หากพูดถึงวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นอาการคอมค้าง โปรแกรมค้าง หน้าจอสีน้ำเงิน แล้วหล่ะก็ หลายคนจะต้องนึกวิธีแก้เบื้องต้นที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดอย่างการกดปุ่ม CTRL + ALT + DEL พร้อมกันเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน แต่คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า ไอ้ปุ่มลัดนี้มันมีประวัติความเป็นมาอย่างไร เดี๋ยวหมีขาวจะเล่าให้ฟังนะ
ย้อนกลับไปฤดูใบไม้ผลิในปี 1981 นาย David Bradley เป็นหนึ่งในทีมงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับโปรเจคต์พิเศษ หน้าที่ของเขาก็คือ ช่วย IBM สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ หรือ PC นั่นเอง เพราะว่า ตอนนั้นคู่แข่งอย่าง Apple และ RadioShack ได้ปล่อยเครื่องคอม PC ออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว ซึ่งโปรเจคต์ดังกล่าวมีรหัสว่า “Acorn” และจัดว่าเป็นงานเร่งด่วนเลยทีเดียว ก็เพราะว่า ปกติแล้วการที่จะสร้างคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สักเครื่องนั้น ต้องใช้เวลาพัฒนาถึง 3 – 5 ปี แต่สำหรับโปรเจคต์ Acorn นั้น ถูกย่นเวลาให้เสร็จภายในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น!
หนึ่งในโปรแกรมเมอร์กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่เครื่องคอมพิวเตอร์พบความผิดพลาดในการเข้ารหัส พวกเขาจำเป็นต้องทำการรีสตาร์ทระบบใหม่ทั้งด้วยตัวเอง โดยที่การทำแบบนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการทดสอบหน่วยความจำโดยอัตโนมัติ ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ Bradley กล่าวว่า “ในบางวัน คุณต้องรีบูตเครื่องใหม่ทุกๆ 5 นาที เมื่อคุณพบเจอข้อผิดพลาด” ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนกุมขมับสำหรับพวกเขาเป็นอย่างมาก
ดังนั้น Bradley เลยได้สร้างปุ่มลัด (Shortcut) บนคีบอร์ดขึ้นมา เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำการรีเซ็ตระบบโดยปราศจากการทดลองหน่วยความจำ เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า การแก้ไขอันเรียบง่ายของเขาจะทำให้ตัวเขากลายเป็นฮีโร่ของเหล่าโปรแกรมเมอร์คนอืนๆ ซึ่งเขาไม่ได้คิดว่าคำสั่งดังกล่าวจะถูกนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ผู้ใช้งานทั่วไป
Bradley เข้าทำงานกับ IBM ในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์เมื่อปี 1975 และในปี 1978 ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล (Datamaster) ต่อมาบริษัทของเขาได้มีความพยายามที่จะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขึ้นมา มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนะ ที่คอมพิวเตอร์ PC กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และ Bradley ก็มีโอกาสช่วยให้คอมพิวเตอร์ PC เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป
ในเดือนกันยายน ปี 1980 เขากลายมาเป็น 1 ใน 12 วิศวกรที่ร่วมพัฒนาโปรเจค Acorn เขากล่าวว่า “เราได้เริ่มทำการออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมดจากกระดาษเปล่า”
เขาต้องทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเขียนโปรแกรม หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ตลอดระยะเวลา 5 เดือน ในระหว่างนี้เขาก็ได้สร้างปุ่มลัด CTRL + ALT + DEL ซึ่งปุ่มลัดดังกล่าวเป็นเพียงแค่หนึ่งในรายการที่เขาต้องทำเพื่อแก้ไขปัญหาในระหว่างการทำงานเท่านั้น โดยเขาใช้เวลาคิดขึ้นมาแค่ 5 – 10 นาทีเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาอีกนับร้อยที่ต้องรีบแก้ไขให้เสร็จ เขาบอกกับเราว่า เขาเลือกตำแหน่งการกดปุ่มจากความบังเอิญล้วนๆ เพราะเขาดันเผลอไปกดปุ่มทั้ง 3 พร้อมกันตอนที่กำลังเซ็ตระบบปุ่มลัด และเขาก็ไม่ได้ต้องการให้ปุ่มลัดนี้ถูกใช้โดยทั่วไปอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพียงแค่สร้างขึ้นมาเฉพาะให้เขาและทีมพัฒนาใช้งานเท่านั้น
