ต่อจากกระทู้ที่แล้วครับ
http://ppantip.com/topic/35240255
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อยากทราบว่าผลตอบรับจะเป็นยังไงบ้างครับ ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมกำลังสอนเรื่องนี้อยู่ครับ
แต่พอดีเคยอ่านในหลายๆ ความเห็น ว่าสำเนียงและการออกเสียงไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะว่า
คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่สามารถพูดให้เหมือนฝรั่งได้ ซึ่งผมเห็นด้วยนะครับ ถ้าเป็นอังกฤษสำเนียงคนอังกฤษ
แต่สำหรับอังกฤษสำเนียงอเมริกัน แบบที่ได้ยินทั่วไปในหนัง หรือคนที่พูดอ่านข่าว มีวิธีเปลี่ยนให้เหมือนได้ครับ
ส่วนหมือนแล้ว จะเป็นประโยชน์เช่นไร ก็สุดแล้วแต่ แต่ล่ะท่านว่าจะเอาไปใช้งานด้านไหน ยังไง
เพื่อกันคนมองในแง่ลบว่าจะมาลงเพื่อหาคนเรียนรึเปล่า ผมของดไม่บอกช่องทางติดต่อผมทั้งหน้าไมค์หลังไมค์นะครับ
เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจริงๆ เพราะอยากรู้ว่า จะมีคนเห็นคุณค่าในการเรียนอังกฤษสำเนียงอเมริกันมากขนาดไหน
ซึ่งข้อดีของสำเนียงอเมริกันคือ มีคนใช้สำเนียงนี้มากที่สุด
ที่มาที่ไปคือ ผมเองก็เรียนโรงเรียนไทยเหมือนๆ กับคนส่วนใหญ่ สอบภาษาอังกฤษตกตลอดเหมือนคนส่วนใหญ่
พูดง่ายๆ คือโง่ ดังนั้นจึงเคยอ่านพูดเป็นสำเนียงไทยแน่นอน และไม่เคยไปเรียนเมืองนอก เพราะไม่มีเงิน และไม่กล้า
เหมือนๆ หลายๆ ท่าน ไม่ได้มีเพื่อนเป็นคนฝรั่งสักคนเดียว เพราะเป็นคนเฟรนด์ลี่ที่เข้าสังคมไม่เป็นเหมือนหลายๆ ท่าน
แต่ผมเก่งขึ้นมาได้เพราะได้พบอาจารย์ที่มีเคมีตรงกับผม แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ที่มาของวิธีการสอนเปลี่ยนสำเนียงได้ซะทีเดียว
เพราะผมมาค้นพบเองทีหลัง และเชื่อว่า ถ้าการสอนภาษาอังกฤษในไทยใช้วิธีแบบผม ก็จะสามารถมีสำเนียงแบบอังกฤษ-อเมริกัน
ได้ทุกโรงเรียน โดยไม่ต้องพึ่งครูเจ้าของภาษาเลย ที่จริงคนไทยทุกคนมีความสามารถนี้อยู่ แต่ยังไม่รู้ตัวเองเท่านั้น
เพราะภาษาไทยคือหนึ่งในภาษาที่เลียนแบบเสียงได้ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
ผมขอสอบถามว่า ถ้าสอนแบบนี้ได้ ซึ่งผมไม่ได้สอนแบบเจ้าของภาษานะครับ เจ้าของภาษาไม่สามารถสอนให้คนที่อายุมากแล้ว
ได้สำเนียงแบบเจ้าของภาษาได้ครับ อันเป็นข้อจำกัดของสมองคนเรา ที่จะต้องเป็นเด็กเท่านั้น ถึงจะก็อปปี้สำเนียงภาษาได้ 100%
