พึ่งได้รับ Student Visa ของ Australia มาครับ เลยมาแบ่งปันข้อมูลเล็กๆน้อยๆ
ผมใช้บริการผ่านเอเจนท์นะครับ ทั้งหาโรงเรียนและยื่นวีซ่า
เริ่มจากหาเอเจนท์ที่มีความหน้าเชื่อถือก่อน พอได้แล้วเราก็ปรึกษาเค้าครับว่าเราต้องการเรียนอะไร มีงบมากน้อยแค่ไหน ต้องการอยู่เมืองอะไร แต่เราก็ดูๆข้อมูลในอินเตอร์เน็ตด้วยตัวเองไปด้วยครับ เพื่อความมั่นใจ ระหว่างรอหาโรงเรียนเอเจนท์ผมก็ให้เตรียมเอกสารต่างไว้ยื่นวีซ่าครับ(บางโรงเรียนใช้คะแนนIELTSบางโรงเรียนก็ส่งข้อสอบมาให้ทำแล้วเราสแกนส่งอีเมลไป) ผมแนะนำเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมครับ พอได้โรงเรียนแล้วจะได้รีบยื่น อย่างกรณีผมเอกสารไม่ครบซักซี บางอันสแกนไปไม่ชัดบ้าง ต้องทำส่งเอเจ้นท์ใหม่หลายรอบมาก ทำให้กังวลว่าจะไม่ทันวันเปิดเรียนครับ แต่ก็ได้ทันครับ
หลังจากได้โรงเรียน จ่ายตังค์แล้วก็ได้ใบเสร็จ ต่อไปเป็นการยื่นวีซ่า
ขั้นตอนการยื่นวีซ่า
1. ยื่นวีซ่า
เอเจนท์ผมยื่นออนไลน์ไปวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา พอวันที่7ก็ได้ E-mail ให้ไปตรวจสุขภาพ
2.การตรวจสุขภาพ
ผมไปตรวจสุขภาพวันที่ 8 ผมตรวจโรงพยาบาลกรุงเทพ วัดความดัน ตรวจฉี่ x-rayปอด ตรวจสายตา ตรวจร่างกาย วัดชีพจร จ่ายไป 2600 บาทครับ ของโรงพยาบาล BNH 3100 บาทครับถ้าจำไม่ผิด รู้จากคนนั่งคิวติดกัน ตอนไปสแกนVFS
วันที่7 ผมโทรไปสอบถามก่อน ผมเลือกโรงบาลนี้เพราะเดินทางสะดวกขึ้นจากMRTแล้วมีรถรับส่งฟรี จากนั้น จนทแผนกที่เราจะตรวจก็โทรมาบอกให้เตรียมเอกสารกับเตรียมตัวครับ แล้วนัดเวลาที่เราสะดวก เอกสารที่ใช้ก็ e-mail ที่เค้าส่งมาให้เรากับพาสสปอร์ต ส่วนการเตรียมตัว จนทแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆครับ ห้ามดื่มชากาแฟ
ผมไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 8.30 ครับ น้ำดื่มมีบริการฟรีทุกจุดดื่มไปมากๆ ประมาณ 10.00 ก็ตรวจเสร็จ จากนั้นก็ไปกินข้าวรอผลตรวจ ซักครึ่งชั่วโมงก็ได้ผลตรวจปกติหมดครับ คนก่อนหน้าผมเล่าว่าพี่เค้าตรวจผลฉี่รอบ2เพราะรอบแรกไม่สะอาด ต้องเสียเงินเพิ่มกี่ร้อยผมจำไม่ได้ครับ ฉี่ที่เก็บพยาบาลแนะนำให้ใช้ฉี่ช่างกลางๆนะครับ ช่วงแรกอาจไม่สะอาด
3.ไบโอเมตทริกซ์ ที่ VFS Global
หลังจากตรวจสุขภาพเสร็จ ผมก็ไปเก็บข้อมูลต่อครับ ไปถึงก็ยื่น e-mail เค้าก็จะให้คิวเรามา พอถึงคิวก็ยื่น e-mail กับ หนังสือเดินทาง เช็คข้อมูลแล้วก็จ่ายเงินไป เกือบๆ900บาท จากนั้นก็ไปรอคิวเก็บข้อมูล พอถึงคิว จนท.ก็เรียกเข้าห้อง สแกนมือ แล้วถ่ายรูป เป็นอันเสร็จครับ ตอนผมไป11โมงกว่าๆ เสร็จตอนเที่ยงๆใช้เวลารอคิวครับ เก็บข้อมูลจริงๆแป็ปเดียว
