เนลสัน: เวลาผมเจออะไรที่น่าทึ่งก็มักจะลงลึกแบบนี้ ซึ่งกระหังก็พีคจริงๆ
นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ ผมยังสนใจเรื่องความสามารถในการบินด้วยอุปกรณ์ทำครัวของกระหัง เพราะถ้าว่ากันตามหลักแล้ว รูปทรงของกระด้งไม่มีคุณสมบัติเป็นแอโรฟอยล์ (Aerofoil) อย่างปีกเครื่องบินหรือปีกนก ดังนั้นกระด้งจะไม่ทำให้เกิดแรงปฏิกิริยาตามกฎข้อที่สามของนิวตัน และยังทำให้แรงยกที่เกิดขึ้นต่ำ มีแรงเสียดทานสูงเกินกว่า...
เบ๊น: เอ่อ ผมว่าลุงจริงจังเกินไปแล้ว...
เนลสัน: ยังไม่หมด สมมติว่าปีกกระหังมีรูปทรงเป็นแอโรฟอยล์ ผมลองนำหลักการของแบร์นูลลี (Bernoulli’s Principle) มาประยุกต์เป็นสมการแรงยกไว้ดังนี้ (ยกไวท์บอร์ดขึ้นมา)
เบ๊น: ลุงครับ พอแล้ว
เนลสัน: ก็ได้
เบ๊น: เรามาพูดเรื่องผีไทยตัวโปรดของคุณดีกว่า
เนลสัน: ผมชอบกระสือที่สุดเลย
เบ๊น: ทำไมครับ
เนลสัน: กระหังต้องการปีกเพื่อบินตามหลักของฟิสิกส์ เปรตมีปากเล็กจึงส่งเสียงร้องค่อนข้างสูง ก็ถือว่าถูกต้องแล้วตามหลักกายภาพ แต่กระสือฉีกกฎเกณฑ์ทุกอย่างของมนุษย์
"กระสือ" หลุดพ้นจากทุกตำรา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ก็ไม่สามารถให้คำจำกัดความมันได้ กระสือถอดหัวและอวัยวะภายในออกมาจากตัวได้อย่างปลอดภัย ชนิดที่ว่า ศัลยแพทย์ของ MIT ควรมาศึกษาเป็น Case Study แถมไส้กระสือยังมีปฏิกิริยาเรืองแสงได้ยาวนานโดยไม่ต้องอาศัยแหล่งพลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีแบบนี้นาซ่ายังได้แต่ฝัน
แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือกระสือบินได้โดยไม่ต้องอาศัยแรงแอโรไดนามิกหัวกับไส้ลอยได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไรเลย!ผมเรียกมันว่าMinimalAviationหรือการขับเคลื่อนทางอากาศยานแบบน้อยชิ้น
อาจเรียกได้ว่ากระสือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในประวัติศาสตร์การบินของมนุษย์ถัดจากเครื่องบินของสองพี่น้องตระกูลไรต์ยานวอสตอค1ของยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) และกระหังได้เลย
เบ๊น: ไม่นึกมาก่อนว่าผีบ้านไอจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้
เนลสัน: ความสุดยอดของกระสือยังไม่จบ เพราะนอกจากกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว กระสือยังอยู่เหนือหลักการทางจิตวิทยาด้วย
เบ๊น: อย่างไรครับ?
เนลสัน: คิดดูว่าถ้าผมมีความสามารถอย่างกระสือ เช่น บินได้ด้วยน้ำหนักเบา ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากการเผาไหม้ใดๆ หรือสายตาที่มองเห็นได้ในเวลากลางคืน ผมคงดีใจคุมสติไม่อยู่และเหาะเหิน ท่องเที่ยวไปทั่ว
ผมคงบินไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด บินไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่เรคยาวิก หรือบินไปดูแสงเหนือออโรราที่แฟร์แบงก์สในอลาสก้า แต่กระสือไม่สนอะไรพวกนี้เลย กระสือสุขุมและมักน้อยมาก พอ Take Off จากร่าง เธอก็บินไปกินขี้เลย หักมุมสุดๆ! คือถ้าจะกินขี้เนี่ย เดินลงไปกินก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องถอดหัว หรืออาศัยพลังวิเศษอะไรเลย
ยูเคยได้ยินที่สไปเดอร์แมนพูดว่า “Great power comes with great responsibility” ไหม?
กระสือบอก “ you Spiderman, I’m just gonna eat shit.”