วิธีนี้เป็นวิธีที่คนไทยด้วยกันเท่านั้นที่จะสอนได้ครับ สนใจที่จะเปลี่ยนสำเนียงกันบ้างมั๊ยครับ หรือถ้าไม่เห็นด้วย มีเหตุผล
อะไรที่ไม่สนใจครับ ขอบคุณครับ
จากกระทู้ก่อนที่มีคนบอกให้ผมทำคลิป แล้วผมก็ไม่ได้ทำสักที
และพอทำแล้วก็ค่อนข้างเกร็ง รู้สึกว่าตอนไม่ถ่ายตัวเองพูดได้ดีกว่านี้ จังหวะจะโคนจะดีกว่า
สาเหตุอาจจะมาจาก ผมไม่ได้คุยกับคนฝรั่ง ไม่ได้มีเพื่อนฝรั่ง ครับ พอเกร็งแล้วจะพูดไม่ค่อย
ถนัดขึ้นมาเลย แต่ถ้าเฉยๆ ธรรมชาติๆ อย่างตอนคุยกับลูกตอนไม่อัดวีดีโอ ก็จะพูดได้โอเคกว่า ประมาณว่าเฮ้ยเหมือนเลยแหะ
ซึ่งก็มาจากการลอกเลียนแบบตามธรรมชาตินี่แหล่ะครับ จากการดูหนัง soundtrack มาตั้งแต่เด็กตลอด ไม่ชอบ
ฟังแบบภาคไทย
ผมคิดว่าจะทำคลิปสอนการออกเสียง และการฝึก stress ครับ ส่วนเรื่องสำเนียง
เนื่องจากผมไม่ใช่ฝั่งของวิชาการ ผมแนะนำว่า ถ้าออกเสียงได้ถูก รู้ตำแหน่ง stress เรื่องสำเนียง
คุณสามารถลอกเลียนแบบจากฝรั่งใกล้ตัวได้เลย เพราะส่วนตัวผมก็ไม่นิ่งเรื่องสำเนียง บางทีพูดออกมา
เหมือนในหนังเสียงอเมริกัน หรือบางทีพูดออกมาเสียงอังกฤษก็มีบ้าง
แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าผม perfect โดนด่าไม่ได้นะครับ คนที่เก่งกว่าแล้วเข้ามาว่า ผมก็ยอมรับ
อย่างที่บอกไป ผมไม่ได้คลุกคลีตีโมงกับชาวต่างชาติ และการเรียนกับครูฝรั่งเป็นหลัก จากที่ผมเห็นผมว่ามีจุดบอดเยอะ
1. เวลาที่จำกัด - ครูฝรั่งคงช่วยเราไม่ได้ใน 2-3 ชั่วโมง 2-3 วันในสัปดาห์ คำศัพฑ์ก็สอนได้น้อยกว่า
2. ไม่ได้เน้นการออกเสียง - ครูฝรั่งส่วนใหญ่จะเอาใจช่วยให้นักเรียน กล้าพูด พูดได้ก็ดีแล้ว นั่นคือความสำเร็จแล้ว
และยอมรับสำเนียงที่แตกต่างมากกว่าช่วยปรับให้เรา
สำหรับคนทั่วๆ ไป ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ยาก จึงตั้งกระทู้ว่า "สำหรับทุกคน" และไม่เน้นไปทางวิชาการ (ที่น่ากลัวสำหรับคนทั่วไป)
แต่ผมเองก็อาจจะผิดก็ได้ครับ เพราะผมมองจากประสบการณ์ตัวเอง ผมอยากจะแนะนำว่า
0.ตั้งแต่เด็ก ควรฟังหนังเสียง soundtrack เท่านั้นครับ ข้อนี้สำคัญ เพราะมันจะกลายเสียงเป็นตัวเทียบให้เราในสมองในอนาคต
1.การเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนรัฐทั่วไปคืออุปสรรค์สำคัญที่ทำให้เราออกเสียงผิดครับ -โชคดีของผมคือ พอดีผมไม่ตั้งใจเรียน ชอบวาดรูปในห้อง