4. รอครับ
เอเจนท์ให้เตียมข้อมูลอาจมีการโทรมาสุ่มสัมภาษณ์ ผมก็เตรียมๆข้อมูลไว้ครับ เพราะผมชอบ โชคร้าย มีการสุ่มเช็คอะไร ผมโดนตลอดตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าเรื่องดีๆเช่นจับฉลากไม่เคยได้ของดีเลย 555
ตอนผมตรวจสุขภาพพยาบาลเล่าให้ฟัง บางคนตรวจเสร็จ2วันได้เลย บางคนก็เป็นเดือนๆ
5.การสัมภาษณ์
16 ธันวาคม แล้วเค้าก็โทรมาจริงๆครับ แต่มีปัญหานิดหน่อย ตอนเค้าโทรมา ผมพาตายายไปเที่ยวเวียงจันทน์ประเทศลาว เดจาวูว่าเค้าต้องโทรมาวันนี้ กลัวโชคร้ายเลยเปิดโรมมิ่งไว้ แต่พอมาถึงกลับใช้ไม่ค่อยได้ ติดบ้างไม่ติดบ้าง แล้วเค้าก็โทรมาจริงๆ ตอนอยู่ประตูชัย ตอนสัญญาณขาดๆหาย ผมเลยขอเวลา10นาทีให้โทรมาใหม่ รีบวิ่งหาคลื่น เจอคลื่นอยู่บนสุดประตูชัย หอบเลย พอติดต่อกันได้ เค้าก็ถาม
ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ จะไปเรียนอะไร เรียนเกี่ยวกับอะไร เรียนแล้วจะเอามาใช้ทำอะไร กลับมาคิดว่าจะทำอะไร
แล้วก็ถามเกี่ยวกับสปอนเซอร์(ลุงผมเป็นให้) ถามว่าลุงทำอะไร ทำไมต้องเป็นสปอนเซอร์ให้ผม ทำไมลุงไม่ส่งลูกของลุงไปเรียนเองเอง จากนั้นก็วางหูไปครับ ผมนี่ใจสั่นเลย ไม่รู้จะฟังเรารู้เรื่องรึเปล่า สัญญาณไม่ค่อยดี
6. อีกซักครึ่งชั่วโมงเอเจ้นท์ผมก็โทรมาวีว่าออกแล้ว ผ่าน
สรุป
6/12/16 ยื่นวีซ่าออนไลน์ เอกสารสแกนเป็นไฟล์หมด
7/12/16 ได้อีเมลให้ตรวจสุขภาพกับเก็บข้อมูลไบโอ
8/12/16 ตรวจสุขภาพ ตามด้วยเก็บข้อมูลที่ VFS
16/12/16 โทรมาสัมภาษณ์ แล้วแจ้งผลวีซ่า
ข้อแนะนำ
1. เลือกเอเจ้นท์ดีๆ เพราะต้องติดต่อกันยาวเลย ถามเอเจ้นท์ไว้ถ้าวีซ่าไม่ผ่านเสียอะไรบ้าง คืนอะไรได้บ้าง
2. เตรียมเอกสารไว้แต่เนิ่นๆ ให้ครบ แล้วชัดเจนด้วย จะได้ไม่เสียเวลา
3. จดหมายแนะนำตัวผมว่าสำคัญมาก เค้าจะได้รู้เราเป็นใคร ทำอะไร มีจุดประสงการเรียนคืออะไร
4. เตรียมการสุ่มสัมภาษณ์ครับ ก็ตอบไปตามตรงครับ เตรียมสปอนเซอร์ด้วยเค้าอาจโทรถามครับ
5.พกโทรศัพท์ติดตัวตลอดครับ แล้วอยู่ในที่ๆมีสัญญาณครับ อย่าเหมือนผมเกือบงานเข้า ถ้าไม่ติดไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น 555
สุดท้ายขอให้ทุกคนโชคดีครับ ผิดพลาดอะไรแย้งผมหรือแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ ผมอาจขาดตกบกพร่องบ้างก็ต้องขออภัย ขอบคุณครับ
