สงสัยคนที่เปิดกิจการเล็ก ๆ ของตัวเองทำไม ไม่ขึ้นเงินเดือนกับโบนัสพนักงานของตนเองบ้างล่ะครับ ( สำหรับกิจการที่มีกำไร ) นึกถึงตอนที่ทุกท่านทำงานบริษัทกันอยู่หลายคนอยู่บริษัทใหญ่โตมาก่อนมีโบนัสและเงินขึ้นประจำปีกันทั้งนั้น และแน่นอนว่าทุกท่านก็อยากได้ แน่นอนว่าลูกจ้างของท่านก็อยากได้เหมือนกันความรู้สึกคงไม่ต่างกันนึกถึงตอนเราเป็นพนักงานบริษัท ใจเขาใจเราในเรื่องการทำงาน ตอนที่ท่านมาเปิดกิจการของตัวเองบางคนร่ำรวยซื้อรถราคาแพงหลายล้านบาท แต่กลับบอกให้พนักงานประหยัดทุกอย่าง หลายที่เขี้ยวลากดินไม่มีขึ้นเงินเดือน โบนัส และทำงานไม่เป็นระบบมากทั้งที่ตอนอยู่เป็นพนักงานบริษัทกลับไมไ่ด้เรียนรู้สิ่งเหล่านั้นมาใช้
ตอนผมทำงานโรงงานครั้งแรกเป็นโรงงานทำชิ้นส่วนยานยนต์ของคนจีน ไม่มีโบนัสไม่มีการขึ้นเงินเดือน ไม่มีโอที ผมทำได้ประมาณ 5 เดือนก็ลาออก และตั้งใจว่าต่อไปจะไม่ทำงานหรือยุ่งเกี่ยวกับโรงงานของคนจีนอีก และไม่แนะนำใครให้ไปทำด้วย ส่วนมากทำแล้วไม่มีความสุข การบริหารงานไม่ก้าวหน้า ต่อมาผมมาทำงานโรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่โบนัส 4-5 เดือนทุกปี มีการขึ้นเงินดือนและโปรโมททุกปี แข่งกันทำงานแต่ก็เอาหน้ากันเยอะเพราะต้องการผลงานที่นี่ได้ความรู้บางอย่างในการทำธุรกิจภายหลัง ต่อมาที่ปัจจุบันคือทำงานโรงงานประกอบรถของญี่ปุ่นยี่ห้อนึงเงินเดือนขึ้นประจำปี โบนัสขั้นต่ำ 4 เดือนทุกปี ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นพนักงานจะได้ขั้นต่ำในเรทที่กำหนด ไม่ใช่ขาดทุน หรือเกิดประท้วงแล้วไม่จ่ายโบนัส ประเมินผลชัดเจน การทำงานจะอีกแบบนึงคือแต่ละคนมีหน้าที่ชัดเจนในการทำงานของตนเอง รู้ว่าหน้าที่ตนเองจะต้องทำอะไรในแต่ละวัน โนฮาวมากมายถ้าอยากเรียนรู้ มีการอบรมอย่างต่อเนื่องตลอดทุกระดับ ที่นี่ผมเอาความรู้นั้นมาทำธุรกิจเอง ปรับใช้เองได้ผลดีมาก
ต่อมาผมเปิดธุรกิจเอง ถึงแม้เป็นร้านเล็ก กำไรไม่มากนัก แต่ผมยังแบ่งกำไรส่วนนึงจ่ายโบนัสพนักงาน 0.3-0.5 เดือน ตามผลงานที่ทำกำไรเข้าร้าน แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน ( แต่กำชับแล้วว่าทุกคนจะได้ไม่เท่ากันห้ามเปิดเผย ) (เฉพาะพนักงานประจำ 4-5 คน ) ยกเว้นพนักงาน Part time ไม่มีการจ่ายโบนัส ส่วนการขึ้นเงินเดือนก็ขึ้นเรทโรงงานที่ผมเคยทำ 3 4 5 % ตามลำดับ ตั้งแต่ปีแรกที่ผมทำธุรกิจผมก็จ่ายแบบนี้มาตลอด