ใช้เวลาเดินทางจากในเมืองประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึงท่าเรือ  ที่ท่าเรือจะมีบ้านคนที่รับฝากรถหลายแห่ง  เราก็เลือกที่ฝากที่ใกล้มากที่สุดราคาก็จะอยู่ที่ 60 บาทต่อคันต่อคืนทุกที่
       หลังจากนั้นก็สะพายเป้กันคนละใบสองใบเพื่อเดินทางลงเรือกัน  ทางเดินไปท่าเรือก็ประมาณไม่เกิน 200 เมตร เดินสบายๆถ้าแดดไม่ร้อนจัดขนาดนี้555
เอาล่ะ เตรียมตัวขึ้นเรือ  แก๊งค์ผ้าขาวม้าเริ่มทำงานกันแล้ว  ขอบอกว่าการลงเกาะควรพกพาผ้าขาวม้ามาอย่างน้อยหนึ่งผืน  เพราะคุณจะรู้เลยว่ามันเป็นผ้าสารพัดประโยชน์จริงๆ  ไม่ว่าจะบังแดด  กันคลื่นซัด  เช็ดมือ  เช็ดปาก  ทำได้หมดถ้าสดชื่นค่ะ!!!
ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการนั่งเรือก็จะถึงเกาะสุกร  ค่าเรือคนละ 40 บาท  ถ้าเหมาลำก็ 240 บาทขาดตัว ยานพาหนะที่รอนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายอยู่นั่นก็คือ รถซาเล้ง(มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง)
นี่ไง  มาถึงแล้ว  เกาะสุกรโฮมสเตย์ที่เราจะพักคืนนี้
เมื่อเอาข้าวของเก็บไว้ที่โฮมสเตย์เรียบร้อย  เราก็เริ่มหิวกันละ   ซึ่งใกล้ๆกับที่พักของเราก็มีร้านอาหารตามสั่งและร้านชาชักอยู่แถวนั้นพอดี  
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางไปทำภารกิจแรก  นั่นก็คือการไปช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว  อ้าว  แล้วแปลงไหนล่ะที่เค้าเกี่ยวข้าวกัน  เพราะแต่ละแปลงเค้าก็มีเวลาเกี่ยวข้าวไม่เหมือนกัน  ปฏิบัติการตามล่านาจึงเกิดขึ้น
ในระหว่างหาแปลงนาก็ถ่ายไปเรื่อย  นาบ้าง  นกบ้าง  ควายบ้าง
ระหว่างทางก็จะเห็นชาวบ้านที่เค้าเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว เอาข้าวมานวดกับเครื่องนวดข้าวเคลื่อนที่แบบนี้อยู่เป็นระยะๆ
และแล้วเราก็เจอนาข้าวแปลงที่เค้ากำลังเกี่ยวข้าวอยู่พอดี  จัดการเลยสิ  รออะไรล่ะคะ
เกี่ยวข้าวไม่ยากอย่างที่คิด  เอ้า ฟันฉึบๆ
หลังจากภารกิจแรกเสร็จสิ้น  ขอบอกว่าทั้งสนุกและทั้งเหนื่อย  เพราะแดดมันร้อนจัดมากจริงๆ  เหงื่อไหลไคลย้อยกันไปหมด  ผ้าขาวม้าช่วยท่านได้  ทั้งกันแดดและเช็ดเหงื่อ
ภารกิจต่อไปของเราคือการไปเก็บแตงโม  เก็บทำไมน่ะเหรอ  ก็เก็บมากินนี่แหละค่ะ555  เพราะแตงโมบนเกาะสุกรนี่ขึ้นชื่อเรื่องความหวานกรอบมากๆ เราสามารถเดินไปเลือกเองเก็บเอง  ปอกเอง  กินเอง  และจ่ายเงินเองได้เลย (ใช่สิ  ใครจะจ่ายให้ล่ะ)
ขอบอกว่าอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ
หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจที่ 2 ก็ปาเข้าไปบ่ายแก่ๆละ  เราจึงเดินทางกลับที่พักเพื่ออาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น  เพื่อเตรียมตัวรับประทานอาหารเย็นริมหาดที่ทางเจ้าถิ่นเค้าจัดไว้ให้ค่ะ
นี่ค่ะ  หน้าตาอาหารของค่ำคืนนี้  มีเมนูปลาแกะแดะทอด  น้ำพริกกะปิ  ผักลวก-สด  ที่เห็นดำๆนั่นคือผัดหมึกดำเมนูขึ้นชื่อของที่นี่อีกอย่างหนึ่ง  ที่แปลกที่สุดสำหรับเราคือ  ยำแตงโมซึ่งตามลักษณะน่าจะเรียกน้ำพริกแตงโม  คือเค้าเอาแตงโมสุกๆเนี่ยแหละมาขูดๆแล้วก็เอามายำปรุงรส(ซึ่งอันนี้ไม่คุ้นลิ้นจริงๆ555)
