36
ดวงใจที่พลัดพราก
โดย ฮาร์โมนิก้า
สนามบินไครซ์เชิร์ชเช้าวันนั้นผู้คนพลุกพล่านกว่าปกติ อาจเพราะเป็นช่วงเที่ยวบินเข้าออก
แบรดสั่งกาแฟมานั่งดื่มคอยเอเจนท์ส่วนตัว ผู้เป็นคนคอยจัดการเรื่องขายงานประพันธ์ดนตรีของเขา
แบรดตั้งใจจะไม่ออกจากนิวซีย์แลนด์ในระยะสองเดือนนี้ จึงตัดสินใจเชิญเอเจนท์ของเขาให้มาคุย
และสรุปงานกันที่เนลสัน
ชายหนุ่มมาถึงก่อนเวลากว่าครึ่งชั่วโมง จึงมานั่งดื่มกาแฟคอยในร้านกาแฟภายในสนามบิน
“สวัสดีครับคุณแพร์ริช”
เสียงคุ้นหูซึ่งเรียกชื่อเขาทำให้แบรดเงยหน้าขึ้นจากสมุดโน๊ตและกาแฟ เขาดึงหูฟังที่เสียบไว้
ฟังดนตรีพร้อมจดตัวโน๊ตไปด้วยออก ลุกขึ้นยืนต้อนรับผู้ที่เข้ามาทักทาย
“สวัสดีครับผู้กองเพียร์สัน ไม่นึกเลยว่าจะพบผู้กองที่นี่”
“ขอผมนั่งด้วยได้มั้ยครับ ดูเหมือนโต๊ะอื่นจะเต็มจนหมด คุณมาคนเดียวหรือครับคุณแพร์ริช”
“เชิญครับผู้กอง ผมมาคนเดียว มารอรับคนที่จะมากับเที่ยวบินรอบเที่ยงครับ” ตอบแล้วชวนผู้กอง
ลงนั่ง “ผู้กองละครับ นี่รอเที่ยวบินออกหรือมารอรับคนเหมือนกันครับ”
“ผมมาส่งน่ะ พอดีรู้สึกง่วงๆ เลยคิดว่าแวะดื่มกาแฟซักแก้วก่อนขับกลับเนลสันน่าจะดีกว่า”
“ดีครับ ขับระยะไกล ได้กาแฟสักแก้วน่าจะพอช่วยได้ เสียดายนะครับ ผมไม่ทราบว่าผู้กองจะมา
วันและเวลาใกล้เคียงกัน ไม่เช่นนั้นก็จะได้มารถคันเดียวกัน”
“นั่นสิครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ได้มีเพื่อนดื่มกาแฟสักแก้วก็ยังดีครับ” ผู้กองเพียร์สันตอบ
พร้อมตั้งคำถาม “มิสซิมมอนด์กับมิสแลงก์ลี่ย์เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“ทั้งคู่สบายดีครับผู้กอง” แบรดตอบแล้วนิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนพูดต่ออย่างระวัง “แต่ผมยังไม่แน่ใจใน
ความปลอดภัยนัก ผมไม่อยากคิดว่าจะมีคนร้ายแฝงกายอยู่ในวินยารด์ของคุณตาผม แต่จาก
รูปการณ์แล้ว…”
“มันชวนให้สงสัยไปในทางนั้นอยู่เหมือนกันนะครับคุณแพร์ริช” ผู้กองเพียร์สันต่อให้
“เรื่องรถต้องสงสัยคันนั้นยังหาไม่พบหรือครับ” แบรดถามขึ้น
“ยังครับ น่าแปลกที่มันหายไปในระยะไม่ไกล น่าเสียดายที่เราไม่มีการติดกล้องวงจรปิดไว้บนถนน
แถบนั้น จึงไม่สามารถจับภาพล่าสุดที่พบเห็นรถคันนั้นได้ แต่เราก็พยายามตั้งด่านตรวจก็ไม่พบรถ
คันนั้นผ่านไปมา คิดว่ารถน่าจะยังอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกและน่าจะยังอยู่ในแถบอ่าวทัสมันนี่
