หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว นั่งรถไฟขึ้นขุนตาน-เที่ยวเมืองหละปูน (ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้)
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
เที่ยวไทย
เที่ยวภูเขา
การไปเที่ยวครั้งนี้ของเราเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบที่โมโหตัวเองที่พลาดทริปไปตปท.กับเพื่อน เลยนั่งรถไปจองตั๋วรถไฟก่อนวันเดินทางแค่ไม่กี่วัน เป็นทริปที่ไม่ค่อยได้แพลนอะไร แต่ก็ได้อะไรมาเยอะเหมือนกัน
วันแรก เราออกเดินทางด้วยรถไฟคืนวันศุกร์รอบ22.00น.ที่หัวลำโพง ตอนจองเหลือที่สุดท้ายเป็นรถนั่งชั้นสองค่ะ ระหว่างนั่งก็หลับๆตื่นๆ ไม่ได้หลับสนิทนะ ได้นั่งริมหน้าต่างด้วย พี่ผู้ชายเค้าเสียสละให้เราเปลี่ยน วันที่2เราก็มาถึงอุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โผล่มาอีกฝั่งของอุโมงค์ เราก็เตรียมลง
ถึงสถานีขุนตานแล้วก็แวะถ่ายภาพซะหน่อย ก่อนแวะถ่ายภาพก็อย่าลืมไว้ศาลเจ้าพ่อขุนตานตรงใกล้ๆอุโมงค์ด้วยนะคะ หลังจากถ่ายภาพแล้ว
น้องหมาประจำสถานีขุนตาน สถานีนี้หมาเยอะจริงๆสมคำล่ำลือ
เราก็เริ่มใช้กำลังขาในการขึ้นไปอุทยานกันเลยค่ะ ระยะทางจากสถานีรถไฟไปอุทยานแห่งชาติขุนตานประมาณ1.3กิโลค่ะ เคยอ่านรีวิวบอกเดินชิวๆ15นาที แต่เราว่าแบกกระเป๋าด้วยมันก็ไม่ค่อยชิวนะ เราใช้เวลาไป20นาที ถึงอุทยาน
จะเป็นทางเล็กๆ มีป้ายบอกทางเรื่อยๆค่ะ
ออกจากทางเล็กๆ เป็นถนนใหญ่ เดินถนนใหญ่อีกนิดนึงจะถึงอุทยานค่ะ
จ่ายค่าเข้าอุทยาน20บาท พอถึงอุทยานก็เข้าไปติดต่อเรื่องที่พัก เราได้โอนค่าจองที่พักไว้แล้วค่ะ เราเลือกพักที่บ้านกระดังงา นอนได้สองคน คืนละ500บาท แต่ถ้าใครมาวันธรรมดาก็350บาทค่ะ เดินไปที่พักอีกกิโลกว่า เดินไปตามถนนเลยค่ะ
ถนนในที่ทำการอุทยาน ทางเดินที่เห็นจะไปสู่บ้านพักของอุทยานและ ย.1-ย.4
ที่นั่งเล่นตรงติดต่อที่พักของอุทยาน
ร้านอาหารในอุทยานค่ะ สั่งให้มาส่งที่บ้านพักได้ค่ะ คิดค่าส่งเพิ่มนิดหน่อย
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จประพาสที่อุทยานแห่งชาติขุนตานด้วยค่ะ
พอถึงแถวที่พักจะมีพี่อุทยานมาเปิดบ้านให้ ถึงซักที ขอนั่งชิวๆมองวิวจากที่พักก่อนนะ หลังจากชมวิว เรารีบอาบน้ำแล้วออกไปเดินขึ้นเขา ต้องเดินจากที่พักไปจุดสตาร์ทขึ้น ย.1 อีก 2กิโล เดินๆ ก่อนขึ้นย.1 จะมีป้อมเจ้าหน้าที่อุทยานอีกทีนึงนะคะ
