เจิงชุนเหล่ยให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกถึงการหลุดจากทีมจีนชุดโอลิมปิกที่ริโอ !!!

กระทู้ข่าว



เจิงชุนเหล่ย    ฉันยังคง ผลิบาน  อยู่  ! !   

เป่ยจิงหว่านเป้า  ฉบับวันที่  30 ธ.ค. 2016


ทุ่มครึ่งวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.)  สโมสรวอลเลย์บอลหญิงปักกิ่งจะเป็นเจ้าบ้านต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่าสโมสรเทียนจิน  
เป็นนัดสุดท้ายสำหรับปี 2016 ของสโมสรปักกิ่ง   และเป็นนัดสำคัญเพื่อการชิงชัยในการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย  
และในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้    เจิงชุนเหล่ย  กัปตันทีมปักกิ่งได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ  เป่ยจิงหว่านเป้า   beijing evening news



ปี 2016 สำหรับเจิงชุนเหล่ยแล้วกล่าวได้ว่าเป็นปีที่ยากจะลืมเลือนปีหนึ่ง   หญิงสาวที่ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเสมอ  
แฟนวอลเลย์ต่างเรียกขานเธอว่า ต้าฮว้าเหลย     ผู้เล่นที่ต้องหลุดจากทีมหญิงจีนชุดโอลิมปิกที่ริโอ !!
สุดท้ายไม่ได้สัมผัสกับเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ !!      

จากรองแชมป์โลก 2014 ที่ได้เติบโตขึ้น   จนมาถึงเป็นกัปตันทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนชูถ้วยแชมป์เวิลด์คัพ 2015  
แต่กลับไร้วาสนาไปโอลิมปิก 2016    แฟนวอลเลย์บอลต่างอดรู้สึกเสียดายแทนเธอไม่ได้  
แต่เจิงชุนเหล่ยผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกลับดูมีท่าทางสงบเยือกเย็น
เธอกล่าวว่า  ทุกคนสบายใจได้   ฉันจะกลับมา ผลิบาน  ใหม่อีกครั้ง !!


การบาดเจ็บทำให้ต้องห่างไกลจากริโอ

นักข่าว :    คุณต้องเดาออกได้แน่ว่าผมอยากถามคุณเรื่องอะไรมากที่สุด?

เจิงชุนเหล่ย :    ฮ่า ฮ่า ....   คงเป็นเรื่องที่หลุดจากทีมชุดโอลิมปิกใช่ไหม?   จริงๆตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย  
หลังจากได้ผ่านเรื่องราวต่างๆมาแล้ว   นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้   เป่ยจิงหว่านเป้า  ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงตัวตนของฉันตลอดเวลา 15 ปีที่อยู่กับวอลเลย์  ขอขอบคุณในความห่วงใยของสื่อบ้านเกิด  ฉันรู้ว่ามีแฟนวอลเลย์มากมายที่ห่วงใยในตัวฉัน  
ไถ่ถามถึงสภาพปัจจุบันของฉัน   ถามฉันว่ารู้สึกยังไงกับการหลุดจากทีมชุดโอลิมปิก   ปรับสภาพจิตใจได้เป็นยังไงบ้างแล้ว  
ฉันรับรู้ถึงความรู้สึกห่วงใยเหล่านี้    ขอขอบคุณทุกๆคน  


นักข่าว :   งั้นผมขอเริ่มเลย   การไม่ได้ไปโอลิมปิกริโอ   เป็นเพราะหลังจากคว้าแชมป์เวิลด์คัพได้แล้วก็เลยรู้สึกชะล่าใจไปหน่อย
หรือว่าเป็นเพราะพบเจออุปสรรคใหม่?  

เจิงชุนเหล่ย :    ช่วง WGP ของปีนี้   ข้อเข่าที่เป็นแผลเก่ากลับมากำเริบขึ้นอีก  ทำให้ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของฉัน  
ทำให้ WGP รอบแบ่งสนามเล่นได้ไม่ค่อยดี   และก็ไม่ได้ซ้อมระบบทีม  การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมจึงมีน้อย  
นี่แหละคือ อุปสรรคของฉัน  


นักข่าว :    หลายคนคิดไม่ถึงว่าคุณจะหลุดจากทีมไปโอลิมปิก   เป็นเพราะสไตล์การเล่นของคุณถูกคู่แข่งจับทางได้หมดแล้ว  
หรือเป็นเพราะมีการแข่งขันตำแหน่งในทีมสูง?

เจิงชุนเหล่ย :  การแข่งขันกันภายในทีมถือเป็นเรื่องดี   ฉันคิดว่าผู้เล่นบีหลังทั้ง 3 คน   พูดจริงๆนะ ทีมโค้ชเองก็ต้องรู้สึกปวดหัว  
โค้ชก็คงคิดว่าถ้าไม่เอาใครไปด้วยก็จะรู้สึกว่าน่าเสียดาย    จริงๆเสียวหยู่ว์ (กงเสียงหยู่ว์)  เธอไม่มีปัญหาอะไร   เธอเก่งมาก  
อายุก็ยังน้อยมาก  มีความกล้าทะยาน   มีจุดตบสูง   มีศักยภาพเหนือกว่าฉันกับหยางฟางซวี่    และเธอก็ไม่มีเรื่องของการบาดเจ็บ  
คู่แข่งก็ยังไม่ค่อยรู้จักเธอเท่าไร   เหล่านี้คือข้อได้เปรียบของเธอ  


นักข่าว :   ตอนนั้นคุณไม่สามารถควบคุมการบาดเจ็บได้เลยเหรอ?

