สวัสดีค่ะ วันนี้เจ้าของกระทู้ขอมาอัพเดทภาคต่อเรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 15 นะคะ ครั้งนี้ หวังว่าทุกๆท่านคงจะยังจำตอนที่ 14 ได้นะคะเพราะเราทิ้งช่วงห่างไปนานพอควรเลย
สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังรอกัน เจ้าของกระทู้ต้องขอขอบคุณมากๆเลยนะคะ สำหรับตอนที่ 15 นั้นมีชื่อว่า
" ฝันสลายว่าที่นักเรียนอังกฤษ ✈️✨ " ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ
" ในบางครั้ง.. เส้นทางของชีวิตคนเรานั้นมันก็แสนที่จะวกวน สับสนจนยากที่จะเข้าใจ
ตอนที่ใจยังอยู่ ก็ไม่ค่อยจะมีอะไรให้ได้ชื่นหัวใจ แต่พอตอนจะไป ก็กลับมีเซอร์ไพรส์มาให้แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อการเก็บเตียงสุดดรามาในไฟลท์ลอนดอนครั้งนั้น ทำเอาเราหมดความอดทนกับงานบริการในทันที เราจึงรีบมีเป้าหมายใหม่ให้กับชีวิตมาเสียบแทน
นั่นคือการไปเรียนต่อโทที่ประเทศอังกฤษ และดำเนินรอยตามเส้นทางชีวิตดี๊ ดีแบบเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างที่มันควรจะเป็น
ซึ่งเราก็ได้คัดเลือกเพื่อนที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในหมู่เฮาชาวจุฬาฯรุ่นเดียวกัน แล้วก็เปลี่ยนไทเทิ่ลเธอคนนั้นให้เป็นไอดอลประจำตัวในบัดดล ตามสูตรลับที่ว่า “เดินตามคนที่สำเร็จ มันก็ต้องสำเร็จ” เราจึงกะลงมันทั้งคอร์ส MBA และทั้งมหาวิทยาลัยเดียวกับที่เพื่อนเรียนจบมามันซะเลย
“เอาวะ! ค่าเรียนหลักล้าน แต่ถ้าไม่ต้องมานั่งชันเข่าปูเตียงเก็บเตียงชงชาคาโมมายล์อีกแล้ว ตูยอม!”
2 สัปดาห์หลังจากวันนั้น เราจึงใช้ทุกๆวันและทุกเวลาที่ว่าง ในการอ่านหนังสือเตรียมสอบ IELTS โดยจะสอบมันเลยในเดือนหน้า พอผลออกมาก็จะใช้ยื่นสมัครเรียนเทอมถัดไปในทันที
เรียกได้ว่า นี่เป็นแผนชิ่งที่วางได้กระชับ ฉับไว มาเร็ว เคลมเร็วยิ่งกว่าสินมั่นคงประกันภัยก็ไม่ปาน
“ขาดเพียงแต่รอตารางบินออกก่อนสินะ จะได้รีบจองสมัครสอบและจัดการทุกๆอย่างให้เสร็จสรรพ”
เราเฝ้าคิดหมกมุ่นอยู่แต่กับแผนการ จนไม่ได้คิดเสียดายชีวิตนางฟ้าตะวันออกกลางเลยแม้แต่นิดเดียว
มีแต่ความโล่งใจ.. ที่จะได้รับอิสรภาพคืนมาเสียที หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงอาบูดาบีแห่งนี้มาตั้งแต่อายุยังไม่ 24 เต็ม จนป่านนี้ปาเข้าไปเกือบจะ 30
“หมดแล้วสินะ.. วัยสาวของชั้น”
และแล้ว..
แปะ!!
“ตารางบินออกแล้วจ้า..” – เหยี่ยวข่าวท่านหนึ่งโพสต์ไว้ในเฟสบุ๊ค
ก่อนอื่นขอกระทืบไลค์ให้เหยี่ยวสักหนึ่งทีแรงๆ เพราะเรารอเวลานี้มานานเหลือเกิน
ชีวิตไม่เป็นอันบินกันเลยตลอดทั้งเดือน เราเอาแต่เพ้อจะรีบไปตามหาหอพักบ้าง เอกสารบ้าง ดูลาดเลารอบมหาวิทยาลัยนั่นนี่บ้าง
ตารางบินเดือนนี้จึงถูกเปิดด้วยความตื่นเต้นที่สุดในรอบเกือบ 6 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะมีอะไรๆรอเราอยู่อีกเป็นกระบุง
ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ เราได้ไฟลท์เพื่อไปสอบที่กรุงเทพสมดังประสงค์
แต่ทว่า มันยังไม่หมด..