เพราะหากออกนอกเขตไป กล้องวงจรปิดบนไฮเวย์เข้าออกเมืองน่าจะจับภาพได้บ้าง”
“เราไม่มีทางอื่นที่จะจำกัดวงลงหรือครับ”
“เรากำลังหาทางกันอยู่ครับคุณแพร์ริช”
“แล้วเรื่องที่ผมถามผู้กองไปล่ะครับ”
“เรื่องคดีสองพ่อลูกวอลเด็นน่ะหรือครับ” ผู้กองเพียร์สันถาม ก่อนระบายลมหายใจยาวอย่างตรึกตรอง
“ก็น่าแปลกนะครับที่มีเหตุต่างๆ เกิดขึ้นในแถบย่านวินยาร์ดของคุณในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มิสซิมมอนด์
ประสบอุบัติเหตุในวันเดียวกับสองพ่อลูกวอลเด็นเสียชีวิต เวลาใกล้เคียงกันมากจนไม่น่าจะเกินสิบห้าหรือ
ยี่สิบนาทีด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็มีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องมาเริ่มจากแซ็คคารี่ เบนสัน แม้จะไม่ได้เกิดในละแวก
ทิวอลลี่วินยาร์ด แต่ผู้ตายก็มีความเกี่ยวข้องกับมิสซิมมอนด์ แล้วยังคดีของมิสซิมมอนด์ที่ยังโดนตามมุ่ง
หมายชีวิตซ้ำอีกถึงสองครั้ง ลามไปถึงมิสแลงก์ลี่ย์และคุณพยาบาลโอไบรสัน จากรูปการณ์มันมีความเป็น
ไปได้เหลือเกินว่าฆาตกรจะเป็นใครสักคนที่อยู่ในละแวกนั้นและน่าจะใกล้ชิดพอที่จะรู้ความเป็นไปภายใน
วินยาร์ดของคุณด้วยคุณแพร์ริช”
แบรดนิ่งคิด
“ผู้กองคิดว่าฆาตกรที่ฆ่าสองพ่อลูกวอลเด็น กับฆาตกรรายที่คิดฆ่าแอชลี่ย์และคนอื่นๆ ต่อมารวมถึงที่ฆ่า
แซ็คคารี่ เบนสัน จะเป็นคนเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันหรือเปล่าครับ”
เขาถามทั้งที่ตัวเองไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นคนละกลุ่ม แต่บางทีเขาอาจมีข้อมูลไม่ครบ
พอที่จะตัดสิน และผู้กองเพียร์สันอาจให้ความกระจ่างหรือข้อมูลที่มากขึ้นกับเขาได้
“ผมคิดว่าไม่ใช่”
คำตอบของผู้กองเพียร์สันตอกย้ำข้อสันนิษฐานของแบรด เขาคิดถูกแล้วที่ปิดบังเรื่องอบิเกลยังมีชีวิตอยู่ไว้ก่อน
เพื่อป้องกันไม่ให้ฆาตกรที่หมายชีวิตเธอกลับมาพยายามลงมือซ้ำ แต่…
“แย่หน่อยที่คดีสองพ่อลูกถูกโอนกลับไปยังตำรวจเมลเบิร์นแล้ว ผมไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรกับคดีนั้นตั้งแต่
ต้น ส่วนคดีของมิสซิมมอนด์และแซ็คคารี่ เบนสัน ผู้ช่วยผมเป็นคนติดตาม เวลานี้เธอไม่อยู่ คนใหม่ที่จะมารับผิด
ชอบต่อก็ยังไม่ย้ายมาเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมติดตามดูแลอยู่ตลอดทุกระยะ แม้ตอนที่ผู้หมวดนิคาอูจะยัง
