รีวิวยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอิตาลีผ่าน VFS Global ณ วันที่ 20 ก.พ. 2568
อันนี้จะไม่แจกแจงรายละเอียดยิบให้ เพราะใน Checklist for Tourism Schengen Visa จะระบุไว้หมดแล้ว
แต่จะบอกสิ่งที่เอกสารไม่ได้ระบุไว้ เพื่อที่เพื่อนๆจะได้ไม่พลาด
* ใบChecklist for Tourism Schengen Visa จะต้องพิมพ์และเซ็นเพื่อยื่นขอวีซ่าด้วย
* รูปติดพาสปอร์ต ไปที่ร้านถ่ายรูป บอกว่าทำวีซ่าเชงเก้น ช่างเขารู้ว่าต้องทำไง เราไปที่ Central ร้าน Big Camera ได้ 6 รูป 180 บาท รอ 40 นาที เราไปหลังนัดยื่นขอวีซ่าแล้ว ถ่ายรูปพร้อมขอ bank statement เลย
* พาสปอร์ตเล่มจริง สภาพต้องสมบูรณ์ ถ้ามีตำหนิ เช่น เปียกน้ำ หัก สถานทูตอาจไม่พิจารณาวีซ่าให้ ถ้าเล่มของใครอยู่ในข่ายนี้ แนะนำให้ไปทำใหม่เลยดีกว่า เพราะอาจมีปัญหาตอนเข้าประเทศตอนไปเที่ยวจริงได้
* Hotel Booking Confirmation ก็ไปจองในแอปเอา เลือกแบบยกเลิกได้ เผื่อวีซ่าไม่ผ่าน
* Proof of economic means of subsistence เราเป็นพนักงานบริษัท ก็ไปขอ bank statement จากธนาคารโดยตรง เอกสารต้องเซ็นและประทับตราโดยธนาคารนะ เอาบัญชีที่เห็นเงินเดือนเราซึ่งต้องสอดคล้องกับหนังสือรับรองการทำงาน (Evidence of applicant's employment) และจะให้ดีควรมีเงินติดในบัญชีเยอะหน่อย เขาจะได้มั่นใจว่าเรามีเงินไปเที่ยว ถ้าใครเป็นเจ้าของบริษัท ก็ต้องมีหนังสือรับรองบริษัทที่ออกโดย DBD อายุไม่เกิน 90 วัน และแปลเป็นอังกฤษด้วยนะ แปลเองได้ ไม่ต้องจ้าง ไม่ต้องประทับตราหน่วยงานแปล ส่วน bank statement ก็เอาที่เป็นบัญชีของตัวเองเลย ไม่ต้องเอาของบริษัท แต่อย่าไปเอาบัญชี OD นะ เพราะเลขมันจะติดลบ อาจยื่นวีซ่าไม่ผ่าน ให้เอาบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินเดือน มีเงินแช่อยู่
* หนังสือรับรองการทำงาน (Evidence of applicant's employment) ให้บริษัทออกให้ ต้องมีลายเซ็นพร้อมตราบริษัทประทับด้วยนะ
* ถ้าใครที่พาคู่สมรสไปยื่นวีซ่าด้วย และคู่สมรสไม่มีรายได้ ต้องยื่นทะเบียนสมรส และแปลเป็นอังกฤษ แปลเองได้ ไม่ต้องจ้าง ไม่ต้องประทับตราหน่วยงานแปล เพื่อเป็นการแสดงว่า เราเป็นสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวให้คู่สมรส ยังไงตัวเลขใน bank statement ก็ต้องเยอะหน่อยนะ พอสำหรับสองคนเที่ยว แต่ถ้าเราและคู่สมรสเรามีรายได้ของตัวเองทั้งคู่ จ่ายค่าเที่ยวของใครของมันเองได้ ไม่จำเป็นต้องยื่นทะเบียนสมรส
* วีซ่าอิตาลี ยื่นที่ VFS Global ที่ตึกออลซีซั่น ถ.วิทยุ ไปด้วย BTS ลงเพลินจิต ออกประตู 2 ลงมารอที่ป้ายรถเมล์ริมถนนหน้าอาคารมหาทุนพลาซ่า สักพักจะมีรถบัสขาวมาจอด มีตัวอักษรระบุ Conrad Hotel-All season place นั่งรถแป๊บเดียวก็ถึง แต่ถ้าใครอยากเดินให้ได้เหงื่อก็ได้เช่นกัน