เจิงชุนเหล่ย :    ฉันเคยไปโอลิมปิกลอนดอน 2012 มาแล้ว    ฉันเข้าใจมากถึงความยุ่งยากซับซ้อนของการกำหนด
รายชื่อผู้เล่นโอลิมปิก   ซึ่งแตกต่างจากรายการชิงแชมป์โลกหรือเวิลด์คัพ    ตัวฉันเองก็มีเตรียมใจไว้บ้าง    
แต่เมื่อถึงเวลาที่เราต้องการให้ตัวเองไปถึงช่วงสุดยอด   เรื่องการบาดเจ็บก็มาส่งผลกระทบ   มีปัญหาที่เข่านี้เคลื่อนไหวไม่ได้    
ตอนนั้นทำไมฉันถึงไม่เข้าใจว่ามันมีความสำคัญมากขนาดไหนในการที่จะควบคุมมันสักหน่อย?   แต่ข้อเข่าก็ไม่สามารถ
เคลื่อนออกกำลังได้   ใจสู้แต่ร่างกายไม่ให้   ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้   ตอนที่เล่น WGP ฉันก็รู้สึกได้ถึงสภาวะอันตรายของตัวเองแล้ว  



ไม่ได้ไปก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่ง

นักข่าว :   ไม่ได้ไปโอลิมปิกริโอ  รู้สึกเสียใจมากใช่ไหม?

เจิงชุนเหล่ย :    เสียใจเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว   แต่ในเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้แล้ว   สิ่งที่เราจะกระทำได้ก็คือ
มุมมองที่เรามีต่อเรื่องนี้   กลับไปคิดพิเคราะห์   การหลุดจากทีมได้ให้ข้อคิดอะไรแก่เราบ้าง  เราได้รับประโยชน์อะไรบ้าง  
คนอื่นเขาได้รับชัยชนะ  เกียรติยศชื่อเสียง  เหรียญทอง      แต่สำหรับตัวเรา   นี่เป็นการทดสอบฝึกฝนด้านจิตใจ  
แม่ของฉันพูดว่า  ความล้มเหลวบางครั้งก็เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้   แต่ความล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย  
ชีวิตคนเราก็ต้องพบเจอความล้มเหลวต่างๆนาๆ  


นักข่าว :   ตอนนั้นขมขื่นมากไหม?

เจิงชุนเหล่ย :    ก็ไม่ได้ขมขื่นมากเป็นพิเศษ    คนภายนอกไม่ได้รู้สภาพการณ์จริง  มีบอกแค่ว่าฉันไม่ได้ไป  
ภายนอกก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องกะทันหันมาก   จริงๆฉันก็มีเตรียมใจไว้แล้ว   ฉันเข้าใจถึงการตัดสินใจของทีมโค้ช  
จะว่าไปก็คือปัญหาอยู่ที่ตัวฉัน  

การแข่งขันกันเป็นเรื่องที่มีอยู่ตลอดกาลอยู่แล้ว   แฟนวอลเลย์ก็ไม่ต้องไปเปรียบเทียบพวกเราบีหลังทั้ง 3 คน  
ผู้เล่นทีมชาติทุกคนทุกวันก็ต้องร่วมฝึกซ้อมด้วยกัน  มีแต่ความเป็นพี่น้องกัน   อาบเหงื่อต่างน้ำมาด้วยกัน   ร่วมผ่านอะไรมาด้วยกัน  
ฉันหวังอยากให้ทีมวอลเลย์หญิงจีนมีผลงานที่ดีในโอลิมปิก  เพราะฉันรู้เต็มอกว่าตลอดหนึ่งปีเต็มพวกเราแต่ละคนต้องลำบาก
เหน็ดหน่อยกันมากขนาดไหน     ก่อนที่ทีมจะออกเดินทาง   ฉันก็หวังว่ากงเสียงหยู่ว์จะสามารถคว้าโอกาสอันนี้ไว้ได้  
ส่วนตัวฉันก็ได้แต่บอกว่า   การบาดเจ็บของตัวเองมาไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย


นักข่าว :   คุณเคยได้แชมป์เวิลด์คัพมาแล้ว   แต่กับแชมป์โอลิมปิก   ความรู้สึกคงไม่เหมือนกัน?  

เจิงชุนเหล่ย :    แชมป์เวิลด์คัพ 2015  แน่นอนเป็นความสุดยอดของทีมวอลเลย์บอลหญิงจีน  
แต่นั่นไม่ใช่เป็นความสุดยอดของฉันเจิงชุนเหล่ยเพียงคนเดียว   แต่เป็นความสุดยอดของทีม    
แชมป์โอลิมปิก 2016 ที่ริโอ  ผลงานเรามีความเสถียร   เพียงแต่มีเปลี่ยนแปลงผู้เล่นไปบางคนเท่านั้น  
แต่พวกเราก็คือทีมเดียวกัน    


*** ยังมีต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่