รับราชการอยู่ก็ตาม”
“ผู้หมวดนิคาอูไปไหนหรือครับ” แบรดถาม สังหรณ์บางอย่างปรากฏขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว
“ผู้หมวดนิคาอูไม่ทราบไปร่ำรวยมาจากไหน จู่ๆ ก็ลาออกจากราชการ ย้ายครอบครัวไปอยู่เพิร์ธ เธอบอกว่าเธอ
อยากไปอยู่ในที่อากาศอบอุ่นกว่า”
“ทำไมผู้กองจึงบอกว่าเธอไปร่ำรวยมาจากไหนหรือครับ”
ผู้กองเพียร์สันหัวเราะน้อยๆ “เปล่าหรอกครับ ผมเดาเฉยๆ เห็นเธอจากไปโดยไม่ต้องรอให้ขายบ้านหรืออะไรได้ ย้าย
ครอบครัวไปได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน ผมยังไม่รู้เลยว่าเธอจะไปประกอบอาชีพอะไรที่เพิร์ธ เห็นว่าจะไปซื้อที่
ที่นั่นสักแปลง อาจทำการเกษตร ฟาร์ม หรืออะไรสักอย่างที่เธอสนใจ ผมไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเธอมีเงินเก็บมาก
ขนาดนั้น บ้านที่นี่เธอทิ้งให้นายหน้าช่วยขาย แต่เธอก็สามารถไปเริ่มต้นที่ใหม่ได้ ทั้งที่ทรัพย์สินที่นี่ยังขายไม่ได้
รถก็ยังไม่ได้ขายนะครับ เธอฝากผมให้ช่วยขายให้ แบบนี้จะไม่ว่าเธอจากไปอย่างมีเงินได้ยังไงครับ”
ความตระหนกและหวาดระแวงไหลวูบลงไปตามสันหลังของแบรดอย่างรวดเร็ว ลอร่า นิคาอูไปเอาเงินมาจากไหน
มากมายเช่นนั้นในระยะเวลาอันสั้น หรือว่าหล่อน…
“ผู้หมวดนิคาอูลาออกไปนานหรือยังครับ”
“ราวสัปดาห์หนึ่งได้แล้วล่ะคุณแพร์ริช เธอยื่นใบลาออก และก็เก็บข้าวของส่งเรือออกไปเมื่อสามวันก่อน วันนี้เธอพึ่ง
บินออกไปพร้อมข้าวของส่วนตัวที่เหลือ ก็เพราะผมขับรถมาส่งเธอที่สนามบินนี่ยังไงครับ จึงได้มาพบกับคุณโดย
บังเอิญแบบนี้”
แบรดรู้สึกเย็นวาบตลอดสันหลัง หนึ่งสัปดาห์ก่อนงั้นหรือ คำพูดต่อมาของผู้หมวดเพียร์สันแทบไม่ผ่านหูเขาอีกต่อไป
เขาพยายามรักษามารยาท ไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจเช็คหาจีพีเอสโทรศัพท์ของอบิเกล กระทั่งสิบนาทีผ่านไป
ผู้กองเพียร์สันก็ดื่มกาแฟหมด และลุกขึ้นเอ่ยลา
“ยินดีที่ได้นั่งดื่มกาแฟกับคุณนะครับคุณแพร์ริช ผมคงต้องขอตัวขับรถกลับเนลสันก่อน หวังว่าจะได้พบกันอีกที่
เนลสันนะครับ”
“แน่นอนครับผู้กอง ขับรถดีๆ นะครับ”
ตอบตามมารยาทและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตรวจหาจีพีเอสของอบิเกลอย่างรวดเร็ว สัญญาณจีพีเอสบอกว่าเธอ
อยู่บริเวณวิลล่าในวินยาร์ดนั่นเอง แบรดรู้สึกโล่งใจ และสามารถนั่งสงบใจคอยให้เที่ยวบินของเอเจนท์ส่วนตัวมาถึงได้
