" ปีใหม่ไปเที่ยวไหนดี? "
...แล้วสิงคโปร์ก็เป็นตัวเลือกในครั้งนี้ค่ะ ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง เดินทางไม่นาน สะอาด ปลอดภัย
สภาพภูมิอากาศแทบจะเหมือนกับบ้านเรา และที่สำคัญ...ตั๋วโปรบ่อย
จริงๆแล้วทริปนี้ตั้งใจจะพาพ่อกะแม่ไปเที่ยวค่ะ โปรแกรมก็เลยชิลล์ๆไม่ได้เร่งรีบมากนัก
*ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นครั้งแรกของการเขียนรีวิว ทั้งที่จริงตั้งใจจะเขียนมาหลายรอบละค่ะ แต่เนื่องด้วยหน้าที่การงานไม่เป็นใจเลยไม่ได้เริ่มสักที ครั้งนี้ฤกษ์งามยามดีได้มีโอกาสมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆให้ชาวบลูแพลนเน็ตฟัง ผิดพลาดประการใดได้โปรดชี้แนะนะคะ และก็เนื่องด้วยเป็นคนชอบถ่ายรูปแต่ความสามารถไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไหร่ ภาพก็เลยออกมาอย่างที่เห็น ไม่ว่ากันน้าาา
ข้อควรรู้...สักนิดเกี่ยวกับสิงคโปร์
• ดอลลาร์สิงคโปร์เป็นสกุลเงินที่ใช้ในประเทศสิงคโปร์ (SGD) ซึ่งก็ประมาณ 25 บาทไทยค่ะ (ช่วงนี้ลงหน่อยประมาณ 24 กว่าๆ)
• สิงคโปร์ใช้ปลั๊กไฟขาเหลี่ยมแบบสามขา 220-240 โวลต์ เพราะฉะนั้นเช็คกับทางโรงแรมดีๆว่าปลั๊กเป็นแบบไหน ไม่งั้นต้อง
เตรียม Adapter ไปด้วย
• เนื่องด้วยสิงคโปร์เป็นเกาะและมีอากาศร้อนชื้นตลอดปี...
อย่าลืมร่มค่ะ เพราะฝนอาจตกโดยที่ไม่บอกกันล่วงหน้า
• น้ำดื่ม และของเหลวทุกอย่างที่กินได้...แพงมาก ถ้าฟิตพอก็พกน้ำไปจากที่พักได้ และเนื่องจากข้อมูลที่หามาบอกว่าน้ำประปาในสิงคโปร์ผ่านมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เพราะฉะนั้น...ซดจากก๊อกได้เลย ส่วนรสชาตินั้นไม่สามารถรีวิวได้จริงๆค่ะ ยังไม่เคยลอง
• สิงคโปร์มีภาษาราชการถึง 4 ภาษา คือ อังกฤษ จีน มาเลย์ และภาษาทมิฬ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการสื่อสารค่ะ
• เวลาท้องถิ่นต่างจากบ้านเรา 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพก็ประมาณ 2 ชม.ครึ่ง แต่ถ้าออกจากหาดใหญ่ก็ชั่วโมงกว่าๆเองค่ะ
• การเดินทางเข้าประเทศไม่ต้องใช้วีซ่า มีแค่พาสปอร์ตก็เที่ยวได้สบายๆ...ที่ตม.มีลูกอมให้กินด้วย (มีคนบอกว่าถ้ากินลูกอมแล้วจะได้กลับมาสิงคโปร์อีก555...ไม่รู้ถูกหลอกป่าวนะ)
• การวางแผนการเดินทางที่ดีจะช่วยประหยัดพลังงานขาได้มากค่ะ เพราะเที่ยวสิงคโปร์ต้องเดินเยอะมากกก ไม่ต้องเผื่อแรงไว้หลงนะคะ...ประสบการณ์จากครั้งที่แล้วสอนมา555 ตอนนั้นเดินจนเส้นเลือดขอดแทบแตก...พูดเล่นค่ะ ถ้าต้องการตัวช่วยนี่เลยค่ะ TripIt ดีมาก!!!
