อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
อำเภอเล็กๆที่ติดชายแดนไทย-ลาว
ใครเลยจะรู้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ทำให้คุณเที่ยวได้ไม่เบื่อ
เมืองเล็กๆที่ใครๆก็อยากไปใช้ชีวิต slow life
วันนี้ผมขอนำเสนอในรูปแบบ...7สถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องมาให้ได้นะ

1.ทะเลหมอกภูห้วยอีสันและทะเลหมอกภูหนอง



สิ่งแรกที่ทำให้ใครหลายๆคนรู้จักกับ อำเภอเล็กๆที่ชื่อว่า"สังคม"
นั้นก็คือทะเลหมอกภูห้วยอีสัน เมื่อ3ปีก่อนถูกขนาดนามว่าเป็น
unseen in thailand ของภาคอีสาน ซึ่งเป็นทะเลหมอกสองฝั่งโขง
สามารถมองเห็นได้ทั้งฝั่งไทยและลาว



ทะเลหมอกที่นี้ มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครคือเป็นลักษณะหมอกไหล
หมอกไหลคือหมอกที่ค่อยๆลอยไปตามแนวสันเขา ตามแนวของห้วยที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง
หมายความว่าเวลาเปลี่ยนเป็นไปแค่10นาที หมอกก็จะแปลเปลี่ยนลักษณะไปเรื่อยๆ



ภูห้วยอีสัน ตั้งอยู่ใน ต.บ้านม่วง อ.สังคม
จุดนี้เองถือได้ว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของหนองคาย
ซึ่งสามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์สีทองในยามเช้า
สะท้อนไปยังพื้นแม่น้ำโขงและเกาะแก่งกลางลำน้ำ



เส้นทางสามารถชมทะเลหมอกได้มี 2จุด คือจุดชมวิวสูงสุดที่เป็นพื้นที่ของ อบต.บ้านม่วง
และอีกจุด คือ พื้นที่ของครัวไม้น้ำซึ่งจะอยู่ถัดลงมาด้านล่าง
สามารถไปจอดรถได้ที่ บริเวณลานวัดก่อนถึง อบต.บ้านม่วง และลานจอดรถร้านครัวไม้น้ำ
ซึ่งแต่ละจุดจะมีการนำนักท่องเที่ยวขึ้นภูเขาด้วยรถอีแต๊ก ใช้เวลาขึ้น 20นาที
ค่าเดินทางไปกลับ 60บาทเท่านั้น



นอกจากภูห้วยอีสันแล้ว ยังมีอีกจุดคือทะเลหมอกภูหนอง
ห่างจากภูห้วยอีสัน 6 กม.สามารถขึ้นชมด้วยรถอีแต๊กเช่นเดียวกัน



2.ถ้ำดินเพียงหรือถ้ำพญานาค
ตำนานลี้ลับถึงถ้ำที่เชื่อมต่อโลกมนุษย์และโลกบาดาน ดินแดนแห่งพญานาค
ถ้ำเพียงดิน เป็นถ้ำที่อยู่ใต้ดินลึงลงไปในบริเวณวัดวัดถ้ำเพียงดินหรือวัดถ้ำศรีมงคล
ตั้งอยู่ที่ บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม



ชาวบ้านเชื่อว่า ถ้ำนี้สามารถเดินเชื่อมต่อลงไปใต้แม่น้ำโขงผ่านไปยังประเทศลาวได้
โดยใช้เวลา9วัน9คืน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าสามารถเชื่อมต่อไปยัง
เกาะคำชะโนด ที่จังหวัดอุดรธานีได้ด้วย
โดยมีเรื่องเล่าว่า ในถ้ำแห่งนี้เป็นเส้นทางที่พระธุดงด์จากลาวใช้ข้ามฝั่งลอดใต้แม่น้ำโขงมายังประเทศไทย



เหตุที่หลายคนเรียกถ้ำนี้ว่า ถ้ำพญานาค มาจากตำนานความเชื่อว่า
ที่แห่งนี่เป็นทางเข้าออกของธิดาพญานาค ซึ่งมาหลงรักเจ้าชายของเมืองโลกมนุษย์
แต่ครั้นพอถึงวันออกพรรษา ธิดาพญานาคต้องกลับสู่เมืองบาดาลเพื่อไปเล่นน้ำกับพญานาคด้วยกัน
เจ้าชายตามมาพบรู้ว่าคนรักของตนเป็นพญานาคจึงขอตัดขาดจากกันที่ถ้ำแห่งนี้
(ฟังเรื่องราวคล้ายๆกับละครเรื่องนาคี เลยทีเดียวนะครับ)



ภายในถ้ำมีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี ลักษณะเป็นถ้ำที่มีทางเชื่อมต่อกันหลายทาง
คล้ายๆกับใยแม่มุม(จึงต้องมีคนนำทางเมื่อจะเข้าไปในถ้ำซึ่งเป็นคนของทางวัดจะนั่งรอที่หน้าทางเข้า)
บางช่วงเป็นช่องทางแคบๆต้องคานเข้าไป บางช่วงเป็นห้องใหญ่สามารถจุคนได้ร้อยคน
ภายในถ้ำประดับไฟแสงสีสวยงาม ไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ



ภายในถ้ำแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ตามความเชื่อของคนในชุมชน
เช่น ห้องธิดาพญานาคทั้ง4นาง ห้องเก็บหีบศพพญานาค
แผ่นคําภีร์ศิลาพญานาค และยังมีเจดีย์ภายในถ้ำ



3.น้ำตกธารทองและน้ำตกธารทิพย์

น้ำตกธารทอง น้ำตกที่ไหลหลั่นกันไปความยาวกว่า 30ม.
และไหลลงไปสู่แม่น้ำโขงในที่สุด



น้ำตกธารทองอยู่ในเขตบ้านผาตั้ง หมู่ที่1 ต.ผาตั้ง ตรงทางแยกจะไปถ้ำเพียงดินและผาตากเสื้อ
น้ำตกจะมีน้ำเฉพาะช่วงฤดูฝนและต้นฤดูหนาว ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน



บริเวณน้ำตกมีลานหินขนาดใหญ่ สามารถนั่งเล่น กินข้าว พักผ่อน
มีร้านอาหารมากมายในบริเวณลานหิน
นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบเป็นสวนรุกขชาติมีป่าไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น
ให้ร่มเงาแก่นักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำได้ดีเลยทีเดียวครับ



ไม่ไกลจากน้ำตก ประมาณ 300เมตร เป็นที่ตั้งของตลาดชุมชน
หรือ ที่หลายๆคนเรียกว่า ตลาดของป่าเป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยม
ซื้อหาของป่ากลับไปเป็นของฝาก เช่น เห็ดป่า หน่อไม้ป่า ผลไม้ป่า



น้ำตกธารทิพย์
ตั้งอยู่ที่ บ้านตาดเสริม หมู่1 ต.บ้านม่วง อ.สังคม
เป็นน้ำตกขนาดกลาง แบ่งออกเป็น 3ชั้น ด้านล่างเป็นน้ำตกชั้นแรกสูง 30 เมตร
ไหลจากหน้าผาเป็นสายยาวสีขาวสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง นิยมเล่นน้ำกันในจุดนี้



ชั้นที่2 สูง 100เมตร ต้องเดินขึ้นไปตามเส้นทางด้านขวามือ
และชั้นที่3 สูง 70เมตร
น้ำตกธารทิพย์ มีน้ำไหลตลอดทั้งปีแต่จะมีมากเฉพาะช่วงฤดูฝนและต้นฤดูหนาว



4.ภูโล้น
ภูโล้น ตั้งอยู่ที่บ้านหนอง ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย
อยู่ห่างจากภูห้วยอีสัน 6กม.


ที่มาของชื่อภูโล้น มาจากภูมิประเทศของภูเขาลูกนี้เอง
เป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นแม้แต่ต้นเดียว ต้นไม้ที่ขึ้นโดยมากจะเป็นต้นหญ้า
สัญนิฐานว่า เกิดจากแหล่งเเร่ธาตุใต้ดิน เพราะบริเวณใต้ดินจุดนี้เป็นแหล่งแร่ทองแดง
และแร่ทองในอดีต



สังเกตุในภาพ เปรียบเทียบความแปลกของสองภูเขา
ด้านซ้ายคือภูเขาทั่วไป ด้านขวามือคือ ภูโล้น มีลักษณะเป็นที่ราบบนภูเขา



ภูโล้นเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมความงามของเกาะแกะกลางแม่น้ำโขงได้สวยงาม
การเดินทางขึ้นภูโล้น ต้องใช้รถกระบะ หรือมอเตอร์ไซต์ขึ้นไป รถเก๋งทั่วไปไม่สามารถขึ้นไปได้
สามารถติดต่อชาวบ้าน มีบริการรถอีแต๋นนำเที่ยวนะครับ



5.เหมืองทองแดงโบราณ
เหมืองทองแดงโบราณ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ถ้ำปู่เขียวนาคราช
ตั้งอยู่ภายในวัดถ้ำเขาคีรีบรรพต ต.บ้านม่วง
ห่างจากทางขึ้นภูโล้น 700 เมตร



เหมืองภูโล้นเป็นเหมืองแร่ทองแดงที่สันนิษฐานว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
น่าจะเริ่มต้นเมื่อ 1750 ปีก่อนคริสต์ศักราช เหมืองภูโล้นมีแหล่งที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง
นักสำรวจค้นพบกิจกรรมการทำเหมืองแร่ที่นี่หลายจุดด้วยกัน ได้แก่
ซากเหมืองใต้ดิน อุโมงค์ ลานบดแร่ ที่ทำโลหกรรมซึ่งอาจเป็นการถลุงหล่อหลอม



