ช่วงเช้าได้ไปทำบุญตักบาตรกันมาครับ สมาชิกไปกัน 2 คน ครับ อีก 2 คน ขอนอน
ตื่นตี5 เพื่อไปจองที่ครับ
บรรยากาศช่วงเช้าๆ เย็นสบายๆ ครับ
เสร็จจากอิ่มบุญ ก็จะเดินทางตามแผนที่วางไว้ครับ พร้อมออกเดินทางกัน 9 โมง ครับ เวลากำลังสวย
ขากลับ เลือกเส้นทาง หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง ที่เค้าว่าวิวสวยมาก แต่ก็ขี่ยากมากเช่นกัน คนละเส้นทางกับขามาหลวงพระบาง
โอเคออกเดินทางครับ เราขอแวะที่ร้านนี้ก่อนครับ เติมพลังการเดินทาง ร้านดังของที่นี่เช่นเคย
ร้าน "กาแฟประชานิยม"
เติมพลังในท้องเรียบร้อย
ก็ไปเติมพลังให้รถกันให้เต็มถังครับ แวะที่ปั้ม ปตท. ซะด้วย
Google Map บอกว่า หลวงพระบาง-ภูคูน 2 ชั่วโมง 50 นาที กับ ระยะทาง 128 กิโลเมตร
**ขออธิบายเส้นทางครับ ทางดีครับ เป็นการขี่แบบเลาะเขา ขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไป มีหมอก มีรถบรรทุก รถพ่วงวิ่ง รถโดยสาร รถทั่วๆ ไป วิ่งกันเยอะ ต้องระมัดระวัง ครับ**
ภูคูน-วังเวียง 2ชั่วโมงกับระยะทาง 100 กิโลเมตร ตาม Google Map
ขี่กันมาเรื่อยๆ ทำความเร็วได้บ้างไม่ได้บ้าง ช่วงนี้เราไม่เจอแดดเลยนะครับ หนาวๆ เย็นๆ
ก็มาถึงภูคูนตอนประมาณ บ่ายสองโมง ลุยต่อเลยนะครับไม่พักกินข้าวนะครับ(ตอนนั้นลืมจริงๆ ว่าต้องกินข้าวละ)
เป็นตัวเมืองที่เราต้องผ่านเฉยๆ สังเกตุว่าเป็นจุดพักรถ และ ต่อรถไปที่ต่างๆ ของเมืองหลวงพระบางนะครับ
(กาสีอยู่ในเขตเมืองหลวงพระบาง)
เราแวะถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ นะครับ ไม่ได้รีบเร่งอะไรมากมาย เพราะกะเวลาไว้ว่าทันแน่นอน
เจอแสงแดด สวยๆ ขอถ่ายรูปกันนิดนึง ครับ จุดนี้เราเลยกาสี จะเข้าไปทางวังเวียงแล้วนะครับ
ยิงยาวข้าวปลาไม่กินถึงวังเวียงก็ 17.30 โดยประมาณ ทำเวลาได้ดีพอสมควร ////
สรุปการขี่จาก หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง ระยะเวลา ขี่จริงๆ น่าจะประมาณ 6-7 ชั่วโมง
ต้องหาร้านอาหาร เติมพลังโดยด่วน ควบมื้อกลาง-เย็น รวมๆ กันไป
มื้อนี้เราโดนค่าอาหารไป 220,000 กีบ(เกือบ1พัน บาท)
รอบนี้หาที่พัก ใช้ walk-in ได้มาคืนละ 520 บาท
“MALANY VILLA 1” อยู่ริมถนนใหญ่กลางแยก ตรงข้ามซอย ซากุระบาร์ เดินมาซากุระบาร์ได้ใน 2 นาที
คืนนี้เพื่อนคนนึงขอนอนพัก อีกสามคนก็เช่นเคยครับ ซากุระบาร์ กินนิดๆ เบาๆ เที่ยงคืนกลับห้องนอน
สะบายดี วังเวียง อีกครั้ง
เช้านี้ฟ้าใสมาก อากาศเย็นๆ มีแดด แต่ไม่ร้อนนะครับ
เช้านีเราไปกินกาแฟ กินอาหารเช้า แล้วก็หาข้อมูลสำหรับการทำกิจกรรมที่วังเวียง
จากข้อมูลที่ได้มา วันนี้เราตั้งเป้าไป บลูลากูน1 (เดี๋ยวนี้เห็นว่ามี3ที่แล้ว) กับช่วงบ่ายๆ
เราจะไป Tubing(ลอยห่วงยางที่แม่น้ำซอง)เราไม่ซื้อ One day trip นะครับ เพราะคิดว่าคงไม่เหมาะกับกลุ่มเราเท่าไหร่