ต่อมา ทีมงานของ Bradley ก็บรรลุภารกิจได้ตรงตามกำหนดการณ์ และในฤดูใบไม้ร่วง ปี 1981 คอมพิวเตอร์ PC ของ IBM ถูกวางบนชั้นจัดจำหน่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดคาดการณ์ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของ IBM จะทำยอดขายภายในระยะเวลา 5 ปี ได้เพียงแค่ประมาณ 241,683 เครื่อง เท่านั้น ในทางตรงกันข้าม IBM แย้งว่าพวกเขาประมาณการณ์ผิด เพราะเครื่องของ IBM จะทำยอดขายได้ถล่มทลายขายได้เป็นล้านเครื่อง เพราะ ผู้ใช้ทุกเพศทุกวัยจะใช้งานเพื่อเล่นเกมส์ งานเอกสาร และอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้คอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แต่ถึงกระนั้นปุ่มลัดของ Bradley ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ใช้บริการ จนกระทั้งปี 1990 ที่ทางบริษัท Microsoft ได้ปล่อยระบบปฏิบัติการ Windows ออกจัดจำหน่าย ทำให้ปุ่มลัดของเขาเริ่มเข้ามามีบทบาทในทันที ทั้งนี้ก็เพราะ ผู้ใช้งานหลายคนประสบปัญหาอาการจอน้ำเงิน หรือที่เรียกกันว่า Blue screen of death คอยกวนใจอยู่ตลอด ปุ่มลัดของ Bradley จึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันโดยการบอกปากต่อปาก เพราะสามารถแก้อาการจอน้ำเงินได้ในพริบตา ทำให้สื่อต่างๆ ต่างยกย่องว่าเป็น จอกศักดิ์สิทธิ์ ของผู้ใช้งานกันเลยทีเดียว
ในปี 2001 ผู้คนมากมายหลายร้อยชีวิตได้เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ San Jose Tech Museum of Innovation เพิ่อรำลึกการครบรอบ 20 ปี ของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC จากค่าย IBM นับเป็นเวลาถึง 2 ทศวรรษแล้ว ที่บริษัทได้จัดหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ไปกว่า 500 ล้านเครื่อง ภายหลังจากการรับประทานอาหารเย็น เหล่าบรรดานักธุรกิจวงการไอทีทั้งหลาย ซึ่งประกอบไปด้วยคนดังอย่าง Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft ก็ร่วมอภิปรายกับเขาด้วย แต่ถึงกระนั้น คำถามแรกที่พิธีกรถามผู้ร่วมอภิปรายกลับไม่ได้ถาม Bill ก่อน แต่ถูกยิงไปหา David Bradley ผู้คิดค้นปุ่มลัดในตำนานนั่นเอง
เขาพูดติดตลกว่า “ผมอยากจะแบ่งความดีความชอบนี้ให้คุณ Bill Gates ด้วยนะ เพราะว่า ผมเป็นคนคิดค้นปุ่มลัดตัวนี้ขึ้นมาก็จริง แต่คุณ Bill Gates เป็นคนทำให้มันโด่งดังยังไงล่ะ”
ที่มา : mentalfloss
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.meekhao.com/news/key-in-computer 
ตีแผ่ที่มาที่ไปของการกดปุ่มลัดในตำนาน ‘CTRL + ALT + DEL’!!
ย้อนกลับไปฤดูใบไม้ผลิในปี 1981 นาย David Bradley เป็นหนึ่งในทีมงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับโปรเจคต์พิเศษ หน้าที่ของเขาก็คือ ช่วย IBM สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ หรือ PC นั่นเอง เพราะว่า ตอนนั้นคู่แข่งอย่าง Apple และ RadioShack ได้ปล่อยเครื่องคอม PC ออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนจีนแล้ว ซึ่งโปรเจคต์ดังกล่าวมีรหัสว่า “Acorn” และจัดว่าเป็นงานเร่งด่วนเลยทีเดียว ก็เพราะว่า ปกติแล้วการที่จะสร้างคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่สักเครื่องนั้น ต้องใช้เวลาพัฒนาถึง 3 – 5 ปี แต่สำหรับโปรเจคต์ Acorn นั้น ถูกย่นเวลาให้เสร็จภายในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น!
