สรุป 3 วิธี ดูผลงานกองทุน
การดูผลงานกองมีวิธีโดยสรุป ที่เอาไปใช้ได้จริงยังไงบ้าง ลองอ่านดูนะ
1. ใช้ค่าตัววัดต่างๆ เพื่อดูผลงานกอง
ที่มักใช้กันจะมีค่า alpha, beta, sharpe ratio
- ค่าอัลฟ่าแปลง่ายๆ เลยคือ ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนนั้นทำได้ดี หรือ มากกว่า ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของตลาดอยู่กี่ %
ค่านี้ยิ่งสูงยิ่งดี
- ค่า beta เป็นตัววัดความเสี่ยงตัวหนึ่งของกองทุนรวมค่า beta เป็นตัวที่บอกว่ากองทุนนั้นผันผวนเปลี่ยนแปลงไปยังไงเมื่อเทียบกับ set index
โดย set index ที่เป็นตัวเทียบมีค่าเท่ากับ 1
ถ้าผันผวนของผลตอบแทนมากค่าเบต้ามาก ผันผวนน้อยค่าเบต้าน้อย
-Sharpe ratio เป็นตัววัดความเสี่ยง เมื่อเทียบกับผลตอบแทนการลงทุน ค่า sharpe ratio ยิ่งสูงยิ่งดี ได้คุ้มเสี่ยง
ซึ่งทั้ง 3 ค่านี้หาได้จากใน morningstarthailand.com พอเข้าไปก็กดเลือก "กองทุนรวม"
Sharpe ratio = 0.53 ค่านี้เราอาจต้องเทียบกับกองอื่นว่าเป็นยังไง ถึงจะเห็นภพชัดขึ้น ถ้ากองอื่นที่เป็นแบบเดียวกันได้ค่านี้ แค่ 0.2 หรือ 0.4
กองที่เราดูอยู่นี้ก็น่าสนใจกว่า
ค่าเบต้า = 0.68 แสดงว่ากองนี้มีความผันผวนน้อยกว่าตลาด
ค่าอัลฟ่า = 7 แสดงว่ากองนี้ได้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด 7%
ถือว่าผลงานกองนี้ดูน่าสนใจ
ถ้าไม่อยากมานั่งแปลผลค่าต่างๆ มีวิธีอื่นไหม ไปดูวิธีที่ 2 กัน
2. เทียบผลงานที่ทำได้แต่ละปีของกองที่เราสนใจ
ให้เทียบผลงานกองกับตัววัดของกองก่อน ดูจากในหนังสือชี้ชวน ผลงานควรดีกว่าตัววัด
หลังจากดูแล้วดีก็เอาไปเทียบกับกองอื่น ใน morningstarthailand.com
อีกช่องเราก็เลือกกองทุนที่เราอยากเทียบลงไป เราก็จะสามารถเทียบกองที่เราสนใจได้
พอเข้ามาหน้าที่เทียบกองทุน เลื่อนๆลงมาจะเห็นผลงานกองแต่ละปี เราก็ลองเทียบกันว่าอันไหนดี
มีวิธีง่ายกว่านี้อีกไหม ในการดูผลงานกอง ไปดูวิธีที่ 3 กัน
3. ดูดาวของมอนิ่งสตาร์
วิธีนี้น่าจะคุ้นมากที่สุด เพราะเขาชอบไว้โฆษณากัน
กองที่ผลงานดีและมีความผันผวนน้อยกว่าจะได้ดาวเยอะกว่า โดยเทียบกับกองลักษณะเดียวกัน มีตั้งแต่ 5 ดาว ไปจนถึง 1 ดาว
สรุป 3 วิธี ดูผลงานกองทุน
1. ใช้ค่าตัววัดต่างๆ เพื่อดูผลงานกอง
2. เทียบผลงานที่ทำได้แต่ละปีของกองที่เราสนใจ
3. ดูดาวของมอนิ่งสตาร์
โดยส่วนตัวใช้ทั้ง 3 วิธีปนๆกัน แต่มักจะเน้นใช้วิธีที่ 2 มากกว่า
เพื่อนๆ ใช้วิธีไหนกันบ้าง ลองคอมเมนต์กันมาดูนะ
www.facebook.com/DoctorWantTime