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418878288
คนอเมริกา วิเคราะห์ผีไทย ตามหลักฟิสิก และวิทยาศาสตร์
นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ ผมยังสนใจเรื่องความสามารถในการบินด้วยอุปกรณ์ทำครัวของกระหัง เพราะถ้าว่ากันตามหลักแล้ว รูปทรงของกระด้งไม่มีคุณสมบัติเป็นแอโรฟอยล์ (Aerofoil) อย่างปีกเครื่องบินหรือปีกนก ดังนั้นกระด้งจะไม่ทำให้เกิดแรงปฏิกิริยาตามกฎข้อที่สามของนิวตัน และยังทำให้แรงยกที่เกิดขึ้นต่ำ มีแรงเสียดทานสูงเกินกว่า...
เบ๊น: เอ่อ ผมว่าลุงจริงจังเกินไปแล้ว...
เนลสัน: ยังไม่หมด สมมติว่าปีกกระหังมีรูปทรงเป็นแอโรฟอยล์ ผมลองนำหลักการของแบร์นูลลี (Bernoulli’s Principle) มาประยุกต์เป็นสมการแรงยกไว้ดังนี้ (ยกไวท์บอร์ดขึ้นมา)
เบ๊น: ลุงครับ พอแล้ว
เนลสัน: ก็ได้
เบ๊น: เรามาพูดเรื่องผีไทยตัวโปรดของคุณดีกว่า
เนลสัน: ผมชอบกระสือที่สุดเลย
เบ๊น: ทำไมครับ
เนลสัน: กระหังต้องการปีกเพื่อบินตามหลักของฟิสิกส์ เปรตมีปากเล็กจึงส่งเสียงร้องค่อนข้างสูง ก็ถือว่าถูกต้องแล้วตามหลักกายภาพ แต่กระสือฉีกกฎเกณฑ์ทุกอย่างของมนุษย์
"กระสือ" หลุดพ้นจากทุกตำรา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ก็ไม่สามารถให้คำจำกัดความมันได้ กระสือถอดหัวและอวัยวะภายในออกมาจากตัวได้อย่างปลอดภัย ชนิดที่ว่า ศัลยแพทย์ของ MIT ควรมาศึกษาเป็น Case Study แถมไส้กระสือยังมีปฏิกิริยาเรืองแสงได้ยาวนานโดยไม่ต้องอาศัยแหล่งพลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีแบบนี้นาซ่ายังได้แต่ฝัน
แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือกระสือบินได้โดยไม่ต้องอาศัยแรงแอโรไดนามิกหัวกับไส้ลอยได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไรเลย!ผมเรียกมันว่าMinimalAviationหรือการขับเคลื่อนทางอากาศยานแบบน้อยชิ้น
อาจเรียกได้ว่ากระสือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในประวัติศาสตร์การบินของมนุษย์ถัดจากเครื่องบินของสองพี่น้องตระกูลไรต์ยานวอสตอค1ของยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) และกระหังได้เลย
เบ๊น: ไม่นึกมาก่อนว่าผีบ้านไอจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้
เนลสัน: ความสุดยอดของกระสือยังไม่จบ เพราะนอกจากกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว กระสือยังอยู่เหนือหลักการทางจิตวิทยาด้วย
เบ๊น: อย่างไรครับ?
เนลสัน: คิดดูว่าถ้าผมมีความสามารถอย่างกระสือ เช่น บินได้ด้วยน้ำหนักเบา ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากการเผาไหม้ใดๆ หรือสายตาที่มองเห็นได้ในเวลากลางคืน ผมคงดีใจคุมสติไม่อยู่และเหาะเหิน ท่องเที่ยวไปทั่ว
ผมคงบินไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด บินไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่เรคยาวิก หรือบินไปดูแสงเหนือออโรราที่แฟร์แบงก์สในอลาสก้า แต่กระสือไม่สนอะไรพวกนี้เลย กระสือสุขุมและมักน้อยมาก พอ Take Off จากร่าง เธอก็บินไปกินขี้เลย หักมุมสุดๆ! คือถ้าจะกินขี้เนี่ย เดินลงไปกินก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องถอดหัว หรืออาศัยพลังวิเศษอะไรเลย
ยูเคยได้ยินที่สไปเดอร์แมนพูดว่า “Great power comes with great responsibility” ไหม?
กระสือบอก “ you Spiderman, I’m just gonna eat shit.”
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1418878288