รีวิวการขี่มอเตอร์ไซด์ ภายในลาว ในระยะเวลา 6 วัน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์เช่า 4 คน 4 คัน ข้อมูล ณ วันที่ 15/12/2016-20/12/2016
เส้นทาง เวียงจันทร์-วังเวียง-กาสี-หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง-เวียงจันทร์
Route : Vientiane- Vang Vieng-Kasi- Luang Prabang-Phou Khoun-Kasi-Vang Vieng-Vientiane
สไตล์มอเตอร์ไซค์เช่ารายวัน
เริ่มต้นจากการหาข้อมูลการขับขี่ข้ามจากฝั่งประเทศไทย ข้ามไปฝั่งลาว
ปัญหาแรก คือ ผู้ร่วมทริปไม่มีมอไซ ครบทุกคน ไปเช่าขี่มา 2-3 ทริปได้ละ ด้วยเวลาและเงินที่ต้องใช้ คิดว่าไม่คุ้มที่จะเช่าข้ามไป
ด้วยตั๋วเครื่องบินพอจะมีโปรไปกลับกรุงเทพ-อุดร ในราคาประมาณ 1,200 บาท (ตอนแรกกดได้ไปกลับ ไม่ถึง 600 บาท ) เสียดายๆ
เลยคิดว่าทางไปเลือกไปเช่าเอาที่นู่นน่าจะดีกว่า เลยเลือกเส้นทางบินไปอุดร แล้วนั่งรถบัสข้ามไปเวียงจันทร์ จริงๆ ไปวังเวียงเลยก็ได้ แต่มันสบายไป แล้วก็นั่งรถนานเกิน ตั้ง 6-7 ชั่วโมงได้ ขอเลือกขี่ไปเองแล้วได้ดูวิว ดีกว่า(ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าจะหารถมอไซเช่าไปได้ไหม) อุดรเวียงจันทร์ 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ข้ามที่ด่านหนองคาย
ปัญหาที่สองต่อมาคือ เท่าที่ทราบ การเช่าแล้วขี่ข้ามเมือง ไม่มีข้อมูลเคลียร์ชัดเจนเท่าไหร่ ทั้งจากเวียงจันทร์ ที่พอมีบ้าง กับวังเวียง ที่ไม่รู้ว่าเช่าแล้วขี่ข้ามเมืองได้ไหม แล้วจะเช่าได้รถอะไร **ปัญหานี้จบด้วยการช่างแมร่งต้องหารถให้ได้จากเวียงจันทร์ **
สรุปการเดินทางเบื้องต้นคือ นั่งเครื่องจาก กทม ไปอุดร ด้วยไฟลท์ กลางคืน ตื่นเช้าไปซื้อตั๋วรถบัสไปเวียงจันทร์ แล้วหาเช่ามอไซ
ไปหลวงพระบาง โดยคืนแรก จะต้องไปนอนวังเวียงเพราะจองที่พักไว้แล้วจาก Agoda คืนสองไปพลวงพระบาง ด้วยเหตุผลจองที่พักไว้แล้วเช่นกัน แพลนมีแค่นี้จริงๆ หลังจากนั้นแล้วแต่ใจล้วนๆ อยากไปไหน ไปได้จะไป
เราจะเริ่มเดินทางจาก กทม ไป อุดร ด้วย Air Asia ไฟลท์ 19.50 ถึง อุดร 21.00 คืน 14/12/2016
วาปมาที่อุดร เราต้องนั่งรถแท็กซี่เหมาเอา 200 หาร4 ก็คนละ 50 บาท เพื่อนๆ บอกราคาประมาณนี้แหละ กลางคืนไม่มีรถเข้าเมือง คืนแรกเลือกนอนที่โรงแรม ศรีตระการ อยู่ตรงข้ามกับขนส่งเลยครับ ราคาคืนละ 400 ต่อห้อง