บริษัทยังได้จัดของแถมชิ้นใหญ่มาให้ ซึ่งนับเป็นการเซอร์ไพรส์ที่เล่นใหญ่ เล่นจริงจนเราถึงกับตะลึงอ้าปากค้างอีกตามเคย
นั่นก็คือการถูกส่งไปสอบสัมภาษณ์ในตำแหน่งรองหัวหน้าในรอบตารางบินเดียวกัน
และวันสัมภาษณ์ก็มาถึง
เราหยิบกระดาษที่ปริ๊นต์ตารางบินออกมาคลี่ดู หลังจากโบกแท็กซี่ และนั่งมาถึงครึ่งทาง
“หูย.. เริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้า แต่เลิกตั้ง 4 โมงเย็นนี่ ทำไมมันยาวนานแท้ฟระ” ว่าแล้วเราก็พับกระดาษเก็บกลับเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วนั่งเหม่อมองทะเลทรายไปตลอดทางจนถึงโรงเรียนฝึกลูกเรือ
เหลือบไปดูตารางสัมภาษณ์บนหน้าจอบริเวณทางเข้าศูนย์ฝึกลูกเรือ พร้อมยืนเหม่อต่อไปอีก 5 วินาทีด้วยความเบลอ และแล้ว.. เราก็ได้เวลาตั้งสติและเดินมุ่งหน้าไปยังห้องสัมภาษณ์ทันที เพื่อไปนั่งตั้งสติอีกรอบหนึ่ง
“บินมาจนแก่จนป่านนี้ มันไม่มีอะไรให้ต้องกลัวหรือต้องตื่นเต้นอีกแล้วล่ะ 55555” เราคิดปลงตกพร้อมหัวเราะเสียดสีชีวิตตัวเองอยู่ในใจ พลางเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ที่ซึ่งมีกรรมการ 2 ท่าน กับผู้ร่วมสนามกว่า 30 คนนั่งแยกกันออกเป็น 3 โต๊ะรออยู่
คือถ้าให้ทาย! นี่คือสอบอภิปรายกลุ่มอีกละสินะ
และแล้ว กรรมการก็เชิญเราให้เข้าไปร่วมในโต๊ะสัมภาษณ์หนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยคนราว 10 คนโดยเป็นแขกไปครึ่ง กับฝรั่งอีกครึ่ง ส่วนเราเป็นเอเชียหัวเดียวกระเทียมลีบ
“อ่า.. เอาที่สบายใจกันเลยนะจ๊ะ ถ้าคิดจะจัดกลุ่มกันมาบี้กันขนาดนี้แล้ว” เราแอบคิดประชดเบาๆ พลางหันหัวรอบทิศ 360 องศาเพื่อประเมินสีหน้าสีตาคู่ต่อสู้ที่อยู่รอบด้านโต๊ะกลมนานาชาติที่แสนจะกดดัน
พอระฆังให้แสดงความคิดเห็นดังขึ้น เสียงก็ดังเหมือนนกกระจอกแตกรัง บทสนทนาพัลวันพัลตุงไปหมด คนนั้นคิดโน่น คนนี้คิดนี่ โจทย์มีอยู่ว่าให้ตั้งร้านอาหาร และให้คิดตั้งราคา สถานที่และอะไรต่างๆนาๆ หลายๆคนก็ชาญฉลาดมีความคิดเห็นที่น่าสนใจ ในขณะที่บางคนก็เสนอความคิดแนวทางการค้าแบบเข้าเนื้อจริงจัง ตั้งราคากะว่าไม่เกิน 7 วันคงได้ปิดร้านเพราะคิดถูกจนน่าสะพรึง เหตุเพียงต้องการจะเน้นแต่จำนวนคนเข้าร้านให้อื้ออึงตะลึงงัน
“เจ๊งนะเธอ”
แล้วเราอดรนทนเงียบไม่ไหว หลังจากที่นั่งฟังอย่างนิ่งๆจนหูชา
“หากคิดในแง่ธุรกิจ มันก็ควรจะอยู่ได้นานและมั่นคงใช่ไหม ราคานี้นี่ไม่ได้จริงๆ” พอสบโอกาส เราก็แย้ง และตั้งราคาใหม่ให้ไม่เข้าเนื้อจนเลือดสาดจนสาหัสสากรรจ์ขนาดนั้น
ก่อนจะมีคนมาทั้งเสริม ทั้งแย้งกันจนเสร็จ
หมดยกที่หนึ่ง!
