ผมเกิดมาในจักรวาลที่แปลกมาก วันแรกผมเกิดเป็นนก ผมมีความสุขที่สุดเลย วันที่สองผมได้เป็นปูน รู้เลยว่าตอนเขาฉาบนั้นมันจั๊กจี้ยังไง พอวันที่สามผมกลายเป็นกวางคือรำคาญเขามากเลยครับ วันที่สี่ผมกลายเป็นท้องฟ้าคือเมื่อยอ่ะถ้าจะต้องมายืนเปลือยอยู่ตลอดเวลา วันที่ห้าผมเกิดเป็นนิ่วในถุงน้ำดี วันนี้ดูไม่จืดเลย ... พอเลยมาจนถึงวันที่ 20 ผมก็เกิดเป็นคนสองหน้าคือมีสองหน้าจริงอ่ะครับ ทะเลาะกันตลอด วันที่ 21 ผมเกิดเป็นดาวพลูโต เสียใจมากครับที่ถูกขับออกจากระบบสุริยะ วันที่ 22 ผมเกิดเป็นอิเลคตรอนคือเบื่อนิวตรอนอ่ะ ได้แต่อยู่เฉยๆเหมือนทำอะไรไม่เป็น ไอ้เราก็ต้องวิ่งตลอดเลย วันที่ 23 ผมเกิดเป็นสำลี วันๆก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็ต้องเช็ด เช็ด เช็ดอย่างเดียว พอวันที่ 24 ผมเกิดเป็นจักรวาล โห พอเป็นจักรวาลเอง รู้สึกว่าจักรวาลมันแคบแค่นี้เองเหรอ
พอเกิดครบ 24 วัน ผมก็ได้รับสิทธิไปยืนตรงหน้าประตูไม่ต้องเกิด คือถ้าใครเดินเข้าไปในประตูนี้ก็ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ผมก็งงเหมือนกันนะว่าทำไมถึงให้สิทธิผม ทันใดนั้นผมหันไปเห็นอีกจักรวาลหนึ่งกำลังเศร้าหมอง ผมรีบวิ่งไปหาเธอ
“นี่ เธอ ทำไมถึงมานั่งเศร้าตรงนี้ล่ะ”
เธอมองหน้าผม “ฉันเบื่อตัวเองเต็มทีแล้ว มันมีแต่เรื่องซ้ำซากจำเจ”
ผมยิ้ม “งั้นเรามาสลับตัวกันเถอะ”
เธองง “เราทำอย่างงั้นได้ด้วยเหรอ”
ผมยิ้ม “ได้ดิ”
เธอยิ้มแบบปากแทบฉีกถึงหลุมดำ แล้ววิ่งร้องบ้าบอเข้าไปในประตูไม่ต้องเกิด
ส่วนผมเองก็กลายเป็นจักรวาลของเธอ ผมก็เปลี่ยนโน่นนี่นั่นไปทั่วจนคนในดาวเคราะห์ละแวกนั้นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ชีวิตมันเหวอๆ” ก็แน่ล่ะก็พวกเธออยู่ในจักรวาลเหวอๆของเรานี่ มันก็ต้องเหวอกันให้สุด
อีกไม่นานผมก็ได้มาอยู่ตรงประตูไม่ต้องเกิดอีก แต่พอเห็นอีกจักรวาลหนึ่งกำลังหงอยๆผมจึงวิ่งไปหามันทันที
“เฮ้ย มืงเป็นไรวะ”
มันเงยหน้ามองผม “กูเบื่อจักรวาลกูมาก มีแต่ผู้ก่อการร้ายเต็มไปหมด”
ผมยิ้ม “เฮ้ย เรามาสลับตัวกันเถอะ”
พอได้ยินแค่นั้นแหละ มันวิ่งทะลุประตูไม่ต้องเกิดไปเลย
