http://www.naewna.com/local/251308
ดีเอสไอ-ปปง.ขยายผลคดีปล่อยกู้โหด จ่อเรียกสอบอดีตนักการเมืองหญิงชื่อดังที่พบหลักฐานโอนเงิน 46 ล้านเข้าบัญชี “เสี่ยวิชัย” สงสัยเป็นกลุ่มนายทุน เผยถ้าแจงที่มาไม่ได้จะถูกตั้งข้อหาฟอกเงินและควบคุมตัวทันที “ดุษฎี” ยันไม่ให้เสี่ยวิชัยประกันตัว
เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ในคดีแก๊งขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ของนายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ยังหลบหนี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ ตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
พ.ต.อ.ดุษฎี แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้หารือถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับของกลางที่ได้จากการเข้าตรวจค้นและยึดได้นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะพบข้อพิรุธของที่มาทรัพย์สินของกลางจำนวนมาก โดยคณะพนักงานสอบสวนได้มีการแบ่งหน้าที่การตรวจสอบข้อมูลเครือข่าย รวมถึงตรวจสอบบุคคลที่เป็นนายทุนสนับสนุนที่อยู่นอกเหนือจากนายวิชัย ปั้นงาม
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นพบว่ามี 2-3 คนที่เข้าข่ายเป็นนายทุนสนับสนุนนายวิชัย โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตนักการเมืองหญิงรายหนึ่ง ที่มีการโอนเงิน 46.6 ล้านบาท เข้าไปยังบัญชีของนายวิชัย โดยเราตรวจสอบพบความผิดปกติมาตั้งแต่ปี 2558 หากพบหลักฐานก็จะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
“หากวิเคราะห์พบธุรกรรมที่ทำผิดกฎหมาย ก็จะให้ผู้ที่ปรากฏชื่อธุรกรรมที่น่าสงสัยดังกล่าวจะเรียกเข้ามาสอบถามเพื่อเปิดโอกาสให้เข้าชี้แจงข้อมูล ถ้าชี้แจงไม่ได้ทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและจะถูกควบคุมตัวทันที”พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าว
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องสงสัยรายอื่นคาดว่าจะยังอยู่ในประเทศไทย และหากตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความความผิดจริงในฐานฟอกเงินทาง ปปง. ก็จะเรียกตัวเข้ามาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินดังกล่าว ถ้าไม่สามารถขี้แจงได้ก็จะมีความผิดในข้อหาฟอกเงิน สำหรับนายวิชัย พนักงานสอบสวนจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีการฟอกเงิน ร่วมกับข้อหาเดิมคือ อั้งยี่ ซ่องโจร และความผิดตาม พ.ร.บ.เงินกู้
ทั้งนี้หากนายวิชัยมอบตัวนั้นที่ประชุมมีมติว่าจะไม่ให้นายวิชัยได้รับการประกันตัว เพราะคดีดังกล่าวกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ ส่วนรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้กว่า1,000 คนนั้น ทางดีเอสไอได้ส่งรายชื่อเบื้องต้น 165 คนให้กับนายสุวพันธุ์ ตันยุววรรธนะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)แล้ว
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะต้องคัดกรองรายชื่อของข้าราชการที่เหลือมาตรวจสอบอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีแรงกดดันในการทำงานจากฝ่ายอื่น ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.เป็นของกลางในการกระทำความผิด เช่น จักรยานยนต์ รถยนต์ และ2.ทรัพย์สินอื่นที่ได้มาจากการฟอกเงินก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงการมอบตัวของนายวิชัยนั้น พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้กังวลว่าจะได้ตัวนายวิชัยหรือไม่ เพราะได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดอายัดทรัพย์สินหลายรายการแล้ว ซึ่งสามารถทำเรื่องขออายัดตัวจากประเทศกัมพูชา แต่ที่กังวลคือห่วงขบวนการแก๊งหมวกกันน็อคที่อาจจะทำร้ายลูกหนี้กว่า 170,000 คนที่เหลืออยู่ ซึ่งกระทรวงจะต้องเร่งกวาดล้างขบวนการแก๊งหมวกกันน็อคให้เร็วที่สุด
ขณะที่มีรายงานว่า สำหรับอดีตนักการเมืองหญิงชื่อดังที่มีการพบหลักฐานทางธุรกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยครั้งนี้ ว่ากันว่าถ้ามีการเปิดเผยชื่อออกมาเมื่อไหร่รับรองว่าเป็น
”บิ๊กเซอร์ไพรส์”อย่างแน่นอน เนื่องจากเคยมีบทบาทสำคัญโดดเด่นทั้งในทางการเมืองและทางสังคม
************************************************************************
อีกไม่นาน คงได้รู้กัน แต่ตอนนี้ก็ยังสงสัยว่าเธอเป็นใคร ????