แต่ยัง.. มันยังไม่จบแค่นี้
เชิญทุกท่านไปที่ห้องถัดไป..
บัดนี้ กรรมการชุดเดิมจะเล่นบทบาทสมมติเป็นผู้โดยสารในชั้นธุรกิจ แล้วเราต้องมาเสิร์ฟในนามรองหัวหน้าต่อ
“อ่ะ.. ใครพร้อมก็มาเลยจ้า” กรรมการชายชาวแอฟริกาใต้กล่าว ในขณะที่กรรมการหญิงชาวอินเดียกำลังถือสมุดกับปากกายืนยิ้มแบบไม่น่าจริงใจที่สุดในโลกรอจวก เอ๊ย.. รอจด
และทันทีที่รู้ว่าไม่มีคิวปุ๊บ การช่วงชิงยกมือเพื่อให้ได้สอบก่อนก็เริ่มขึ้นอย่างพัลวัน
เราผู้ซึ่งยืนเป็นไทยมุงอยู่สักพักหนึ่ง ก็ต้องยอมพ่ายแพ้ต่อความแก่ และยกไม่ทันของตัวเอง จึงยอมสิโรราบแยกตัวออกมาอยู่ทางด้านหลังห้องอย่างเจี๋ยมเจี้ยม
และกลายเป็นคนเกือบจะสุดท้ายที่จะได้สอบโดยปริยาย
“ใครสอบเสร็จไปทานข้าวได้เลยค่ะ” คุณกรรมการผู้หญิงกล่าว
“เดี๋ยวมีสัมภาษณ์ไฟนอลต่อช่วงบ่าย อีกตึกนึงนะจ๊ะ” คุณกรรมการชายสมทบ
จากนั่งดูวิว ยืนชิลกินลูกอมอยู่หลังห้อง เราถึงกับสะอึก เงยหน้ามามองกรรมการพร้อมกับนับหัวฝูงชนที่ยังคงห้อมล้อมเรียงรายในคิว
“นี่คือยังไม่จบ?! หมดนี่ละยังไม่จบใช่ไหม??” และถ้าจะให้เดา.. คงต้องอดข้าวล่ะสินะ
แล้วก็เป็นไปตามคาด พอเราได้สอบเสร็จปุ๊บ ก็ถึงเวลาจะต้องไปลงชื่อรอสัมภาษณ์ที่ตึกสำนักงานใหญ่ข้างๆปั๊บ
กลิ่นข้าวแกงอินเดียได้โชยตลบอบอวลระหว่างทางเดินไปสอบสัมภาษณ์อย่างไม่น่าให้อภัย จากเป็นคนกินอาหารอินเดียไม่ได้ ก็กลายเป็นอยากกินมันซะหมดไปซะอย่างนั้น จะปาลักปาเนีย จะบิริยานี่ จะชิคเก้นติ๊กกา บัดนี้หากได้จัดมาซักจาน คงจะรู้สึกซึ้งจนน้ำตาซึม
และแล้ว.. เราก็ได้แต่กลั้นใจเดินผ่านมาจนถึงหน้าห้องสัมภาษณ์
แอ๊ด...
ทันทีที่เปิดห้องไปและได้ประสบพบพักตร์กับกรรมการทั้ง 2 ท่าน
“ราศีจับออร่าแจ่มกันขนาดนี้ นี่คงไม่ใช่ตำแหน่งธรรมดาๆกันแน่ๆ” เราอึ้งเบาๆก่อนจะปั้นยิ้ม ทำใจดีสู้เสือไปก่อน ในขณะที่กำลังรอฟังท่านแนะนำตัวกันทีละคน ก่อนที่จะถามเรากลับ
“นั่นง่ะ.. ตูว่าละ หัวหน้าแผนกบุคคลกับหัวหน้าของหัวหน้าอีกทีมาเอง!”