**อธิบายนิดนึง ขนส่งหรืออาเขตอุดร จะอยู่กลางในเมืองใกล้เซ็นทรัล สามารถเดินไป UD Town ได้**
ช่วง night life ที่อุดร ก่อนไปก็ขอแวะไปหาข้าวกินจิบเบียร์ คุยเรื่องทริป อีกนิดนึง ซึ่ง ปรากฎ ไม่ได้คุย เพราะเจอเพื่อนที่มาทำงานที่อุดร เลยจบที่การจิบเบียร์เพลินๆ คุยเรื่องอื่นๆ แทน กลับห้อง ตี2ครึ่ง -*- ตามรูปด้านล่างโรงแรมอยู่ตรงข้ามกับขนส่งเลยไม่กังวล
ตื่น 6โมง เดินข้ามมาซื้อตั๋วรถบัส จุดนี้ต้องเอาพาสปอร์ตไปซื้อด้วยตัวเอง 1ต่อ1 ซื้อแทนกันไม่ได้นะครับ
จขกท เดินวนไปหลายรอบ -*-
เราเลือกเดินทางรอบ 8 โมงตรง ซึ่งเป็นรอบแรก เพื่อจะได้มีเวลาเหลือ ไม่เร่งรีบ แล้วก็เวลาที่จะหาร้านเช่ามอไซ
ค่ารถคนละ 80 บาท นะครับ รถดีแอร์เย็น
แว๊ปเดียวถึงเวียงจันทร์ ตอน 10.30 ได้ เร็วใช้ได้นะ ที่นี่มีเมเจอร์ ด้วยน้าาาาา
ลงรถปุ๊บเท่านั้นแหละ นึกว่าตัวเองเป็นดารา ขึ้นมาทันที คนมารุมห้อมล้อมเยอะมาก พี่น้องชาวลาวต้อนรับอย่างดีด้วยการจะอาสาไปส่งทุกๆที่ด้วย ราคาที่คิดว่าเผลอไปมีหัวแบะ
เราส่ายหัวทุกๆ คนที่เข้ามา ไปตั้งหลักด้วยการหาซื้อซิมลาวมาใช้งาน
ตอนนี้ได้เพื่อนสาวชาวไทย เดินไปหาร้านซื้อซิมด้วยกัน เกาะๆ กลุ่มไว้เพื่อเป็นการต่อรองและป้องกันการโดนหลอก ของสาวๆ ณ จุดนี้ กลุ่มเรา แมนมั๊กกกกกก
เพื่อนร่วมทริป ทุกคนเอาหมวกกันน๊อคมาเอง นะ ครับ เพราะฉะนั้น ค่อนข้าง รุงรังพอสมควร **ข้อแก้ตัวของจขกท**
พอได้ซิมลาว จขกท ก็เห็นแบทหมดไปครึ่งนึงละ จะเอาพาวเวอร์แบงค์ เสียบชาท ปรากฏว่าลืมไว้บนรถแน่ๆ เลย ก็บอกทุกคนๆ ว่าช่างมันละกัน ทันใดนั้นเอง พาสปอร์ทททททททททททท กรู อยู่กับพาวเวอร์แบงค์ hear แล้ว ทำไงดีวะตอนนั้นมีพี่ชาวลาวคนนึงที่เค้าเดินเตาะกลุ่มเรามาตั้งแต่ลงรถ พอบอกพี่เค้า เค้าบอกว่าตามมา เดี๋ยวเค้าอาสาพาตามไปเอง
ทุกคนบอกว่าไปเลยเดี๋ยวเอากระเป๋าไปให้ แล้วจะแจ้งไลน์บอกว่า รออยู่ที่ไหน
เพื่อนคนนึงบอกว่ารถเพิ่งออกไปตอนมันเดินไปเข้าห้องน้ำที่ท่ารถ ซึ่งตอนนั้นมัน 15 นาทีผ่านมาได้แล้ว
วิ่ง ครับ วิ่งงงงง ตื่นเต้นมาก พี่เค้าวิ่งไปเอามอไซ(ตอนแรกนึกว่ารถยนต์) กระโดด ขึ้น ออก
ความเร็วที่ขี่ไปคือ ซ้อนสอง 60-80 ก็เร็วนะครับ แต่อยากจะขอขี่เองซึ่งเราน่าจะขี่เร็วกว่านี้ แต่ก็กลัวเพราะที่นี่วิ่งทางขวา ลุ้นมากๆ
สรุปไปตามได้ที่หน้าด่านของทางลาว(รถแมร่งขับเร็วมากๆ) วิ่งขึ้นรถไปเอาพาสปอร์กับของที่เหน็บไว้ที่หน้าเบาะ