วิวจากบ้านพัก
การเดินเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยขุนตานจะแบ่งเป็น ย.1 ย.2 ย.3 ย.4 (ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาตร์ค่ะ)
เริ่มที่ย.1 เบาๆที่900เมตร ทางเป็นบันไดขั้นๆ ไม่ลำบากค่ะ ย.1 ไปย.2 1000 เมตร ตอนแรกกะว่าจะขึ้นถึงย.2แล้วกลับที่พัก อีกวันค่อยมาขึ้นใหม่ เพราะว่านัดร้นข้าวให้มาส่งข้าวที่บ้านตอน18.30แต่เจอกลุ่มน้องๆนักศึกษาชวนขึ้นเขาด้วยกัน เราก็เลยอ่ะไปก็ไป จากย.2 ไปย.3 ระยะทางจะไกลค่ะ3000เมตร ใช้เวลานานหน่อย เล่นเอาเมื่อยอยู่ และในที่สุดก็ถึง ย.3 นี่ถ้าไม่เบลอหน้านะ สภาพดูไม่ได้ หน้ามันเลื่อมเชียวล่ะ
ย.1 ที่ประทับพักแรมของกรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธิน เมื่อครั้งเสด็จมาเป็นแม่งานในการก่อสร้างอุโมงค์ขุนตานค่ะ
จากย.3ไปย.4 1000เมตร ก่อนถึง ย.4 จะมีเนินวัดใจ เนินวัดใจมีความนัยว่าไหวไม๊แก+เนินชัน พอถึงเนินวัดใจนี่ เราปล่อยให้น้องๆวิ่งขึ้นไปก่อนเลยค่ะ จากที่เราเดินนำน้องๆมาตลอด เดินขึ้นมานี่เหมือนมีการ์ดคอยคุมเลยค่ะ 55
พวกเรามาถึงไม่มีใครแล้วค่ะ มาถึงตอน17.30 ทันดูพระอาทิตย์กำลังตกพอดี พวกเราเริ่มเดินขึ้นจากย.1ประมาณ 15.30น. นะคะ หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ก็เริ่มเดินลงประมาณหกโมงกว่าๆ ตอนลงเร็วกว่าค่ะ เพราะมีแต่ทางเดินลาดลง แต่เราลงกันมาเย็นเกิน เดินไปก็กลัวนะคะ เพราะเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ คือยังเดินอยู่ ย.3ก็ต้องใช้ไฟฉายแล้วค่ะ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เดินป่าตอนมืดๆขนาดนี้ เราไม่แนะนำนะคะ เพราะอันตราย ขามาเราเจองูเกือบเหยียบแล้วค่ะ แต่ดีที่เห็น คิดดูสิคะเจอสัตว์เลื่อยคลานตอนมืดๆในป่า กว่าพวกเราจะมาถึงป้อมจุดสตาร์ทก็ประมาณทุ่มกว่าๆ ใช้เวลาเดินลงประมาณ 1 ชั่วโมง น้องๆใจดีขับรถไปส่งให้ที่พัก (จากจุดสตราท์ย.1กับที่พักเราห่างประมาณ2กิโล) คืนที่สองที่อุทยานหมดไปแบบขาชาๆ กับประทับใจวิวและเพื่อนร่วมทาง
วิวนั่งพัก ก่อนใช้แรงขึ้นเนินวัดใจค่ะ
วิวบนย.4>>
วันที่3 เราตื่นเจ็ดโมงกว่าๆ เนื่องจากเพลีย เดินลงมาที่ทำการอุทยาน แวะกินข้าว ถ่ายรูปเก็บตกรอบๆ แล้วกลับไปสถานีรถไฟขุนตาน ตอนแรกกะว่าจะเดินไปเอง แต่พี่ที่อุทยานใจดี ให้นั่งรถหกล้อของอุทยานไปลงสถานีรถไฟ ถึงสถานีถ่ายภาพระหว่างรอรถไฟรอบ 11.00 น.
