามัย ใครไปอ่านเข้าอายเขาแย่ ถ้าไม่หวังว่าจะได้เงินหมื่นนึงแม่ก็ไม่กรอกหรอก........... เออ ก็จริงเหมือนกันนะ ไม่เคยเห็นว่าที่ไหนออกแบบสอบถามแล้วให้ชิงรางวัลเงินตั้งหมื่นนึง ก็เพราะของพรรณนี้เลยไม่มีใครอยากจะตอบนะซี เลยต้องเอาเงินเข้าล่อ”
    แม่อรพูดจบก็หัวร่อให้ตัวเอง
    “เผอิญเราก็โลภ เลยตกเป็นเหยื่อซะ”

...................................................................................................................................................................................
    วันจันทร์สัปดาห์ต่อมา
    เมื่อแพรวมาถึงห้องเรียนก็วิ่งไปที่ทรายอย่างตื่นเต้น
    “ผลการจับรางวัลผู้โชคดีในการตอบแบบสอบถาม ความพึงพอใจในการใช้ถุงยางอนามัยคัสซาโนว่า ผู้โชคดีคือ แอ่น แอน แอ๊น................. แม่อร ได้รับรางวัลเงินสดหนึ่งหมื่นบาท”
    “ล้อเล่น”
    ทรายมองแพรวอย่างไม่เชื่อ เธอนั่งมองเพื่อนที่ยิ้มแก้มแทบฉีกเหมือนตัวเองถูกรางวัล
    แพรวพยักหน้าแล้วหยิบแบงก์พันปึกหนึ่งขึ้นมากรีดให้ดู
    ทรายยิ้มแก้มปริบ้างทีนี้ ทั้งคู่กระโดดโลดเต้นดีใจกันสุดฤทธิ์

..................................................................................................................................................................................
    สามวันต่อมา
    “เซ็งว่ะ ทรายเอาเงินไปให้แม่หมดเลย แถมไม่เอ่ยปากขอไปสะกดจิตอย่างที่มันอยากอีกตะหาก”
    แพรวพูดอย่างเซ็งแล้วหันไปทางแจ็ค
    “เสียใจด้วยว่ะเพื่อน............เงินของแกไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของเราได้”
    “ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการไถ่โทษ ทำงานกับลุงได้เดือนละ 4,000 ก็แค่ทำใช้หนี้ไม่ถึง 3 เดือน”

...............................................................................................................................................................................
    ตอนพักเที่ยงทรายหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน
    “หนังสือไรอ่ะ ทราย”
    แพรวถาม ทรายจึงหันปกหนังสือให้ดู
    “ระลึกชาติและพบคู่แท้ด้วยตัวคุณเอง..........อุ๋ย อ่านแล้วจะเจอเนื้อคู่นะเปล่าวะ”
    แพรวอ่านชื่อหนังสือแล้วทำหน้าวาบหวิว
    “คนนี้แหละ ที่หมอพนมทวนให้เบอร์ฉันติดต่อ ไม่มีปัญญาจะไปเจอตัวจริง เลยเอาหนังสือมาอ่านแก้ขัด ตอนโทรไป ทางโน้นขอชื่อที่อยู่ไว้ด้วย  ฉันเลยให้ไป เขาเลยส่งเอกสารมาให้ ฉันดูเอกสารเห็นมีเว็บไซท์ด้วยก็เลยเปิดเข้าไปดู เห็นอาจารย์คนนี้เขียนหนังสือหลายเล่มแล้ว เลยลองไปหาซื้อมาอ่านดูเล่มนึง”
    “แกอยากไปทำไมไม่ไปวะ ทราย”
    แพรวสงสัย และอึดอัดแทนเลยถาม
    “ก็มันใช้เงินเยอะ คิดๆดูก็ว่าไม่เอาดีกว่า ไม่อยากใช้เงินมาก สงสารแม่อร”