•
รองเท้าต้องดีค่ะ ความสบายต้องมาก่อนความสวยงาม ไม่อย่างนั้นชีวิตจะลำบาก
• สุดท้ายใครที่จะใช้ wifi ท่องโลกโซเชียลหรือเปิด Google map...กรุณา
เช็คมือถือตัวเองก่อนไปนะคะว่าเครือข่ายล็อคอยู่หรือไม่ มิเช่นนั้นอาจเสียเวลาหาที่ปลดล็อคหรืออาจเสียตังค์ฟรีค่ะ
เกริ่นมายาวไปละ ไปกันเลยดีกว่าค่ะ
ครั้งนี้เราจะเริ่มต้นกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ค่ะ ใช้บริการเจ้าเสือน้อย Tigerair มีเที่ยวบินวันละรอบตามนี้ค่ะ...ค่าเสียหายคนละ 4,713 (ก็ต้องทำใจกับราคานิดนึงนะ ปีใหม่ๆ)
::บรรยากาศก่อน boarding ค่ะ รอกันสบายๆ::
::มี King Power ขนาดย่อมให้เดินเลือกซื้อด้วย::
>> หลังจากเครื่องลงก็เดินตามป้าย Immigration ไปเรื่อยๆจนถึงด่านตม. หลังจากตรวจเอกสารและดูหน้าตาอันน่าเชื่อถือของเราแล้วเค้าก็จะเปิดประตูให้เราผ่านเข้าไปได้ ใครที่โหลดกระเป๋ามาก็รอรับได้เลยค่ะ...ปล.อย่าลืมหยิบลูกอม555 จากนั้นมองหาป้าย Train to City แล้วก็เดินตามไป เมื่อถึงสถานีสิ่งแรกที่ทำก็คือซื้อบัตร EZ-Link เรียกได้ว่าเป็นบัตรครอบจักรวาล ขึ้นได้ทั้ง MRT Bus Taxi รวมถึงซื้อของใน 7-11 ด้วย ส่วนราคาบัตรเริ่มต้นราคา 12 SGD เป็นค่าธรรมเนียมบัตร 5 SGD (ส่วนนี้ไม่ได้คืน) และมีเงินในบัตรที่สามารถใช้ได้ 7 SGD เราเติมเงินตั้งแต่รอบนี้อีก 10 SGD ค่ะ
::หน้าตาบัตรน่ารักมว๊ากกก เหมาะกับชะนีอย่างเราเป็นที่สุด::
::สิ่งจำเป็นอีกอย่างที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ แผนที่ MRT ค่ะ สามารถขอเป็นแผ่นพับเล็กๆที่สถานีได้::
>> เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ขึ้นรถกันค่ะ มีสายสีเขียวสายเดียวนั่งผ่าน Expo แล้วเปลี่ยนสายที่สถานี Tanah Merah ไปยังขบวนที่จะไปปลายทาง Joo Koon นั่งไปเรื่อยๆจนถึง Raffles place ค่ะ แล้วก็ไปเช็คอินกันก่อน
>> เรื่องของที่พักนี่แล้วแต่ความชอบและเงินในกระเป๋าเลยค่ะ ส่วนตัวชอบ Clarke Quay เพราะวิวสวย เดินเล่นยามเย็นริมแม่น้ำสิงคโปร์นี่ฟินมาก แล้วก็ไปดู Merlion ได้เลย ครั้งนี้พักที่ Quarters Hostel ค่ะ จองผ่าน Agoda เลือกห้องแบบ Family Quadruple Room ราคาถือว่ายิ้มได้ 739 บาท/คน/คืน
::บรรยากาศชั้นล่างค่ะ ตอนเช้าก็มีอาหารเช้าบริการ มีไข่ให้ด้วยแต่ต้องทอดเองค่ะ::
>> วันนี้เรามาถึงก็ค่ำแล้วได้เวลามื้อเย็นพอดี เราจะไปฝากท้องกันที่ Song Fa Bak Kut Teh 松發肉骨茶 ร้านบักกุ๊ดเต๋ในตำนาน รีวิวที่ไหนก็เจอ ก็เลยต้องมาเก็บซะหน่อย ออกจากที่พักเดินข้ามถนนแล้วเดินผ่านตึกอีกบล็อค ประมาณ 300 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ
::คนเยอะพอสมควรค่ะ ต้องต่อคิว แต่ก็ไม่นานเกินรอค่ะ...เพราะว่านานกว่านี้เราก็รอได้::
::ซุปซี่โครงหมู...ฟินมากกกก น้ำตาจะไหล น้ำซุปเติมได้ไม่อั้น::
ส่วนอาหารอย่างอื่น ต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง เนื่องด้วยว่ากว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบหมดแล้วค่ะ
อานุภาพของอาหารมันช่างรุนแรงยิ่งนัก!!!