วิวที่พักตอนเช้า ตื่นมาก็เจอวิวสวยๆ
เส้นแบ่งเขตสองจังหวัด แหมะ พี่ๆ ที่มาเที่ยวไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเรมในการถ่ายรูปเลย
อันนี้หลักเขตที่แบ่งสองจังหวัดค่ะ
รถที่พี่อุทยานขับมาส่งที่สถานีรถไฟ >>
พอรถไฟมาก็กระโดดขึ้นเพื่อไปลงสถานีลำพูน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสถานีลำพูน
จากสถานีเราให้วินไปส่งที่พักที่เราจองไว้ เราจองไว้ที่ "ปิ๊กบ้าน" เป็นแนวโฮสเทล ถึงที่พัก รอแป๊บนึงพี่เค้าก็มาเปิดบ้านให้เราไว้ของ
ที่พักปิ๊กบ้าน บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ >>
แล้วเราก็รีบไปพระธาตุหริกุญชัย เพื่อไปซื่อตั๋วนั่งรถรางเที่ยว หมดไปกับทริปรถราง เจอแก๊งป้าชาวจีน เราก็ช่วยเป็นล่ามนิดๆหน่อยให้พวกแก เพราะรถราง พูดแต่ภาษาไทย ป้ายท่องเที่ยวก็ไม่มีภาษาจีน ป้าๆแกก็น่ารักนะ ช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย ใช้เวลานั่งรถรางประมาณ 3 ชั่วโมง แวะเดินเที่ยวตลาดแถวพระธาตุ วันที่เราไปมีงาน OTOP พอดี เดินเพลินๆแล้วกลับที่พัก
รูปเที่ยวรถราง >>
วัดพระธาตุหริกุญชัย
เฉาก๊วยที่วัดพระธาตุหริกุญชัย
นั่งเล่นชิวๆที่ปิ๊กบ้าน แล้วตอนเย็นพี่อ้อมที่ปิ๊กบ้านก็พาไปถีบจักรยานหาอะไรกิน และก็เที่ยวลำพูนยามค่ำคืน เราก็ได้เห็นลำพูนในอีกมุม มุมที่สงบ แม้จะเป็นช่วงเทศกาลแต่ก็ไม่มีความจอแจเลย เราชอบวัดและบ้านที่นี่มาก ถ้าใครมาลองมาปั่นจักรยานเล่นดูนะคะ ที่ปิ๊กบ้านเค้ามีจักรยานให้ปั่นถ้าใครมาพักที่นี่
วันที่4 ตื่นเช้ามีอาหารเช้าทำใหม่จากพี่อ้อมที่ปิ๊กบ้าน พี่เค้าทำกับข้าวอร่อยม๊ากแล้วไปปั่นจักรยานรอบลำพูนเล่นๆ เดินทางกลับด้วยรถไฟตู้นอนช่วงบ่ายถึงสถานีบางซื่อประมาณหกโมงกว่าๆทริปนี้เราหมดไปประมาณ2000บาท ถ้าใครมารถไฟฟรีก็อาจจะถูกกว่านี้นะ
ขี่จักรยานเที่ยวไปพิพิธภัณฑ์มิคกี้เมาส์
อาหารที่เราสั่งบนรถไฟ
นอนรถไฟสอดม่านไว้ใต้เบาะนะคะ เวลาใครมาดึงจะได้รู้ตัว
ชื่อสินค้า:
อุทยานแห่งชาติขุนตาล เมืองลำพูน
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เบื้องหลังความสำเร็จ การสร้างอุโมงค์ขุนตาน มรดกทางวิศวกรรมและแรงงานคนในอดีต
เบื้องหลังความสำเร็จ การสร้างอุโมงค์ขุนตาน มรดกทางวิศวกรรมและแรงงานคนในอดีต อุโมงค์ขุนตาน ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดลำปางและลำพูน ถือเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ด้วยความยาว ๑,๓๕๒.๑๐ เมตร การ