เราจึงเชคแฮนด์กับทั้งสองท่านไปด้วยมือที่เย็นเฉียบและเกร็งแสนแกร็ง
โดยครานี้ ท่านกรรมการหญิงเป็นคนอังกฤษ ส่วนท่านกรรมการชายนั้นเป็นคนไอริช ซึ่งพอฟังสำเนียงแล้วเหมือนกำลังนั่งดูแฮรี่ พอตเตอร์แบบไม่มีซับไทยยังไงยังงั้น
แต่ก็ไม่เสียแรงที่บริษัทส่งให้เราบินไปกลับๆลอนดอนราว 50 รอบก่อนวันสัมภาษณ์ ท่านคงจะอยากฝึกหูเราสำหรับวันนี้สินะ
การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างเคร่งเครียด และกดดัน โดยที่ท่านผู้หญิงเป็นคนถาม ส่วนท่านผู้ชายเป็นคนมองและคอยจด
ซึ่งเคราะห์ดีที่โต๊ะสัมภาษณ์นั้นค่อนข้างสูง ท่านจึงมองเราได้เพียงแต่หน้า ไม่เห็นมือที่กำลังจิกกันเองอยู่ตลอด เพราะมันสั่นจนแม้แต่ตัวเรายังเสียสมาธิ
คำถามของท่านช่างลึก ถามละเอียด ถามยกให้เห็นถึงเหตุการณ์ สถานการณ์ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ ไฟลท์อะไร บีบคั้นทั้งสติ และหัวใจกันซะเหลือเกิน
เราจึงเคร่งตั้งสติปั้นคำตอบ ตอบไปยิ้มไป ยิ้มจนเส้นกระตุก โหนกแก้มปวด และเหงือกฟันบนเริ่มจะแห้งผาก
จนในที่สุด..
1 ชั่วโมงผ่านไป
“คุณมีคำถามจะถามอะไรเราไหมคะ?”
“ไม่มีเลยค่ะ”
นับเป็นรอยยิ้มที่เรายิ้มให้ท่านอย่างจริงใจที่สุดในตลอดการสัมภาษณ์ พลางฮัมเพลง Let me go home กึกก้องอยู่ในหัวใจ
และแล้ว.. ทั้งสองท่านก็ปล่อยเราไป พร้อมกับแจ้งให้เราเช็คผลทางเมล์ในอีกสองสัปดาห์
“เสร็จแล้วสินะ” เราส่ายหัวบอกตัวเองด้วยความมึนเบลอ ในขณะที่กำลังรอโบกแท็กซี่กลับบ้านอย่างโซซัดโซเซ
ไม่มีใครจะรู้ล่วงหน้าได้หรอก ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่อะไรก็ตามที่เราได้รับมอบหมายมา เราก็จะทำมันให้ดีที่สุด
เอาล่ะ.. วันนี้รีบกลับบ้านไปพัก เพราะหนังสือก็คงอ่านไม่ไหวละ
แล้วพรุ่งนี้ ก็มีบินแต่เช้าอีก นะ.. สู้โว้ย! "
ส่วนใครที่อยากอ่านงานเขียนเรื่องเล่าของเจ้าของกระทู้ย้อนหลัง เราลงลิงค์ไว้ให้ด้านล่างนี่เลยนะคะ :
" แกคือคนสุดท้ายในรุ่นที่ชั้นจะคิดว่าได้เป็นแอร์ " ..จากคำสบประมาท สู่ฝันแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลาง
http://www.ppantip.com/topic/34273378
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 1 : ฝันที่เป็นจริงหรือภาพลวงตา ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34504171?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 2 : หรือฉันจะไม่ใช่นางฟ้า ?.. ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34536596?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 3 : นี่หรือ.. ที่เขาเรียกกันว่า ชีวิตนางฟ้า ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34568986
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 4 : ใครๆก็บอกว่า.. เราบินได้ ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34635697
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 5 : สวิสในฝัน ฉันมาถึงแล้ว✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34675852
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 6 : ความทรงจำสีจางใจกลางกรุงเจนีวา ✈✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34728863
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 7 : จุดเปลี่ยนแรกชีวิตแอร์ ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34785569
" เสียงลือเสียงเล่าอ้าง : ว่าด้วยเรื่องผีในเครื่องบิน "
http://www.ppantip.com/topic/34814284
" อยากเป็นแอร์ตอนนี้ยังทันไหม! : 10 ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้ก่อนเปลี่ยนเส้นทางเดินชีวิต "
http://www.ppantip.com/topic/34853513
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 8 : ยุทธการหักปีกครั้งที่ 1 ✈️✨
http://www.ppantip.com/topic/34910615
