37-38 (พ.ศ. 2537 - 2538) ปีทองของภาพยนตร์ไทย...หรือ????... "วิมานทราย" ปีพ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994)
นับตั้งแต่ปี 20 (พ.ศ. 2520) เป็นต้นมา ภาพยนตร์ไทยเข้าสู่ยุคตกต่ำมาตลอด สาเหตุที่ความนิยมภาพยนตร์ไทยตกต่ำลง เนื่องมาจากภาพยนตร์ต่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น , วงการโทรทัศน์มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นทำให้คนสนใจดูโทรทัศน์มากขึ้น , คุณภาพภาพยนตร์ไทยล้าหลังมากเป็นผลให้หนังไทยที่ออกฉายไม่ได้รับความนิยม , การเติบโตของธุรกิจวิดีโอทำให้โรงภาพยนตร์มีบทบาทน้อยลง และที่สำคัญขาดการสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยต้องกระอักเลือดอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการพิกัดอัตราภาษีศุลกากรมีมติให้ลดภาษีนำเข้าฟิล์มภาพยนตร์ที่ถ่ายทำแล้วในต่างประเทศ จากอัตราจัดเก็บเดิมเมตรละ 30 บาท เหลือเมตรละ 15 บาท เป็นผลให้หนังเทศเข้ามาตีตลาดหนังไทยยับเยิน
ปัจจุบันมีการนำเข้าหนังเทศมาฉายในไทย ทั้งจากยุโรป สหรัฐ ฮ่องกง ประมาณ 200 - 300 เรื่อง โดยในปี 36 (พ.ศ. 2536) มีการนำหนังจากสหรัฐเข้ามาประมาณ 89 เรื่อง น้อยกว่าปี 35 (พ.ศ. 2535) ที่นำเข้ามา 120 เรื่อง แต่มีรายได้มากกว่าเกือบเท่าตัว คือปี 35 มีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่ปี 36 มีรายได้ถึง 600 ล้านบาท เพราะมีระยะเวลาการฉายที่ยาวนานขึ้น หนังจีนจากฮ่องกงมีการนำเข้า 115 เรื่อง ในปี 35 แต่ปี 36 มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 125 เรื่อง ทำให้ยอดรายได้เพิ่มจาก 350 ล้านบาท เป็น 625 ล้านบาท ในปี 36 และคาดกันว่าปี 37 จะมีการนำเข้าหนังเทศเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะรสนิยมการดูหนังเทศของคนไทยมีมากขึ้นตามกระแสโลกานุวัตรจากสื่อต่างๆ ที่เป็นสากลมากขึ้น โดยเฉพาะข่าวสารบันเทิงที่สื่อกันได้อย่างรวดเร็วโดยผ่านดาวเทียม
อ่านต่อได้ที่รูปข้างบน...
ที่มาภาพ : นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 12 มิถุนายน 2537 (หน้า 21)
ขอขอบพระคุณ
เพจเล่าตำนานวงการบันเทิง
พ.ศ.2537-2538 ปีทองของภาพยนตร์ไทย...หรือ? "วิมานทราย"
ขอขอบพระคุณเพจเล่าตำนานวงการบันเทิง