ธุรกิจผมก็อยู่ได้นะครับไม่ไ่ด้เดือดร้อนอะไร และผมไม่ได้คาดหวังว่าผมจะต้องรวยเหมือนบางธุรกิจที่เจ้าของซื้อบ้านกันใหญ่โต เปลี่ยนรถทุก 5 ปี แต่ไม่เคยให้อะไรกับพนักงานเลย ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องรวยขนาดนั้นไปทำอะไร จะมีปีแรกที่ขลุกขลักหน่อยเอาเงินโบนัสส่วนตัวจากการทำงานบริษัทมาจ่ายพนักงานตนเองหมดเลยในปีนั้นเพราะผมเอาเคสกับการทำงานโรงงานประกอบรถที่ผมทำอยู่มาใช้ คือจ่ายโบนัสขั้นต่ำทุกปีไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคิดว่าตัวเราไม่มีปัญญาจ่ายโบนัสพนักงานธุรกิจของตัวเองคงเปิดต่อไปไม่ได้เพราะกำไรมันไม่พอแล้วล่ะปิดกิจการดีกว่า
แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหลังจากนั้นก็อยู่ตัวมาตลอดเรื่อย ๆ สิ่งที่ได้คือแต่ละคนรู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไรให้ดีที่สุด เราไม่ต้องไปจ้ำจี้จำไชกับใครเพราะพยายามทำงานแบบบริษัทให้มากที่สุดคือวางกรอบหน้าที่ให้แต่ละคนว่าต้องทำอะไร ได้ผลกำไรตามต้องการ พนักงานถ้ามาสมัครงานผมไม่เคยพูดเรื่องโบนัสหรือขึ้นเงินเดือน จะให้รู้เองตอนสิ้นปี มีบางคนโกงไล่ออกหรือทำงานไม่ไ่ด้ตามต้องการให้ไปเลยแต่ปัจจุบันก็อยู่ตัวแล้ว การลาออกน้อยมากที่ออกไปส่วนใหญ่เพราะจำเป็นจริง ๆ คือต้องย้ายตามสามีไปทำงานที่อื่น โดยเฉพาะต่างด้าวได้โบนัสกับเราีปีแรกที่มาทำงานดีใจมากเค้าไม่เคยได้มาก่อน ส่วนมากก็ทำงานได้ดีผมมีกำไรแบบนี้ทุกเดือน ตาม Target ถือว่าจบ
สงสัยคนที่เปิดกิจการเล็ก ๆ ของตัวเองทำไม ไม่ขึ้นเงินเดือนกับโบนัสพนักงานของตนเอง
ตอนผมทำงานโรงงานครั้งแรกเป็นโรงงานทำชิ้นส่วนยานยนต์ของคนจีน ไม่มีโบนัสไม่มีการขึ้นเงินเดือน ไม่มีโอที ผมทำได้ประมาณ 5 เดือนก็ลาออก และตั้งใจว่าต่อไปจะไม่ทำงานหรือยุ่งเกี่ยวกับโรงงานของคนจีนอีก และไม่แนะนำใครให้ไปทำด้วย ส่วนมากทำแล้วไม่มีความสุข การบริหารงานไม่ก้าวหน้า ต่อมาผมมาทำงานโรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดใหญ่โบนัส 4-5 เดือนทุกปี มีการขึ้นเงินดือนและโปรโมททุกปี แข่งกันทำงานแต่ก็เอาหน้ากันเยอะเพราะต้องการผลงานที่นี่ได้ความรู้บางอย่างในการทำธุรกิจภายหลัง ต่อมาที่ปัจจุบันคือทำงานโรงงานประกอบรถของญี่ปุ่นยี่ห้อนึงเงินเดือนขึ้นประจำปี โบนัสขั้นต่ำ 4 เดือนทุกปี ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นพนักงานจะได้ขั้นต่ำในเรทที่กำหนด