ที่มาที่ชาวบ้านเรียกว่า ถ่ำปู่เขียวนาคราช น่าจะมาจากการที่ภายในถ้ำ
เป็นสีเขียว โดยที่มาของสีเขียวนั้นเกิดจากแร่ทองแดงที่จับอยู่
ซึ่งก็คือสนิมทองแดงที่สลายตัวมาจากแร่เดิม



6.สกายวอล์ค ผาตากเสื้อ
จุดท่องเที่ยวที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ของหนองคาย
อาจกล่าวได้ว่า Sky walk แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่มีคนพูดถึงมากที่สุดของหนองคาย
สามารถสัมผัสวิวทิวทัศน์ 2ฟากฝั่งแม่น้ำโขง กับสกายวอล์คพื้นกระจกใส
ที่บริเวณ จุดชมวิววัดผาตากเสื้อ เป็นสกายวอล์กกระจกใสแห่งแรกในประเทศไทย



SkyWalk พื้นปูด้วยกระจกใสโดยยื่นออกไปบริเวณหน้าผา 6เมตร
สามารถรับน้ำหนักนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปยืนได้ประมาณ 20คน
ซึ่งช่วงที่น้ำลด จะเห็นสันทรายเป็นริ้วคล้ายเกล็ดพญานาคได้อย่างสวยงาม



ในช่วงฤดูหนาวก็สามารถชมทะเลหมอกสองฝั่งโขงได้อีกด้วย
จุดชมวิววัดผาตากเสื้อ ที่ตั้ง วัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม



คุณพร้อมหรือยังที่จะได้ไปสัมผัสความสูง ความเสี่ยว ที่อำเภอสังคม
ขอมอบสามคำให้เลยว่า ...สูง เสียว สวย...



7.พันโขดแสนไคร้
ตามแนวลำน้ำโขงกว่า 5กม.
ถูกธรรมชาติเนรมิตเป็น เกาะ แก่ง หาดทราย สลับสับซ้อนไปตามลำน้ำโขง
โดยมีฉากหลังเป็นหุบเขาน้อยใหญ่เรียงตัวกัน



แม่น้ำโขงที่ขนาดไปกับถนนเชื่อมต่อจังหวัดเลย ตั้งแต่เขตบ้านห้วยค้อ
บ้านหนอง บ้านภูเขาทอง และบ้านม่วง ในช่วงฤดูร้อน ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะลดลง
จนสามารถมองเห็นโขดหินโผล่ขึ้นจากแม่น้ำโขง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่นับ พันโขดหิน
ในแต่ละโขดก็จะมี ต้นไคร้ ขึ้นอยู่โดยรอบนับแสนๆต้น จึงมีชื่อตามลักษณะที่เกิดขึ้นว่า พันโขดแสนไคร้



สามารถชมวิวความงามเกาะ แก่ง หาดทรายได้ตลอดถนน นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเป็นระยะ
มีจุดจอดรถ สามารถจอดได้อย่างสะดวก หากใครต้องการรองเรือชมความงามอย่างใกล้ชิด
ก็มีบริการเรือนำเที่ยวเช่นกัน ที่ท่าน้ำบ้านท่าม่วง



หากใครอยากชมความงามพันโขดแสนไคร้ในมุมสูง
สามารถชมความงามได้จากจุดชมวิวภูห้วยอีสันหรือจุดชมวิวภูหนอง
(จุดเดียวกับที่ชมทะเลหมอก)



การเดินทางท่องเที่ยวอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
สามารถเดินทางได้หลายวิธีการ
1.เครื่องบิน : ลงที่สนามบินอุดรธานี แล้วต่อรถมาที่หนองคาย
2.รถไฟ : ลงที่สถานีหนองคายได้โดยตรง
3.รถส่วนตัว : แนะนำว่าเป็นวิธีท่องเที่ยวที่สะดวกที่สุดแล้วครับ
4.รถโดยสาร
ขับรถออกจากหนองคาย ไปทางจังหวัดเลย ผ่านทางถนนสาย 211
ประมาณ 90 กม.ในกรณีไม่มีรถส่วนตัว
แนะนำให้เช่ารถครับ หรือเดินทางโดยรถประจำทางสายหนองคาย-เลย



กิจกรรมท่องเที่ยวในหนองคายยังมีอีกมากมายเข้าไปชมได้ที่

รีวิว...หนองคาย กับ 10 กิจกรรม ท่องเที่ยว ที่ต้องมาทำให้ได้นะ
https://ppantip.com/topic/33261033

ติดตาม ความเป็นไป ภาพถ่าย เรื่องราว ของหนองคายที่ facebook : Love nongkhai
( https://www.facebook.com/Lovenongkhal ) นะครับ



***สงวนลิขสิทธิ์ภาพถ่าย และบทความ
หรือติดต่อ พูดคุย ขออนุญาตการนำภาพไปใช้ ซื้อขายภาพ
facebook : https://www.facebook.com/thapanun.mahisanun