อย่างไม่เดือดร้อนนัก
รักในรอยฝัน บทที่ 36 ดวงใจที่พลัดพราก
ดวงใจที่พลัดพราก
โดย ฮาร์โมนิก้า
สนามบินไครซ์เชิร์ชเช้าวันนั้นผู้คนพลุกพล่านกว่าปกติ อาจเพราะเป็นช่วงเที่ยวบินเข้าออก
แบรดสั่งกาแฟมานั่งดื่มคอยเอเจนท์ส่วนตัว ผู้เป็นคนคอยจัดการเรื่องขายงานประพันธ์ดนตรีของเขา
แบรดตั้งใจจะไม่ออกจากนิวซีย์แลนด์ในระยะสองเดือนนี้ จึงตัดสินใจเชิญเอเจนท์ของเขาให้มาคุย
และสรุปงานกันที่เนลสัน
ชายหนุ่มมาถึงก่อนเวลากว่าครึ่งชั่วโมง จึงมานั่งดื่มกาแฟคอยในร้านกาแฟภายในสนามบิน
“สวัสดีครับคุณแพร์ริช”
เสียงคุ้นหูซึ่งเรียกชื่อเขาทำให้แบรดเงยหน้าขึ้นจากสมุดโน๊ตและกาแฟ เขาดึงหูฟังที่เสียบไว้
ฟังดนตรีพร้อมจดตัวโน๊ตไปด้วยออก ลุกขึ้นยืนต้อนรับผู้ที่เข้ามาทักทาย
“สวัสดีครับผู้กองเพียร์สัน ไม่นึกเลยว่าจะพบผู้กองที่นี่”
“ขอผมนั่งด้วยได้มั้ยครับ ดูเหมือนโต๊ะอื่นจะเต็มจนหมด คุณมาคนเดียวหรือครับคุณแพร์ริช”
“เชิญครับผู้กอง ผมมาคนเดียว มารอรับคนที่จะมากับเที่ยวบินรอบเที่ยงครับ” ตอบแล้วชวนผู้กอง
ลงนั่ง “ผู้กองละครับ นี่รอเที่ยวบินออกหรือมารอรับคนเหมือนกันครับ”
“ผมมาส่งน่ะ พอดีรู้สึกง่วงๆ เลยคิดว่าแวะดื่มกาแฟซักแก้วก่อนขับกลับเนลสันน่าจะดีกว่า”
“ดีครับ ขับระยะไกล ได้กาแฟสักแก้วน่าจะพอช่วยได้ เสียดายนะครับ ผมไม่ทราบว่าผู้กองจะมา
วันและเวลาใกล้เคียงกัน ไม่เช่นนั้นก็จะได้มารถคันเดียวกัน”
“นั่นสิครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ได้มีเพื่อนดื่มกาแฟสักแก้วก็ยังดีครับ” ผู้กองเพียร์สันตอบ
พร้อมตั้งคำถาม “มิสซิมมอนด์กับมิสแลงก์ลี่ย์เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“ทั้งคู่สบายดีครับผู้กอง” แบรดตอบแล้วนิ่งคิดนิดหนึ่งก่อนพูดต่ออย่างระวัง “แต่ผมยังไม่แน่ใจใน
ความปลอดภัยนัก ผมไม่อยากคิดว่าจะมีคนร้ายแฝงกายอยู่ในวินยารด์ของคุณตาผม แต่จาก
รูปการณ์แล้ว…”
“มันชวนให้สงสัยไปในทางนั้นอยู่เหมือนกันนะครับคุณแพร์ริช” ผู้กองเพียร์สันต่อให้
“เรื่องรถต้องสงสัยคันนั้นยังหาไม่พบหรือครับ” แบรดถามขึ้น
“ยังครับ น่าแปลกที่มันหายไปในระยะไม่ไกล น่าเสียดายที่เราไม่มีการติดกล้องวงจรปิดไว้บนถนน
แถบนั้น จึงไม่สามารถจับภาพล่าสุดที่พบเห็นรถคันนั้นได้ แต่เราก็พยายามตั้งด่านตรวจก็ไม่พบรถ
คันนั้นผ่านไปมา คิดว่ารถน่าจะยังอยู่ในบริเวณชายฝั่งตะวันออกและน่าจะยังอยู่ในแถบอ่าวทัสมันนี่