>> หลังจากอิ่มกันมากแล้ว เลือดก็เลี้ยงสมองลดลง...หนังตาก็ปิดอย่างรวดเร็ว ได้เวลานอนค่ะ เตรียมตัวสำหรับเช้าวันพรุ่งนี้ต่อไป
พรุ่งนี้เช้าเราจะไปกินอาหารเช้าที่ Ya Kun Kaya Toast - เที่ยว
China town/Buddha Tooth Relic Temple/Sri Mariamman Temple/Pagoda street - กินข้าวมันไก่ร้าน Tian Tian - บ่ายนั่ง Duck tour ชมเมือง - ต่อด้วย Fountain of Wealth - กลับที่พักรอ countdown ค่ะ
ค่อยกลับมารีวิวต่อนะคะ
[CR] :: SINGAPORE Happy Trip :: แบกเป้เที่ยวสิงคโปร์
*ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป็นครั้งแรกของการเขียนรีวิว ทั้งที่จริงตั้งใจจะเขียนมาหลายรอบละค่ะ แต่เนื่องด้วยหน้าที่การงานไม่เป็นใจเลยไม่ได้เริ่มสักที ครั้งนี้ฤกษ์งามยามดีได้มีโอกาสมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆให้ชาวบลูแพลนเน็ตฟัง ผิดพลาดประการใดได้โปรดชี้แนะนะคะ และก็เนื่องด้วยเป็นคนชอบถ่ายรูปแต่ความสามารถไม่ค่อยไปด้วยกันเท่าไหร่ ภาพก็เลยออกมาอย่างที่เห็น ไม่ว่ากันน้าาา
ข้อควรรู้...สักนิดเกี่ยวกับสิงคโปร์
• ดอลลาร์สิงคโปร์เป็นสกุลเงินที่ใช้ในประเทศสิงคโปร์ (SGD) ซึ่งก็ประมาณ 25 บาทไทยค่ะ (ช่วงนี้ลงหน่อยประมาณ 24 กว่าๆ)
• สิงคโปร์ใช้ปลั๊กไฟขาเหลี่ยมแบบสามขา 220-240 โวลต์ เพราะฉะนั้นเช็คกับทางโรงแรมดีๆว่าปลั๊กเป็นแบบไหน ไม่งั้นต้องเตรียม Adapter ไปด้วย
• เนื่องด้วยสิงคโปร์เป็นเกาะและมีอากาศร้อนชื้นตลอดปี...อย่าลืมร่มค่ะ เพราะฝนอาจตกโดยที่ไม่บอกกันล่วงหน้า
• น้ำดื่ม และของเหลวทุกอย่างที่กินได้...แพงมาก ถ้าฟิตพอก็พกน้ำไปจากที่พักได้ และเนื่องจากข้อมูลที่หามาบอกว่าน้ำประปาในสิงคโปร์ผ่านมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เพราะฉะนั้น...ซดจากก๊อกได้เลย ส่วนรสชาตินั้นไม่สามารถรีวิวได้จริงๆค่ะ ยังไม่เคยลอง
• สิงคโปร์มีภาษาราชการถึง 4 ภาษา คือ อังกฤษ จีน มาเลย์ และภาษาทมิฬ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการสื่อสารค่ะ
• เวลาท้องถิ่นต่างจากบ้านเรา 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าเดินทางจากกรุงเทพก็ประมาณ 2 ชม.ครึ่ง แต่ถ้าออกจากหาดใหญ่ก็ชั่วโมงกว่าๆเองค่ะ
• การเดินทางเข้าประเทศไม่ต้องใช้วีซ่า มีแค่พาสปอร์ตก็เที่ยวได้สบายๆ...ที่ตม.มีลูกอมให้กินด้วย (มีคนบอกว่าถ้ากินลูกอมแล้วจะได้กลับมาสิงคโปร์อีก555...ไม่รู้ถูกหลอกป่าวนะ)
• การวางแผนการเดินทางที่ดีจะช่วยประหยัดพลังงานขาได้มากค่ะ เพราะเที่ยวสิงคโปร์ต้องเดินเยอะมากกก ไม่ต้องเผื่อแรงไว้หลงนะคะ...ประสบการณ์จากครั้งที่แล้วสอนมา555 ตอนนั้นเดินจนเส้นเลือดขอดแทบแตก...พูดเล่นค่ะ ถ้าต้องการตัวช่วยนี่เลยค่ะ TripIt ดีมาก!!!