รู้สึกราคาประมาณ 650 บาทได้
**ทางไปบลูลากูน ต้องเสีย "ค่าข้ามสะพาน" **
รถมอไซ ราคา 10,000 กีบ พอดีเราเอารถไปสองคัน ก็เสียค่าข้าม ไป 20,000 กีบ
ดีที่ไม่เอาไปคนละคัน ไม่งั้นต้องจ่าย 40,000 กีบ โชคดีประหยัดไปหน่อยนึง
**ทางไปบลูลากูน ณ วันที่ 19/12/2016 ทางดีแล้วนะครับ**
เสียค่าเข้าไปบลูลากูนอีก คนละ 10,000 กีบ
โอเค สายๆ คนยังไม่เยอะ รีบพุ่งไปเปลี่ยนชุด พร้อมกระโดด น้ำได้ครับ
** ใครว่ายน้ำไม่เป็น มีชูชีพให้เช่านะครับ**
โดดกันอยู่คนละ 3-4 รอบ เล่นน้ำกัน สองชั่วโมง ได้ เพราะเดี๋ยวมีนัดต้องไป Tubing ตอนบ่าย 3 โมง
กลับไปในเมืองพักกินข้าวกลางวัน กันแป๊บนึง ก็พร้อม ทำกิจกรรมต่อ
ภาพตัดไปจุดปล่อย เค้าจะพาเรานั่งรถไปส่งยังจุดที่ปล่อย เรือคายัค กับ Tubing ครับ หลังจากนั้นเราก็จะลอยมาตามแม่น้ำซอง มีบาร์น้ำที่ขายแอลกอฮอล์ อยู่ 2-3 ร้าน นะครับ
ระยะเวลาลอยประมาณ 2-3ชั่วโมง ต้องมีชูชีพใส่ด้วยนะครับ แต่กลุ่ม จขกท ร้านลืมเอาให้ -*-
พี่คนขับบอก น้ำไม่ลึก บางจุดก็ตื้นมาก(อันนี้ก็ถูกของเค้านะครับ แต่จริงๆ ชีวิตเราไม่ควรมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้)
ตอนนั้นมีแค่เล่นกับไม่เล่น สรุปว่าเล่นครับ (อันนี้ไม่แนะนำทำตามนะครับ)
**การรักษาชีวิตเอาตัวรอดเป็นเรื่องของเราเองคนเดียวนะครับ ไม่มีคนดูแล อะไรทั้งนั้นสำหรับการลอย Tubing
พายเรือคายัค ยังมีคนดูแล**
ก็มีแวะบาร์น้ำ แวะเล่นกับกลุ่ม ที่ลอยมาพร้อมๆ กับกลุ่มเรา ลอยจบตอน 6โมงครึ่งได้ (มึดแล้วจะน่ากลัวนะครับ)
**แนะนำให้เล่นช่วงเช้า มีแดด แต่ปลอดภัยกว่า เพราะตอนกลุ่ม จขกท ลอยมาถึงจุดขึ้น พอดีมีน้องคนนึงที่ลอยมาด้วยกันบอกว่าต้องขึ้นตรงนี้นะ มีลอยเลยไปคนนึงคือ จขกท เอง -*- ซึ่งต้องว่ายทวนน้ำไปขึ้น แพร้านอาหารฝั่งตรงข้ามแล้วเดินข้ามสะพานมา ตอนเย็น ไม่มีคนมาโบกให้เข้าฝั่ง ดีเข้าฝั่งได้ไม่งั้นก็คงลอยไปถึงสะพานข้ามไปบลูลากูนกันเลยทีเดียว **
ขึ้นฝั่งอาบน้ำออกมาหาอะไรกินกันริมน้ำ ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ขึ้น Tubing เดินข้ามสะพานมา มีร้านอาหารเป็นแพๆ ยึดกับฝั่งริมน้ำอยู่ 3-4 ร้าน จริงๆ ร้านไหนก็เหมือนๆ กันนะครับ ราคาจะบวกไปเพราะเป็นถือริมน้ำครับ
นั่งเม้ามอยกันอยู่ พักนึง ก็ไป ร้านเดิมครับ ซากุระบาร์ คืนนี้คนเกาหลีเยอะมาก ปกตก็เยอะอยู่แล้ว ส่งท้ายคืนสุดท้ายในวังเวียง ก็เหมือนเดิมครับ ร้านปิดถึงกลับ
**ซากุระ ปิด เที่ยงคืนนะครับ ต้องไปอีกร้านแทนนะครับถ้าจะไปต่อ**
ปิดท้ายด้วยการนั่งหน้าร้านซากุระ คุยกับคนท้องถิ่นที่ขาย โรตี แซนวิส ได้รู้เรื่องราวที่นี่อีกพอสมควร
หิวเบาๆ เดินไปกลางซอยมี ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จัดเบาๆ กันไปครับ คนละชาม