……………………………………………………………………………

    “แกคิดว่าเขาจะยอมรับฟังเด็กอย่างเราเหรอ เขาทำมาหากินนะ ใครเขาจะยอมลดราคาให้ อีกอย่างจะมาช่วยเราวางแผนอะไรไม่รู้ เดี๋ยวจะหาว่าเด็กพวกนี้ทำอะไรบ้าๆ”
    แจ็คร้องทัดทาน เมื่อแพรวบอกว่า แกล้งทำทีเป็นลูกค้า โทรไปนัดหาอาจารย์สะกดจิตระลึกชาติให้ แต่จุดมุ่งหมายแท้ๆเพื่อเตรียมแผนการที่จะให้ทรายได้มาสะกดจิตโดยไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นคนออกเงินให้
    “ก็ลองดีกว่าไม่ลองวะ”
    แพรวพูดจบแล้วหยิบเงินขึ้นมาวางให้แจ็คดู
    “เงินฉันเองว่ะ เก็บมาเกือบปี แต่บัญชีเงินฝากอยู่กับแม่ ต้องใช้ความลับลูกผู้ชายกับแม่ว่ะ”
    แจ็คเห็นแล้วถึงกับอึ้ง
    “แกไม่ต้องทำยังงี้ก็ได้ ของฉันมันมีเหตุที่สมควร เพราะถ้าทรายมันจะเอาเรื่องขึ้นมาจริงๆ เงินหมื่นนึงก็ช่วยอะไรฉันไม่ได้เลย”
    “คนเราต้องมีอะไรที่มันพิเศษในชีวิตมั่งซีวะ ฉันเชื่อเรื่องพรหมลิขิตนะ อ้ายเรื่องระลึกชาติสะกดจิต เจ้ากรรมนายเวรอะไรพวกนี้ฉันสนใจมาตั้งนานแล้ว แม่ฉันก็เชื่อ.............
    แกเห็นมั้ย นังทรายมันโคตรจะดี ออกจะเป็นนางเอ๊กนางเอก แล้วก็มีแกกับฉันเป็นตัวประกอบ เหมือนหนังน้ำเน่าเลยว่ะ แกเพิ่งมารู้จักฉันกับทรายเมื่อเทอมที่แล้ว แต่เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม............
    ตอนเรียน ป. 5 ฉันเป็นอีสุกอีใส ช่วงพอดีกับที่โรงเรียนพาไปค่ายลูกเสือเนตรนารี ฉันรู้ตัวว่าอดไปแน่ๆ เลยพานบอกทรายว่าไม่อยากให้มันไป ให้มันมาอยู่เป็นเพื่อนฉันที่บ้าน.............”
    พูดถึงตรงนี้ แพรวตาแดง น้ำตาเอ่อล้น ทำหน้าเหมือนตื้นตัน น้ำลายจุกที่คอ
    “ทรายมันไม่พูดอะไรสักคำ มันเดินไปบอกครูเดี๋ยวนั้นเลยว่าที่บ้านไม่ให้ไป แล้วมาอยู่เป็นเพื่อนฉันที่บ้านตั้ง 2 วัน 2 คืน ฉันรู้แน่ๆว่ามันโคตรรอยากไปเลย”

    ตอนนี้น้ำตาร่วงพราว
    “ตอน ม. 1 นะ ฉันทะเลาะกับแม่หนีออกจากบ้าน หนีมานอนบ้านนังทรายนี่แหละ แกรู้มั้ย มันบอกอะไรฉัน มันบอกความลับที่มันเองยังไม่เคยบอกให้ใครรู้เลย หรือแม้แต่พ่อแม่มันก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันรู้  
    มันบอกว่าแม้แต่แม่อรน่ะ ก็ไม่ใช่แม่แท้ๆ มันแอบรู้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ มันไม่เคยปริปากบอกหรือถามใครเลย มันบอกว่าหัวใจมันร้องไห้ทุกวัน แต่ไม่เคยปริปากสักคำ มันรู้ว่าแม่อรตั้งใจไม่บอก มันก็เลยไม่ถาม เพราะไม่อยากให้แม่อรเสียใจ ฟังแค่นี้ฉันรีบแจ้นกลับบ้านไปกอดแม่หอมแม่รักแม่ซะเต็มที่เลย...................
    แก............หัวใจมันเหมือนเพชรเลยอ่ะ  อย่างเรื่องของแกนี่ไง มันไม่เคยหลุดปากออกมาสักคำ ถ้าเป็นคนอื่นนะ ต้องเอาเรื่องให้พินาศย่อยยับกันไปข้างนึงแล้ว”
    แพรวใช้มือปาดน้ำตาที่อาบแก้ม
    “ฉันไม่เคยมีโอกาสตอบแทนอะไรมันเลย และมันก็ไม่เคยร้องขอแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้มีโอกาสแล้ว ถ้าไม่ทำวันนี้ก็ไม่รู้จะทำวันไหน”
    “มีเงินแล้วทำไมแกต้องไปวางแผนอะไรกับเขาอีกวะ”
    แจ็คถามหลังจากใช้มือปาดน้ำตาตัวเองมั่ง
    “แกก็รู้ จู่ๆไปออกเงินให้ ทรายมันไม่มีทางเอาหรอก คงต้องวางแผนให้ทางนั้นร่วมมือด้วยว่ะ ”

………………………………………………………………………..
    เช้าตรู่หลายวันต่อมา ที่ห้องเรียน
    “เฮ้ย แก.........อาจารย์ที่เขาสะกดจิตนะ มีจดหมายมา บอกว่ากำลังรับอาสาสมัครคนที่อยากทดสอบสะกดจิตระลึกชาติอ่ะ ฟรีด้วยว่ะ”
    ทรายส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้แพรวอ่าน  แพรวทำสีหน้าตื่นเต้นดีใจอย่างออกนอกหน้า
    “เออ ดี สมัครไปซีวะ แกอยากไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ แกนี่ โชคดีสุดๆเลยว่ะ เนอะ”