ไม่ใช่ขาดทุน หรือเกิดประท้วงแล้วไม่จ่ายโบนัส ประเมินผลชัดเจน การทำงานจะอีกแบบนึงคือแต่ละคนมีหน้าที่ชัดเจนในการทำงานของตนเอง รู้ว่าหน้าที่ตนเองจะต้องทำอะไรในแต่ละวัน โนฮาวมากมายถ้าอยากเรียนรู้ มีการอบรมอย่างต่อเนื่องตลอดทุกระดับ ที่นี่ผมเอาความรู้นั้นมาทำธุรกิจเอง ปรับใช้เองได้ผลดีมาก
ต่อมาผมเปิดธุรกิจเอง ถึงแม้เป็นร้านเล็ก กำไรไม่มากนัก แต่ผมยังแบ่งกำไรส่วนนึงจ่ายโบนัสพนักงาน 0.3-0.5 เดือน ตามผลงานที่ทำกำไรเข้าร้าน แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน ( แต่กำชับแล้วว่าทุกคนจะได้ไม่เท่ากันห้ามเปิดเผย ) (เฉพาะพนักงานประจำ 4-5 คน ) ยกเว้นพนักงาน Part time ไม่มีการจ่ายโบนัส ส่วนการขึ้นเงินเดือนก็ขึ้นเรทโรงงานที่ผมเคยทำ 3 4 5 % ตามลำดับ ตั้งแต่ปีแรกที่ผมทำธุรกิจผมก็จ่ายแบบนี้มาตลอด ธุรกิจผมก็อยู่ได้นะครับไม่ไ่ด้เดือดร้อนอะไร และผมไม่ได้คาดหวังว่าผมจะต้องรวยเหมือนบางธุรกิจที่เจ้าของซื้อบ้านกันใหญ่โต เปลี่ยนรถทุก 5 ปี แต่ไม่เคยให้อะไรกับพนักงานเลย ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องรวยขนาดนั้นไปทำอะไร จะมีปีแรกที่ขลุกขลักหน่อยเอาเงินโบนัสส่วนตัวจากการทำงานบริษัทมาจ่ายพนักงานตนเองหมดเลยในปีนั้นเพราะผมเอาเคสกับการทำงานโรงงานประกอบรถที่ผมทำอยู่มาใช้ คือจ่ายโบนัสขั้นต่ำทุกปีไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคิดว่าตัวเราไม่มีปัญญาจ่ายโบนัสพนักงานธุรกิจของตัวเองคงเปิดต่อไปไม่ได้เพราะกำไรมันไม่พอแล้วล่ะปิดกิจการดีกว่า
แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหลังจากนั้นก็อยู่ตัวมาตลอดเรื่อย ๆ สิ่งที่ได้คือแต่ละคนรู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไรให้ดีที่สุด เราไม่ต้องไปจ้ำจี้จำไชกับใครเพราะพยายามทำงานแบบบริษัทให้มากที่สุดคือวางกรอบหน้าที่ให้แต่ละคนว่าต้องทำอะไร ได้ผลกำไรตามต้องการ พนักงานถ้ามาสมัครงานผมไม่เคยพูดเรื่องโบนัสหรือขึ้นเงินเดือน จะให้รู้เองตอนสิ้นปี มีบางคนโกงไล่ออกหรือทำงานไม่ไ่ด้ตามต้องการให้ไปเลยแต่ปัจจุบันก็อยู่ตัวแล้ว การลาออกน้อยมากที่ออกไปส่วนใหญ่เพราะจำเป็นจริง ๆ คือต้องย้ายตามสามีไปทำงานที่อื่น โดยเฉพาะต่างด้าวได้โบนัสกับเราีปีแรกที่มาทำงานดีใจมากเค้าไม่เคยได้มาก่อน ส่วนมากก็ทำงานได้ดีผมมีกำไรแบบนี้ทุกเดือน ตาม Target ถือว่าจบ