เข้าไปด้านในก่อนเวลานัดได้ 15 นาที ถ้าใครไปก่อนหน้านั้นต้องไปเตร็ดเตร่รอด้านนอก
* ถ้าเอกสารที่เราเตรียมไปไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น bank statement พิมพ์มาเอง ไม่ได้ขอจากธนาคาร ก็ต้องไปขอใหม่ ที่ตึกนี้ด้านล่างมีธนาคารตั้งอยู่ เท่าที่จำได้มี Kbank, BBL, UOB ถ้าเราขอยื่นเอกสารเพิ่มเติมในวันเดียวกันเราจะต้องเสียค่ายื่นเอกสารใหม่อีก 809 บาทต่างหากนะ แต่ถ้าไม่อยากเสีย ก็ต้องไปทำนัดใหม่อีกรอบ แล้วค่อยมาวันอื่น
* บริการเพิ่มเติมที่ VFS เสนอมาให้ตอนเราลงทะเบียนขอวีซ่า เราว่าไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย เพราะในระบบปกติเขามีแจ้งทางอีเมล์ให้อยู่แล้ว และค่าบริการขอวีซ่านั้นรวมค่าจัดส่งพาสปอร์ตคืนให้เราทาง EMS อยู่แล้ว
* ตอนไปยื่นขอวีซ่า ไม่มีการสัมภาษณ์นะ เจ้าหน้าที่คนไทยเขาตรวจความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารเพื่อยื่นต่อไปที่สถานทูตอิตาลีอีกที ถ้าใครไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษหรือการจัดเตรียมเอกสาร ก็จ้างบริษัทรับทำเอกสารยื่นวีซ่าให้ก็ได้ เท่าที่เห็นค่าบริการ 3000 บาท แต่เราทำเองมันไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากสักเท่าไหร่ อ่านให้ดี ทำให้ครบถ้วนตามที่เขาแจ้งไว้ อย่าไปคิดเองเออเองหรือเอาประสบการณ์การขอยื่นวีซ่าจากที่อื่นมาเป็นมาตรฐาน
[CR] รีวิวยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอิตาลีผ่าน VFS Global
อันนี้จะไม่แจกแจงรายละเอียดยิบให้ เพราะใน Checklist for Tourism Schengen Visa จะระบุไว้หมดแล้ว
แต่จะบอกสิ่งที่เอกสารไม่ได้ระบุไว้ เพื่อที่เพื่อนๆจะได้ไม่พลาด
* ใบChecklist for Tourism Schengen Visa จะต้องพิมพ์และเซ็นเพื่อยื่นขอวีซ่าด้วย
* รูปติดพาสปอร์ต ไปที่ร้านถ่ายรูป บอกว่าทำวีซ่าเชงเก้น ช่างเขารู้ว่าต้องทำไง เราไปที่ Central ร้าน Big Camera ได้ 6 รูป 180 บาท รอ 40 นาที เราไปหลังนัดยื่นขอวีซ่าแล้ว ถ่ายรูปพร้อมขอ bank statement เลย
* พาสปอร์ตเล่มจริง สภาพต้องสมบูรณ์ ถ้ามีตำหนิ เช่น เปียกน้ำ หัก สถานทูตอาจไม่พิจารณาวีซ่าให้ ถ้าเล่มของใครอยู่ในข่ายนี้ แนะนำให้ไปทำใหม่เลยดีกว่า เพราะอาจมีปัญหาตอนเข้าประเทศตอนไปเที่ยวจริงได้
* Hotel Booking Confirmation ก็ไปจองในแอปเอา เลือกแบบยกเลิกได้ เผื่อวีซ่าไม่ผ่าน
* Proof of economic means of subsistence เราเป็นพนักงานบริษัท ก็ไปขอ bank statement จากธนาคารโดยตรง เอกสารต้องเซ็นและประทับตราโดยธนาคารนะ เอาบัญชีที่เห็นเงินเดือนเราซึ่งต้องสอดคล้องกับหนังสือรับรองการทำงาน (Evidence of applicant's employment) และจะให้ดีควรมีเงินติดในบัญชีเยอะหน่อย เขาจะได้มั่นใจว่าเรามีเงินไปเที่ยว ถ้าใครเป็นเจ้าของบริษัท ก็ต้องมีหนังสือรับรองบริษัทที่ออกโดย DBD อายุไม่เกิน 90 วัน และแปลเป็นอังกฤษด้วยนะ แปลเองได้ ไม่ต้องจ้าง ไม่ต้องประทับตราหน่วยงานแปล ส่วน bank statement ก็เอาที่เป็นบัญชีของตัวเองเลย ไม่ต้องเอาของบริษัท แต่อย่าไปเอาบัญชี OD นะ เพราะเลขมันจะติดลบ อาจยื่นวีซ่าไม่ผ่าน ให้เอาบัญชีออมทรัพย์ที่มีเงินเดือน มีเงินแช่อยู่