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 9 : ผีในมโนจากมิลาน ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34997703?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 10 : ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35164801?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 11 : เส้นทางเพื่อความก้าวหน้า (อันแสนขรุขระ) ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/35241509?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 12 : ชีวิตฟ้าหลังฝน ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35449010?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 13 : อวสานโลกสวย ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35564701?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนพิเศษ : ทริปตามรอยรักเมืองหิมะที่เกาหลี ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35626712?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 14 : เสียงเรียกแห่งความทะเยอทะยาน กับฟางเส้นสุดท้าย ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/35790386
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 15 : ฝันสลายว่าที่นักเรียนอังกฤษ ✈️✨ "
สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังรอกัน เจ้าของกระทู้ต้องขอขอบคุณมากๆเลยนะคะ สำหรับตอนที่ 15 นั้นมีชื่อว่า
" ฝันสลายว่าที่นักเรียนอังกฤษ ✈️✨ " ต่อจากตอนที่แล้วค่ะ
" ในบางครั้ง.. เส้นทางของชีวิตคนเรานั้นมันก็แสนที่จะวกวน สับสนจนยากที่จะเข้าใจ
ตอนที่ใจยังอยู่ ก็ไม่ค่อยจะมีอะไรให้ได้ชื่นหัวใจ แต่พอตอนจะไป ก็กลับมีเซอร์ไพรส์มาให้แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อการเก็บเตียงสุดดรามาในไฟลท์ลอนดอนครั้งนั้น ทำเอาเราหมดความอดทนกับงานบริการในทันที เราจึงรีบมีเป้าหมายใหม่ให้กับชีวิตมาเสียบแทน
นั่นคือการไปเรียนต่อโทที่ประเทศอังกฤษ และดำเนินรอยตามเส้นทางชีวิตดี๊ ดีแบบเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างที่มันควรจะเป็น
ซึ่งเราก็ได้คัดเลือกเพื่อนที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในหมู่เฮาชาวจุฬาฯรุ่นเดียวกัน แล้วก็เปลี่ยนไทเทิ่ลเธอคนนั้นให้เป็นไอดอลประจำตัวในบัดดล ตามสูตรลับที่ว่า “เดินตามคนที่สำเร็จ มันก็ต้องสำเร็จ” เราจึงกะลงมันทั้งคอร์ส MBA และทั้งมหาวิทยาลัยเดียวกับที่เพื่อนเรียนจบมามันซะเลย
“เอาวะ! ค่าเรียนหลักล้าน แต่ถ้าไม่ต้องมานั่งชันเข่าปูเตียงเก็บเตียงชงชาคาโมมายล์อีกแล้ว ตูยอม!”
2 สัปดาห์หลังจากวันนั้น เราจึงใช้ทุกๆวันและทุกเวลาที่ว่าง ในการอ่านหนังสือเตรียมสอบ IELTS โดยจะสอบมันเลยในเดือนหน้า พอผลออกมาก็จะใช้ยื่นสมัครเรียนเทอมถัดไปในทันที
เรียกได้ว่า นี่เป็นแผนชิ่งที่วางได้กระชับ ฉับไว มาเร็ว เคลมเร็วยิ่งกว่าสินมั่นคงประกันภัยก็ไม่ปาน
“ขาดเพียงแต่รอตารางบินออกก่อนสินะ จะได้รีบจองสมัครสอบและจัดการทุกๆอย่างให้เสร็จสรรพ”
เราเฝ้าคิดหมกมุ่นอยู่แต่กับแผนการ จนไม่ได้คิดเสียดายชีวิตนางฟ้าตะวันออกกลางเลยแม้แต่นิดเดียว
มีแต่ความโล่งใจ.. ที่จะได้รับอิสรภาพคืนมาเสียที หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงอาบูดาบีแห่งนี้มาตั้งแต่อายุยังไม่ 24 เต็ม จนป่านนี้ปาเข้าไปเกือบจะ 30
“หมดแล้วสินะ.. วัยสาวของชั้น”
และแล้ว..
แปะ!!
“ตารางบินออกแล้วจ้า..” – เหยี่ยวข่าวท่านหนึ่งโพสต์ไว้ในเฟสบุ๊ค
ก่อนอื่นขอกระทืบไลค์ให้เหยี่ยวสักหนึ่งทีแรงๆ เพราะเรารอเวลานี้มานานเหลือเกิน
ชีวิตไม่เป็นอันบินกันเลยตลอดทั้งเดือน เราเอาแต่เพ้อจะรีบไปตามหาหอพักบ้าง เอกสารบ้าง ดูลาดเลารอบมหาวิทยาลัยนั่นนี่บ้าง
ตารางบินเดือนนี้จึงถูกเปิดด้วยความตื่นเต้นที่สุดในรอบเกือบ 6 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะมีอะไรๆรอเราอยู่อีกเป็นกระบุง
ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ เราได้ไฟลท์เพื่อไปสอบที่กรุงเทพสมดังประสงค์
แต่ทว่า มันยังไม่หมด..