Plan is No Plan ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ที่ลาว 6คืน5วัน Part4 (ตอนจบ)
Part4 ตอนของการเดินทางกลับ และพักผ่อนที่วังเวียง(เน้นสายบันเทิงนะครับ) จากหลวงพระบาง-ภูคูน-วังเวียง-เวียงจันทร์ นะครับ
Part1
https://ppantip.com/topic/35961915
Part2
https://ppantip.com/topic/35964655
Part3
https://ppantip.com/topic/35975194
"สามารถติดตาม รูปและคลิปvdo การเดินทาง ได้จาก #wewheelsgo #wewheelsgolaos #wewheelsgolaos2016
และทาง FB : https://www.facebook.com/WWGthailand/
ช่วงเช้าได้ไปทำบุญตักบาตรกันมาครับ สมาชิกไปกัน 2 คน ครับ อีก 2 คน ขอนอน
ตื่นตี5 เพื่อไปจองที่ครับ
บรรยากาศช่วงเช้าๆ เย็นสบายๆ ครับ
เสร็จจากอิ่มบุญ ก็จะเดินทางตามแผนที่วางไว้ครับ พร้อมออกเดินทางกัน 9 โมง ครับ เวลากำลังสวย
ขากลับ เลือกเส้นทาง หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง ที่เค้าว่าวิวสวยมาก แต่ก็ขี่ยากมากเช่นกัน คนละเส้นทางกับขามาหลวงพระบาง
โอเคออกเดินทางครับ เราขอแวะที่ร้านนี้ก่อนครับ เติมพลังการเดินทาง ร้านดังของที่นี่เช่นเคย
ร้าน "กาแฟประชานิยม"
เติมพลังในท้องเรียบร้อย
ก็ไปเติมพลังให้รถกันให้เต็มถังครับ แวะที่ปั้ม ปตท. ซะด้วย
**ขออธิบายเส้นทางครับ ทางดีครับ เป็นการขี่แบบเลาะเขา ขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไป มีหมอก มีรถบรรทุก รถพ่วงวิ่ง รถโดยสาร รถทั่วๆ ไป วิ่งกันเยอะ ต้องระมัดระวัง ครับ**
ขี่กันมาเรื่อยๆ ทำความเร็วได้บ้างไม่ได้บ้าง ช่วงนี้เราไม่เจอแดดเลยนะครับ หนาวๆ เย็นๆ
ก็มาถึงภูคูนตอนประมาณ บ่ายสองโมง ลุยต่อเลยนะครับไม่พักกินข้าวนะครับ(ตอนนั้นลืมจริงๆ ว่าต้องกินข้าวละ)
เป็นตัวเมืองที่เราต้องผ่านเฉยๆ สังเกตุว่าเป็นจุดพักรถ และ ต่อรถไปที่ต่างๆ ของเมืองหลวงพระบางนะครับ
(กาสีอยู่ในเขตเมืองหลวงพระบาง)
เราแวะถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ นะครับ ไม่ได้รีบเร่งอะไรมากมาย เพราะกะเวลาไว้ว่าทันแน่นอน
เจอแสงแดด สวยๆ ขอถ่ายรูปกันนิดนึง ครับ จุดนี้เราเลยกาสี จะเข้าไปทางวังเวียงแล้วนะครับ
สรุปการขี่จาก หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง ระยะเวลา ขี่จริงๆ น่าจะประมาณ 6-7 ชั่วโมง
ต้องหาร้านอาหาร เติมพลังโดยด่วน ควบมื้อกลาง-เย็น รวมๆ กันไป
มื้อนี้เราโดนค่าอาหารไป 220,000 กีบ(เกือบ1พัน บาท)
รอบนี้หาที่พัก ใช้ walk-in ได้มาคืนละ 520 บาท
“MALANY VILLA 1” อยู่ริมถนนใหญ่กลางแยก ตรงข้ามซอย ซากุระบาร์ เดินมาซากุระบาร์ได้ใน 2 นาที
คืนนี้เพื่อนคนนึงขอนอนพัก อีกสามคนก็เช่นเคยครับ ซากุระบาร์ กินนิดๆ เบาๆ เที่ยงคืนกลับห้องนอน
สะบายดี วังเวียง อีกครั้ง
เช้านี้ฟ้าใสมาก อากาศเย็นๆ มีแดด แต่ไม่ร้อนนะครับ
เช้านีเราไปกินกาแฟ กินอาหารเช้า แล้วก็หาข้อมูลสำหรับการทำกิจกรรมที่วังเวียง