ดีที่จำรถกับคนขับได้ เลยพุ่งไปที่รถเลย
จุดนี้ความสะเพร่าของ จขกท เอง **เพื่อนๆ ระวังด้วยนะครับ เพรารถเค้าจะวนกลับไทยเลย**
ตอนนั่งกลับมา คำนวณว่าจะตอบแทนเค้ากี่บาทดี กะว่าให้ไปสัก 200 บาท ละกัน
พอมาถึงท่ารถจุดเดิม เค้าคิด 200,000 กีบ -*- คำนวณ ด้วยเรท 200,000 หาร 230 = 870 บาทได้ เจ็บมากจุดนี้
เลยให้เค้าไปส่งที่ใกล้โรงแรมลาว ที่เพื่อนๆ เราไปนั่งกินข้าวรอ ค่าอาหารมื้อนั้น 150,000 กีบ ถูกว่าค่ารถอีก
จุดนี้ก็โดนอำกันไปยาวๆ
จุดที่เพื่อนๆ ไปรอก็ใกล้ๆ กับ ร้านให้เช่ามอไซ ตามรีวิวคือเคยอ่านเจอมา(ของ EDT Guide) คือระแวก แคมโขง(ริมแม่น้ำโขง)
ก็ร่ำลากับกลุ่มเพื่อนสาวชาวไทย ซึ่งกลุ่มนี้เห็นว่าไปวังเวียงเหมือนกันแต่คืนแรกเค้านอนที่เวียงจันทร์ คืนสองไปนอนที่วังเวียง
เห็นว่าไม่ไกลประกอบกับอากาศไม่ร้อน ประมาณ 24 องศาได้ เดินเพลินๆ ตาม Google Map ไปถึงร้าน
เห็นสภาพร้านตอนแรกก็อุ่นใจ พอมีรถให้เลือกบ้าง รุ่นใหญ่ก็มี Yamaha XR Baja250 , Honda Pcx, Click, Yamaha Mio MT125 ก็สอบถามการขี่ไปหลวงพระบางเจ้าของร้านบอก สบายมากขี่ไปไหนได้หมด ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ ขี่ข้ามเมืองได้สบายๆ ก็เลยมาว่ากันที่ราคาค่าเช่า Baja ค่าเช่าประมาณ 1,100 บาทต่อวัน(แพงมาก CRF ร้านป๊อบยังแค่ 700บาท) Pcx 500 Click กับ Mio MT125 คันละ 350 บาท
คิดชั่งใจกับราคาอยู่พักใหญ่ ตัวBaja เอง จขกท ยอมรับว่ากังวล กับสภาพรถ เพราะอายุรถค่อนข้างเยอะ กับราคาที่ต่อนข้างจะแพง เช่า 5 วัน ก็ครึ่งหมื่นละ ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่จะต้องเติมอีก
สรุป มาจบที่ Pcx 2คัน Click 1 คัน Mt125 1 คัน
สรุปก็จ่ายค่าเช่ารถกันทั้งหมด 5 วัน เช่าเวลาไหนก็คืนเวลานั้น ตอนนั้นเช่าออกไปช่วง 13.20 ก็คืนเวลานั้นในอีก 5 วันถัดไป เจ้าของร้านบอกเลทได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จ่ายเงินพร้อมกับวางพาสปอร์ท มัดจำไว้เล่มนึง (ค่อนข้างปลอดภัยนะครับ ร้านมีเซฟสำหรับเก็บเอกสาร)
ออกเดินทางได้ตามกำหนดเวลาเป๊ะ บ่าย 3 โมง -*- จากตอนแรกกะไว้ ไม่เกิน บ่าย 2 โมงอย่างช้า เพราะไม่รู้สภาพถนนกับเส้นทางว่าจะเป็นประมาณไหน
เติมน้ำมันเต็มถังก็พร้อมลุย ครับ
ตรงดิ่งยาวๆ ไป วังเวียง
