*** บทสัมภาษณ์บางส่วนจาก เป่ยจิงกว่างโป 18-10-2011
เจิงชุนเหล่ย : ตอนเด็ก ฉันเป็นคนตัวสูงเด่นในชั้นเรียน โค้ชโรงเรียนกีฬานอกเวลามาที่โรงเรียนเพื่อคัดเลือกนักกีฬา
ก็มาถูกใจฉันเข้าจึงได้ไปฝึกซ้อมที่โรงเรียนกีฬานอกเวลา
**
โรงเรียนกีฬานอกเวลา เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการฝึกสอนกีฬาประเภทต่างๆตั้งแต่ระดับเด็กๆ
นอกเหนือจากเวลาเรียนในภาคปกติ
นักข่าว : ตอนนั้นอายุกี่ขวบ?
เจิงชุนเหล่ย : ตอนนั้นน่าจะ 9 ขวบ 8-9 ขวบได้
นักข่าว : แล้วก่อน 9 ขวบเคยเล่นกีฬาจริงๆจังๆมาก่อนไหม?
เจิงชุนเหล่ย : ไม่เคย
นักข่าว : ตอนนั้นมีส่วนสูงเท่าไร?
เจิงชุนเหล่ย : ตอนนั้นคง 1.60 กว่านิดหน่อย เทียบกับรุ่นเดียวกันก็จะสูงกว่าหน่อย
ตอนนั้นก็คิดแต่ว่าเป็นเรื่องน่าสนุกน่าสนใจดี
นักข่าว : เทียบกับการเรียนหนังสือล่ะ?
เจิงชุนเหล่ย : เรียนหนังสือเหรอ? เรียนหนังสือคร่ำเคร่งมาทั้งวัน พอเลิกเรียนเสร็จได้ไปโรงเรียนกีฬา
ก็รู้สึกเหมือนได้ไปสนุกสนานผ่อนคลาย
นักข่าว : ไปที่นั่น เพื่อนๆในชั้นเรียนรู้สึกอิจฉาคุณไหม?
เจิงชุนเหล่ย : ก็ดีนะ แต่เพื่อนๆเขามีเวลาทำการบ้าน
นักข่าว : ตอนนั้นแม้แต่เวลาทำการบ้านก็ไม่ค่อยมี
เจิงชุนเหล่ย : ใช่
นักข่าว : ตอนไหนถึงเริ่มต้นจริงจังกับวอลเลย์บอล
เจิงชุนเหล่ย : 10 ขวบครึ่ง
นักข่าว : ก็คือไปฝึกซ้อมที่โรงเรียนกีฬานอกเวลาได้สักปีครึ่ง
เจิงชุนเหล่ย : ใช่ ก็ได้เข้าโรงเรียนกีฬาฉือช่าไห่ ตอนนั้นโค้ชโรงเรียนกีฬานอกเวลาส่งชื่อช้า
พอหลังจากส่งชื่อไปแล้วก็ได้ให้อยู่ทีมเพื่อทดสอบ ก็ผ่านไปได้ จากนั้นก็ได้อยู่ร่วมทีม
นักข่าว : หลังจากได้เข้าแล้ว ก็เท่ากับว่าต้องลาจากเพื่อนๆโรงเรียนเก่า รู้สึกอาลัยอาวรณ์บ้างหรือเปล่า?
เจิงชุนเหล่ย : ก็มี ฉันจำได้ว่าตอนนั้นหัวหน้าห้องยังร้องไห้ส่งฉันเลย
นักข่าว : หลังจากเข้ามาเรียนวอลเลย์สายอาชีพแล้ว รู้สึกว่าลำบากหรือว่าน่าเบื่อหรือเปล่า?
เจิงชุนเหล่ย : พูดไม่ได้ว่าน่าเบื่อ รู้แต่ว่าตัวเองในการจะทำเรื่องอะไรก็จะมีสมาธิจดจ่ออยู่กับมัน ตอนแรกก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สนุก
ต่อมาก็รู้สึกว่าจะทำอะไรก็จะละเอียดรอบคอบขึ้น ต้องใช้เวลาอย่างมากในการเข้าถึงมัน
นักข่าว : คือเป็นวอลเลย์อาชีพ ตอนนั้นที่บ้านสนับสนุนไหม?
เจิงชุนเหล่ย : สนับสนุน โดยเฉพาะคุณพ่อจะเข้มงวดมาก ตอนสมัยเด็กตอนรู้สึกเหนื่อย ก็จะมีบ่น
ปกติพ่อแม่มักจะรักห่วงใยลูก แต่ว่าพ่อฉันจะไม่ยอมให้ฉันพูดบ่นเลย
** ยังมีต่อ
บทสัมภาษณ์เจิงชุนเหล่ย .... เล่าย้อนให้ฟังถึงประวัติความเป็นมา
ก็มาถูกใจฉันเข้าจึงได้ไปฝึกซ้อมที่โรงเรียนกีฬานอกเวลา
** โรงเรียนกีฬานอกเวลา เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการฝึกสอนกีฬาประเภทต่างๆตั้งแต่ระดับเด็กๆ
นอกเหนือจากเวลาเรียนในภาคปกติ
นักข่าว : แล้วก่อน 9 ขวบเคยเล่นกีฬาจริงๆจังๆมาก่อนไหม?
ตอนนั้นก็คิดแต่ว่าเป็นเรื่องน่าสนุกน่าสนใจดี
ก็รู้สึกเหมือนได้ไปสนุกสนานผ่อนคลาย
พอหลังจากส่งชื่อไปแล้วก็ได้ให้อยู่ทีมเพื่อทดสอบ ก็ผ่านไปได้ จากนั้นก็ได้อยู่ร่วมทีม
ต่อมาก็รู้สึกว่าจะทำอะไรก็จะละเอียดรอบคอบขึ้น ต้องใช้เวลาอย่างมากในการเข้าถึงมัน
ปกติพ่อแม่มักจะรักห่วงใยลูก แต่ว่าพ่อฉันจะไม่ยอมให้ฉันพูดบ่นเลย
** ยังมีต่อ