2.การใช้ dictionary ควรเลือกเล่มที่เขียนคำอ่าน ออกเสียง ถูกต้อง ด้วยภาษาไทยนี่แหล่ะครับ มีออกมาแล้ว
3.การท่องศัพฑ์ ต้องท่องตำแหน่งที่ stress ด้วยครับ ให้คำนึงเหมือนภาษาไทยที่เราต้องจำวรรณยุกต์
4.ให้หาโรงเรียนพิเศษที่คุณครูคนไทยออกเสียงได้ถูก และชี้ตำแหน่ง stress อย่ามองเพียงแค่ครูที่มีชื่อเสียงครับ ให้มองจุดนี้เป็นหลัก
5.ให้หาโรงเรียนพิเศษที่คุณครูคนไทย แตกศัพฑ์ แตกรากศัพฑ์ แบบละเอียดยิบ แล้วทวนทุกครั้งที่เจอศัพฑ์นั้นๆ ความรู้ศัพฑ์จะตามทันฝรั่งได้ไม่ยากครับ
6.เมื่อจบทั้งหมด ค่อยไปหาครูฝรั่ง เพื่อนฝรั่ง แฟนฝรั่ง ไปต่อต่างประเทศ และอื่นๆ ครับ
หลายคนไปหาข้อ 6 ก่อน และเข้าใจว่าข้อ 6 ดีที่สุด
ที่จริงก็อาจจะดีที่สุดครับ แต่คนที่ได้อาจมีแค่คนบางคน แล้วก็จะเจอปัญหาฟังไม่ clear
แล้วเมื่อฟังไม่ clear เรื่องศัพฑ์อะไรต่างๆ ที่ตามมาก็จะช้ามาก บางคนเหมือนไม่ได้อะไรเลย
แต่ถ้าอายุของคนเรียนยังเล็ก เช่น 7 ขวบลงไป ไปหาข้อที่ 6 ก่อนครับ
(เรื่องอายุ 7-10 ก็ได้แต่จะยากแล้ว, 7-5 ลงมาพอไหว, 5 ลงมาง่าย, 3 ลงมาง่ายที่สุดครับในการลอกเลียนแบบ)
ปัญหาใหญ่ที่เราพูดสำเนียงไม่ได้ แม้จะเรียนกับครูฝรั่ง (ไม่นับคนที่ได้นะครับ)
เพราะว่าพอโตแล้ว การฟังเสียงที่เคลียร์เมื่อเทียบกับภาษาเรา สมองของตัวเราเองก็จะปฎิเสธ
โดยอัตโนมัติครับ เพียงแค่เริ่มต้นก็ไปต่อลำบากแล้ว ตามสถาบันที่ใช้ครูฝรั่งสอนภาษาคนที่โตแล้ว
ผมมักจะเห็นการสอนที่วนเวียนไม่สามารถไปต่อข้างหน้าได้
ปัญหาของ dictionary เมืองไทย, ปัญหาการเขียนการออกเสียงในโรงเรียน
ในกระทู้เดิมผมเขียนประมาณว่า ภาษาไทยคือหนึ่งในภาษาที่ไว้ลอกเลียนแบบเสียงของอีกภาษาได้ดี
ใช่มั้ยครับ ผมไม่ละเอียด ไม่แยก สำเนียง กับการออกเสียง ออกจากกัน ผมเลยเจอฝ่ายวิชาการจวกเข้าไปเยอะมาก
สาเหตุที่ผมอธิบายไม่เคลียร์ เพราะผมไม่ได้เป็นฝั่งวิชาการครับ ต้องบอกว่าผมมารู้ตัวทีหลังว่าเราหน้าแตกตรงนี้
แต่การสอนเปลี่ยนสำเนียงก็พอทำได้ครับ แต่ไม่ใช่ใช้ภาษาไทยสะกดคำ เพราะการสะกดคำคือการลอกการออกเสียง
dictionary ทั่วไปกับการสอนคำศัพฑ์โรงเรียน ละเลยการสะกดให้ตรงกับที่ฝรั่งออกเสียง และโรงเรียนก็ไม่เน้นจุดที่ออกเสียง stress
แทบจะทั้งหมด ซึ่งผมคิดว่าเป็นรากเหง้าของความล้มเหลวในการเรียนภาษาอังกฤษเลยครับ เพราะฝรั่งอ่านคำนี้