หนึ่งในโปรแกรมเมอร์กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่เครื่องคอมพิวเตอร์พบความผิดพลาดในการเข้ารหัส พวกเขาจำเป็นต้องทำการรีสตาร์ทระบบใหม่ทั้งด้วยตัวเอง โดยที่การทำแบบนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการทดสอบหน่วยความจำโดยอัตโนมัติ ซึ่งพวกเขาคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ Bradley กล่าวว่า “ในบางวัน คุณต้องรีบูตเครื่องใหม่ทุกๆ 5 นาที เมื่อคุณพบเจอข้อผิดพลาด” ซึ่งเป็นเรื่องที่ชวนกุมขมับสำหรับพวกเขาเป็นอย่างมาก
ดังนั้น Bradley เลยได้สร้างปุ่มลัด (Shortcut) บนคีบอร์ดขึ้นมา เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำการรีเซ็ตระบบโดยปราศจากการทดลองหน่วยความจำ เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า การแก้ไขอันเรียบง่ายของเขาจะทำให้ตัวเขากลายเป็นฮีโร่ของเหล่าโปรแกรมเมอร์คนอืนๆ ซึ่งเขาไม่ได้คิดว่าคำสั่งดังกล่าวจะถูกนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ผู้ใช้งานทั่วไป
Bradley เข้าทำงานกับ IBM ในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์เมื่อปี 1975 และในปี 1978 ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล (Datamaster) ต่อมาบริษัทของเขาได้มีความพยายามที่จะสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขึ้นมา มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนะ ที่คอมพิวเตอร์ PC กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และ Bradley ก็มีโอกาสช่วยให้คอมพิวเตอร์ PC เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป
ในเดือนกันยายน ปี 1980 เขากลายมาเป็น 1 ใน 12 วิศวกรที่ร่วมพัฒนาโปรเจค Acorn เขากล่าวว่า “เราได้เริ่มทำการออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมดจากกระดาษเปล่า”
เขาต้องทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะเขียนโปรแกรม หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ตลอดระยะเวลา 5 เดือน ในระหว่างนี้เขาก็ได้สร้างปุ่มลัด CTRL + ALT + DEL ซึ่งปุ่มลัดดังกล่าวเป็นเพียงแค่หนึ่งในรายการที่เขาต้องทำเพื่อแก้ไขปัญหาในระหว่างการทำงานเท่านั้น โดยเขาใช้เวลาคิดขึ้นมาแค่ 5 – 10 นาทีเท่านั้น เพราะยังมีปัญหาอีกนับร้อยที่ต้องรีบแก้ไขให้เสร็จ เขาบอกกับเราว่า เขาเลือกตำแหน่งการกดปุ่มจากความบังเอิญล้วนๆ เพราะเขาดันเผลอไปกดปุ่มทั้ง 3 พร้อมกันตอนที่กำลังเซ็ตระบบปุ่มลัด และเขาก็ไม่ได้ต้องการให้ปุ่มลัดนี้ถูกใช้โดยทั่วไปอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพียงแค่สร้างขึ้นมาเฉพาะให้เขาและทีมพัฒนาใช้งานเท่านั้น
ต่อมา ทีมงานของ Bradley ก็บรรลุภารกิจได้ตรงตามกำหนดการณ์ และในฤดูใบไม้ร่วง ปี 1981 คอมพิวเตอร์ PC ของ IBM ถูกวางบนชั้นจัดจำหน่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดคาดการณ์ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของ IBM จะทำยอดขายภายในระยะเวลา 5 ปี ได้เพียงแค่ประมาณ 241,683 เครื่อง เท่านั้น ในทางตรงกันข้าม IBM แย้งว่าพวกเขาประมาณการณ์ผิด เพราะเครื่องของ IBM จะทำยอดขายได้ถล่มทลายขายได้เป็นล้านเครื่อง เพราะ ผู้ใช้ทุกเพศทุกวัยจะใช้งานเพื่อเล่นเกมส์ งานเอกสาร และอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้คอมพิวเตอร์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แต่ถึงกระนั้นปุ่มลัดของ Bradley ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ใช้บริการ จนกระทั้งปี 1990 ที่ทางบริษัท Microsoft ได้ปล่อยระบบปฏิบัติการ Windows ออกจัดจำหน่าย ทำให้ปุ่มลัดของเขาเริ่มเข้ามามีบทบาทในทันที ทั้งนี้ก็เพราะ ผู้ใช้งานหลายคนประสบปัญหาอาการจอน้ำเงิน หรือที่เรียกกันว่า Blue screen of death คอยกวนใจอยู่ตลอด ปุ่มลัดของ Bradley จึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันโดยการบอกปากต่อปาก เพราะสามารถแก้อาการจอน้ำเงินได้ในพริบตา ทำให้สื่อต่างๆ ต่างยกย่องว่าเป็น จอกศักดิ์สิทธิ์ ของผู้ใช้งานกันเลยทีเดียว
ในปี 2001 ผู้คนมากมายหลายร้อยชีวิตได้เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ San Jose Tech Museum of Innovation เพิ่อรำลึกการครบรอบ 20 ปี ของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC จากค่าย IBM นับเป็นเวลาถึง 2 ทศวรรษแล้ว ที่บริษัทได้จัดหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ไปกว่า 500 ล้านเครื่อง ภายหลังจากการรับประทานอาหารเย็น เหล่าบรรดานักธุรกิจวงการไอทีทั้งหลาย ซึ่งประกอบไปด้วยคนดังอย่าง Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft ก็ร่วมอภิปรายกับเขาด้วย แต่ถึงกระนั้น คำถามแรกที่พิธีกรถามผู้ร่วมอภิปรายกลับไม่ได้ถาม Bill ก่อน แต่ถูกยิงไปหา David Bradley ผู้คิดค้นปุ่มลัดในตำนานนั่นเอง
เขาพูดติดตลกว่า “ผมอยากจะแบ่งความดีความชอบนี้ให้คุณ Bill Gates ด้วยนะ เพราะว่า ผมเป็นคนคิดค้นปุ่มลัดตัวนี้ขึ้นมาก็จริง แต่คุณ Bill Gates เป็นคนทำให้มันโด่งดังยังไงล่ะ”
ที่มา : mentalfloss [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้