พร้อมแล้ว ลุยค่ะ!!
การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจากการที่ Airasia เปิดเส้นทางการบินใหม่ลงเวียงจันทน์โดยตรงไม่ต้องต่อรถจากอุดรเหมือนสมัยก่อน
เราก็สนใจสิค่ะ อยากไปอยู่แร้ว และยิ่งเดินทางสบาย ถึงที่เร็ว ยิ่งชอบ
ช่วงหน้าหนาวอีก กดจองทันทีในราคาโปรโมชั่น...ซึ่งจิงๆแล้วคิดไปคิดมา นี่ราคาโปรแล้วเรอะ 555
แต่ถึงคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วค่ะ กดจอง จ่ายเงินเรียบร้อยไปแร้น ที่เหลือคงต้องเตรียมกระเป๋าพร้อมลุย และไปให้สุด โย่ว!!
สรุป แผนเที่ยววังเวียง-เวียงจันทน์
DAY 1 : ดอนเมือง-เวียงจันทน์-ต่อรถตู้ไปวังเวียง-เวียงธารา
DAY 2 : One Day Trip-บาร์นํ้า-ซากุระบาร์
DAY 3 : Ballon-เวียงจันทน์-จำปาการ์เด้น-เดินตลาด
DAY 4 : Check out-BKK
ถึงแม้ว่าคนลาวจะพูดภาษาคล้ายไทย สื่อสารกันพอรู้เรื่องก็ตาม แต่ก่อนจะไปลาวเราอยากให้ทุกคนโหลดแอ็พฟรี "Laos travel guide" ไปด้วยค่ะ มันจะช่วยเราได้หลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นค่าเงิน ความรู้เกี่ยวกับ สปป.ลาว สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ มีประโยชน์จริงค่ะ (หน้าตาแอ็พจะสีม่วง ที่เขียวว่า Laos ค่ะ)
DAY 1 : เวียงจันทน์-ต่อรถตู้ไปวังเวียง-เวียงธารา
และนี่ก็คือเที่ยวบินของเราค่า ไป-กลับ เวียงจันทน์-กทม. สมาชิกในทริปนี้มี 2 คนค่า
พอถึงสนามบินอัลไต เวียงจันทน์ปุ้ป เราก็จัดการไปแลกเงินและซื้อซิมโทรศัพท์พร้อมอินเตอร์เน็ต (110,000 กีบหรือ 500 บาท) ให้เรียบร้อย
หลังจากนั้นไปติดต่อขึ้นแทกซี่จากสนามบินไปขนส่งสายเหนือค่ะ (ุ66,000 กีบหรือ 300 บาท) ถึงที่หมายซื้อตั๋วกันเสร็จเราก็ไปนั่งรอบนรถตู้พร้อมออกเดินทาง (100,000 กีบ/คน หรือ 435 บาท)
แต่ช้าก่อน...ทุกคนอาจจะคิดว่านั่งเครื่องบินมาลงถึงเวียงจันทน์แล้วจะสบาย ไม่เมื้อยก้นเหมือนนั่งรถตู้จากอุดรมา เพราะถึงแม้เราจะมาลงเวียงจันทน์เรายังต้องนั่งรถตู้ต่อไปที่วังเวียงอีก 4 ชม.ค่ะ!!
สนุกสิค่ะ รถตู้ที่นี่จะไม่เหมือนรถตู้ประเทศเราที่แอร์เย็น มีผ้าม่านปิด มีพื้นที่ให้ยืดแขนยืดขา แต่รถตู้ที่ลาว อยากให้ทุกคนนึกถึงรถไฟเหาะอะค่ะ ยังไงยังงั้นเลย พิชิตทุกหลุม ทุกบ่อ ขับเร็ว แม้ขึ้นเขา และทางโค้ง แดดส่องทั่วถึงทุกที่ พร้อมเพลงหมอลำ เปิดดังครื้นเครง นั่งไปแล้วขำไปค่ะ ใครนอนหลับได้นี่ถือว่าโหดมาก จิงๆ ได้ลงจากรถทีนี่คือสวรรค์อะค่ะ (เหมือนจะพูดเวอร์ไปใช่มั้ยค่ะ แต่มันคือความจิง จิงน้า 5555)
หลังจากนั่งรถตู้เหาะมา 4 ชม. เราก็ถึงที่หมาย "วังเวียง ชั้นมาถึงแร้นนนนน" อากาศดีเลยค่า ที่นี่อากาศจะแตกต่างจาก เวียงจันทน์ อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ เวียงจันทน์จะร้อนจัดเหมือนเมืองไทย ส่วนวังเวียงอากาศก็จะเย็นๆกว่า พอเรามาถึงก็คํ่าแล้วค่ะ ลงรถที่จุด Bus Stop ตรงนี้ และโทรให้ทางโรงแรมนำรถตุ๊กตุ๊กมารับค่ะ (สังเกตง่ายๆคือคนจะลงบริเวณนี้เยอะมากแทบทั้งคัน เราก็ลงตามเค้าค่ะ)