[CR] แบ่งปันข้อมูล วีซ่านักเรียน Australia Student Visa
ผมใช้บริการผ่านเอเจนท์นะครับ ทั้งหาโรงเรียนและยื่นวีซ่า
เริ่มจากหาเอเจนท์ที่มีความหน้าเชื่อถือก่อน พอได้แล้วเราก็ปรึกษาเค้าครับว่าเราต้องการเรียนอะไร มีงบมากน้อยแค่ไหน ต้องการอยู่เมืองอะไร แต่เราก็ดูๆข้อมูลในอินเตอร์เน็ตด้วยตัวเองไปด้วยครับ เพื่อความมั่นใจ ระหว่างรอหาโรงเรียนเอเจนท์ผมก็ให้เตรียมเอกสารต่างไว้ยื่นวีซ่าครับ(บางโรงเรียนใช้คะแนนIELTSบางโรงเรียนก็ส่งข้อสอบมาให้ทำแล้วเราสแกนส่งอีเมลไป) ผมแนะนำเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมครับ พอได้โรงเรียนแล้วจะได้รีบยื่น อย่างกรณีผมเอกสารไม่ครบซักซี บางอันสแกนไปไม่ชัดบ้าง ต้องทำส่งเอเจ้นท์ใหม่หลายรอบมาก ทำให้กังวลว่าจะไม่ทันวันเปิดเรียนครับ แต่ก็ได้ทันครับ
หลังจากได้โรงเรียน จ่ายตังค์แล้วก็ได้ใบเสร็จ ต่อไปเป็นการยื่นวีซ่า
ขั้นตอนการยื่นวีซ่า
1. ยื่นวีซ่า
เอเจนท์ผมยื่นออนไลน์ไปวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา พอวันที่7ก็ได้ E-mail ให้ไปตรวจสุขภาพ
2.การตรวจสุขภาพ
ผมไปตรวจสุขภาพวันที่ 8 ผมตรวจโรงพยาบาลกรุงเทพ วัดความดัน ตรวจฉี่ x-rayปอด ตรวจสายตา ตรวจร่างกาย วัดชีพจร จ่ายไป 2600 บาทครับ ของโรงพยาบาล BNH 3100 บาทครับถ้าจำไม่ผิด รู้จากคนนั่งคิวติดกัน ตอนไปสแกนVFS
วันที่7 ผมโทรไปสอบถามก่อน ผมเลือกโรงบาลนี้เพราะเดินทางสะดวกขึ้นจากMRTแล้วมีรถรับส่งฟรี จากนั้น จนทแผนกที่เราจะตรวจก็โทรมาบอกให้เตรียมเอกสารกับเตรียมตัวครับ แล้วนัดเวลาที่เราสะดวก เอกสารที่ใช้ก็ e-mail ที่เค้าส่งมาให้เรากับพาสสปอร์ต ส่วนการเตรียมตัว จนทแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆครับ ห้ามดื่มชากาแฟ
ผมไปถึงโรงพยาบาลประมาณ 8.30 ครับ น้ำดื่มมีบริการฟรีทุกจุดดื่มไปมากๆ ประมาณ 10.00 ก็ตรวจเสร็จ จากนั้นก็ไปกินข้าวรอผลตรวจ ซักครึ่งชั่วโมงก็ได้ผลตรวจปกติหมดครับ คนก่อนหน้าผมเล่าว่าพี่เค้าตรวจผลฉี่รอบ2เพราะรอบแรกไม่สะอาด ต้องเสียเงินเพิ่มกี่ร้อยผมจำไม่ได้ครับ ฉี่ที่เก็บพยาบาลแนะนำให้ใช้ฉี่ช่างกลางๆนะครับ ช่วงแรกอาจไม่สะอาด
3.ไบโอเมตทริกซ์ ที่ VFS Global
หลังจากตรวจสุขภาพเสร็จ ผมก็ไปเก็บข้อมูลต่อครับ ไปถึงก็ยื่น e-mail เค้าก็จะให้คิวเรามา พอถึงคิวก็ยื่น e-mail กับ หนังสือเดินทาง เช็คข้อมูลแล้วก็จ่ายเงินไป เกือบๆ900บาท จากนั้นก็ไปรอคิวเก็บข้อมูล พอถึงคิว จนท.ก็เรียกเข้าห้อง สแกนมือ แล้วถ่ายรูป เป็นอันเสร็จครับ ตอนผมไป11โมงกว่าๆ เสร็จตอนเที่ยงๆใช้เวลารอคิวครับ เก็บข้อมูลจริงๆแป็ปเดียว