สมาชิกหมายเลข 2933266
ออกเดินทางขึ้นเหนืออีกครั้ง แบบสโลว์ไลฟ์
ทริปนี้ขึ้นเหนืออีกครั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก่อนเดินทางเรามีเวลาจัดชุดเสื้อผ้า เพียง 1 ชั่วโมง (สโลว์ไลฟ์) ในใจก็แอบคิดว่า ทำไมกระเป๋าเรามีเท่านี้ เราล
เกี้ยมอี๋
พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#3 เที่ยวสะพานทาชมพู แต่มันสีขาว
พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#1 กางเต็นท์ขวางทางรถไฟ เดินไปดูพระอาทิตย์ตก http://ppantip.com/topic/32896600 พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#2 ชมวิวพระอา
ไอ้คล้าวผจญภัย
ทริปเทาเทา @ดอยขุนตาน (เทาน่ะเมฆนะ)
บันทึกไว้ว่าไปมาแล้ว..อุทยานแห่งชาติขุนตาน 24-25 กันยายน 2565 เรื่องเที่ยวน่ะไม่กลัว กลัวจะไม่ได้เที่ยวซะมากกว่า เมฆทมึนก่อตัวมาตั้งแต่รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากสถ
นกอีก๋อยปากเป็ด
ทริปทุบกระปุกก่อนเงินเดือนออก เที่ยวดอยขุนตาล-ลำพูน 2 วัน 1 คืน คนละ 650 บาท
สวัสดีชาวพันทิปทุกท่าน เราชื่อเมเม่ค่ะ พึ่งมาใหม่ หากทำอะไรผิดพลาดไปขออภัยล่วงหน้านะคะ เราอยากมาแบ่งปันทริปเที่ยวลำพูนแบบประหยัดและเก็บแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเกือบครบค่ะ ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ในงบประมาณ ค
อยู่ไม่สุข
เที่ยวลำพูนครึ่งวัน ไหว้พระขอพร เรียนรู้ประวัติศาสตร์ แบบไม่มีรถส่วนตัว
เที่ยวลำพูนครึ่งวัน ไหว้พระขอพร เรียนรู้ประวัติศาสตร์ แบบไม่มีรถส่วนตัว (เที่ยวครึ่งวัน แต่เดินทางอะวันครึ่ง)สวัสดีทุกคนค่ะ นี่เป็นกระทู้ที่ ๓ ของเรา ต่อจากกระทู้ ๑.
สมาชิกหมายเลข 3521154
ลำพูน-วัดป่าเห็ว (วัดป่าเหียวหลวงหัวเวียงหละปูน) วัดเก่าแก่ที่น่าสนใจ
...สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ ๑๕๘ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน บ้านป่าเห็ว หมู่ที่ ๕ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ๕๑๑๕๐ ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่
Force8949
monorail คือขนส่งมวลชนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ใช้งานได้ดีกว่าขนส่งมวลชนแบบอื่นๆ?