ออกเสียงไปทางสระ แ- แต่ dict เรากับครูที่โรงเรียนอ่าน -า หรือจริงๆ ต้อง เ-อะ แต่กลายเป็น -ั
สำหรับภาษาไทยเราเอง แค่อ่านวรรณยุกต์ผิดก็เพี้ยนแล้ว ไม่นับการออกเสียงผิด ถ้าพูดมาแค่หนึ่งคำโดยไม่มีประโยคแวดล้อมเสริม
เราก็แทบจะไม่เข้าใจคำนั้นเลย
ผมมาเขียนเท่านี้ก่อนครับ ต้องขออภัยคลิปที่ดูชาวบ้านมาก ต่อไปน่าจะดีกว่านี้ครับ
ผมตั้งใจจะทำคลิปสอนภาษาอังกฤษการออกเสียง, stress, คำศัพฑ์ ที่มีทั้งการแตกคำและรากศัพฑ์
กับอยากทำคลิปแนะนำสร้างเด็กสองภาษาด้วยครับ
จุดมุ่งหมายในการทำคลิปคือ อยากให้คนหลายคนมากๆ เลย ที่ต้องหันหลังให้ภาษาอังกฤษ เนื่องจากไม่เก่งด้านวิชาการ
ด้านการเรียนที่โรงเรียน หรือไม่มีทุนทรัพย์จะเรียนแพงๆ ได้เห็นอีกแง่มุมการเรียนจากคนที่ล้มเหลวจากการสอนแบบ
วิชาการจากที่โรงเรียนด้วยเช่นกันอย่างผม ซึ่งถ้าผมเชื่อตามนั้นเพราะคิดว่าตัวเองโง่ไม่เก่ง คงไม่มีวันนี้
***และอยากจะบอกอีกนิดว่า ถ้าเราออกเสียงถูก stress ถูกและสำเนียงที่จะตามมาหลังจากนั้น (ที่เราเลียนแบบฝรั่งได้ด้วยตัวเอง)
เป็นสิ่งที่สำคัญครับ เราทำได้ถ้ารู้วิธี ถ้าเราละทิ้งไปมันคือสิ่งที่น่าเสียดาย แทนที่เรียนภาษาจะง่ายขึ้น แต่กลับจะยากกว่าเดิมครับ
ถ้าผมคิดค้นวิธีเปลี่ยนสำเนียงให้พูดเหมือนแบบฝรั่งได้สำหรับทุกคน จะมีคนมาเรียนกับผมมั้ยครับ (ต่อ)
http://ppantip.com/topic/35240255
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากกระทู้ก่อนที่มีคนบอกให้ผมทำคลิป แล้วผมก็ไม่ได้ทำสักที
และพอทำแล้วก็ค่อนข้างเกร็ง รู้สึกว่าตอนไม่ถ่ายตัวเองพูดได้ดีกว่านี้ จังหวะจะโคนจะดีกว่า
สาเหตุอาจจะมาจาก ผมไม่ได้คุยกับคนฝรั่ง ไม่ได้มีเพื่อนฝรั่ง ครับ พอเกร็งแล้วจะพูดไม่ค่อย
ถนัดขึ้นมาเลย แต่ถ้าเฉยๆ ธรรมชาติๆ อย่างตอนคุยกับลูกตอนไม่อัดวีดีโอ ก็จะพูดได้โอเคกว่า ประมาณว่าเฮ้ยเหมือนเลยแหะ
ซึ่งก็มาจากการลอกเลียนแบบตามธรรมชาตินี่แหล่ะครับ จากการดูหนัง soundtrack มาตั้งแต่เด็กตลอด ไม่ชอบ
ฟังแบบภาคไทย
ผมคิดว่าจะทำคลิปสอนการออกเสียง และการฝึก stress ครับ ส่วนเรื่องสำเนียง
เนื่องจากผมไม่ใช่ฝั่งของวิชาการ ผมแนะนำว่า ถ้าออกเสียงได้ถูก รู้ตำแหน่ง stress เรื่องสำเนียง
คุณสามารถลอกเลียนแบบจากฝรั่งใกล้ตัวได้เลย เพราะส่วนตัวผมก็ไม่นิ่งเรื่องสำเนียง บางทีพูดออกมา
เหมือนในหนังเสียงอเมริกัน หรือบางทีพูดออกมาเสียงอังกฤษก็มีบ้าง
แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าผม perfect โดนด่าไม่ได้นะครับ คนที่เก่งกว่าแล้วเข้ามาว่า ผมก็ยอมรับ
อย่างที่บอกไป ผมไม่ได้คลุกคลีตีโมงกับชาวต่างชาติ และการเรียนกับครูฝรั่งเป็นหลัก จากที่ผมเห็นผมว่ามีจุดบอดเยอะ
1. เวลาที่จำกัด - ครูฝรั่งคงช่วยเราไม่ได้ใน 2-3 ชั่วโมง 2-3 วันในสัปดาห์ คำศัพฑ์ก็สอนได้น้อยกว่า
2. ไม่ได้เน้นการออกเสียง - ครูฝรั่งส่วนใหญ่จะเอาใจช่วยให้นักเรียน กล้าพูด พูดได้ก็ดีแล้ว นั่นคือความสำเร็จแล้ว
และยอมรับสำเนียงที่แตกต่างมากกว่าช่วยปรับให้เรา
สำหรับคนทั่วๆ ไป ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ยาก จึงตั้งกระทู้ว่า "สำหรับทุกคน" และไม่เน้นไปทางวิชาการ (ที่น่ากลัวสำหรับคนทั่วไป)
แต่ผมเองก็อาจจะผิดก็ได้ครับ เพราะผมมองจากประสบการณ์ตัวเอง ผมอยากจะแนะนำว่า
0.ตั้งแต่เด็ก ควรฟังหนังเสียง soundtrack เท่านั้นครับ ข้อนี้สำคัญ เพราะมันจะกลายเสียงเป็นตัวเทียบให้เราในสมองในอนาคต
1.การเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนรัฐทั่วไปคืออุปสรรค์สำคัญที่ทำให้เราออกเสียงผิดครับ -โชคดีของผมคือ พอดีผมไม่ตั้งใจเรียน ชอบวาดรูปในห้อง
2.การใช้ dictionary ควรเลือกเล่มที่เขียนคำอ่าน ออกเสียง ถูกต้อง ด้วยภาษาไทยนี่แหล่ะครับ มีออกมาแล้ว
3.การท่องศัพฑ์ ต้องท่องตำแหน่งที่ stress ด้วยครับ ให้คำนึงเหมือนภาษาไทยที่เราต้องจำวรรณยุกต์
4.ให้หาโรงเรียนพิเศษที่คุณครูคนไทยออกเสียงได้ถูก และชี้ตำแหน่ง stress อย่ามองเพียงแค่ครูที่มีชื่อเสียงครับ ให้มองจุดนี้เป็นหลัก
5.ให้หาโรงเรียนพิเศษที่คุณครูคนไทย แตกศัพฑ์ แตกรากศัพฑ์ แบบละเอียดยิบ แล้วทวนทุกครั้งที่เจอศัพฑ์นั้นๆ ความรู้ศัพฑ์จะตามทันฝรั่งได้ไม่ยากครับ
6.เมื่อจบทั้งหมด ค่อยไปหาครูฝรั่ง เพื่อนฝรั่ง แฟนฝรั่ง ไปต่อต่างประเทศ และอื่นๆ ครับ
หลายคนไปหาข้อ 6 ก่อน และเข้าใจว่าข้อ 6 ดีที่สุด
ที่จริงก็อาจจะดีที่สุดครับ แต่คนที่ได้อาจมีแค่คนบางคน แล้วก็จะเจอปัญหาฟังไม่ clear
แล้วเมื่อฟังไม่ clear เรื่องศัพฑ์อะไรต่างๆ ที่ตามมาก็จะช้ามาก บางคนเหมือนไม่ได้อะไรเลย
แต่ถ้าอายุของคนเรียนยังเล็ก เช่น 7 ขวบลงไป ไปหาข้อที่ 6 ก่อนครับ
(เรื่องอายุ 7-10 ก็ได้แต่จะยากแล้ว, 7-5 ลงมาพอไหว, 5 ลงมาง่าย, 3 ลงมาง่ายที่สุดครับในการลอกเลียนแบบ)
ปัญหาใหญ่ที่เราพูดสำเนียงไม่ได้ แม้จะเรียนกับครูฝรั่ง (ไม่นับคนที่ได้นะครับ)