ติดตามต่อไป ด้วยใจระทึก
"ใคร" "Who" ”บิ๊กเซอร์ไพรส์” ???????????? (โจ ขิง)
ดีเอสไอ-ปปง.ขยายผลคดีปล่อยกู้โหด จ่อเรียกสอบอดีตนักการเมืองหญิงชื่อดังที่พบหลักฐานโอนเงิน 46 ล้านเข้าบัญชี “เสี่ยวิชัย” สงสัยเป็นกลุ่มนายทุน เผยถ้าแจงที่มาไม่ได้จะถูกตั้งข้อหาฟอกเงินและควบคุมตัวทันที “ดุษฎี” ยันไม่ให้เสี่ยวิชัยประกันตัว
เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ในคดีแก๊งขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ของนายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ยังหลบหนี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ ตัวแทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกองข่าวกรองทางการเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
พ.ต.อ.ดุษฎี แถลงภายหลังการประชุมว่า ได้หารือถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับของกลางที่ได้จากการเข้าตรวจค้นและยึดได้นั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะพบข้อพิรุธของที่มาทรัพย์สินของกลางจำนวนมาก โดยคณะพนักงานสอบสวนได้มีการแบ่งหน้าที่การตรวจสอบข้อมูลเครือข่าย รวมถึงตรวจสอบบุคคลที่เป็นนายทุนสนับสนุนที่อยู่นอกเหนือจากนายวิชัย ปั้นงาม
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นพบว่ามี 2-3 คนที่เข้าข่ายเป็นนายทุนสนับสนุนนายวิชัย โดยหนึ่งในนั้นคืออดีตนักการเมืองหญิงรายหนึ่ง ที่มีการโอนเงิน 46.6 ล้านบาท เข้าไปยังบัญชีของนายวิชัย โดยเราตรวจสอบพบความผิดปกติมาตั้งแต่ปี 2558 หากพบหลักฐานก็จะประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป
“หากวิเคราะห์พบธุรกรรมที่ทำผิดกฎหมาย ก็จะให้ผู้ที่ปรากฏชื่อธุรกรรมที่น่าสงสัยดังกล่าวจะเรียกเข้ามาสอบถามเพื่อเปิดโอกาสให้เข้าชี้แจงข้อมูล ถ้าชี้แจงไม่ได้ทางพนักงานสอบสวนก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและจะถูกควบคุมตัวทันที”พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าว
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องสงสัยรายอื่นคาดว่าจะยังอยู่ในประเทศไทย และหากตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีความความผิดจริงในฐานฟอกเงินทาง ปปง. ก็จะเรียกตัวเข้ามาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินดังกล่าว ถ้าไม่สามารถขี้แจงได้ก็จะมีความผิดในข้อหาฟอกเงิน สำหรับนายวิชัย พนักงานสอบสวนจะต้องมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีการฟอกเงิน ร่วมกับข้อหาเดิมคือ อั้งยี่ ซ่องโจร และความผิดตาม พ.ร.บ.เงินกู้
ทั้งนี้หากนายวิชัยมอบตัวนั้นที่ประชุมมีมติว่าจะไม่ให้นายวิชัยได้รับการประกันตัว เพราะคดีดังกล่าวกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ ส่วนรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้กว่า1,000 คนนั้น ทางดีเอสไอได้ส่งรายชื่อเบื้องต้น 165 คนให้กับนายสุวพันธุ์ ตันยุววรรธนะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)แล้ว
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะต้องคัดกรองรายชื่อของข้าราชการที่เหลือมาตรวจสอบอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีแรงกดดันในการทำงานจากฝ่ายอื่น ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.เป็นของกลางในการกระทำความผิด เช่น จักรยานยนต์ รถยนต์ และ2.ทรัพย์สินอื่นที่ได้มาจากการฟอกเงินก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงการมอบตัวของนายวิชัยนั้น พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้กังวลว่าจะได้ตัวนายวิชัยหรือไม่ เพราะได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดอายัดทรัพย์สินหลายรายการแล้ว ซึ่งสามารถทำเรื่องขออายัดตัวจากประเทศกัมพูชา แต่ที่กังวลคือห่วงขบวนการแก๊งหมวกกันน็อคที่อาจจะทำร้ายลูกหนี้กว่า 170,000 คนที่เหลืออยู่ ซึ่งกระทรวงจะต้องเร่งกวาดล้างขบวนการแก๊งหมวกกันน็อคให้เร็วที่สุด
ขณะที่มีรายงานว่า สำหรับอดีตนักการเมืองหญิงชื่อดังที่มีการพบหลักฐานทางธุรกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยครั้งนี้ ว่ากันว่าถ้ามีการเปิดเผยชื่อออกมาเมื่อไหร่รับรองว่าเป็น”บิ๊กเซอร์ไพรส์”อย่างแน่นอน เนื่องจากเคยมีบทบาทสำคัญโดดเด่นทั้งในทางการเมืองและทางสังคม
************************************************************************
อีกไม่นาน คงได้รู้กัน แต่ตอนนี้ก็ยังสงสัยว่าเธอเป็นใคร ????
ติดตามต่อไป ด้วยใจระทึก