จากที่อ่านเจอมาในบางแหล่ง กับแต่ก่อนก็เคยลองสร้างดู พบว่าตัวถสานีmonorailก่อมลภาวะทางเสียงมากๆ ไม่เหมาะเอาไปไว้กลางย่านที่อยู่อาศัย กับระบบรางในเกมนี้ดูแปลกดี metroโดยเฉพาะแบบลอดใต้ดิน ค่าสร้างค่าบำ
สมาชิกหมายเลข 6096919
กินเพื่ออยู่ อยู่เพื่อกิน แต่เอาเป็นว่า ไม่รวยมาก พออยู่ได้ รวยอย่างมั่นคงน่าจะดีที่สุดในจุดความเป็นมนุษย์ วันนี้ขึ้นดอย
ขึ้นดอยขุนตาล ลงรถไฟที่ สถานีขุนตาน แต่แวะ แบกของไปถวายวันก่อน หลวงพ่อก็ บอก เทศน์เรื่อง เกิดมาแล้ว ทำตามความถูกต้อง อย่าโลภ ดูเจ้าตัวข้างหลัง มันก็มฟังทุกที แ
สมาชิกหมายเลข 6115048
ตอนเรียนเคยขยันแบบนี้มั้ย ปั่นจักรยานมา CTW 18.00 ดู CGM48 ..20 นาทีจากบ้าน ห้างคนยังเดินเยอะ มือถือต่อคิวรอซื้อเพียบ
ใน ศ. ของ ais คนมาซื้อมา รอรับ เครื่องใหม่ ผู้หญิงมากับฝรั่งหิวของ เยอะ มาก ฝนตกหนัก ส่วนภาคเหนือ ไปเชียงใหม่ ขุนตาน จองรถไฟไว้ กลาง ตุลา หวังว่า จะ เรียบร้อยนะ 
สมาชิกหมายเลข 6115048
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
เที่ยวไทย
เที่ยวภูเขา
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 138
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว นั่งรถไฟขึ้นขุนตาน-เที่ยวเมืองหละปูน (ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้)
วันแรก เราออกเดินทางด้วยรถไฟคืนวันศุกร์รอบ22.00น.ที่หัวลำโพง ตอนจองเหลือที่สุดท้ายเป็นรถนั่งชั้นสองค่ะ ระหว่างนั่งก็หลับๆตื่นๆ ไม่ได้หลับสนิทนะ ได้นั่งริมหน้าต่างด้วย พี่ผู้ชายเค้าเสียสละให้เราเปลี่ยน วันที่2เราก็มาถึงอุโมงค์ขุนตาน อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โผล่มาอีกฝั่งของอุโมงค์ เราก็เตรียมลง
ถึงสถานีขุนตานแล้วก็แวะถ่ายภาพซะหน่อย ก่อนแวะถ่ายภาพก็อย่าลืมไว้ศาลเจ้าพ่อขุนตานตรงใกล้ๆอุโมงค์ด้วยนะคะ หลังจากถ่ายภาพแล้ว
น้องหมาประจำสถานีขุนตาน สถานีนี้หมาเยอะจริงๆสมคำล่ำลือ
เราก็เริ่มใช้กำลังขาในการขึ้นไปอุทยานกันเลยค่ะ ระยะทางจากสถานีรถไฟไปอุทยานแห่งชาติขุนตานประมาณ1.3กิโลค่ะ เคยอ่านรีวิวบอกเดินชิวๆ15นาที แต่เราว่าแบกกระเป๋าด้วยมันก็ไม่ค่อยชิวนะ เราใช้เวลาไป20นาที ถึงอุทยาน
จะเป็นทางเล็กๆ มีป้ายบอกทางเรื่อยๆค่ะ
ออกจากทางเล็กๆ เป็นถนนใหญ่ เดินถนนใหญ่อีกนิดนึงจะถึงอุทยานค่ะ
จ่ายค่าเข้าอุทยาน20บาท พอถึงอุทยานก็เข้าไปติดต่อเรื่องที่พัก เราได้โอนค่าจองที่พักไว้แล้วค่ะ เราเลือกพักที่บ้านกระดังงา นอนได้สองคน คืนละ500บาท แต่ถ้าใครมาวันธรรมดาก็350บาทค่ะ เดินไปที่พักอีกกิโลกว่า เดินไปตามถนนเลยค่ะ
ถนนในที่ทำการอุทยาน ทางเดินที่เห็นจะไปสู่บ้านพักของอุทยานและ ย.1-ย.4
ที่นั่งเล่นตรงติดต่อที่พักของอุทยาน
