จะเกิดอะไรขึ้นหากลุค สกาย์วอล์คเกอร์ และเรย์ อยู่ด้านมืด Part 1

Star Wars Episode 8: The Fall Republic

อันนี้เป็นแฟนฟิคที่ผมแต่งขึ้นเล่นๆนะครับ โดยการอิงเนื้อหาต่อจากเพจ สตาร์วอร์สโฮโลครอนที่นำมาประเด็นหนึ่งมาเล่าเป็นเนื้อเรื่องใหม่ในแบบที่ตัวเองคิดขึ้นซึ่งก็คือ "หากโอบีวันชนะเวเดอร์" ฉะนั้นแล้วหากจะอ่านของผมให้เข้าใจควรวาร์ปไปอ่านโพสนี้ก่อนนะครับเนื่องจากเนื้อหาต่อกีน

https://m.facebook.com/StarWarsHolocron/photos/a.121255611565677.1073741828.121188338239071/171490006542237/?type=3&source=48

อ่านจบแล้วใช่ไหมครับ งั้นมาต่อกันเลย


นับเป็นเวลามืดหม่นอีกครั้งของจักรวาล ในขณะที่กลุ่มต่อต้านกำลังค่อยๆล่มสลาย ฝ่ายจักรวรรดิกลับรุ่งเรืองโชติช่วงอีกครั้ง ความชั่วร้ายเข้าปกคลุมไปทั่วกาแล็คซี่

ณ บนยานสตาร์เดธทรอยเยอร์ซิธลอร์ดหญิงภายใต้เงามืดผู้ยืนหันหลังให้คนดูกำลังมองมาบนดาวที่อยู่ตรงหน้า เบน ตื่นขึ้นมารู้ตัวว่าตนอยู่ในคุกของดาวดวงหนึ่งซึ่งครั้งนึงเคยเป็นดาวแห่งอารายธรรมมาก่อนและ ณ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยผืนทรายและเศษซากปรักหักพังของเมือง เบนสืบทราบภายหลังในขณะที่กำลังถูกนำตัวไปยังที่อื่นว่าที่นี่คือ คอรัสซังค์ เบนมองไปรอบๆสังเกตุเห็นทั้งรถถัง, หุ่น AT-ST รวมถึงพลปืนหลายระดับอีกมากมาย “แค่การเคลื่อนย้ายนักโทษนี่ถึงกับต้องขนาดนี้เลยหรอ” เบนถามนักโทษข้างหลังตน และได้คำตอบกลับมาว่า “เป็นปกติของที่นี่อยู่แล้ว เวลาเคลื่อนย้ายนักโทษจะต้องมีการชิงตัวนักโทษหรือไม่ก็ปล้นสดมขึ้นเป็นธรรมดา แต่เดี๋ยวนายก็ได้เป็นอิสระแล้วเพราะฉันไม่เคยเห็นพวกนี้ยิงใครโดนเลย” พูดเร็จยังไม่ทันขาดคำการชิงตัวนักโทษก็เกิดขึ้น ทุกอย่างชุลมุนวุ่นวายไปหมด หญิงสาวภายใต้ฮู๊ดวิ่งมาที่เบ็น “นายอยากกลับบ้านไหม”
พร้อมทั้งฉุดตัวเบนไปทันที หญิงคนนี้ดูเก่งผิดปกติเหมือนไม่ใช่ชาวบ้านบนดาวนี้ ทั้งคู่วิ่งมาถึงบนยานและหนีออกจากดาวได้สำเร็จ