ตื่นเช้ามาเดินออกไปดูทะเลเล็กน้อย  ทางเดินลงชายหาดอันนี้อยู่หน้าโฮมสเตย์เราเลย
อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เติมพลังกันด้วยอาหารเช้าสไตล์คนเกาะสุกร  ข้าวหมกไก่เนี่ยแหละ  อร่อยฉุดๆ
อิ่มแล้วก็ขอเดินย่อยซักแปบก่อนไปกันต่อ
ไปกันต่อเลย  จุดหมายต่อไปของเราคือจะไปเรียนการเย็บจากทำหลังคาบ้านจากชาวบ้านค่ะ
ยังไม่ทันได้เรียนเลย  ทีมงานเรานอนเอาแรงก่อนละ
เย็บจากต้องเย็บตอนมันสดๆเขียวๆนะคะ  พอมันแห้งใบจะกรอบเย็บไม่ได้
จากที่แห้งพร้อมขาย  ตับละ 8 บาท (พี่เค้าบอกนี่ขึ้นราคาแล้วนะ)
พี่เค้าเริ่มสาธิตให้เราดูก่อนหลังจากนั้นก็ค่อยๆสอนเราจนเราทำได้  เอาไว้ไปเย็บจากทำหลังคาขนำน้อยกลางนากันนะจ๊ะ
เสร็จสิ้นภารกิจแรกของวันนี้เราก็ต่อกันที่กิจกรรมไฮไลท์อีกอย่างนึงของเราเลย  คือการไปดูพี่ๆชาวประมงเค้าวางอวนและยกอวนกุ้ง  ซึ่งเราจะต้องนั่งเรือออกจากคุ้งน้ำเล็กๆเพื่อออกทะเลใหญ่กัน
ทางเดินขึ้นเรือช่างเร้าใจ  สะพานไม้ไผ่ผุบ้างไม่ผุบ้าง  ตื่นเต้นนนนน
ออกจากคุ้งน้ำเล็กๆที่ชาวบ้านจอดเรือไว้หลบพายุ
เริ่มออกทะเลกันละ
เจอแล้วเป้าหมายของเรา
พอดีลำนี้พี่เค้าวางอวนไว้แล้ว  รอเวลายกอวนขึ้นมาดูว่าจะได้กุ้งกี่ตัว
ในระหว่างที่พี่เค้าแกะกุ้งจากอวน  จะเห็นนกบินวนรอบๆ  ถามพี่เค้าว่าเพราะอะไร  พี่เค้าว่าเพราะที่อวนจะติดปลาเล็กๆมาด้วยซึ่งเราจะไม่เก็บไว้คือจะทิ้งลงทะเล  จังหวะนั้นพี่นกแกก็จะมาโฉบเอาไปกินกันหน้าตาเฉยเลยทีเดียว
หลังจากที่พี่เค้าแกะกุ้งออกจากอวนหมดแล้ว  พากเราก็ยุยงส่งเสริมให้พี่แกวางอวนใหม่อีกรอบ (เหมือนจะหวังดีอยากให้พี่เค้าได้กุ้งเพิ่ม  แต่จริงๆคืออยากได้ภาพตอนวางอวน555)พี่เค้าก็ว่าง่าย  จัดการวางอวนตามคำยุยงของเรา
หลังจากเราได้ภาพการวางอวนเป็นที่เรียบร้อย  ก็ถึงเวลาล่ำลาบ๊ายบายกันตามธรรมเนียม

ระหว่างทางกลับเข้าท่า  เห็นเค้าขนแตงโมจากเกาะสุกรขึ้นเรือเพื่อไปขายในมืองด้วย
กลับขึ้นมาก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงพอดี  เราเลยอาศัยบ้านคุณป้าท่านนึงนั่งรอบ้านจริงที่เค้าจะทำกับข้าวให้เรากิน
นี่ไงบ้านที่เค้ากำลังทำกับข้าวให้เรา  ตอนนี้พี่เค้ากำลังย่างกุ้งให้พวกเราอยู่
อาหารเที่ยงวันนี้  ประกอบไปด้วย  กุ้งย่าง  ปลาทอด  น้ำพริกกะปิ  ผักสด  
หลังจากกินอาหารเที่ยงกันเสร็จเรียบร้อย  เราก็จะกลับโฮมสเตย์เพื่ออาบน้ำอาบท่ากัน(เมื่อเช้าไม่ได้อาบ555)ระหว่างทางเจอบ้านน่ารักด้วย
หลังจากอาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อยเรากะว่าจะขึ้นเรือกลับเข้าในเมืองเลย  แต่ท้องมันดันเรียกร้องว่าขอเติมพลังก่อนขึ้นเรืออีกซักนิด ขนมจีนที่ใช้เส้นหมี่สีชมพูแล้วราดด้วยน้ำยากะทิเป็นที่นิยมของชาวบ้านมาก

อิ่มหนำสำราญกันแล้วก็นั่งซาเล้งไปท่าเรือเพื่อกลับเข้าตัวเมืองค่ะ
เรากลับมาถึงตัวเมืองค่อนข้างเย็นแล้ว  เราเข้าพักกันที่โรงแรมศรีสมบูรณ์  โรงแรมเค้าสวยทีเดียวเป็นสไตล์จีนๆ
หน้าโรงแรมดีมากมีของกินเต็มเลย
วันรุ่งขึ้นตื่นมาเพื่อเดินทางไปสนามบิน  แวะถ่ายรูปกับ street art ข้างตึกโรงแรมซักนิด
จบละค่ะ ทริป3วัน2คืนที่ตรัง  กะว่าคราวหน้าจะเที่ยวในเมืองตรังและจะนำมารีวิวให้เพื่อนดูกันอีกนะคะ บ๊าย บาย