บริษัทยังได้จัดของแถมชิ้นใหญ่มาให้ ซึ่งนับเป็นการเซอร์ไพรส์ที่เล่นใหญ่ เล่นจริงจนเราถึงกับตะลึงอ้าปากค้างอีกตามเคย
นั่นก็คือการถูกส่งไปสอบสัมภาษณ์ในตำแหน่งรองหัวหน้าในรอบตารางบินเดียวกัน
และวันสัมภาษณ์ก็มาถึง
เราหยิบกระดาษที่ปริ๊นต์ตารางบินออกมาคลี่ดู หลังจากโบกแท็กซี่ และนั่งมาถึงครึ่งทาง
“หูย.. เริ่มตั้งแต่ 8 โมงเช้า แต่เลิกตั้ง 4 โมงเย็นนี่ ทำไมมันยาวนานแท้ฟระ” ว่าแล้วเราก็พับกระดาษเก็บกลับเข้ากระเป๋าเสื้อ แล้วนั่งเหม่อมองทะเลทรายไปตลอดทางจนถึงโรงเรียนฝึกลูกเรือ
เหลือบไปดูตารางสัมภาษณ์บนหน้าจอบริเวณทางเข้าศูนย์ฝึกลูกเรือ พร้อมยืนเหม่อต่อไปอีก 5 วินาทีด้วยความเบลอ และแล้ว.. เราก็ได้เวลาตั้งสติและเดินมุ่งหน้าไปยังห้องสัมภาษณ์ทันที เพื่อไปนั่งตั้งสติอีกรอบหนึ่ง
“บินมาจนแก่จนป่านนี้ มันไม่มีอะไรให้ต้องกลัวหรือต้องตื่นเต้นอีกแล้วล่ะ 55555” เราคิดปลงตกพร้อมหัวเราะเสียดสีชีวิตตัวเองอยู่ในใจ พลางเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ที่ซึ่งมีกรรมการ 2 ท่าน กับผู้ร่วมสนามกว่า 30 คนนั่งแยกกันออกเป็น 3 โต๊ะรออยู่
คือถ้าให้ทาย! นี่คือสอบอภิปรายกลุ่มอีกละสินะ
และแล้ว กรรมการก็เชิญเราให้เข้าไปร่วมในโต๊ะสัมภาษณ์หนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยคนราว 10 คนโดยเป็นแขกไปครึ่ง กับฝรั่งอีกครึ่ง ส่วนเราเป็นเอเชียหัวเดียวกระเทียมลีบ
“อ่า.. เอาที่สบายใจกันเลยนะจ๊ะ ถ้าคิดจะจัดกลุ่มกันมาบี้กันขนาดนี้แล้ว” เราแอบคิดประชดเบาๆ พลางหันหัวรอบทิศ 360 องศาเพื่อประเมินสีหน้าสีตาคู่ต่อสู้ที่อยู่รอบด้านโต๊ะกลมนานาชาติที่แสนจะกดดัน
พอระฆังให้แสดงความคิดเห็นดังขึ้น เสียงก็ดังเหมือนนกกระจอกแตกรัง บทสนทนาพัลวันพัลตุงไปหมด คนนั้นคิดโน่น คนนี้คิดนี่ โจทย์มีอยู่ว่าให้ตั้งร้านอาหาร และให้คิดตั้งราคา สถานที่และอะไรต่างๆนาๆ หลายๆคนก็ชาญฉลาดมีความคิดเห็นที่น่าสนใจ ในขณะที่บางคนก็เสนอความคิดแนวทางการค้าแบบเข้าเนื้อจริงจัง ตั้งราคากะว่าไม่เกิน 7 วันคงได้ปิดร้านเพราะคิดถูกจนน่าสะพรึง เหตุเพียงต้องการจะเน้นแต่จำนวนคนเข้าร้านให้อื้ออึงตะลึงงัน
“เจ๊งนะเธอ”
แล้วเราอดรนทนเงียบไม่ไหว หลังจากที่นั่งฟังอย่างนิ่งๆจนหูชา
“หากคิดในแง่ธุรกิจ มันก็ควรจะอยู่ได้นานและมั่นคงใช่ไหม ราคานี้นี่ไม่ได้จริงๆ” พอสบโอกาส เราก็แย้ง และตั้งราคาใหม่ให้ไม่เข้าเนื้อจนเลือดสาดจนสาหัสสากรรจ์ขนาดนั้น
ก่อนจะมีคนมาทั้งเสริม ทั้งแย้งกันจนเสร็จ
หมดยกที่หนึ่ง!
แต่ยัง.. มันยังไม่จบแค่นี้
เชิญทุกท่านไปที่ห้องถัดไป..