เส้นทางตาม Google Map บอกไว้ประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง (158 กิโลเมตร)
วาปมาอีก ก็ 18.30 ถึง วังเวียง
ขออธิบายสภาพเส้นทางครับ มีช่วงแย่อยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับเลวร้าย ช่วงทำความเร็วได้คือ พ้นจากปั้ม ปตท. (มีกาแฟอเมซอนด้วยนะครับ) หลังจากนั้นซัด ทำความเร็วได้เลย มีผ่านหมู่บ้าน หรือชุมชนบ้าง ผ่านวัว บ้าง ผ่านภูเขา
**ไม่มีอะไรน่ากังวัลเท่าไหร่ครับ สำหรับเส้นทาง เวียงจันทร์-วังเวียง**
แนะนำสำหรับคนไม่เคยขับขี่รถที่ลาว นะครับ
ถนนจะสลับกับบ้านเราที่ไทยคือ วิ่งเลนขวา เพราะฉะนั้น ใครไม่ชิน ต้องระวังให้มากๆ อันตราย เผลอไปวิ่งซ้าย จะบวกกับรถที่วิ่งสวนมาได้นะครับ กับจังหวะการออกจากซอยหรือ การออกตัวของคนที่นี่จะค่อนข้าง ออกมาแล้วเราต้องหลบเองนะครับ -*-
ที่นี่เวลาแซงเค้าจะเว้นระยะห่างเกือบๆ 1 เมตร เพราะฉะนั้น เวลาจะขี่ตีคู่ไปกับชาวบ้าน ทั้งรถยนต์ มอไซ ต้องระวัง จุดนี้ด้วยนะครับ เพราะเค้าจะเบี่ยงออกมาค่อนข้างไกล แล้วอย่าแซงขวานะครับ อันตรายมากๆ จะโดนเบียด ตกถนนได้ หรือ ตกหลุมจากการเบี่ยงหลบได้ กลุ่มเพื่อนๆ จขกท โดนเบียดไปลงหลุม อึกใหญ่ๆ มาสอง รอบ
อีกเรื่องที่ควรระวังคือการแซงสวนข้ามเลนมา ถ้าเค้าแซงแบบนี้มาเราต้องหลบนะครับ ถือว่าเค้าแซงมาก่อน ต้องให้ทางเค้า ครับ ไม่ให้ก็ต้องให้ครับ เพราะ เค้าไม่มีหลบนะครับ โค้งก็เจอมา ทางตรงก็เจอ ขึ้นเขาลงเขาก็เจอ
กลับมาที่วังเวียงตอนช่วงเย็น ร้านอาหารที่นี่ในตัวเมืองวังเวียง เลือกไม่ยากครับ เพราะทุกร้านขายเหมือนๆ กันหมด
โรตี แซนวิซ เบอร์เกอร์ ริมถนน กับ ร้านอาหารอีสานผสมกับอาหารตามสั่ง ชายสี่หมีเกี๊ยวก็มี ร้านอาหารไทย ก็มี(ซอย เดียวกับ ซากุระบาร์)
หลังจากเข้าที่พักเก็บของเก็บกระเป๋า ก็ออกหาร้านอาหาร กินข้าวเติมพลังกันนิดนึง หลังจาก แว๊นมา 3 ชั่วโมงครึ่ง
หลังจากเติมพลัง ก็หาร้านแบบที่ นักท่องเที่ยว(สายกลางคืน) มาวังเวียงต้องไป อันดับแรก ซากุระบาร์ อันดับสอง(มั้ง) Heart beat เลยเลือกไปร้าน อันดับสองก่อน สรุปว่าไปเร็วเกิน ตอนสองทุ่มครึ่งได้ ไม่มีคน จบข่าว กลับ ร้านนี้อยู่นอกเมืองทางไปหลวงพระบาง ออกไปไม่ไกล ไม่ลำบาก ย้อนกลับ
กลับมา ซากุระบาร์ อืมมมมม สมควรมาจริง เกาหลีขาวมากๆ คุ้มค่าๆ
จบวันแรกสนุกๆพรุ่งนี้เจอกันหลวงพระบาง