พอผมได้จักรวาลมาของมันมาครอง ผมก็เปลี่ยนกฎหลายอย่างแบบแหลกลาญมากเลยอ่ะ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดก็คือผมเอาผู้ก่อการร้ายทั้งหมด โยนออกไปตรงประตูไม่ต้องเกิด ก็ไอ้คนแบบนี้ จะให้มันเกิดมาหาตะบองเพชรทำไม
และผมก็ได้รับสิทธิมายืนหน้าประตูไม่ต้องเกิดอีกครั้ง เจ้าประตูคงเบื่อผมแล้ว คราวนี้มันตะโกนใส่หน้าผม
“เบื่อคนอย่างมืงมาก”
ผมยิ้ม “เรามาสลับตัวกันเถอะ”
มันทำหน้าเหวอ “เราทำได้ด้วยเหรอ”
ผมยิ้ม “ทำได้สิวะ”
หลังจากนั้นผมก็ได้เป็ประตูไม่ต้องเกิด ส่วนเจ้าประตูไม่ต้องเกิดก็ได้เกิดเป็นจักรวาล มันก็เปลี่ยนกฎแหลกลาญเหมือนกันจนมันได้รับสิทธิให้มายืนอยู่หน้าประตูไม่ต้องเกิดซึ่งก็คือตัวผมเอง
มันพูดกับผมว่า “กูกลัวว่ะ กูไม่เคยรู้เลยว่าหลังประตูบานนั้นมันคืออะไร ตอนที่กูเป็นประตูไม่ต้องเกิด กูก็ได้แต่เปิดประตู แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าด้านหลังประตูมันคืออะไรกันแน่ กูกลัวอ่ะ”
ผมยิ้ม “งั้นเราพังประตูกันเถอะ”
มันตกใจมาก “เฮ้ย เราทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ”
ผมไม่รอช้า ออกมาจากประตูแล้วก็พังประตูไปเลย
มันตกใจมาก “แล้วถ้ามีคนที่ไม่อยากเกิดมาอีก เขาจะทำยังไงล่ะ”
ผมตอบ “ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก เดี๋ยวเขาก็หาทางแก้ไขกันได้เองแหละ”
ผมเลยชวนมันไปเกิดเป็นแว่นตาของนักมายากล
พอมันเกิดเป็นแว่นตาของนักมายากลเท่านั้นแหละมันถึงกับเหวอ
มันพูดกับผม “ชีวิตเรามีอะไรเหวอๆแบบนี้ด้วยเหรอ”
แต่ผมเซ็งมาก มันถามผมว่าเซ็งอะไร
ผมตอบไปว่า “กูอ่ะมีอิสรเสรีมาตลอดกาล แต่ตอนนี้กูต้องมีชีวิตติดกรอบไปแล้ว ติดกรอบแว่นอ่ะ 555”
พอมันรู้ว่าผมแล่นมุกมันก็เหวอไปเลย
แต่ชีวิตที่ติดกรอบแว่นนักมายากลนี่ก็ดีนะ มันทำให้ได้เห็นความจริงกับความลวงได้ชัดเจนมาก
และวันหนึ่ง แว่นอย่างผมก็ได้มายืนอยู่หน้าประตูไม่ต้องเกิดอีก ผมตกใจมาก
“กูพังไปแล้วนี่”
อีกจักรวาลหนึ่งตอบมา “ตรงโน้นเขามีช่างซ่อมประตู”
ผมเดินไปหาช่างซ่อมประตู อ้าวเป็นเธอคนนั้นนั่นเอง
“อ้าว ยังมาเกิดอีกเหรอ” ผมทัก
เธอหันมายิ้มให้ผม “เบื่ออ่ะ ก็เลยมาเกิดเป็นช่างซ่อมประตูไม่ต้องเกิดดีกว่า เดี๋ยวนี้เด็กแนวมันเยอะ ชอบพังประตูไม่ต้องเกิดกันบ่อยๆ”
ผมงง “พังแล้วก็ให้พังไปเลยสิ”
เธอบอก “ไม่ได้หรอก บางสิ่งที่มันควรจะมี มันก็ควรจะมี ไม่งั้นคนจะหาเป้าหมายไม่เจอ”