เบ็นงงเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก “ฉันมาที่นี่เพราะมีคนขอร้องให้มา” หญิงคนนั้นพูดและได้เปิดเผยใบหน้าภายใต้ฮู๊ดออกมาพร้อมพูดว่า “ฉันอโซก้า ทาโน่ อัศวินเจได เอิ่ม..หมายถึงเคยเป็นน่ะ” ระหว่างการเดินทางอโซก้าเปิดโฮโลแกรมของเลอาให้เบ็นดู ซึ่งบอกถึงตำแหน่งที่ตั้ง, จุดอ่อนและวิธีทำลายฐานใหญ่ของจักรวรรดิ ซึ่งถ้าทำสำเร็จจะตัดกำลังฝ่ายจักรวรรดิได้ถึง 60% เลยทีเดียว แน่นอนว่ากบฏได้กำลังเตรียมการตามแผนที่เลอาวางไว้อยู่ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว “แล้วจะรออะไรอีกล่ะ จัดการเลยสิ” เบนพูดอย่างมั่นใจแต่ก็โดนอโซก้าขัดไว้ว่า “ถ้าทุกอย่างมันง่าย ฉันจะเสี่ยงตายมาหานายทำไมล่ะ” อโซก้านั้นจะฝึกเบ็นให้เป็นเจได “ไม่ๆ ผมพร้อมแล้ว แม่ผมสอนผมมาทุกอย่างแล้ว” อโซก้าถึงกับชักไลท์เซเบอร์ขึ้นมาดวลกับเบนทันที “นี้น่ะหรือ คำว่าพร้อมของเจ้า” เบนแพ้ยับจากนั้นการฝึกเจไดจึงเริ่มต้นขึ้น ทั้งคู่นำยานมาลงที่ดาว KLUE (คลู) ดาวเคราะห์แสนไกลที่ถูกลบออกจากแผนที่และการเป็นดาวบริวาร เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมพัสถึงพลังของซิธลอร์ดแห่งฝ่ายจักรวรรดิ

การฝึกเจไดแบบตัวต่อตัวของเบนกับอโซก้าเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งมีการติดต่อมาจากกบฏ "นายพลอโซก้าครับ พวกเราเตรียมการพร้อมแล้ว ทางนั้นล่ะเป็นไงบ้าง" นายเบ็นมาเห็นเข้าพอดี “ถ้าคุณรอผมพร้อมคงต้องรอให้พวกกบฏตายกันก่อน ถึงเวลาฝึกภาคปฏิบัติจริงๆแล้ว” อโซก้ายิ้มพร้อมตอบไปว่า “รอซักครู่นายพล เรากำลังจะไป”

บัดนี้กลุ่มกบฏได้มารวมตัวกันเหนือดาวที่ตั้งฐานใหญ่ของจักวรรดิแล้ว “พ่อผมเคยเล่าให้ฟังว่าเคยเข้าไปนอนในท้องของตวนตวนมาแล้ว” ทุกคนบนห้องประชุมถึงกับหันมามองที่เบน “อะไรก็ที่ดาวนี้แหล่ะ” อโซก้ามองแรงมาที่เบนหลังนายเบนพูด “เอาหล่ะๆทุกคน ฟังทางนี้” นายพลทวนแผนอีกที โดยแผนคือการเร่งความร้อนของเตาปฏิกรณ์ที่แจกจ่ายพลังงานให้กับฐานทัพขนาดใหญ่นี้ให้สูงที่สุดเพื่อให้เกิดการระเบิด ซึ่งมีอณุภาคมากพอจะทำลายดาวทั้งดาวได้เลย แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเพราะขึ้นชื่อว่าฐานทัพใหญ่แล้ว กองทหารบนดาวแตะหลักแสนแน่แค่คิดจะเข้าไปในดาวก็เหมือนไปฆ่าตัวตายแล้ว จากนั้นนายพลจึงพูดปลุกใจทหารอยู่ซักพัพ ก่อนที่จะเกิดเสียงร้องเฮดังสนั่น “เอาหล่ะ ลุยยยย!”