มาแล้วครับPart2
http://ppantip.com/topic/3596465
[CR] Plan is No Plan ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ที่ลาว 6คืน5วัน Part1
เส้นทาง เวียงจันทร์-วังเวียง-กาสี-หลวงพระบาง-ภูคูน-กาสี-วังเวียง-เวียงจันทร์
Route : Vientiane- Vang Vieng-Kasi- Luang Prabang-Phou Khoun-Kasi-Vang Vieng-Vientiane
สไตล์มอเตอร์ไซค์เช่ารายวัน
เริ่มต้นจากการหาข้อมูลการขับขี่ข้ามจากฝั่งประเทศไทย ข้ามไปฝั่งลาว
ปัญหาแรก คือ ผู้ร่วมทริปไม่มีมอไซ ครบทุกคน ไปเช่าขี่มา 2-3 ทริปได้ละ ด้วยเวลาและเงินที่ต้องใช้ คิดว่าไม่คุ้มที่จะเช่าข้ามไป
ด้วยตั๋วเครื่องบินพอจะมีโปรไปกลับกรุงเทพ-อุดร ในราคาประมาณ 1,200 บาท (ตอนแรกกดได้ไปกลับ ไม่ถึง 600 บาท ) เสียดายๆ
เลยคิดว่าทางไปเลือกไปเช่าเอาที่นู่นน่าจะดีกว่า เลยเลือกเส้นทางบินไปอุดร แล้วนั่งรถบัสข้ามไปเวียงจันทร์ จริงๆ ไปวังเวียงเลยก็ได้ แต่มันสบายไป แล้วก็นั่งรถนานเกิน ตั้ง 6-7 ชั่วโมงได้ ขอเลือกขี่ไปเองแล้วได้ดูวิว ดีกว่า(ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าจะหารถมอไซเช่าไปได้ไหม) อุดรเวียงจันทร์ 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ข้ามที่ด่านหนองคาย
ปัญหาที่สองต่อมาคือ เท่าที่ทราบ การเช่าแล้วขี่ข้ามเมือง ไม่มีข้อมูลเคลียร์ชัดเจนเท่าไหร่ ทั้งจากเวียงจันทร์ ที่พอมีบ้าง กับวังเวียง ที่ไม่รู้ว่าเช่าแล้วขี่ข้ามเมืองได้ไหม แล้วจะเช่าได้รถอะไร **ปัญหานี้จบด้วยการช่างแมร่งต้องหารถให้ได้จากเวียงจันทร์ **
สรุปการเดินทางเบื้องต้นคือ นั่งเครื่องจาก กทม ไปอุดร ด้วยไฟลท์ กลางคืน ตื่นเช้าไปซื้อตั๋วรถบัสไปเวียงจันทร์ แล้วหาเช่ามอไซ
ไปหลวงพระบาง โดยคืนแรก จะต้องไปนอนวังเวียงเพราะจองที่พักไว้แล้วจาก Agoda คืนสองไปพลวงพระบาง ด้วยเหตุผลจองที่พักไว้แล้วเช่นกัน แพลนมีแค่นี้จริงๆ หลังจากนั้นแล้วแต่ใจล้วนๆ อยากไปไหน ไปได้จะไป
เราจะเริ่มเดินทางจาก กทม ไป อุดร ด้วย Air Asia ไฟลท์ 19.50 ถึง อุดร 21.00 คืน 14/12/2016
วาปมาที่อุดร เราต้องนั่งรถแท็กซี่เหมาเอา 200 หาร4 ก็คนละ 50 บาท เพื่อนๆ บอกราคาประมาณนี้แหละ กลางคืนไม่มีรถเข้าเมือง คืนแรกเลือกนอนที่โรงแรม ศรีตระการ อยู่ตรงข้ามกับขนส่งเลยครับ ราคาคืนละ 400 ต่อห้อง