บัดนี้ กรรมการชุดเดิมจะเล่นบทบาทสมมติเป็นผู้โดยสารในชั้นธุรกิจ แล้วเราต้องมาเสิร์ฟในนามรองหัวหน้าต่อ
“อ่ะ.. ใครพร้อมก็มาเลยจ้า” กรรมการชายชาวแอฟริกาใต้กล่าว ในขณะที่กรรมการหญิงชาวอินเดียกำลังถือสมุดกับปากกายืนยิ้มแบบไม่น่าจริงใจที่สุดในโลกรอจวก เอ๊ย.. รอจด
และทันทีที่รู้ว่าไม่มีคิวปุ๊บ การช่วงชิงยกมือเพื่อให้ได้สอบก่อนก็เริ่มขึ้นอย่างพัลวัน
เราผู้ซึ่งยืนเป็นไทยมุงอยู่สักพักหนึ่ง ก็ต้องยอมพ่ายแพ้ต่อความแก่ และยกไม่ทันของตัวเอง จึงยอมสิโรราบแยกตัวออกมาอยู่ทางด้านหลังห้องอย่างเจี๋ยมเจี้ยม
และกลายเป็นคนเกือบจะสุดท้ายที่จะได้สอบโดยปริยาย
“ใครสอบเสร็จไปทานข้าวได้เลยค่ะ” คุณกรรมการผู้หญิงกล่าว
“เดี๋ยวมีสัมภาษณ์ไฟนอลต่อช่วงบ่าย อีกตึกนึงนะจ๊ะ” คุณกรรมการชายสมทบ
จากนั่งดูวิว ยืนชิลกินลูกอมอยู่หลังห้อง เราถึงกับสะอึก เงยหน้ามามองกรรมการพร้อมกับนับหัวฝูงชนที่ยังคงห้อมล้อมเรียงรายในคิว
“นี่คือยังไม่จบ?! หมดนี่ละยังไม่จบใช่ไหม??” และถ้าจะให้เดา.. คงต้องอดข้าวล่ะสินะ
แล้วก็เป็นไปตามคาด พอเราได้สอบเสร็จปุ๊บ ก็ถึงเวลาจะต้องไปลงชื่อรอสัมภาษณ์ที่ตึกสำนักงานใหญ่ข้างๆปั๊บ
กลิ่นข้าวแกงอินเดียได้โชยตลบอบอวลระหว่างทางเดินไปสอบสัมภาษณ์อย่างไม่น่าให้อภัย จากเป็นคนกินอาหารอินเดียไม่ได้ ก็กลายเป็นอยากกินมันซะหมดไปซะอย่างนั้น จะปาลักปาเนีย จะบิริยานี่ จะชิคเก้นติ๊กกา บัดนี้หากได้จัดมาซักจาน คงจะรู้สึกซึ้งจนน้ำตาซึม
และแล้ว.. เราก็ได้แต่กลั้นใจเดินผ่านมาจนถึงหน้าห้องสัมภาษณ์
แอ๊ด...
ทันทีที่เปิดห้องไปและได้ประสบพบพักตร์กับกรรมการทั้ง 2 ท่าน
“ราศีจับออร่าแจ่มกันขนาดนี้ นี่คงไม่ใช่ตำแหน่งธรรมดาๆกันแน่ๆ” เราอึ้งเบาๆก่อนจะปั้นยิ้ม ทำใจดีสู้เสือไปก่อน ในขณะที่กำลังรอฟังท่านแนะนำตัวกันทีละคน ก่อนที่จะถามเรากลับ
“นั่นง่ะ.. ตูว่าละ หัวหน้าแผนกบุคคลกับหัวหน้าของหัวหน้าอีกทีมาเอง!”