สรุป 3 วิธี ดูผลงานกองทุน
การดูผลงานกองมีวิธีโดยสรุป ที่เอาไปใช้ได้จริงยังไงบ้าง ลองอ่านดูนะ
1. ใช้ค่าตัววัดต่างๆ เพื่อดูผลงานกอง
ที่มักใช้กันจะมีค่า alpha, beta, sharpe ratio
- ค่าอัลฟ่าแปลง่ายๆ เลยคือ ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนนั้นทำได้ดี หรือ มากกว่า ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของตลาดอยู่กี่ %
ค่านี้ยิ่งสูงยิ่งดี
- ค่า beta เป็นตัววัดความเสี่ยงตัวหนึ่งของกองทุนรวมค่า beta เป็นตัวที่บอกว่ากองทุนนั้นผันผวนเปลี่ยนแปลงไปยังไงเมื่อเทียบกับ set index
โดย set index ที่เป็นตัวเทียบมีค่าเท่ากับ 1
ถ้าผันผวนของผลตอบแทนมากค่าเบต้ามาก ผันผวนน้อยค่าเบต้าน้อย
-Sharpe ratio เป็นตัววัดความเสี่ยง เมื่อเทียบกับผลตอบแทนการลงทุน ค่า sharpe ratio ยิ่งสูงยิ่งดี ได้คุ้มเสี่ยง
ซึ่งทั้ง 3 ค่านี้หาได้จากใน morningstarthailand.com พอเข้าไปก็กดเลือก "กองทุนรวม"
Sharpe ratio = 0.53 ค่านี้เราอาจต้องเทียบกับกองอื่นว่าเป็นยังไง ถึงจะเห็นภพชัดขึ้น ถ้ากองอื่นที่เป็นแบบเดียวกันได้ค่านี้ แค่ 0.2 หรือ 0.4
กองที่เราดูอยู่นี้ก็น่าสนใจกว่า
ค่าเบต้า = 0.68 แสดงว่ากองนี้มีความผันผวนน้อยกว่าตลาด
ค่าอัลฟ่า = 7 แสดงว่ากองนี้ได้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด 7%
ถือว่าผลงานกองนี้ดูน่าสนใจ
ถ้าไม่อยากมานั่งแปลผลค่าต่างๆ มีวิธีอื่นไหม ไปดูวิธีที่ 2 กัน
2. เทียบผลงานที่ทำได้แต่ละปีของกองที่เราสนใจ
ให้เทียบผลงานกองกับตัววัดของกองก่อน ดูจากในหนังสือชี้ชวน ผลงานควรดีกว่าตัววัด
หลังจากดูแล้วดีก็เอาไปเทียบกับกองอื่น ใน morningstarthailand.com
อีกช่องเราก็เลือกกองทุนที่เราอยากเทียบลงไป เราก็จะสามารถเทียบกองที่เราสนใจได้
พอเข้ามาหน้าที่เทียบกองทุน เลื่อนๆลงมาจะเห็นผลงานกองแต่ละปี เราก็ลองเทียบกันว่าอันไหนดี
มีวิธีง่ายกว่านี้อีกไหม ในการดูผลงานกอง ไปดูวิธีที่ 3 กัน
3. ดูดาวของมอนิ่งสตาร์
วิธีนี้น่าจะคุ้นมากที่สุด เพราะเขาชอบไว้โฆษณากัน
กองที่ผลงานดีและมีความผันผวนน้อยกว่าจะได้ดาวเยอะกว่า โดยเทียบกับกองลักษณะเดียวกัน มีตั้งแต่ 5 ดาว ไปจนถึง 1 ดาว
สรุป 3 วิธี ดูผลงานกองทุน
1. ใช้ค่าตัววัดต่างๆ เพื่อดูผลงานกอง
2. เทียบผลงานที่ทำได้แต่ละปีของกองที่เราสนใจ
3. ดูดาวของมอนิ่งสตาร์
โดยส่วนตัวใช้ทั้ง 3 วิธีปนๆกัน แต่มักจะเน้นใช้วิธีที่ 2 มากกว่า
เพื่อนๆ ใช้วิธีไหนกันบ้าง ลองคอมเมนต์กันมาดูนะ
www.facebook.com/DoctorWantTime