เพราะหากออกนอกเขตไป กล้องวงจรปิดบนไฮเวย์เข้าออกเมืองน่าจะจับภาพได้บ้าง”
“เราไม่มีทางอื่นที่จะจำกัดวงลงหรือครับ”
“เรากำลังหาทางกันอยู่ครับคุณแพร์ริช”
“แล้วเรื่องที่ผมถามผู้กองไปล่ะครับ”
“เรื่องคดีสองพ่อลูกวอลเด็นน่ะหรือครับ” ผู้กองเพียร์สันถาม ก่อนระบายลมหายใจยาวอย่างตรึกตรอง
“ก็น่าแปลกนะครับที่มีเหตุต่างๆ เกิดขึ้นในแถบย่านวินยาร์ดของคุณในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มิสซิมมอนด์
ประสบอุบัติเหตุในวันเดียวกับสองพ่อลูกวอลเด็นเสียชีวิต เวลาใกล้เคียงกันมากจนไม่น่าจะเกินสิบห้าหรือ
ยี่สิบนาทีด้วยซ้ำ หลังจากนั้นก็มีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องมาเริ่มจากแซ็คคารี่ เบนสัน แม้จะไม่ได้เกิดในละแวก
ทิวอลลี่วินยาร์ด แต่ผู้ตายก็มีความเกี่ยวข้องกับมิสซิมมอนด์ แล้วยังคดีของมิสซิมมอนด์ที่ยังโดนตามมุ่ง
หมายชีวิตซ้ำอีกถึงสองครั้ง ลามไปถึงมิสแลงก์ลี่ย์และคุณพยาบาลโอไบรสัน จากรูปการณ์มันมีความเป็น
ไปได้เหลือเกินว่าฆาตกรจะเป็นใครสักคนที่อยู่ในละแวกนั้นและน่าจะใกล้ชิดพอที่จะรู้ความเป็นไปภายใน
วินยาร์ดของคุณด้วยคุณแพร์ริช”
แบรดนิ่งคิด
“ผู้กองคิดว่าฆาตกรที่ฆ่าสองพ่อลูกวอลเด็น กับฆาตกรรายที่คิดฆ่าแอชลี่ย์และคนอื่นๆ ต่อมารวมถึงที่ฆ่า
แซ็คคารี่ เบนสัน จะเป็นคนเดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันหรือเปล่าครับ”
เขาถามทั้งที่ตัวเองไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นคนละกลุ่ม แต่บางทีเขาอาจมีข้อมูลไม่ครบ
พอที่จะตัดสิน และผู้กองเพียร์สันอาจให้ความกระจ่างหรือข้อมูลที่มากขึ้นกับเขาได้
“ผมคิดว่าไม่ใช่”
คำตอบของผู้กองเพียร์สันตอกย้ำข้อสันนิษฐานของแบรด เขาคิดถูกแล้วที่ปิดบังเรื่องอบิเกลยังมีชีวิตอยู่ไว้ก่อน
เพื่อป้องกันไม่ให้ฆาตกรที่หมายชีวิตเธอกลับมาพยายามลงมือซ้ำ แต่…
“แย่หน่อยที่คดีสองพ่อลูกถูกโอนกลับไปยังตำรวจเมลเบิร์นแล้ว ผมไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรกับคดีนั้นตั้งแต่
ต้น ส่วนคดีของมิสซิมมอนด์และแซ็คคารี่ เบนสัน ผู้ช่วยผมเป็นคนติดตาม เวลานี้เธอไม่อยู่ คนใหม่ที่จะมารับผิด
ชอบต่อก็ยังไม่ย้ายมาเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมติดตามดูแลอยู่ตลอดทุกระยะ แม้ตอนที่ผู้หมวดนิคาอูจะยัง
รับราชการอยู่ก็ตาม”