* หนังสือรับรองการทำงาน (Evidence of applicant's employment) ให้บริษัทออกให้ ต้องมีลายเซ็นพร้อมตราบริษัทประทับด้วยนะ
* ถ้าใครที่พาคู่สมรสไปยื่นวีซ่าด้วย และคู่สมรสไม่มีรายได้ ต้องยื่นทะเบียนสมรส และแปลเป็นอังกฤษ แปลเองได้ ไม่ต้องจ้าง ไม่ต้องประทับตราหน่วยงานแปล เพื่อเป็นการแสดงว่า เราเป็นสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวให้คู่สมรส ยังไงตัวเลขใน bank statement ก็ต้องเยอะหน่อยนะ พอสำหรับสองคนเที่ยว แต่ถ้าเราและคู่สมรสเรามีรายได้ของตัวเองทั้งคู่ จ่ายค่าเที่ยวของใครของมันเองได้ ไม่จำเป็นต้องยื่นทะเบียนสมรส
* วีซ่าอิตาลี ยื่นที่ VFS Global ที่ตึกออลซีซั่น ถ.วิทยุ ไปด้วย BTS ลงเพลินจิต ออกประตู 2 ลงมารอที่ป้ายรถเมล์ริมถนนหน้าอาคารมหาทุนพลาซ่า สักพักจะมีรถบัสขาวมาจอด มีตัวอักษรระบุ Conrad Hotel-All season place นั่งรถแป๊บเดียวก็ถึง แต่ถ้าใครอยากเดินให้ได้เหงื่อก็ได้เช่นกัน
เข้าไปด้านในก่อนเวลานัดได้ 15 นาที ถ้าใครไปก่อนหน้านั้นต้องไปเตร็ดเตร่รอด้านนอก
* ถ้าเอกสารที่เราเตรียมไปไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น bank statement พิมพ์มาเอง ไม่ได้ขอจากธนาคาร ก็ต้องไปขอใหม่ ที่ตึกนี้ด้านล่างมีธนาคารตั้งอยู่ เท่าที่จำได้มี Kbank, BBL, UOB ถ้าเราขอยื่นเอกสารเพิ่มเติมในวันเดียวกันเราจะต้องเสียค่ายื่นเอกสารใหม่อีก 809 บาทต่างหากนะ แต่ถ้าไม่อยากเสีย ก็ต้องไปทำนัดใหม่อีกรอบ แล้วค่อยมาวันอื่น
* บริการเพิ่มเติมที่ VFS เสนอมาให้ตอนเราลงทะเบียนขอวีซ่า เราว่าไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย เพราะในระบบปกติเขามีแจ้งทางอีเมล์ให้อยู่แล้ว และค่าบริการขอวีซ่านั้นรวมค่าจัดส่งพาสปอร์ตคืนให้เราทาง EMS อยู่แล้ว
* ตอนไปยื่นขอวีซ่า ไม่มีการสัมภาษณ์นะ เจ้าหน้าที่คนไทยเขาตรวจความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารเพื่อยื่นต่อไปที่สถานทูตอิตาลีอีกที ถ้าใครไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษหรือการจัดเตรียมเอกสาร ก็จ้างบริษัทรับทำเอกสารยื่นวีซ่าให้ก็ได้ เท่าที่เห็นค่าบริการ 3000 บาท แต่เราทำเองมันไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากสักเท่าไหร่ อ่านให้ดี ทำให้ครบถ้วนตามที่เขาแจ้งไว้ อย่าไปคิดเองเออเองหรือเอาประสบการณ์การขอยื่นวีซ่าจากที่อื่นมาเป็นมาตรฐาน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้