คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เท่าที่ทราบ ทุนสำรอบแบ่งออกเป็นสองบัญชี คือ
บัญชี1เป็นเงินทุนสำรองที่ใช้หนุนค่าเงินบาท ประกอบด้วย ทองคำ เงินสกุลแข็ง พันธบัตรสกุลแข็ง บัญชีนี้ห้ามเปลี่ยนแปลงห้ามเคลื่อนไหวโดยไม่มีเหตุจำเป็น
บัญชี 2 คือบัญชีที่เวลาประชาชนหรือบริษัทต้องการนำเงินบาทมาแลกดอลล่าหรือเงินต่างประเทศ เพื่อะธุรกิจ ส่งลูกเรียน ไปเที่ยว ฯลฯ ก็จะแลกจได้จากบัญชีนี้ โดยผ่านธนาคารพานิชญ์ บัญชีจึงเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อก่อนตามกฏหมายบัญชีนี้ให้ถือได้เฉพาะเงินสกุลแข็งและพันธบัตร แต่เมื่อหลายเดือนก่อนได้มีการแก้กฏหมายให้สามารถถือ ทองคำและหุ้นได้ด้วยเพื่อป้องกันการผันผวนของเงินสกุล(ที่เคย)แข็ง(แต่ตอนนี้ไม่ค่อย เช่น ดอลล่า เยน ยูโร ) ซึ่งตอนนั้นสื่อเอาไปเล่นว่าแก้กฏหมายให้แบงค์ชาติเอาเงินไปเล่นหุ้นได้ ดราม่ากันพอสมควร แต่ความจริงมีระเบียบกำกับว่า ทองคำถือได้ไม่จำกัด แต่หุ้นห้ามถือเกิน5%(ในทางปฏิบัติจะถือได้ไม่เกิน3%) และต้องเป็นหุ้นต่างประเทศ ไม่ใช้หุ้นตลาดหุ้นไทย เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
ซึ่งดูๆแล้วกองทุนโครงสร้างพื้นฐานยังไม่น่าจะเข้าเกณฑ์นี้แต่อย่างใด
ปัจจุบันไทยมีทุนสำรองประมาณ 1800000ล้านเหรียญ เทียบกับมาเลเซีย 95000ล้านเหรียญ(แต่หนี้ระยะสั้นเกินแสนล้าน ค่าเงินเลยร่วงกราว) เวียดนาม 35,000ล้าน ออสเตรเลีย 49,000ล้าน คูเวต 45,000ล้าน สิงคโปร์ 250000ล้าน พม่า 9,000ล้าน เกินดุลบัญชีเดินสะพัด10%ของGDP ราว35,000ล้านดอลล่า(ราวหนึ่ล้านล้านบาท) สูงอันดับสี่ของโลก รองจาก สิงคโปร์ เยอรมัน เกาหลีใต้ นับว่าแข็งแกร่งพอสมควร ค่าเงินบาทไทยจึงค่อนข้างนิ่งกว่าเพื่อนบ้านอาเซียน
บัญชี1เป็นเงินทุนสำรองที่ใช้หนุนค่าเงินบาท ประกอบด้วย ทองคำ เงินสกุลแข็ง พันธบัตรสกุลแข็ง บัญชีนี้ห้ามเปลี่ยนแปลงห้ามเคลื่อนไหวโดยไม่มีเหตุจำเป็น
บัญชี 2 คือบัญชีที่เวลาประชาชนหรือบริษัทต้องการนำเงินบาทมาแลกดอลล่าหรือเงินต่างประเทศ เพื่อะธุรกิจ ส่งลูกเรียน ไปเที่ยว ฯลฯ ก็จะแลกจได้จากบัญชีนี้ โดยผ่านธนาคารพานิชญ์ บัญชีจึงเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อก่อนตามกฏหมายบัญชีนี้ให้ถือได้เฉพาะเงินสกุลแข็งและพันธบัตร แต่เมื่อหลายเดือนก่อนได้มีการแก้กฏหมายให้สามารถถือ ทองคำและหุ้นได้ด้วยเพื่อป้องกันการผันผวนของเงินสกุล(ที่เคย)แข็ง(แต่ตอนนี้ไม่ค่อย เช่น ดอลล่า เยน ยูโร ) ซึ่งตอนนั้นสื่อเอาไปเล่นว่าแก้กฏหมายให้แบงค์ชาติเอาเงินไปเล่นหุ้นได้ ดราม่ากันพอสมควร แต่ความจริงมีระเบียบกำกับว่า ทองคำถือได้ไม่จำกัด แต่หุ้นห้ามถือเกิน5%(ในทางปฏิบัติจะถือได้ไม่เกิน3%) และต้องเป็นหุ้นต่างประเทศ ไม่ใช้หุ้นตลาดหุ้นไทย เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
ซึ่งดูๆแล้วกองทุนโครงสร้างพื้นฐานยังไม่น่าจะเข้าเกณฑ์นี้แต่อย่างใด
ปัจจุบันไทยมีทุนสำรองประมาณ 1800000ล้านเหรียญ เทียบกับมาเลเซีย 95000ล้านเหรียญ(แต่หนี้ระยะสั้นเกินแสนล้าน ค่าเงินเลยร่วงกราว) เวียดนาม 35,000ล้าน ออสเตรเลีย 49,000ล้าน คูเวต 45,000ล้าน สิงคโปร์ 250000ล้าน พม่า 9,000ล้าน เกินดุลบัญชีเดินสะพัด10%ของGDP ราว35,000ล้านดอลล่า(ราวหนึ่ล้านล้านบาท) สูงอันดับสี่ของโลก รองจาก สิงคโปร์ เยอรมัน เกาหลีใต้ นับว่าแข็งแกร่งพอสมควร ค่าเงินบาทไทยจึงค่อนข้างนิ่งกว่าเพื่อนบ้านอาเซียน
แสดงความคิดเห็น
เงินสํารองระหว่างประเทศ นี่สามารถนำมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้มั้ยครับ