จากข้อมูลที่ได้มา วันนี้เราตั้งเป้าไป บลูลากูน1 (เดี๋ยวนี้เห็นว่ามี3ที่แล้ว) กับช่วงบ่ายๆ
เราจะไป Tubing(ลอยห่วงยางที่แม่น้ำซอง)เราไม่ซื้อ One day trip นะครับ เพราะคิดว่าคงไม่เหมาะกับกลุ่มเราเท่าไหร่
รู้สึกราคาประมาณ 650 บาทได้
รถมอไซ ราคา 10,000 กีบ พอดีเราเอารถไปสองคัน ก็เสียค่าข้าม ไป 20,000 กีบ
ดีที่ไม่เอาไปคนละคัน ไม่งั้นต้องจ่าย 40,000 กีบ โชคดีประหยัดไปหน่อยนึง
เสียค่าเข้าไปบลูลากูนอีก คนละ 10,000 กีบ
โอเค สายๆ คนยังไม่เยอะ รีบพุ่งไปเปลี่ยนชุด พร้อมกระโดด น้ำได้ครับ
** ใครว่ายน้ำไม่เป็น มีชูชีพให้เช่านะครับ**
โดดกันอยู่คนละ 3-4 รอบ เล่นน้ำกัน สองชั่วโมง ได้ เพราะเดี๋ยวมีนัดต้องไป Tubing ตอนบ่าย 3 โมง
กลับไปในเมืองพักกินข้าวกลางวัน กันแป๊บนึง ก็พร้อม ทำกิจกรรมต่อ
ภาพตัดไปจุดปล่อย เค้าจะพาเรานั่งรถไปส่งยังจุดที่ปล่อย เรือคายัค กับ Tubing ครับ หลังจากนั้นเราก็จะลอยมาตามแม่น้ำซอง มีบาร์น้ำที่ขายแอลกอฮอล์ อยู่ 2-3 ร้าน นะครับ
ระยะเวลาลอยประมาณ 2-3ชั่วโมง ต้องมีชูชีพใส่ด้วยนะครับ แต่กลุ่ม จขกท ร้านลืมเอาให้ -*-
พี่คนขับบอก น้ำไม่ลึก บางจุดก็ตื้นมาก(อันนี้ก็ถูกของเค้านะครับ แต่จริงๆ ชีวิตเราไม่ควรมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้)
ตอนนั้นมีแค่เล่นกับไม่เล่น สรุปว่าเล่นครับ (อันนี้ไม่แนะนำทำตามนะครับ)
พายเรือคายัค ยังมีคนดูแล**
ก็มีแวะบาร์น้ำ แวะเล่นกับกลุ่ม ที่ลอยมาพร้อมๆ กับกลุ่มเรา ลอยจบตอน 6โมงครึ่งได้ (มึดแล้วจะน่ากลัวนะครับ)
**แนะนำให้เล่นช่วงเช้า มีแดด แต่ปลอดภัยกว่า เพราะตอนกลุ่ม จขกท ลอยมาถึงจุดขึ้น พอดีมีน้องคนนึงที่ลอยมาด้วยกันบอกว่าต้องขึ้นตรงนี้นะ มีลอยเลยไปคนนึงคือ จขกท เอง -*- ซึ่งต้องว่ายทวนน้ำไปขึ้น แพร้านอาหารฝั่งตรงข้ามแล้วเดินข้ามสะพานมา ตอนเย็น ไม่มีคนมาโบกให้เข้าฝั่ง ดีเข้าฝั่งได้ไม่งั้นก็คงลอยไปถึงสะพานข้ามไปบลูลากูนกันเลยทีเดียว **
ขึ้นฝั่งอาบน้ำออกมาหาอะไรกินกันริมน้ำ ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่ขึ้น Tubing เดินข้ามสะพานมา มีร้านอาหารเป็นแพๆ ยึดกับฝั่งริมน้ำอยู่ 3-4 ร้าน จริงๆ ร้านไหนก็เหมือนๆ กันนะครับ ราคาจะบวกไปเพราะเป็นถือริมน้ำครับ
นั่งเม้ามอยกันอยู่ พักนึง ก็ไป ร้านเดิมครับ ซากุระบาร์ คืนนี้คนเกาหลีเยอะมาก ปกตก็เยอะอยู่แล้ว ส่งท้ายคืนสุดท้ายในวังเวียง ก็เหมือนเดิมครับ ร้านปิดถึงกลับ
**ซากุระ ปิด เที่ยงคืนนะครับ ต้องไปอีกร้านแทนนะครับถ้าจะไปต่อ**
ปิดท้ายด้วยการนั่งหน้าร้านซากุระ คุยกับคนท้องถิ่นที่ขาย โรตี แซนวิส ได้รู้เรื่องราวที่นี่อีกพอสมควร
หิวเบาๆ เดินไปกลางซอยมี ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จัดเบาๆ กันไปครับ คนละชาม