สัมภาษณ์งานร้อยครั้ง ชนะ(ใจ)ร้อยครั้ง

สวัสดีค่ะพี่ๆเพื่อนๆชาว Pantip

วันนี้เราขออนุญาตตั้งกระทู้ ให้กำลังใจคนว่างงาน ตกงาน เปลี่ยนงาน หรือคิดจะหางานใหม่ทุกคนนะคะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน เราอายุ 26 ปีค่ะ สถานะตอนนี้คือกำลังจะเริ่มงานที่ใหม่เป็นบริษัทมหาชนค่ะ และเป็นครั้งแรกที่จะได้ร่วมงานกับองค์กรใหญ่
และขอเล่าต่อถึงเรื่องการสัมภาษณ์งานเลยนะคะ

โดยส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่เก่ง ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง แต่เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองและศักยภาพของความพยายาม และเราเรียนรู้ไวค่ะ
เราเปลี่ยนงานมามากกว่า 4 งานภายในระยะเวลาหลังเรียนจบ 3 ปี และงานใหม่ที่กำลังจะเริ่มคืองานที่ 5 ค่ะ ซึ่งตรงนี้บอกก่อนว่าการเปลี่ยนงานบ่อยๆไม่ใช่เรื่องที่ดีนะคะ

แต่อะไรที่ทำให้เรา เมื่อถูกเรียกสัมภาษณ์งานแล้ว เราได้งานทุกครั้ง

การเข้าไปสัมภาษณ์งานหรือถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน อยากให้ทุกๆคนจงมั่นใจใน Profile ของตัวเอง และคิดเสมอว่า องค์กรนั้นๆเขาสนใจในตัวคุณค่ะ
เนื่องจากการหางานในยุคปัจจุบัน มีการเขียนคุณสมบัติผู้เข้าสมัคร และ Description ของตำแหน่งนั้นๆอย่างชัดเจน
เมื่อคุณส่ง Portfolio ไปหรือยื่น CV ไป แล้วเป็นผู้ถูกเลือก อยากให้คิดบวกไว้ว่า คุณมีชัยไปกว่า 30% แล้วค่ะ
และคุณมีโอกาสแสดงให้องค์กรหรือผู้ว่าจ้างเห็นถึงความสามารถหรือความสามารถที่จะเป็นไปได้ของคุณอีก 70% เมื่อวันที่คุณไปนั่งต่อหน้าพวกเขานะคะ

ดังนั้นการเตรียมตัว เตรียมใจง่ายๆมีดังนี้

1. หาข้อมูลองกรค์ที่คุณสมัครและทำความเข้าใจในธุระกิจขององค์กร ไม่ใช่เรื่อง Culture หรืออะไรทั้งนั้นนะคะ แต่เป็นเรื่องของสิ่งที่องกรค์ทำ ประเภทธุระกิจ คู่แข่งเป็นใคร ลูกค้าเป็นใคร ส่วนพวก Culture หรืออะไรต่างๆคุณจะเรียนรู้ได้เองเมื่อคุณก้าวเข้าไปทำงานที่นั้น
เวลาคุณไปสัมภาษณ์งาน คำถามที่ว่า คุณรู้หรือไม่เราทำอะไร หรือบริษัทเราทำอะไรเป็นคำถามที่คุณจะได้ยินเจอแน่นอน
การตอบไม่ได้เรื่องนี้ จะทำให้คะแนนคุณโดนติดลบนะคะ ฮ่าๆ

2. หาความรู้เรื่องตำแหน่งหน้าที่นั้นๆที่คุณเลือกสมัคร พิจารณาตัวเองว่าคุณทำอะไรได้บ้าง และอะไรที่ยังต้องเรียนรู้เพิ่มเติม

3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามที่เขาขอ หรือจะให้ดีเตรียมให้เกินเพื่อฉุกเฉิน เช่นเอกสารที่เขาขอ 1 ชุด เราเตรียมไป 2 ก็จะดีกว่า

4. เตรียมสิ่งที่คุณอยากจะพูด หรือ Present ตัวเองเพิ่มเติ่มนอกเหนือจาก Requirement เช่น เขาขอแค่ประวัติการทำงาน ประวัติการเรียน คุณก็สามารถเตรียม Portfolio ไปหรืองานที่คุณเคยทำแล้วคุณรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับสายงาน และเป็นผลงานที่คุณภูมิใจ ลองนำไปเสนอพูดคุยดู
จุดนี้เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตัวคุณเองกับผู้สัมภาษณ์คนอื่นๆ

