คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ขอให้ท่านทั้งหลาย ตั้งความหวัง ตั้งความเพียรอันมั่นคงไว้ ที่จะช่วยตัวช่วยชาติให้หนักแน่นยิ่งขึ้น ทั้งด้วยการขะมักเขม้นทำงานให้เต็มกำลังความสามารถ ทั้งด้วยการดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังและเป็นอยู่อย่างพอเหมาะพอสม จะประพฤติปฏิบัติการใด ก็ยึดมั่นในประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2541
การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง และประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่ข้าราชการทุกคนจะต้องทำหน้าที่ทุกๆ ประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ โดยเต็มกำลังสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เพื่อผลการปฏิบัติราชการทุกอย่างจักได้บรรลุความสำเร็จอย่างสูงและบังเกิดประโยชน์อย่างดีที่สุดแก่ตน แก่หน้าที่ และแก่แผ่นดิน
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ 30 มีนาคม พุทธศักราช 2541
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2541
การปฏิบัติงานทุกอย่างของข้าราชการ มีผลเกี่ยวเนื่องถึงประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง และประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่ข้าราชการทุกคนจะต้องทำหน้าที่ทุกๆ ประการให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ โดยเต็มกำลังสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ เพื่อผลการปฏิบัติราชการทุกอย่างจักได้บรรลุความสำเร็จอย่างสูงและบังเกิดประโยชน์อย่างดีที่สุดแก่ตน แก่หน้าที่ และแก่แผ่นดิน
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันที่ 30 มีนาคม พุทธศักราช 2541
แสดงความคิดเห็น
แบรนด์รถยนต์มาเลเซียไปไกลจริงๆ แต่ไทยยังเป็นลูกจ้างบริษัทรถยนต์ต่างชาติ
โดย...ดิลก ถือกล้า
เดือนที่แล้ว ผมมีโอกาสได้เจอเพื่อนเก่าชาวมาเลย์ที่คุ้นเคยกันมานาน เลยได้นั่งคุยกันถามไถ่สารทุกข์สุกดิบหลังจากไม่พบกันมาเกือบหกปี เราคุยกันทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องรถยนต์ตามประสาผู้ชาย ผมได้เรียนรู้
มุมมองที่น่าสนใจ แต่ขออนุญาตที่จะเล่าโดยขอใช้ชื่อย่อนะครับ เพื่อนผมบอกว่า ที่คนนอกเข้าใจมาตลอดว่า P-1 ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์แห่งชาติ ยังเป็นรถที่มียอดขายอันดับหนึ่งในมาเลเซีย แต่เพื่อนผมบอกว่า ไม่ใช่แล้ว ในช่วงตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา มีรถอีกแบรนด์ที่ชื่อ P-2 เป็นรถยนต์สัญชาติมาเลเซียที่ก้าวขึ้นมาแซงหน้า P-1 ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผมสนใจมาก เลยขอให้เขาเล่าให้ฟังว่า P-2 คือใคร เป็นมาอย่างไร อะไรเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ P-2 สามารถแซงหน้า P-1 รถยนต์แห่งชาติที่เป็นลูกรักของมหาเธร์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนดังของมาเลเซีย เขาได้เล่าให้ฟังแบบละเอียดอย่างน่าสนใจ ที่ผมพอจะสรุปได้ดังนี้
โดยเริ่มจาก P-1 ก่อน เขาบอกว่า ชื่อแบรนด์เป็นคำย่อจากภาษาบาฮาซ่ามาเลย์ ความหมายคือ บริษัทรถยนต์แห่งชาติแห่งแรก ตั้งมาเมื่อปี 1983 โดยเป็นการร่วมมือกับ Mitsubishi บริษัทรถยนต์ชั้นนำแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยเป็นพันธมิตรกันมานานจนถึงปี 2005 ก่อนที่ Mitsubishi จะแยกตัวออกไป แล้วขายหุ้นทั้งหมดให้กับกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นของมาเลเซีย ส่วน P-2 เขาบอกว่า ชื่อแบรนด์เป็นคำย่อจากภาษาบาฮาซ่ามาเลย์ มีความหมายคือ ผู้ผลิตรถยนต์เอกชนผู้เป็นบริษัทรถยนต์รายที่ 2 ของมาเลเซีย ตั้งเมื่อปี 1993 ห่างกันจาก P-1 สิบปีพอดี
ในมุมมองของเขาด้วยข้อมูลที่เขาตามมาตลอดในฐานะที่เป็นชาวมาเลย์ เขาให้ความเห็นว่า ทำไม PERODUA จึงแซงหน้า PROTON ไปได้ ดังนี้
ปัจจัยที่หนึ่ง ด้านเทคโนโลยี P-1 เปิดตัวได้สวยกับการใช้เทคโนโลยีของ Mitsubishi ในช่วงเริ่มต้น แต่พอภายหลังเริ่มไปซื้อรถหรู Lotus และแยกทางกับ Mitsubishi แล้วเหมือนจะเกิดการหยุดชะงักทางนวัตกรรม แล้วไปมุ่งเน้นที่การพยายามปรับใช้เทคโนโลยีของ Lotus เพื่อยกระดับรถให้หรู ให้ดูมีระดับมากขึ้น แต่กลับไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงและกำลังซื้อของลูกค้า ในขณะที่ P-2 ค่อยๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการจับมือกับ DAIHUTSU ผู้ชำนาญการรถยนต์ขนาดเล็กของญี่ปุ่น แล้วมีการพัฒนาวิจัยร่วมกันจนได้ลักษณะเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพกับรถขนาดเล็ก
http://www.posttoday.com/biz/aec/column/472914
เห็นมาเลเซียมีแบรนด์รถเป็นของตัวเองแล้ว กับมามองที่ประเทศไทย ภูมิใจว่าตัวเองเป็น ดีทรอยต์แห่งเอเชีย
แต่ยังเป็นลูกจ้างราคาถูกผลิตรถยนต์ให้ต่างชาติอยู่เลย ควรจะภูมิใจไหม ต่างชาติเขามองมาคงแอบหัวเราะในใจ
ไม่แปลกใจเลยที่ประเทศมาเลเซียเขาพัฒนาประเทศได้เร็วจริงๆ
เขามีผู้นำที่ดีและคนในประเทศเห็นแก่ประโยชน์ของชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว
หรือเงินอันน้อยนิดที่ต่างชาติหยิบหยิบยื่นให้ แลกกับการเสียประโยชน์อันใหญ่หลวงของประเทศตัวเอง