เมื่อถึงโรงแรมแล้วเราไม่รอช้าค่ะโยนกระเป๋าไว้ในห้องแล้วออกมาท่องราตรีพร้อมหาอะไรทานเพราะหิวมากกกกก จึงจ้างให้รถโรงแรมไปรับ-ส่ง เพราะเห็นว่ามันมืดแล้วและยังไม่รู้ทาง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่เที่ยวละ 20,000 กีบหรือ 87 บาท/เที่ยว ค่ะ
มาถึงเมืองลาวต้องข้าวเปียกสิค่ะ โชคดีเจอร้านอร่อยแบบงงๆ (15,000 กีบหรือ 65 บาท) พิกัดอยู่ตรงข้ามวัดค่ะ เปิดเฉพาะตอนเย็นค่ะ เราแนะนำ เพราะถ้าเดินจิงๆร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นพวกอาหารอิตาลี ไม่ก็อาหารตามสั่งค่ะ ตบท้ายด้วยเฉาก๋วยนมสดโกโบริ (10,000 กีบหรือ 44 บาท) พิกัดหน้าวัด คือดีงามค่ะ อันนี้ซื้อตามโต๊ะข้างๆ แต่อร่อยจริงค่ะไม่หวานเกินไป ต้องไปลอง จากนั้นก็เรียกรถมารับกลับรร.พักผ่อน เตรียมตัวสำหรับลุย one day trip ในวันพรุ่งนี้
DAY 2 : ลอดถํ้าห่วงยาง-กินข้าว-พายคายัค-บูลลากูน-บาร์นำ้-ซากุระบาร์
เช้าแล้ว มาดูที่พักของเรากันค่ะ
อาหารเช้าของ "เวียงธารา" มีให้เลือกหลายเมนูค่ะ และสามารถขอเพิ่มได้ด้วย
จากนั้นเราก็รอทัวร์มารับไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ One Day Trip เราซื้อผ่านทางโรงแรมค่ะ (120,000 กีบ/คน หรือ 522 บาท) ความจริงเราอยากแนะนำให้ไปซื้อโปรแกรมทัวร์จากข้างนอกมากกว่าเพราะได้ราคาถูกกว่าและสามารถต่อราคาได้ค่ะ ตอนแรกเราไม่รู้ว่าต้องไปซื้อจากไหน ถึงก็มืดแล้วเลยซื้อผ่านรร.ค่ะ
แต่อยากบอกไว้ก่อนว่า รร.เวียงธารา ตั้งอยู่ในส่วนด้านใน ซึ่งรถทุกคันที่จะผ่านเข้ามา จะต้องเสีนเงินค่าผ่านสะพานทุกครั้ง เนื่องจากเป็นสะพานเอกชน พวกเราจึงต้องเดินไปขึ้นรถกันหน้าประตูทางผ่านค่ะ เพราะทางทัวร์จะได้ไม่ต้องเสียเงินนั่นเอง
พอขึ้นรถทางทัวร์จะเขียนอักษรย่อบนมือเราตามทริปที่เราซื้อค่ะ
Mission 1 "ลอดถํ้า" ด้วยห่วงยาง
เราจะมีพี่เตี้ย เป็นหัวหน้าไกด์ นำทีมเราเที่ยวค่ะ โดยจะสื่อสารกับลูกทัวร์เป็นภาษาอังกฤษกับลาว ซึ่งสมาชิกในทัวร์ก็จะมีทั้ง ไทย ลาว เกาหลี ฝรั่ง ค่ะ
ขอแวะแชะภาพกับสะพานเบาๆ
ทางที่ต้องเข้าไปค่อนข้างลึกเล็กน้อยค่ะ
เมื่อถึงที่ถํ้าแล้ว ไกด์ก็จะแจก ชูชีพ กับไฟฉายคาดหัวให้คนละอัน เมื่อพร้อมแล้วก็หยิบห่วงยาง ลอยตามเชือกเข้าไปในถํ้ากันเลย (จับเชือกกันดีๆนะคะ ไม่งั้นเชือกจะบาดมือกับขาได้) อย่าลืมเตรียมกระเป๋ากันนํ้าไปด้วยนะคะ
ขอแนะนำให้ทุกคนใส่เสื้อแขนยาว ขายาว กัน UV ยิ่งดี และห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด มิงั้นตัวจะเป็น 2 สี เช่นนี้ !! (ขอให้ซูมกันชัดๆ)
หากเทอทุกข์ใจให้ลองเอาเท้าจุ่มนํ้า...555 เย็นๆ สบาย บรรยากาศดี ฟีลแบบไทยๆ เปิดเพลงลาวและเพลงไทย อาหารจะเป็นพวกส้มตำค่ะ ใครไม่กินเผ็ดต้องรีบบอกพนักงานเลยนะคะ ไม่งั้นอาจจะมีแสบท้องทั้งคืน เพราะอาหารเผ็ดมากกกกกกกกก เราสั่งส้มตำ+ลาบหมู+ข้าวเหนียว+เบียลาว รวมแล้ว 100,000 กีบหรือ 435 บาท ค่ะ (ก็แอบแพงน้ะ)
[CR] "กาลครั้งหนึ่ง ณ 'วังเวียง' ถิ่นเมืองลาว 4 วัน 3 คืน" : Balloon over Vang Vieng Laos
แต่ถึงคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วค่ะ กดจอง จ่ายเงินเรียบร้อยไปแร้น ที่เหลือคงต้องเตรียมกระเป๋าพร้อมลุย และไปให้สุด โย่ว!!