เพราะว่าพอโตแล้ว การฟังเสียงที่เคลียร์เมื่อเทียบกับภาษาเรา สมองของตัวเราเองก็จะปฎิเสธ
โดยอัตโนมัติครับ เพียงแค่เริ่มต้นก็ไปต่อลำบากแล้ว ตามสถาบันที่ใช้ครูฝรั่งสอนภาษาคนที่โตแล้ว
ผมมักจะเห็นการสอนที่วนเวียนไม่สามารถไปต่อข้างหน้าได้
ปัญหาของ dictionary เมืองไทย, ปัญหาการเขียนการออกเสียงในโรงเรียน
ในกระทู้เดิมผมเขียนประมาณว่า ภาษาไทยคือหนึ่งในภาษาที่ไว้ลอกเลียนแบบเสียงของอีกภาษาได้ดี
ใช่มั้ยครับ ผมไม่ละเอียด ไม่แยก สำเนียง กับการออกเสียง ออกจากกัน ผมเลยเจอฝ่ายวิชาการจวกเข้าไปเยอะมาก
สาเหตุที่ผมอธิบายไม่เคลียร์ เพราะผมไม่ได้เป็นฝั่งวิชาการครับ ต้องบอกว่าผมมารู้ตัวทีหลังว่าเราหน้าแตกตรงนี้
แต่การสอนเปลี่ยนสำเนียงก็พอทำได้ครับ แต่ไม่ใช่ใช้ภาษาไทยสะกดคำ เพราะการสะกดคำคือการลอกการออกเสียง
dictionary ทั่วไปกับการสอนคำศัพฑ์โรงเรียน ละเลยการสะกดให้ตรงกับที่ฝรั่งออกเสียง และโรงเรียนก็ไม่เน้นจุดที่ออกเสียง stress
แทบจะทั้งหมด ซึ่งผมคิดว่าเป็นรากเหง้าของความล้มเหลวในการเรียนภาษาอังกฤษเลยครับ เพราะฝรั่งอ่านคำนี้
ออกเสียงไปทางสระ แ- แต่ dict เรากับครูที่โรงเรียนอ่าน -า หรือจริงๆ ต้อง เ-อะ แต่กลายเป็น -ั
สำหรับภาษาไทยเราเอง แค่อ่านวรรณยุกต์ผิดก็เพี้ยนแล้ว ไม่นับการออกเสียงผิด ถ้าพูดมาแค่หนึ่งคำโดยไม่มีประโยคแวดล้อมเสริม
เราก็แทบจะไม่เข้าใจคำนั้นเลย
ผมมาเขียนเท่านี้ก่อนครับ ต้องขออภัยคลิปที่ดูชาวบ้านมาก ต่อไปน่าจะดีกว่านี้ครับ
ผมตั้งใจจะทำคลิปสอนภาษาอังกฤษการออกเสียง, stress, คำศัพฑ์ ที่มีทั้งการแตกคำและรากศัพฑ์
กับอยากทำคลิปแนะนำสร้างเด็กสองภาษาด้วยครับ
จุดมุ่งหมายในการทำคลิปคือ อยากให้คนหลายคนมากๆ เลย ที่ต้องหันหลังให้ภาษาอังกฤษ เนื่องจากไม่เก่งด้านวิชาการ
ด้านการเรียนที่โรงเรียน หรือไม่มีทุนทรัพย์จะเรียนแพงๆ ได้เห็นอีกแง่มุมการเรียนจากคนที่ล้มเหลวจากการสอนแบบ
วิชาการจากที่โรงเรียนด้วยเช่นกันอย่างผม ซึ่งถ้าผมเชื่อตามนั้นเพราะคิดว่าตัวเองโง่ไม่เก่ง คงไม่มีวันนี้
***และอยากจะบอกอีกนิดว่า ถ้าเราออกเสียงถูก stress ถูกและสำเนียงที่จะตามมาหลังจากนั้น (ที่เราเลียนแบบฝรั่งได้ด้วยตัวเอง)
เป็นสิ่งที่สำคัญครับ เราทำได้ถ้ารู้วิธี ถ้าเราละทิ้งไปมันคือสิ่งที่น่าเสียดาย แทนที่เรียนภาษาจะง่ายขึ้น แต่กลับจะยากกว่าเดิมครับ