สืบเนื่องจากเมื่อวานไม่ได้กินข้าวเย็น หิวมากจนนอนไม่หลับ ขยับไปขยับมาก็นึกอยากกิน Omakase ขึ้นมาซะงั้น เลยขึ้นเฟสบุ้คแล้วแท็กหาคุณแฟนอย่างไว นางก็คอมเม้นกลับมาว่า 'เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปกินนะคะ'

เราเลยถามกลับไปเพื่อความแน่ใจ ได้คำตอบว่า หลังปีใหม่จ้า ด้วยความของขึ้น เรื่องกินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มายั่วให้อยากแล้วจากไป ใช้ได้ที่ไหนกัน!! เลยตั้งมั่นว่า ยังไงพรุ่งนี้ต้องได้กิน คนเดียวก็เอาแล้วว อยากจนเก็บไปฝันขนาดนี้

และแล้วตอนเช้าได้รับข่าวดี แฟนไลน์มาบอกว่า อยากกินร้านไหน จองไว้เลย
เราตัดสินใจอยู่นานว่าจะลอง Sushi ichi หรือ Sushi kanda ดี ปกติกินแต่ที่ Mizu by Sankyodai อยากลองของใหม่บ้าง

เลยลองโทรถามดู สรุปว่าคนรับสายที่ Sushi ichi เสียงหวานกว่า ตกลงตามนี้ จองไว้ 6 โมงเย็น ..

เมื่อเวลาที่รอคอยมาถึง

มื้อเย็นมีให้เลือก 4 ราคา คือ 4000 5000 7000 และ 10000 บาท
เราเลือกแบบ Omakase Nigiri ราคา 5000 บาท







หน้าตาของเชฟ และ บรรยากาศภายในร้าน

เริ่มจากเมนูแรก Appetizer เป็นรากบัวฝน



ต่อมาเป็นซูชิคำแรก
คือปลาหน้าวัว คาวาฮางิ เชฟเรียกว่า File fish ท็อปด้วยตับปลาด้านบน
คำนี้คุณแฟนบอกว่าชอบที่สุด รสชาติดีเกินหน้าตา



คำที่สองเป็น ปลากระพงน้ำลึก Sea Perch



ตามมาด้วย อาโอริอิกะ(Aoriika) หรือ หมึกกระดอง



ส่วนอันนี้เป็นปลาเก๋าน้ำลึก Kue อันนี้ได้ฟรีจากการชำระเงินผ่านบัตรกรุงศรี



ต่อมาเป็นปลาที่เราคุ้นเคยกันดี Maguro ทูน่า
เหมือนจะธรรมดา แต่มันเหนียว นุ่ม ละมุนลิ้น เป็นคำที่เราชอบที่สุดของทั้งหมด ทีเด็ดเลยคำนี้ ต้องไปลองเอง



ตามมาด้วยแก้มปลา Kamatuna หรือ Cheek tuna อาบูริด้วยถ่านชาโคล เชฟบอกว่าหาทานยาก นานๆจะมีเข้ามาที และปลาตัวนึงมีส่วนนี้ไม่เยอะ ถ้าวันไหนมี เชฟก็จะเอามาทำให้ได้ลองทานกัน
แอบกระซิบว่าเมนูนี้เราลืมถ่ายรูป มัวแต่ถามนู่นถามนี่จนเพลิน สรุปต้องสั่งเพิ่มมาอีกคำจ้าา



คำนี้ ซาโยริ Needle Fish หรือปลาเข็มทะเล



ต่อด้วย ไข่หอยเม่น ของโปรด ที่นี่ก็ทำได้ดีกว่าหลายๆที่ ที่เคยทานมา



กลัวคำที่แล้วจะยังไม่สะใจ เชฟเลยจัดเมนูนี้ต่อให้



คั่นด้วยซุปหอยจิ๋ว อันนี้เราว่ารสชาติธรรมดา



ต่อด้วยกุ้ง Ebi ตัวใหญ่



แอบงงเล็กๆว่าทำไมไข่หวานมาก่อน
ไข่หวานที่นี่หวานสมชื่อจริงๆ แต่จัดว่าอร่อย เนื้อแน่นกว่าร้านอื่นๆ ทั่วไปที่เคยทานจะออกเบาๆ ฟูๆ แต่อันนี้จะเป็นเนื้อแน่นๆของไข่ ยังไงดี เอารูปไปดู 555



มากันที่ปลาไหลล



และอย่างสุดท้าย ก่อนจบด้วยของหวาน คือ เนงิโทโร่



ของหวานมีให้เลือกสี่อย่าง ไอติมงาดำ, พุดดิ้งนมซอสชาเขียว, สตอเบอรี่สด, และ เมล่อน
เราเลือกเป็นพุดดิ้ง กับ สตอเบอรี่สด





ค่าเสียหายทั้งหมด



ความประทับใจ
นอกจากจะอร่อยถูกใจทั้งเรา และ แฟนจนชมไม่หยุดแล้ว
ทางร้านน่ารักมาก ไม่ยอมคิดค่าซูชิแก้มปลาที่สั่งเพิ่ม (800บาท)
โดยทางร้านให้เหตุผลว่า เพราะลืมดูบิลให้ดีเอง
เรายืนยันว่าให้คิดเพิ่มไปอยู่หลายครั้ง เพราะเราเองก็ลืม เลยบอกไปว่าถ้าไม่คิดเงินเราจะไม่สบายใจมากๆ
แต่ทางร้านบอกกลับว่า ถ้าคิดเงิน เค้าก็จะไม่สบายใจมากๆเหมือนกัน ให้ถือว่าเป็นของขวัญสวัสดีปีใหม่

โอ้ยย แล้วแบบนี้จะไม่ใจอ่อนมาซ้ำยังไงไหว

มีอีกข้อที่เรารู้สึกถึงความเอาใจใส่ต่างจากที่อื่นคือ ชาร้อน
ทางร้านจะคอยเปลี่ยนแก้วชาให้เราตลอด เพื่อให้ชาร้อนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะดื่มไปแค่ไหนก็ตาม
ซึ่งไปที่อื่นเรายังไม่เคยเจอ มันเป็นจุดเล็กๆที่เราสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการให้บริการ

เชฟน่ารักมาก ยิ้มหวานตลอด
แอบบอกว่าถึงเชฟจะเป็นคนญี่ปุ่น แต่ฟังภาษาไทยได้ค่ะ และพูดไทยได้บางคำ
ถ้าสงสัยอะไรสามารถสอบถามเชฟได้ ใจดี

ส่วนข้อเสียอย่างเดียวที่เราพบก็คือ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราไม่อิ่ม ..





รีวิวแรก และ กระทู้แรกของเรา
แก้ไขปรับปรุงตรงไหนช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ส่วนไหนผิดพลาดขออภัยค่ะ