**อธิบายนิดนึง ขนส่งหรืออาเขตอุดร จะอยู่กลางในเมืองใกล้เซ็นทรัล สามารถเดินไป UD Town ได้**
ช่วง night life ที่อุดร ก่อนไปก็ขอแวะไปหาข้าวกินจิบเบียร์ คุยเรื่องทริป อีกนิดนึง ซึ่ง ปรากฎ ไม่ได้คุย เพราะเจอเพื่อนที่มาทำงานที่อุดร เลยจบที่การจิบเบียร์เพลินๆ คุยเรื่องอื่นๆ แทน กลับห้อง ตี2ครึ่ง -*- ตามรูปด้านล่างโรงแรมอยู่ตรงข้ามกับขนส่งเลยไม่กังวล
ตื่น 6โมง เดินข้ามมาซื้อตั๋วรถบัส จุดนี้ต้องเอาพาสปอร์ตไปซื้อด้วยตัวเอง 1ต่อ1 ซื้อแทนกันไม่ได้นะครับ
จขกท เดินวนไปหลายรอบ -*-
เราเลือกเดินทางรอบ 8 โมงตรง ซึ่งเป็นรอบแรก เพื่อจะได้มีเวลาเหลือ ไม่เร่งรีบ แล้วก็เวลาที่จะหาร้านเช่ามอไซ
ค่ารถคนละ 80 บาท นะครับ รถดีแอร์เย็น
แว๊ปเดียวถึงเวียงจันทร์ ตอน 10.30 ได้ เร็วใช้ได้นะ ที่นี่มีเมเจอร์ ด้วยน้าาาาา
ลงรถปุ๊บเท่านั้นแหละ นึกว่าตัวเองเป็นดารา ขึ้นมาทันที คนมารุมห้อมล้อมเยอะมาก พี่น้องชาวลาวต้อนรับอย่างดีด้วยการจะอาสาไปส่งทุกๆที่ด้วย ราคาที่คิดว่าเผลอไปมีหัวแบะ
เราส่ายหัวทุกๆ คนที่เข้ามา ไปตั้งหลักด้วยการหาซื้อซิมลาวมาใช้งาน
ตอนนี้ได้เพื่อนสาวชาวไทย เดินไปหาร้านซื้อซิมด้วยกัน เกาะๆ กลุ่มไว้เพื่อเป็นการต่อรองและป้องกันการโดนหลอก ของสาวๆ ณ จุดนี้ กลุ่มเรา แมนมั๊กกกกกก
เพื่อนร่วมทริป ทุกคนเอาหมวกกันน๊อคมาเอง นะ ครับ เพราะฉะนั้น ค่อนข้าง รุงรังพอสมควร **ข้อแก้ตัวของจขกท**
พอได้ซิมลาว จขกท ก็เห็นแบทหมดไปครึ่งนึงละ จะเอาพาวเวอร์แบงค์ เสียบชาท ปรากฏว่าลืมไว้บนรถแน่ๆ เลย ก็บอกทุกคนๆ ว่าช่างมันละกัน ทันใดนั้นเอง พาสปอร์ทททททททททททท กรู อยู่กับพาวเวอร์แบงค์ hear แล้ว ทำไงดีวะตอนนั้นมีพี่ชาวลาวคนนึงที่เค้าเดินเตาะกลุ่มเรามาตั้งแต่ลงรถ พอบอกพี่เค้า เค้าบอกว่าตามมา เดี๋ยวเค้าอาสาพาตามไปเอง
ทุกคนบอกว่าไปเลยเดี๋ยวเอากระเป๋าไปให้ แล้วจะแจ้งไลน์บอกว่า รออยู่ที่ไหน
เพื่อนคนนึงบอกว่ารถเพิ่งออกไปตอนมันเดินไปเข้าห้องน้ำที่ท่ารถ ซึ่งตอนนั้นมัน 15 นาทีผ่านมาได้แล้ว
วิ่ง ครับ วิ่งงงงง ตื่นเต้นมาก พี่เค้าวิ่งไปเอามอไซ(ตอนแรกนึกว่ารถยนต์) กระโดด ขึ้น ออก
ความเร็วที่ขี่ไปคือ ซ้อนสอง 60-80 ก็เร็วนะครับ แต่อยากจะขอขี่เองซึ่งเราน่าจะขี่เร็วกว่านี้ แต่ก็กลัวเพราะที่นี่วิ่งทางขวา ลุ้นมากๆ
สรุปไปตามได้ที่หน้าด่านของทางลาว(รถแมร่งขับเร็วมากๆ) วิ่งขึ้นรถไปเอาพาสปอร์กับของที่เหน็บไว้ที่หน้าเบาะ