• รองเท้าต้องดีค่ะ ความสบายต้องมาก่อนความสวยงาม ไม่อย่างนั้นชีวิตจะลำบาก
• สุดท้ายใครที่จะใช้ wifi ท่องโลกโซเชียลหรือเปิด Google map...กรุณาเช็คมือถือตัวเองก่อนไปนะคะว่าเครือข่ายล็อคอยู่หรือไม่ มิเช่นนั้นอาจเสียเวลาหาที่ปลดล็อคหรืออาจเสียตังค์ฟรีค่ะ
เกริ่นมายาวไปละ ไปกันเลยดีกว่าค่ะ
ครั้งนี้เราจะเริ่มต้นกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ค่ะ ใช้บริการเจ้าเสือน้อย Tigerair มีเที่ยวบินวันละรอบตามนี้ค่ะ...ค่าเสียหายคนละ 4,713 (ก็ต้องทำใจกับราคานิดนึงนะ ปีใหม่ๆ)
>> หลังจากเครื่องลงก็เดินตามป้าย Immigration ไปเรื่อยๆจนถึงด่านตม. หลังจากตรวจเอกสารและดูหน้าตาอันน่าเชื่อถือของเราแล้วเค้าก็จะเปิดประตูให้เราผ่านเข้าไปได้ ใครที่โหลดกระเป๋ามาก็รอรับได้เลยค่ะ...ปล.อย่าลืมหยิบลูกอม555 จากนั้นมองหาป้าย Train to City แล้วก็เดินตามไป เมื่อถึงสถานีสิ่งแรกที่ทำก็คือซื้อบัตร EZ-Link เรียกได้ว่าเป็นบัตรครอบจักรวาล ขึ้นได้ทั้ง MRT Bus Taxi รวมถึงซื้อของใน 7-11 ด้วย ส่วนราคาบัตรเริ่มต้นราคา 12 SGD เป็นค่าธรรมเนียมบัตร 5 SGD (ส่วนนี้ไม่ได้คืน) และมีเงินในบัตรที่สามารถใช้ได้ 7 SGD เราเติมเงินตั้งแต่รอบนี้อีก 10 SGD ค่ะ
>> เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ขึ้นรถกันค่ะ มีสายสีเขียวสายเดียวนั่งผ่าน Expo แล้วเปลี่ยนสายที่สถานี Tanah Merah ไปยังขบวนที่จะไปปลายทาง Joo Koon นั่งไปเรื่อยๆจนถึง Raffles place ค่ะ แล้วก็ไปเช็คอินกันก่อน
>> เรื่องของที่พักนี่แล้วแต่ความชอบและเงินในกระเป๋าเลยค่ะ ส่วนตัวชอบ Clarke Quay เพราะวิวสวย เดินเล่นยามเย็นริมแม่น้ำสิงคโปร์นี่ฟินมาก แล้วก็ไปดู Merlion ได้เลย ครั้งนี้พักที่ Quarters Hostel ค่ะ จองผ่าน Agoda เลือกห้องแบบ Family Quadruple Room ราคาถือว่ายิ้มได้ 739 บาท/คน/คืน
>> วันนี้เรามาถึงก็ค่ำแล้วได้เวลามื้อเย็นพอดี เราจะไปฝากท้องกันที่ Song Fa Bak Kut Teh 松發肉骨茶 ร้านบักกุ๊ดเต๋ในตำนาน รีวิวที่ไหนก็เจอ ก็เลยต้องมาเก็บซะหน่อย ออกจากที่พักเดินข้ามถนนแล้วเดินผ่านตึกอีกบล็อค ประมาณ 300 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ
อานุภาพของอาหารมันช่างรุนแรงยิ่งนัก!!!
>> หลังจากอิ่มกันมากแล้ว เลือดก็เลี้ยงสมองลดลง...หนังตาก็ปิดอย่างรวดเร็ว ได้เวลานอนค่ะ เตรียมตัวสำหรับเช้าวันพรุ่งนี้ต่อไป
พรุ่งนี้เช้าเราจะไปกินอาหารเช้าที่ Ya Kun Kaya Toast - เที่ยว China town/Buddha Tooth Relic Temple/Sri Mariamman Temple/Pagoda street - กินข้าวมันไก่ร้าน Tian Tian - บ่ายนั่ง Duck tour ชมเมือง - ต่อด้วย Fountain of Wealth - กลับที่พักรอ countdown ค่ะ
ค่อยกลับมารีวิวต่อนะคะ