..............................................................................................................................................................................
    “ถ้ามีโอกาสเจอคุณหมอพนมทวนก็ฝากขอบคุณด้วยนะ ที่แนะนำให้คุณมาหาอาจารย์ เรื่องของทรายน่าสนใจดี แต่อาจารย์ก็ยังไม่รับปาก ว่าเราจะไปกันได้ถึงไหน…….
    เรื่องหมอฝรั่งที่สะกดจิตระลึกชาติน่ะ ก็คือนายแพทย์ไบรอันส์ ไวส์ คุณหมอเขาดังมาก หนังสือของคุณหมอได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆเกือบทั่วโลก เรื่องสะกดจิตระลึกชาติในประเทศไทยก็มีคนมาทำอยู่เรื่อยๆ หลายคนผมเขียนเล่าไปในหนังสือที่ผมเขียนแล้ว ส่วนที่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก็เพียงแต่รอว่าในทางวิทยาศาสตร์จะประดิษฐ์เครื่องมือขึ้นมาทดสอบได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยในทางวิชาการ เราไม่ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเหลวไหลแล้วนะ มันเป็นไปได้ในทางควันตัม ฟิสิกส์.......
    ว่าแต่ตอนนี้ ทรายพร้อมหรือยัง”
    อาจารย์สะกดจิตถาม ทรายพยักหน้า
    “เมื่อพร้อมแล้ว คุณเอนตัวลง ผมจะปรับเก้าอี้ให้นอนลง เสร็จแล้วทำใจว่างๆ โล่งๆ ลดการคิด ลดการฟัง หรือสังเกต เฝ้ารอ ตรวจสอบ ทำให้ใจว่างๆ ปล่อยตัวเองให้สบาย อย่ามีส่วนใดของร่างกายเกร็ง.........”
    อาจารย์สะกดจิตดึงเก้าอี้ให้เอนลง แล้วเดินมาที่ด้านหน้าของทราย พร้อมยื่นฝ่ามือออกมาที่ระดับสายตา
    “มองมาที่มือนี้ มองอย่างว่างเปล่า เมื่อมือเคลื่อนเราเคลื่อนสายตาตาม......”
    อาจารย์สะกดจิตเริ่มแกว่งฝ่ามือเป็นวงกลมอยู่ที่หน้าทราย ทรายมองตามมือนั้นไปเรื่อยๆ
    “มือเคลื่อนเร็ว เราก็เคลื่อนตาเร็วขึ้น ดีมาก เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น.........”

    มือนั้นเคลื่อนเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ทรายพยายามบังคับลูกตาให้เคลื่อนตามมือที่แกว่งเร็วขึ้นเรื่อยๆนั้น ดูเหมือนความพยายามของเธอจะยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น
    “เรารู้สึกเหนื่อยล้า เรารู้สึกอ่อนเพลีย เราอยากปิดเปลือกตาลง.........”
    ถึงตอนนี้ ทรายเริ่มรู้สึกคล้อยตามกับอาจารย์สะกดจิตแล้ว ว่าเธออยากจะปิดเปลือกตาลงเหลือเกิน ฝืนเปิดตาต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
    ทันใดนั้น ฝ่ามือของอาจารย์สะกดจิตก็เลื่อนเขาใกล้จนแทบจะชนหน้าเธอ
    “จงปิดเปลือกตาลง”
    เปลือกตาของทรายงับลงเหมือนประตูที่ถูกปิดอย่างฉับพลันทันที เธอรู้สึกเหมือนตัวเองลอยเคว้งไปหมดทั้งร่างกาย
    “ปิดเปลือกตาลงแล้วเรารู้สึกสบาย ผ่อนคลาย จิตใจของเราปลอดโปร่งโล่งสบาย...........”
    เสียงอาจารย์สะกดจิตพูดไปเรื่อยๆ เนิบๆ ช้าๆ ทรายรู้สึกคล้ายตัวเองหมุน ยิ่งตอนที่บอกว่า
    “กล้ามเนื้อหัวคิ้ว หย่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน คลายยยยยยยยยยยยยยยยยย………”

    เสียงนั้นยืดยานมาก และทำให้ทรายรู้สึกเหมือนตัวยืดออกยังกะหนังสติ๊ก เธอรู้สึกเหมือนตัวหนักอึ้งมากขึ้นๆ ทุกที ทุกที ทุกที
    นานแค่ไหนไม่อาจทราบได้ ทรายรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกด เธอรู้สึกลอยเคว้งอยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่ไกลออกไปจากสถานที่ที่ตัวเองนั่งอยู่เมื่อครู่นี้
    เธอกลับมารู้สึกตัวอย่างเบาๆอีกครั้ง พอจับใจความได้ถึงเสียงที่เปล่งออกมา ช้า ผ่อนคลาย เนิบ และมีอานุภาพทำให้เธอรู้สึกหนักอึ้งไปหมดทั้งตัว
    “เราดำดิ่งลึกถึงก้นบาดาลแล้ว เราดำดิ่งลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจของตัวเองแล้ว เบื้องหน้าของเรา มีอุโมงค์ตั้งอยู่ เมื่อใดก็ตาม ที่เราเคลื่อนผ่านอุโมงค์เข้าไป จะนำพาเราไปสู่ชาติภพที่ผ่านมา จะนำพาเราไปสู่อดีตชาติของตัวเอง....ทันที..........”
    ฉ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่