เธอเล่นเอาผมเหวอไปเลย “เธอเลยมาสมัครใจเป็นช่างซ่อมประตูไม่ต้องเกิดเนี่ยนะ”
“ใช่ ฉันคิดว่าฉันเหมาะกับหน้าที่นี้ แล้วเธอล่ะ วันนี้จะเข้าไปในประตูไม่ต้องเกิดได้หรือยัง ได้สิทธิมาร้อยกว่าหนแล้ว”
ผมพังประตูบานนั้นทันที แล้วหันไปยิ้มให้เธอ
“เดี๋ยวนี้มีช่างซ่อมแล้วนี่ ดีแล้วล่ะ จะได้พังแบบไม่ต้องคิดมาก”
แล้วผมก็ไปเกิดเป็นจักรวาลเหวอๆของผมต่อ ... 555 ... สบายใจครับผม
จบ
จักรวาลเหวอๆ (เรื่องสั้น)
พอเกิดครบ 24 วัน ผมก็ได้รับสิทธิไปยืนตรงหน้าประตูไม่ต้องเกิด คือถ้าใครเดินเข้าไปในประตูนี้ก็ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ผมก็งงเหมือนกันนะว่าทำไมถึงให้สิทธิผม ทันใดนั้นผมหันไปเห็นอีกจักรวาลหนึ่งกำลังเศร้าหมอง ผมรีบวิ่งไปหาเธอ
“นี่ เธอ ทำไมถึงมานั่งเศร้าตรงนี้ล่ะ”
เธอมองหน้าผม “ฉันเบื่อตัวเองเต็มทีแล้ว มันมีแต่เรื่องซ้ำซากจำเจ”
ผมยิ้ม “งั้นเรามาสลับตัวกันเถอะ”
เธองง “เราทำอย่างงั้นได้ด้วยเหรอ”
ผมยิ้ม “ได้ดิ”
เธอยิ้มแบบปากแทบฉีกถึงหลุมดำ แล้ววิ่งร้องบ้าบอเข้าไปในประตูไม่ต้องเกิด
ส่วนผมเองก็กลายเป็นจักรวาลของเธอ ผมก็เปลี่ยนโน่นนี่นั่นไปทั่วจนคนในดาวเคราะห์ละแวกนั้นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ชีวิตมันเหวอๆ” ก็แน่ล่ะก็พวกเธออยู่ในจักรวาลเหวอๆของเรานี่ มันก็ต้องเหวอกันให้สุด
อีกไม่นานผมก็ได้มาอยู่ตรงประตูไม่ต้องเกิดอีก แต่พอเห็นอีกจักรวาลหนึ่งกำลังหงอยๆผมจึงวิ่งไปหามันทันที
“เฮ้ย มืงเป็นไรวะ”
มันเงยหน้ามองผม “กูเบื่อจักรวาลกูมาก มีแต่ผู้ก่อการร้ายเต็มไปหมด”
ผมยิ้ม “เฮ้ย เรามาสลับตัวกันเถอะ”
พอได้ยินแค่นั้นแหละ มันวิ่งทะลุประตูไม่ต้องเกิดไปเลย
พอผมได้จักรวาลมาของมันมาครอง ผมก็เปลี่ยนกฎหลายอย่างแบบแหลกลาญมากเลยอ่ะ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดก็คือผมเอาผู้ก่อการร้ายทั้งหมด โยนออกไปตรงประตูไม่ต้องเกิด ก็ไอ้คนแบบนี้ จะให้มันเกิดมาหาตะบองเพชรทำไม
และผมก็ได้รับสิทธิมายืนหน้าประตูไม่ต้องเกิดอีกครั้ง เจ้าประตูคงเบื่อผมแล้ว คราวนี้มันตะโกนใส่หน้าผม
“เบื่อคนอย่างมืงมาก”
ผมยิ้ม “เรามาสลับตัวกันเถอะ”
มันทำหน้าเหวอ “เราทำได้ด้วยเหรอ”
ผมยิ้ม “ทำได้สิวะ”