ดีที่จำรถกับคนขับได้ เลยพุ่งไปที่รถเลย
จุดนี้ความสะเพร่าของ จขกท เอง **เพื่อนๆ ระวังด้วยนะครับ เพรารถเค้าจะวนกลับไทยเลย**
ตอนนั่งกลับมา คำนวณว่าจะตอบแทนเค้ากี่บาทดี กะว่าให้ไปสัก 200 บาท ละกัน
พอมาถึงท่ารถจุดเดิม เค้าคิด 200,000 กีบ -*- คำนวณ ด้วยเรท 200,000 หาร 230 = 870 บาทได้ เจ็บมากจุดนี้
เลยให้เค้าไปส่งที่ใกล้โรงแรมลาว ที่เพื่อนๆ เราไปนั่งกินข้าวรอ ค่าอาหารมื้อนั้น 150,000 กีบ ถูกว่าค่ารถอีก
จุดนี้ก็โดนอำกันไปยาวๆ
จุดที่เพื่อนๆ ไปรอก็ใกล้ๆ กับ ร้านให้เช่ามอไซ ตามรีวิวคือเคยอ่านเจอมา(ของ EDT Guide) คือระแวก แคมโขง(ริมแม่น้ำโขง)
ก็ร่ำลากับกลุ่มเพื่อนสาวชาวไทย ซึ่งกลุ่มนี้เห็นว่าไปวังเวียงเหมือนกันแต่คืนแรกเค้านอนที่เวียงจันทร์ คืนสองไปนอนที่วังเวียง
เห็นว่าไม่ไกลประกอบกับอากาศไม่ร้อน ประมาณ 24 องศาได้ เดินเพลินๆ ตาม Google Map ไปถึงร้าน
เห็นสภาพร้านตอนแรกก็อุ่นใจ พอมีรถให้เลือกบ้าง รุ่นใหญ่ก็มี Yamaha XR Baja250 , Honda Pcx, Click, Yamaha Mio MT125 ก็สอบถามการขี่ไปหลวงพระบางเจ้าของร้านบอก สบายมากขี่ไปไหนได้หมด ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ ขี่ข้ามเมืองได้สบายๆ ก็เลยมาว่ากันที่ราคาค่าเช่า Baja ค่าเช่าประมาณ 1,100 บาทต่อวัน(แพงมาก CRF ร้านป๊อบยังแค่ 700บาท) Pcx 500 Click กับ Mio MT125 คันละ 350 บาท
คิดชั่งใจกับราคาอยู่พักใหญ่ ตัวBaja เอง จขกท ยอมรับว่ากังวล กับสภาพรถ เพราะอายุรถค่อนข้างเยอะ กับราคาที่ต่อนข้างจะแพง เช่า 5 วัน ก็ครึ่งหมื่นละ ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่จะต้องเติมอีก
สรุป มาจบที่ Pcx 2คัน Click 1 คัน Mt125 1 คัน
สรุปก็จ่ายค่าเช่ารถกันทั้งหมด 5 วัน เช่าเวลาไหนก็คืนเวลานั้น ตอนนั้นเช่าออกไปช่วง 13.20 ก็คืนเวลานั้นในอีก 5 วันถัดไป เจ้าของร้านบอกเลทได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จ่ายเงินพร้อมกับวางพาสปอร์ท มัดจำไว้เล่มนึง (ค่อนข้างปลอดภัยนะครับ ร้านมีเซฟสำหรับเก็บเอกสาร)
ออกเดินทางได้ตามกำหนดเวลาเป๊ะ บ่าย 3 โมง -*- จากตอนแรกกะไว้ ไม่เกิน บ่าย 2 โมงอย่างช้า เพราะไม่รู้สภาพถนนกับเส้นทางว่าจะเป็นประมาณไหน
เติมน้ำมันเต็มถังก็พร้อมลุย ครับ
ตรงดิ่งยาวๆ ไป วังเวียง