อโซก้ากับเบ็นอาสาจะไปเร่งเครื่องปฏิกรณ์ให้เพราะการฝ่าเข้าไปให้ถึงจุดนั้นมันยากเกินกว่าที่ฝีมือคนธรรมดาจะเจาะเข้าไปได้ ว่าแล้วทั้งคู่กับกองหนุนซึ่งเป็นทหารอีก 5-7 คนก็ได้บุกฝ่าดงกระสุนเลเซอร์เข้าไปจนถึงหน้าประตูห้องที่เป็นตำแหน่งของเตาปฏิกรณ์ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปเบ็นถึงกับตลึงเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าตนก็คือเรย์ ซึ่งบัดนี้ใบหน้าของเรย์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ความเย็นชา และแววตาสีแดงฉานซึ่งแสดงถึงความโหดเหี้ยมได้เป็นอย่างดี “พลังสถิตแรงในตัวนาง” อโซก้าพูดพร้อมทั้งอาสาจะสู้กับเรย์ให้แต่สู้ได้ไม่นานก็พลาดท่าถูกสายฟ้าเข้าเต็มๆจนสลบ เบ็นหยิบไลท์เซเบอร์ขึ้นมาดวลกับเรย์แน่นอนว่าเบ็นฝีมือเทียบเรย์ไม่ติดเลย เบ็นพยามดึงให้เรย์กลับเข้าสู่ด้านสว่างแต่สิ่งที่เรย์พูดมากับมีแค่ “ไอ้จอมหลอกลวง! แกมันไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว ทั้งหมดมันก็เพราะแกนั่นแหล่ะ ทั้งฉันทั้งฟินน์ ทั้งหมดมันเป็นเพราะแก ไอ้โสโครก!” เรย์ฟันดาบลงไปที่แขนของเบ็นจนขาดสบั้น ก่อนที่จะง้างดาบพร้อมฆ่าเบ็นแต่ก็ถูกอโซก้าขวางเอาไว้ หนำซ้ำอโซก้ายังเร่งพลังงานปฏิกรณ์ได้สำเร็จแล้วด้วย ในขณะที่เรย์หันไปสนใจเครื่องปฏิกรณ์ อโซก้าใช้โอกาสนี้หนีออกมาข้างนอกได้ แม้ภารกิจนี้จะสำเร็จแต่กองกำลังกบฏที่รอดกลับมาได้ก็น้อยเพียงแค่หยิบมือ ดาวโฮธระเบิดในที่สุด

ณ ยานของฝ่ายกบฏ เบ็นได้รักษาตัวในอ่างแช่ รวมถึงได้แขนเทียมสุดล้ำ และได้เตรียมตัวจะเดินทางไปกับอโซก้าอีกครั้ง เพราะจักวรรดิได้ประกาศค่าหัวของพวกเขาทั้ง 2 ไปทั่วจักรวาลแล้ว ฝ่ายกบฏเองก็เช่นกัน บ้างก็โดนออกค้าหัวบ้าง บ้างก็ไม่โดน กลุ่มกบฏที่เหลือเพียงหยิบมือได้แยกย้ายกันไปทั่วกาแล็คซี่เพื่อหลบซ่อนตัวจากจักรวรรดิ “พวกเราล้มเหลวอโซก้า ไม่มีกลุ่มกบฏอีกแล้ว” นายพลพูดด้วยสีหน้าที่สิ้นหวัง “แต่เรามีเจได” อโซก้าตอบพร้อมยิ้ม ก่อนที่จะแยกทางกับนายพลและนั่งยานไปกับเบ็น “อโซก้า ผมสัมพัสได้ เธอยังอยู่” เบ็นพูดขึ้นมา จบ…………..


เป็นอย่างไรบ้างครับ ถ้าชอบไม่ชอบ ไม่ถูกใจอะไรตรงไหนสามารรถติชมเข้ามาได้เลยนะครับ ถ้าชอบก็อย่าลืมแชร์บอกต่อเพื่อนๆด้วยว่าแฟนฟิคสตาร์วอร์สไม่ได้มีแค่ในต่างประเทศอย่างเดียว และแน่นอนว่าวันหลังพวกเราจะคลอดแฟนฟิค EPISODE 9 ออกมาให้ตามกำหนดซึ่งก็คืออาทิตย์หน้านั่นเองครับ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลถ้าชอบผลงานแฟนฟิคนี้ก็อย่าลืมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพจหนังเล็กๆยอดไลค์หลักพันอย่าง 'กูไม่กินป๊อปคอร์น' ด้วยครับ https://m.facebook.com/profile.php?id=894162834026906
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่