หลังจากนั้นผมก็ได้เป็ประตูไม่ต้องเกิด ส่วนเจ้าประตูไม่ต้องเกิดก็ได้เกิดเป็นจักรวาล มันก็เปลี่ยนกฎแหลกลาญเหมือนกันจนมันได้รับสิทธิให้มายืนอยู่หน้าประตูไม่ต้องเกิดซึ่งก็คือตัวผมเอง
มันพูดกับผมว่า “กูกลัวว่ะ กูไม่เคยรู้เลยว่าหลังประตูบานนั้นมันคืออะไร ตอนที่กูเป็นประตูไม่ต้องเกิด กูก็ได้แต่เปิดประตู แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าด้านหลังประตูมันคืออะไรกันแน่ กูกลัวอ่ะ”
ผมยิ้ม “งั้นเราพังประตูกันเถอะ”
มันตกใจมาก “เฮ้ย เราทำอย่างนั้นได้ด้วยเหรอ”
ผมไม่รอช้า ออกมาจากประตูแล้วก็พังประตูไปเลย
มันตกใจมาก “แล้วถ้ามีคนที่ไม่อยากเกิดมาอีก เขาจะทำยังไงล่ะ”
ผมตอบ “ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก เดี๋ยวเขาก็หาทางแก้ไขกันได้เองแหละ”
ผมเลยชวนมันไปเกิดเป็นแว่นตาของนักมายากล
พอมันเกิดเป็นแว่นตาของนักมายากลเท่านั้นแหละมันถึงกับเหวอ
มันพูดกับผม “ชีวิตเรามีอะไรเหวอๆแบบนี้ด้วยเหรอ”
แต่ผมเซ็งมาก มันถามผมว่าเซ็งอะไร
ผมตอบไปว่า “กูอ่ะมีอิสรเสรีมาตลอดกาล แต่ตอนนี้กูต้องมีชีวิตติดกรอบไปแล้ว ติดกรอบแว่นอ่ะ 555”
พอมันรู้ว่าผมแล่นมุกมันก็เหวอไปเลย
แต่ชีวิตที่ติดกรอบแว่นนักมายากลนี่ก็ดีนะ มันทำให้ได้เห็นความจริงกับความลวงได้ชัดเจนมาก
และวันหนึ่ง แว่นอย่างผมก็ได้มายืนอยู่หน้าประตูไม่ต้องเกิดอีก ผมตกใจมาก
“กูพังไปแล้วนี่”
อีกจักรวาลหนึ่งตอบมา “ตรงโน้นเขามีช่างซ่อมประตู”
ผมเดินไปหาช่างซ่อมประตู อ้าวเป็นเธอคนนั้นนั่นเอง
“อ้าว ยังมาเกิดอีกเหรอ” ผมทัก
เธอหันมายิ้มให้ผม “เบื่ออ่ะ ก็เลยมาเกิดเป็นช่างซ่อมประตูไม่ต้องเกิดดีกว่า เดี๋ยวนี้เด็กแนวมันเยอะ ชอบพังประตูไม่ต้องเกิดกันบ่อยๆ”
ผมงง “พังแล้วก็ให้พังไปเลยสิ”
เธอบอก “ไม่ได้หรอก บางสิ่งที่มันควรจะมี มันก็ควรจะมี ไม่งั้นคนจะหาเป้าหมายไม่เจอ”
เธอเล่นเอาผมเหวอไปเลย “เธอเลยมาสมัครใจเป็นช่างซ่อมประตูไม่ต้องเกิดเนี่ยนะ”
“ใช่ ฉันคิดว่าฉันเหมาะกับหน้าที่นี้ แล้วเธอล่ะ วันนี้จะเข้าไปในประตูไม่ต้องเกิดได้หรือยัง ได้สิทธิมาร้อยกว่าหนแล้ว”
ผมพังประตูบานนั้นทันที แล้วหันไปยิ้มให้เธอ
“เดี๋ยวนี้มีช่างซ่อมแล้วนี่ ดีแล้วล่ะ จะได้พังแบบไม่ต้องคิดมาก”
แล้วผมก็ไปเกิดเป็นจักรวาลเหวอๆของผมต่อ ... 555 ... สบายใจครับผม
จบ