“ผู้หมวดนิคาอูไปไหนหรือครับ” แบรดถาม สังหรณ์บางอย่างปรากฏขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว
“ผู้หมวดนิคาอูไม่ทราบไปร่ำรวยมาจากไหน จู่ๆ ก็ลาออกจากราชการ ย้ายครอบครัวไปอยู่เพิร์ธ เธอบอกว่าเธอ
อยากไปอยู่ในที่อากาศอบอุ่นกว่า”
“ทำไมผู้กองจึงบอกว่าเธอไปร่ำรวยมาจากไหนหรือครับ”
ผู้กองเพียร์สันหัวเราะน้อยๆ “เปล่าหรอกครับ ผมเดาเฉยๆ เห็นเธอจากไปโดยไม่ต้องรอให้ขายบ้านหรืออะไรได้ ย้าย
ครอบครัวไปได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน ผมยังไม่รู้เลยว่าเธอจะไปประกอบอาชีพอะไรที่เพิร์ธ เห็นว่าจะไปซื้อที่
ที่นั่นสักแปลง อาจทำการเกษตร ฟาร์ม หรืออะไรสักอย่างที่เธอสนใจ ผมไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าเธอมีเงินเก็บมาก
ขนาดนั้น บ้านที่นี่เธอทิ้งให้นายหน้าช่วยขาย แต่เธอก็สามารถไปเริ่มต้นที่ใหม่ได้ ทั้งที่ทรัพย์สินที่นี่ยังขายไม่ได้
รถก็ยังไม่ได้ขายนะครับ เธอฝากผมให้ช่วยขายให้ แบบนี้จะไม่ว่าเธอจากไปอย่างมีเงินได้ยังไงครับ”
ความตระหนกและหวาดระแวงไหลวูบลงไปตามสันหลังของแบรดอย่างรวดเร็ว ลอร่า นิคาอูไปเอาเงินมาจากไหน
มากมายเช่นนั้นในระยะเวลาอันสั้น หรือว่าหล่อน…
“ผู้หมวดนิคาอูลาออกไปนานหรือยังครับ”
“ราวสัปดาห์หนึ่งได้แล้วล่ะคุณแพร์ริช เธอยื่นใบลาออก และก็เก็บข้าวของส่งเรือออกไปเมื่อสามวันก่อน วันนี้เธอพึ่ง
บินออกไปพร้อมข้าวของส่วนตัวที่เหลือ ก็เพราะผมขับรถมาส่งเธอที่สนามบินนี่ยังไงครับ จึงได้มาพบกับคุณโดย
บังเอิญแบบนี้”
แบรดรู้สึกเย็นวาบตลอดสันหลัง หนึ่งสัปดาห์ก่อนงั้นหรือ คำพูดต่อมาของผู้หมวดเพียร์สันแทบไม่ผ่านหูเขาอีกต่อไป
เขาพยายามรักษามารยาท ไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจเช็คหาจีพีเอสโทรศัพท์ของอบิเกล กระทั่งสิบนาทีผ่านไป
ผู้กองเพียร์สันก็ดื่มกาแฟหมด และลุกขึ้นเอ่ยลา
“ยินดีที่ได้นั่งดื่มกาแฟกับคุณนะครับคุณแพร์ริช ผมคงต้องขอตัวขับรถกลับเนลสันก่อน หวังว่าจะได้พบกันอีกที่
เนลสันนะครับ”
“แน่นอนครับผู้กอง ขับรถดีๆ นะครับ”
ตอบตามมารยาทและรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตรวจหาจีพีเอสของอบิเกลอย่างรวดเร็ว สัญญาณจีพีเอสบอกว่าเธอ
อยู่บริเวณวิลล่าในวินยาร์ดนั่นเอง แบรดรู้สึกโล่งใจ และสามารถนั่งสงบใจคอยให้เที่ยวบินของเอเจนท์ส่วนตัวมาถึงได้
อย่างไม่เดือดร้อนนัก