5. การแต่งกายควรจะเหมาะสม และที่สำคัญคือไม่ดูแก่หรือเป็นทางก๊ารทางการเกินไป จนคุณดูเหมือนหลงยุค คือสุภาพ แต่ดูเหมาะสมกับตัวเอง ใส่แล้วดูดี มีความมั่นใจ ส่งเสริมบุคลิคอันนี้สำคัญ
อย่าใส่อะไรที่ไม่เข้ากับตัวเองหรือทำให้ตัวเองขวยเขินจนขาดความมั่นใจนะคะ

6. คิดบวก และไม่คาดหวังค่ะ ข้อนี้ก็สำคัญ พลังบวกของคุณจะช่วยให้ทุกอย่างออกมาดีค่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่กดดัน อย่าไปคาดหวังมากจนหน้าดำครำเครียด ทำใจสบายๆ พูดคุยอยากผ่อนคลาย เป็นกันเอง กล้าคิด กล้าแสดงออก แต่ไม่ใช่แสดงออกจนเกินความพอดีนะคะ เอาแค่ให้เหมาะสม แต่ไม่ใช่ไปทุบโต๊ะโต้เถียง หรือขึ้นเสียงใส่ใครนะคะ  แบบนั้นจะกินแห้วไม่รู้ตัว

7. จริงใจและเป็นตัวของตัวเอง คือกรณีที่ ถูกถามว่าคุณเข้าใจ หรือรู้เรื่องต่างๆแค่ไหนอย่างไร หากคุณไม่รู้ คุณจงตอบตามตรงว่าคุณไม่รู้ แบบนั้นไม่เสียหายเลยค่ะ ดีกว่าคุณดำน้ำต่อหน้าเขา และให้คำตอบที่ผิดอย่างร้ายแรง แบบนี้แห้วค่ะและจะดูไม่ดีด้วย
คือการไม่รู้ไม่ผิด และไม่ใช่เรื่องแย่ คุณสามารถพูดได้เลย ผมไม่รู้ครับ แต่ในความเข้าใจผมน่าจะเป็นแบบนี้ แบบนั้น บลาๆ ถ้าผมเข้าใจผิดรบกวนชี้แจงหน่อยนะครับ ผมอยากเรียนรู้อยู่พอดี พูดแบบนี้คุณได้ใจกรรมการไปกว่าครึ่งค่ะรับรอง บางครั้งการทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วไม่ได้ดีเสมอไป ลองเป็นน้ำครึ่งแก้วดูนะคะ เพราะทุกองกรค์ต้องการคนเก่งหรือคนไม่เก่งที่พร้อมจะเรียนรู้ มากกว่าคนเก่ง ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เรียนรู้อะไรเลย

คือจริงๆแล้วถ้าอ่านมาถึงจุดนี้ จริงๆจะพบว่าทุกข้อที่เขียนมา ไม่ได้เป็นเคล็ดลับหรือมีสูตรตายตัวอะไร จริงๆแล้วความมั่นใจ การคิดบวก เชื่อมั่นในตัวเอง และคสามจริงใจคือกุญแจค่ะ พูดและแสดงออกให้คนที่สัมภาษณ์คุณรู้สึกได้ถึงคุณมากที่สุด นอกเหนือจากนั้นก็อยู่ที่เขาจะพิจารณาค่ะ อย่าเฟค อย่าสร้าง Profile สวยหรูจนน่ากลัว เป็นคนธรรมดาที่พร้อมจะเรียนรู้ พร้อมจะเริ่มใหม่อันนี้คือสิ่งสำคัญ


ปล. ตำแหน่งที่เรากำลังจะเริ่มงานใหม่ คุณสมบัติต้องจบป.โท และอื่นๆอีกบางอย่างที่เราไม่มี
แต่เราได้งานนี้ทั้งๆที่ไม่มีป.โท จบแค่ป.ตรี และไม่ตรงสาย แต่เราไม่จำกัดตัวเองค่ะ ลองสมัครดูเพราะตำแหน่งนี้เราสนใจ มีเคยได้ทำมาบ้างแบบน้อยนิด และเมื่อเทียบตัวเองกับผู้สัมภาษณ์คนอื่นๆ จบป.โท บางคนเป็นอาจารย์สายตรง ประสบการณ์ยาวนานช่ำชอง เขาพวกนั้นกลับพลาดงานนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่มันทำให้เรายิ่งมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

ขอให้ทุกๆคนโชคดี ในการเริ่มต้นใหม่นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่