ภาค 1 งาน animation ในสื่อบันเทิงต่างๆของไทย
ในทรรศนะของผม ปีที่แล้ว (2016) นับว่าเป็นปีทองของวงการอนิเมชั่นไทยเลยก็เป็นได้
หากผู้เขียนนับตั้งแต่การที่เราเริ่มงานอนิเมชั่นไทยเริ่มมีบทบาทในการเป็นส่วนนึงในภาพยนต์
และกับสื่อบันเทิงต่างๆ
อย่างเช่น หนังเรื่องเมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ ที่ใช้อนิเมชั่นมาเป็นส่วนนึงในการ "เล่าเรื่อง"
การนำเอา animated short ฉายก่อนหนังเรื่อง มหาลัยเที่ยงคืน
vfx ในละครเรื่องนาคี
ตัวอย่างที่ข้าพเจ้ายกมานี้ล้วนส่งต่อให้ ภาพรวมของอนิเมชั่นไทยถูกมองในแง่ดีมากขึ้น
ตั้งแต่เกิดดราม่าของอนิเมชั่นไทยเรื่องนึงที่ใช้ทุนสร้างไม่คุ้มกับผลลัพธ์ หรือ vfx ในละครช่องนึงที่ดูแล้วไม่สมจริง แต่ขอไม่ยกตัวอย่างในที่นี้
ซึ่งทำให้วงการอนิเมชั่นไทยถูกมองจากคนนอกวงการว่า
ยังอยู่ในขั้นเดินเตาะแตะและไม่มีความสามารถที่ทัดเทียม studio ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในเอเชียได้เลย
ทั้งๆที่ฝีมือคนไทยทัดเทียมฝรั่งหัวทองหรือประเทศ tier1 ในเอเชียได้อย่างไม่น้อยหน้า
แต่ผู้เขียนก็เข้าใจ เพราะจากการที่มีภาพ cg ละครคุณภาพไม่ค่อยดีไปโผล่ในโซเชียล นั้นเป็นที่น่าจดจำซะเหลือเกิน
ทั้งๆที่ปัจจัยของการสร้างงานที่มีคุณภาพนั้นคือ เรื่องการให้เงินทุนและเวลาในการผลิตจากผู้ลงทุน
ไม่ใช่การสนับสนุนจากภาครัฐ อย่างที่คอมเม้นท์ส่วนใหญ่ในอินเตอร์เน็ทมักจะกล่าวถึง
(ปัจจัยจากการเมืองไม่ส่งผลต่อคุณภาพของงานนะครับ)
และเดี๋ยวพบกับ
ภาค 2 งานอนิเมชั่นไทยในเวทีโลกเราอยู่ที่ไหน!?
ทิศทางของ Animation ไทยในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตในทรรศนะของข้าพเจ้า
ในทรรศนะของผม ปีที่แล้ว (2016) นับว่าเป็นปีทองของวงการอนิเมชั่นไทยเลยก็เป็นได้
หากผู้เขียนนับตั้งแต่การที่เราเริ่มงานอนิเมชั่นไทยเริ่มมีบทบาทในการเป็นส่วนนึงในภาพยนต์
และกับสื่อบันเทิงต่างๆ
อย่างเช่น หนังเรื่องเมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ ที่ใช้อนิเมชั่นมาเป็นส่วนนึงในการ "เล่าเรื่อง"
การนำเอา animated short ฉายก่อนหนังเรื่อง มหาลัยเที่ยงคืน
vfx ในละครเรื่องนาคี
ตัวอย่างที่ข้าพเจ้ายกมานี้ล้วนส่งต่อให้ ภาพรวมของอนิเมชั่นไทยถูกมองในแง่ดีมากขึ้น
ตั้งแต่เกิดดราม่าของอนิเมชั่นไทยเรื่องนึงที่ใช้ทุนสร้างไม่คุ้มกับผลลัพธ์ หรือ vfx ในละครช่องนึงที่ดูแล้วไม่สมจริง แต่ขอไม่ยกตัวอย่างในที่นี้
ซึ่งทำให้วงการอนิเมชั่นไทยถูกมองจากคนนอกวงการว่า
ยังอยู่ในขั้นเดินเตาะแตะและไม่มีความสามารถที่ทัดเทียม studio ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงในเอเชียได้เลย
ทั้งๆที่ฝีมือคนไทยทัดเทียมฝรั่งหัวทองหรือประเทศ tier1 ในเอเชียได้อย่างไม่น้อยหน้า
แต่ผู้เขียนก็เข้าใจ เพราะจากการที่มีภาพ cg ละครคุณภาพไม่ค่อยดีไปโผล่ในโซเชียล นั้นเป็นที่น่าจดจำซะเหลือเกิน
ทั้งๆที่ปัจจัยของการสร้างงานที่มีคุณภาพนั้นคือ เรื่องการให้เงินทุนและเวลาในการผลิตจากผู้ลงทุน
ไม่ใช่การสนับสนุนจากภาครัฐ อย่างที่คอมเม้นท์ส่วนใหญ่ในอินเตอร์เน็ทมักจะกล่าวถึง
(ปัจจัยจากการเมืองไม่ส่งผลต่อคุณภาพของงานนะครับ)
และเดี๋ยวพบกับ
ภาค 2 งานอนิเมชั่นไทยในเวทีโลกเราอยู่ที่ไหน!?