4. รอครับ
เอเจนท์ให้เตียมข้อมูลอาจมีการโทรมาสุ่มสัมภาษณ์ ผมก็เตรียมๆข้อมูลไว้ครับ เพราะผมชอบ โชคร้าย มีการสุ่มเช็คอะไร ผมโดนตลอดตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าเรื่องดีๆเช่นจับฉลากไม่เคยได้ของดีเลย 555
ตอนผมตรวจสุขภาพพยาบาลเล่าให้ฟัง บางคนตรวจเสร็จ2วันได้เลย บางคนก็เป็นเดือนๆ
5.การสัมภาษณ์
16 ธันวาคม แล้วเค้าก็โทรมาจริงๆครับ แต่มีปัญหานิดหน่อย ตอนเค้าโทรมา ผมพาตายายไปเที่ยวเวียงจันทน์ประเทศลาว เดจาวูว่าเค้าต้องโทรมาวันนี้ กลัวโชคร้ายเลยเปิดโรมมิ่งไว้ แต่พอมาถึงกลับใช้ไม่ค่อยได้ ติดบ้างไม่ติดบ้าง แล้วเค้าก็โทรมาจริงๆ ตอนอยู่ประตูชัย ตอนสัญญาณขาดๆหาย ผมเลยขอเวลา10นาทีให้โทรมาใหม่ รีบวิ่งหาคลื่น เจอคลื่นอยู่บนสุดประตูชัย หอบเลย พอติดต่อกันได้ เค้าก็ถาม
ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ จะไปเรียนอะไร เรียนเกี่ยวกับอะไร เรียนแล้วจะเอามาใช้ทำอะไร กลับมาคิดว่าจะทำอะไร
แล้วก็ถามเกี่ยวกับสปอนเซอร์(ลุงผมเป็นให้) ถามว่าลุงทำอะไร ทำไมต้องเป็นสปอนเซอร์ให้ผม ทำไมลุงไม่ส่งลูกของลุงไปเรียนเองเอง จากนั้นก็วางหูไปครับ ผมนี่ใจสั่นเลย ไม่รู้จะฟังเรารู้เรื่องรึเปล่า สัญญาณไม่ค่อยดี
6. อีกซักครึ่งชั่วโมงเอเจ้นท์ผมก็โทรมาวีว่าออกแล้ว ผ่าน
สรุป
6/12/16 ยื่นวีซ่าออนไลน์ เอกสารสแกนเป็นไฟล์หมด
7/12/16 ได้อีเมลให้ตรวจสุขภาพกับเก็บข้อมูลไบโอ
8/12/16 ตรวจสุขภาพ ตามด้วยเก็บข้อมูลที่ VFS
16/12/16 โทรมาสัมภาษณ์ แล้วแจ้งผลวีซ่า
ข้อแนะนำ
1. เลือกเอเจ้นท์ดีๆ เพราะต้องติดต่อกันยาวเลย ถามเอเจ้นท์ไว้ถ้าวีซ่าไม่ผ่านเสียอะไรบ้าง คืนอะไรได้บ้าง
2. เตรียมเอกสารไว้แต่เนิ่นๆ ให้ครบ แล้วชัดเจนด้วย จะได้ไม่เสียเวลา
3. จดหมายแนะนำตัวผมว่าสำคัญมาก เค้าจะได้รู้เราเป็นใคร ทำอะไร มีจุดประสงการเรียนคืออะไร
4. เตรียมการสุ่มสัมภาษณ์ครับ ก็ตอบไปตามตรงครับ เตรียมสปอนเซอร์ด้วยเค้าอาจโทรถามครับ
5.พกโทรศัพท์ติดตัวตลอดครับ แล้วอยู่ในที่ๆมีสัญญาณครับ อย่าเหมือนผมเกือบงานเข้า ถ้าไม่ติดไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น 555
สุดท้ายขอให้ทุกคนโชคดีครับ ผิดพลาดอะไรแย้งผมหรือแชร์ข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ ผมอาจขาดตกบกพร่องบ้างก็ต้องขออภัย ขอบคุณครับ