เราจึงเชคแฮนด์กับทั้งสองท่านไปด้วยมือที่เย็นเฉียบและเกร็งแสนแกร็ง
โดยครานี้ ท่านกรรมการหญิงเป็นคนอังกฤษ ส่วนท่านกรรมการชายนั้นเป็นคนไอริช ซึ่งพอฟังสำเนียงแล้วเหมือนกำลังนั่งดูแฮรี่ พอตเตอร์แบบไม่มีซับไทยยังไงยังงั้น
แต่ก็ไม่เสียแรงที่บริษัทส่งให้เราบินไปกลับๆลอนดอนราว 50 รอบก่อนวันสัมภาษณ์ ท่านคงจะอยากฝึกหูเราสำหรับวันนี้สินะ
การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างเคร่งเครียด และกดดัน โดยที่ท่านผู้หญิงเป็นคนถาม ส่วนท่านผู้ชายเป็นคนมองและคอยจด
ซึ่งเคราะห์ดีที่โต๊ะสัมภาษณ์นั้นค่อนข้างสูง ท่านจึงมองเราได้เพียงแต่หน้า ไม่เห็นมือที่กำลังจิกกันเองอยู่ตลอด เพราะมันสั่นจนแม้แต่ตัวเรายังเสียสมาธิ
คำถามของท่านช่างลึก ถามละเอียด ถามยกให้เห็นถึงเหตุการณ์ สถานการณ์ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ ไฟลท์อะไร บีบคั้นทั้งสติ และหัวใจกันซะเหลือเกิน
เราจึงเคร่งตั้งสติปั้นคำตอบ ตอบไปยิ้มไป ยิ้มจนเส้นกระตุก โหนกแก้มปวด และเหงือกฟันบนเริ่มจะแห้งผาก
จนในที่สุด..
1 ชั่วโมงผ่านไป
“คุณมีคำถามจะถามอะไรเราไหมคะ?”
“ไม่มีเลยค่ะ”
นับเป็นรอยยิ้มที่เรายิ้มให้ท่านอย่างจริงใจที่สุดในตลอดการสัมภาษณ์ พลางฮัมเพลง Let me go home กึกก้องอยู่ในหัวใจ
และแล้ว.. ทั้งสองท่านก็ปล่อยเราไป พร้อมกับแจ้งให้เราเช็คผลทางเมล์ในอีกสองสัปดาห์
“เสร็จแล้วสินะ” เราส่ายหัวบอกตัวเองด้วยความมึนเบลอ ในขณะที่กำลังรอโบกแท็กซี่กลับบ้านอย่างโซซัดโซเซ
ไม่มีใครจะรู้ล่วงหน้าได้หรอก ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่อะไรก็ตามที่เราได้รับมอบหมายมา เราก็จะทำมันให้ดีที่สุด
เอาล่ะ.. วันนี้รีบกลับบ้านไปพัก เพราะหนังสือก็คงอ่านไม่ไหวละ
แล้วพรุ่งนี้ ก็มีบินแต่เช้าอีก นะ.. สู้โว้ย! "
ส่วนใครที่อยากอ่านงานเขียนเรื่องเล่าของเจ้าของกระทู้ย้อนหลัง เราลงลิงค์ไว้ให้ด้านล่างนี่เลยนะคะ :
" แกคือคนสุดท้ายในรุ่นที่ชั้นจะคิดว่าได้เป็นแอร์ " ..จากคำสบประมาท สู่ฝันแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลาง
http://www.ppantip.com/topic/34273378
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 1 : ฝันที่เป็นจริงหรือภาพลวงตา ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34504171?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 2 : หรือฉันจะไม่ใช่นางฟ้า ?.. ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34536596?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 3 : นี่หรือ.. ที่เขาเรียกกันว่า ชีวิตนางฟ้า ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34568986
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 4 : ใครๆก็บอกว่า.. เราบินได้ ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34635697
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 5 : สวิสในฝัน ฉันมาถึงแล้ว✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34675852
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 6 : ความทรงจำสีจางใจกลางกรุงเจนีวา ✈✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34728863
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 7 : จุดเปลี่ยนแรกชีวิตแอร์ ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34785569
" เสียงลือเสียงเล่าอ้าง : ว่าด้วยเรื่องผีในเครื่องบิน "
http://www.ppantip.com/topic/34814284
" อยากเป็นแอร์ตอนนี้ยังทันไหม! : 10 ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้ก่อนเปลี่ยนเส้นทางเดินชีวิต "
http://www.ppantip.com/topic/34853513
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 8 : ยุทธการหักปีกครั้งที่ 1 ✈️✨
http://www.ppantip.com/topic/34910615
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 9 : ผีในมโนจากมิลาน ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/34997703?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 10 : ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35164801?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 11 : เส้นทางเพื่อความก้าวหน้า (อันแสนขรุขระ) ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/35241509?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 12 : ชีวิตฟ้าหลังฝน ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35449010?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 13 : อวสานโลกสวย ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35564701?
"เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนพิเศษ : ทริปตามรอยรักเมืองหิมะที่เกาหลี ✈️✨"
http://www.ppantip.com/topic/35626712?
" เรื่องเล่าแอร์โฮสเตสตะวันออกกลาง ตอนที่ 14 : เสียงเรียกแห่งความทะเยอทะยาน กับฟางเส้นสุดท้าย ✈️✨ "
http://www.ppantip.com/topic/35790386