ร้านอาหารในอุทยานค่ะ สั่งให้มาส่งที่บ้านพักได้ค่ะ คิดค่าส่งเพิ่มนิดหน่อย
ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จประพาสที่อุทยานแห่งชาติขุนตานด้วยค่ะ
พอถึงแถวที่พักจะมีพี่อุทยานมาเปิดบ้านให้ ถึงซักที ขอนั่งชิวๆมองวิวจากที่พักก่อนนะ หลังจากชมวิว เรารีบอาบน้ำแล้วออกไปเดินขึ้นเขา ต้องเดินจากที่พักไปจุดสตาร์ทขึ้น ย.1 อีก 2กิโล เดินๆ ก่อนขึ้นย.1 จะมีป้อมเจ้าหน้าที่อุทยานอีกทีนึงนะคะ
วิวจากบ้านพัก
การเดินเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยขุนตานจะแบ่งเป็น ย.1 ย.2 ย.3 ย.4 (ย. ย่อมาจากจุดยุทธศาตร์ค่ะ)
เริ่มที่ย.1 เบาๆที่900เมตร ทางเป็นบันไดขั้นๆ ไม่ลำบากค่ะ ย.1 ไปย.2 1000 เมตร ตอนแรกกะว่าจะขึ้นถึงย.2แล้วกลับที่พัก อีกวันค่อยมาขึ้นใหม่ เพราะว่านัดร้นข้าวให้มาส่งข้าวที่บ้านตอน18.30แต่เจอกลุ่มน้องๆนักศึกษาชวนขึ้นเขาด้วยกัน เราก็เลยอ่ะไปก็ไป จากย.2 ไปย.3 ระยะทางจะไกลค่ะ3000เมตร ใช้เวลานานหน่อย เล่นเอาเมื่อยอยู่ และในที่สุดก็ถึง ย.3 นี่ถ้าไม่เบลอหน้านะ สภาพดูไม่ได้ หน้ามันเลื่อมเชียวล่ะ
ย.1 ที่ประทับพักแรมของกรมพระยากำแพงเพชรอัครโยธิน เมื่อครั้งเสด็จมาเป็นแม่งานในการก่อสร้างอุโมงค์ขุนตานค่ะ
จากย.3ไปย.4 1000เมตร ก่อนถึง ย.4 จะมีเนินวัดใจ เนินวัดใจมีความนัยว่าไหวไม๊แก+เนินชัน พอถึงเนินวัดใจนี่ เราปล่อยให้น้องๆวิ่งขึ้นไปก่อนเลยค่ะ จากที่เราเดินนำน้องๆมาตลอด เดินขึ้นมานี่เหมือนมีการ์ดคอยคุมเลยค่ะ 55
พวกเรามาถึงไม่มีใครแล้วค่ะ มาถึงตอน17.30 ทันดูพระอาทิตย์กำลังตกพอดี พวกเราเริ่มเดินขึ้นจากย.1ประมาณ 15.30น. นะคะ หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จ ก็เริ่มเดินลงประมาณหกโมงกว่าๆ ตอนลงเร็วกว่าค่ะ เพราะมีแต่ทางเดินลาดลง แต่เราลงกันมาเย็นเกิน เดินไปก็กลัวนะคะ เพราะเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ คือยังเดินอยู่ ย.3ก็ต้องใช้ไฟฉายแล้วค่ะ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เดินป่าตอนมืดๆขนาดนี้ เราไม่แนะนำนะคะ เพราะอันตราย ขามาเราเจองูเกือบเหยียบแล้วค่ะ แต่ดีที่เห็น คิดดูสิคะเจอสัตว์เลื่อยคลานตอนมืดๆในป่า กว่าพวกเราจะมาถึงป้อมจุดสตาร์ทก็ประมาณทุ่มกว่าๆ ใช้เวลาเดินลงประมาณ 1 ชั่วโมง น้องๆใจดีขับรถไปส่งให้ที่พัก (จากจุดสตราท์ย.1กับที่พักเราห่างประมาณ2กิโล) คืนที่สองที่อุทยานหมดไปแบบขาชาๆ กับประทับใจวิวและเพื่อนร่วมทาง
วิวนั่งพัก ก่อนใช้แรงขึ้นเนินวัดใจค่ะ
วิวบนย.4>>
วันที่3 เราตื่นเจ็ดโมงกว่าๆ เนื่องจากเพลีย เดินลงมาที่ทำการอุทยาน แวะกินข้าว ถ่ายรูปเก็บตกรอบๆ แล้วกลับไปสถานีรถไฟขุนตาน ตอนแรกกะว่าจะเดินไปเอง แต่พี่ที่อุทยานใจดี ให้นั่งรถหกล้อของอุทยานไปลงสถานีรถไฟ ถึงสถานีถ่ายภาพระหว่างรอรถไฟรอบ 11.00 น.