เส้นทางตาม Google Map บอกไว้ประมาณ 3ชั่วโมงครึ่ง (158 กิโลเมตร)
วาปมาอีก ก็ 18.30 ถึง วังเวียง
ขออธิบายสภาพเส้นทางครับ มีช่วงแย่อยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับเลวร้าย ช่วงทำความเร็วได้คือ พ้นจากปั้ม ปตท. (มีกาแฟอเมซอนด้วยนะครับ) หลังจากนั้นซัด ทำความเร็วได้เลย มีผ่านหมู่บ้าน หรือชุมชนบ้าง ผ่านวัว บ้าง ผ่านภูเขา
**ไม่มีอะไรน่ากังวัลเท่าไหร่ครับ สำหรับเส้นทาง เวียงจันทร์-วังเวียง**
แนะนำสำหรับคนไม่เคยขับขี่รถที่ลาว นะครับ
ถนนจะสลับกับบ้านเราที่ไทยคือ วิ่งเลนขวา เพราะฉะนั้น ใครไม่ชิน ต้องระวังให้มากๆ อันตราย เผลอไปวิ่งซ้าย จะบวกกับรถที่วิ่งสวนมาได้นะครับ กับจังหวะการออกจากซอยหรือ การออกตัวของคนที่นี่จะค่อนข้าง ออกมาแล้วเราต้องหลบเองนะครับ -*-
ที่นี่เวลาแซงเค้าจะเว้นระยะห่างเกือบๆ 1 เมตร เพราะฉะนั้น เวลาจะขี่ตีคู่ไปกับชาวบ้าน ทั้งรถยนต์ มอไซ ต้องระวัง จุดนี้ด้วยนะครับ เพราะเค้าจะเบี่ยงออกมาค่อนข้างไกล แล้วอย่าแซงขวานะครับ อันตรายมากๆ จะโดนเบียด ตกถนนได้ หรือ ตกหลุมจากการเบี่ยงหลบได้ กลุ่มเพื่อนๆ จขกท โดนเบียดไปลงหลุม อึกใหญ่ๆ มาสอง รอบ
อีกเรื่องที่ควรระวังคือการแซงสวนข้ามเลนมา ถ้าเค้าแซงแบบนี้มาเราต้องหลบนะครับ ถือว่าเค้าแซงมาก่อน ต้องให้ทางเค้า ครับ ไม่ให้ก็ต้องให้ครับ เพราะ เค้าไม่มีหลบนะครับ โค้งก็เจอมา ทางตรงก็เจอ ขึ้นเขาลงเขาก็เจอ
กลับมาที่วังเวียงตอนช่วงเย็น ร้านอาหารที่นี่ในตัวเมืองวังเวียง เลือกไม่ยากครับ เพราะทุกร้านขายเหมือนๆ กันหมด
โรตี แซนวิซ เบอร์เกอร์ ริมถนน กับ ร้านอาหารอีสานผสมกับอาหารตามสั่ง ชายสี่หมีเกี๊ยวก็มี ร้านอาหารไทย ก็มี(ซอย เดียวกับ ซากุระบาร์)
หลังจากเข้าที่พักเก็บของเก็บกระเป๋า ก็ออกหาร้านอาหาร กินข้าวเติมพลังกันนิดนึง หลังจาก แว๊นมา 3 ชั่วโมงครึ่ง
หลังจากเติมพลัง ก็หาร้านแบบที่ นักท่องเที่ยว(สายกลางคืน) มาวังเวียงต้องไป อันดับแรก ซากุระบาร์ อันดับสอง(มั้ง) Heart beat เลยเลือกไปร้าน อันดับสองก่อน สรุปว่าไปเร็วเกิน ตอนสองทุ่มครึ่งได้ ไม่มีคน จบข่าว กลับ ร้านนี้อยู่นอกเมืองทางไปหลวงพระบาง ออกไปไม่ไกล ไม่ลำบาก ย้อนกลับ
กลับมา ซากุระบาร์ อืมมมมม สมควรมาจริง เกาหลีขาวมากๆ คุ้มค่าๆ
จบวันแรกสนุกๆพรุ่งนี้เจอกันหลวงพระบาง
มาแล้วครับPart2 http://ppantip.com/topic/3596465