DAY 1 : ดอนเมือง-เวียงจันทน์-ต่อรถตู้ไปวังเวียง-เวียงธารา
DAY 2 : One Day Trip-บาร์นํ้า-ซากุระบาร์
DAY 3 : Ballon-เวียงจันทน์-จำปาการ์เด้น-เดินตลาด
DAY 4 : Check out-BKK
DAY 1 : เวียงจันทน์-ต่อรถตู้ไปวังเวียง-เวียงธารา
พอถึงสนามบินอัลไต เวียงจันทน์ปุ้ป เราก็จัดการไปแลกเงินและซื้อซิมโทรศัพท์พร้อมอินเตอร์เน็ต (110,000 กีบหรือ 500 บาท) ให้เรียบร้อย
หลังจากนั้นไปติดต่อขึ้นแทกซี่จากสนามบินไปขนส่งสายเหนือค่ะ (ุ66,000 กีบหรือ 300 บาท) ถึงที่หมายซื้อตั๋วกันเสร็จเราก็ไปนั่งรอบนรถตู้พร้อมออกเดินทาง (100,000 กีบ/คน หรือ 435 บาท)
มาถึงเมืองลาวต้องข้าวเปียกสิค่ะ โชคดีเจอร้านอร่อยแบบงงๆ (15,000 กีบหรือ 65 บาท) พิกัดอยู่ตรงข้ามวัดค่ะ เปิดเฉพาะตอนเย็นค่ะ เราแนะนำ เพราะถ้าเดินจิงๆร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นพวกอาหารอิตาลี ไม่ก็อาหารตามสั่งค่ะ ตบท้ายด้วยเฉาก๋วยนมสดโกโบริ (10,000 กีบหรือ 44 บาท) พิกัดหน้าวัด คือดีงามค่ะ อันนี้ซื้อตามโต๊ะข้างๆ แต่อร่อยจริงค่ะไม่หวานเกินไป ต้องไปลอง จากนั้นก็เรียกรถมารับกลับรร.พักผ่อน เตรียมตัวสำหรับลุย one day trip ในวันพรุ่งนี้
DAY 2 : ลอดถํ้าห่วงยาง-กินข้าว-พายคายัค-บูลลากูน-บาร์นำ้-ซากุระบาร์
อาหารเช้าของ "เวียงธารา" มีให้เลือกหลายเมนูค่ะ และสามารถขอเพิ่มได้ด้วย
Mission 1 "ลอดถํ้า" ด้วยห่วงยาง
ขอแวะแชะภาพกับสะพานเบาๆ
ทางที่ต้องเข้าไปค่อนข้างลึกเล็กน้อยค่ะ
เมื่อถึงที่ถํ้าแล้ว ไกด์ก็จะแจก ชูชีพ กับไฟฉายคาดหัวให้คนละอัน เมื่อพร้อมแล้วก็หยิบห่วงยาง ลอยตามเชือกเข้าไปในถํ้ากันเลย (จับเชือกกันดีๆนะคะ ไม่งั้นเชือกจะบาดมือกับขาได้) อย่าลืมเตรียมกระเป๋ากันนํ้าไปด้วยนะคะ
Mission 2 ไว้พระถํ้าช้าง ทางผ่านตอนขาเดินกลับขึ้นรถค่ะ
่
Mission 4 : บลูลากูน
One Day Trip ณ วังเวียงก็หมดแล้วเสร็จประมาณห้าโมงเย็นค่ะ เอาจริงๆกิจกรรมมีให้เล่นไม่ค่อยเยอะมากเท่าของเมืองไทยเรานะคะ Zipline ก็น่าเล่นแต่มันมีหลายด่านมากเลย กลัวจะหมดวันซะก่อนเลยไม่ได้เล่นค่ะ
หากเทอทุกข์ใจให้ลองเอาเท้าจุ่มนํ้า...555 เย็นๆ สบาย บรรยากาศดี ฟีลแบบไทยๆ เปิดเพลงลาวและเพลงไทย อาหารจะเป็นพวกส้มตำค่ะ ใครไม่กินเผ็ดต้องรีบบอกพนักงานเลยนะคะ ไม่งั้นอาจจะมีแสบท้องทั้งคืน เพราะอาหารเผ็ดมากกกกกกกกก เราสั่งส้มตำ+ลาบหมู+ข้าวเหนียว+เบียลาว รวมแล้ว 100,000 กีบหรือ 435 บาท ค่ะ (ก็แอบแพงน้ะ)