วิวที่พักตอนเช้า ตื่นมาก็เจอวิวสวยๆ
เส้นแบ่งเขตสองจังหวัด แหมะ พี่ๆ ที่มาเที่ยวไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเรมในการถ่ายรูปเลย
อันนี้หลักเขตที่แบ่งสองจังหวัดค่ะ
รถที่พี่อุทยานขับมาส่งที่สถานีรถไฟ >>
พอรถไฟมาก็กระโดดขึ้นเพื่อไปลงสถานีลำพูน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงสถานีลำพูน
จากสถานีเราให้วินไปส่งที่พักที่เราจองไว้ เราจองไว้ที่ "ปิ๊กบ้าน" เป็นแนวโฮสเทล ถึงที่พัก รอแป๊บนึงพี่เค้าก็มาเปิดบ้านให้เราไว้ของ
ที่พักปิ๊กบ้าน บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ >>
แล้วเราก็รีบไปพระธาตุหริกุญชัย เพื่อไปซื่อตั๋วนั่งรถรางเที่ยว หมดไปกับทริปรถราง เจอแก๊งป้าชาวจีน เราก็ช่วยเป็นล่ามนิดๆหน่อยให้พวกแก เพราะรถราง พูดแต่ภาษาไทย ป้ายท่องเที่ยวก็ไม่มีภาษาจีน ป้าๆแกก็น่ารักนะ ช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย ใช้เวลานั่งรถรางประมาณ 3 ชั่วโมง แวะเดินเที่ยวตลาดแถวพระธาตุ วันที่เราไปมีงาน OTOP พอดี เดินเพลินๆแล้วกลับที่พัก
รูปเที่ยวรถราง >>
วัดพระธาตุหริกุญชัย
เฉาก๊วยที่วัดพระธาตุหริกุญชัย
นั่งเล่นชิวๆที่ปิ๊กบ้าน แล้วตอนเย็นพี่อ้อมที่ปิ๊กบ้านก็พาไปถีบจักรยานหาอะไรกิน และก็เที่ยวลำพูนยามค่ำคืน เราก็ได้เห็นลำพูนในอีกมุม มุมที่สงบ แม้จะเป็นช่วงเทศกาลแต่ก็ไม่มีความจอแจเลย เราชอบวัดและบ้านที่นี่มาก ถ้าใครมาลองมาปั่นจักรยานเล่นดูนะคะ ที่ปิ๊กบ้านเค้ามีจักรยานให้ปั่นถ้าใครมาพักที่นี่
วันที่4 ตื่นเช้ามีอาหารเช้าทำใหม่จากพี่อ้อมที่ปิ๊กบ้าน พี่เค้าทำกับข้าวอร่อยม๊ากแล้วไปปั่นจักรยานรอบลำพูนเล่นๆ เดินทางกลับด้วยรถไฟตู้นอนช่วงบ่ายถึงสถานีบางซื่อประมาณหกโมงกว่าๆทริปนี้เราหมดไปประมาณ2000บาท ถ้าใครมารถไฟฟรีก็อาจจะถูกกว่านี้นะ
ขี่จักรยานเที่ยวไปพิพิธภัณฑ์มิคกี้เมาส์
อาหารที่เราสั่งบนรถไฟ
นอนรถไฟสอดม่านไว้ใต้เบาะนะคะ เวลาใครมาดึงจะได้รู้ตัว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น