สวัสดีค่าเพื่อนๆชาวพันทิปที่รัก วันนี้ก็เป็นวันว๊างว่างงงของ จขกท. เองนะจ้ะ  เลยมีเวลาที่จะสามารถอุทิศตนเพื่อมานั่งเขียนรีวิวนี้ให้มันจบซะที หลังจากตั้งห้วข้อทิ้งไว้นานมาก นานแค่ไหนหน่ะหรอออ ก็ไปเที่ยวมาปีที่แล้วอ่ะจ้าาาาาา 55555555555 เพิ่งมานึกคึกนั่งเขียนวันนี้ เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เมื่อปลายปีที่แล้วช่วงเดือนตุลาคม (เห็นไหมบอกแล้วว่านานนนน) จขกท. มีนอยด์ในเรื่องของการงาน ครอบครัว สังคม และความรัก 5555  ก็ได้ทำการส่องกระทู้ท่องเที่ยวในพันทิปไปเรื่อยเปื่อย และเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะไปพักผ่อน หย่อนจิต หย่อนใจ แต่ทว่า .... ในกระทู้พันทิปน้านนนน(เสียงพุดเดิ้ล) ก็มีความหลากหลายที่ให้เลือกสรรค์ บ้างก็เรียบหรู ดูไฮโซ บ้างก็ลุยฝุ่น วุ่นวายเว่อวัง บ้างก็สดใส ถ่ายรูปสวย และอีกมากมาย จขกท. มีความขี้เกียจเลือก บวกงบน้อย จึงนั่งตกลงปลงใจกับตัวเองจนได้ข้อสรุปว่า กาญจนบุรีนี่แหละที่ตอบโจทย์คนเมืองอย่างเราๆ ดูแล้วที่เขามารีวิวกัน ก็จะมีในเรื่องของความสงบจิตสงบใจและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ งบประมาณไม่มาก อยู๋ในช่วงปลายๆเดือน ก็สามารถไปได้ เอาล่ะ เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ก็หาเพื่อนสิจ้ะ โทรชวนเพื่อนรัวๆเลยค่ะ ในเย็นย่ำของวันนั้น จขกท.ได้ทำการโทรหาเพื่อนๆ ประมาณ 15 คน แต่มีผู้ตกลง เป็นจำนวนถึง 1 คนเท่านั้น แต่เราไม่มีเวลารอใครว่างแล้วค่ะ 1 คน ก็ 1 คนวะ อย่างน้อยก็ไม่รันทดขนาดต้องไปคนเดียว เอาละ!!! ถึงเวลาต้องเดินทางแล้ววววว เริ่มเลยยย let's go!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

- จขกท นัดพบกับเพื่อนสาวที่ หมอชิต2 ในเวลาก่อน 7 โมงเช้า อันนี้ต้องขอออกตัวก่อนว่า ตอนแรกเราจะเดินทางด้วยรถไฟฟรีวิถีฮิปสเตอร์ แต่ดูแล้วกลัวลำบาก พอดี จขกท.เป็นคนหนักไม่เอาเบาไม่สู้ ก็เลยเปลี่ยนแผน เพราะกลัวไปถึงช้าแล้วจะไม่ทันเช็คอิน จึงเลือกไปรถตู้แทนถึงใครๆจะว่าอันตราย แต่มันก็ทำให้เราถึงที่หมายเร็ว แล้วเบาะก็น่าจะนิ่มกว่ารถไฟฟรี 55555555555

และเมื่อมาถึงหมอชิต ในเวลา 7 โมง จึงได้ทำการเดินหารถตู้ที่จะไป บขส. กาญจนบุรี เดินถามทุกช่อง ก็มีแต่คำตอบว่า รถไปกาญ รอบสุดท้าย เพิ่งออกไป รอบถัดไปจะเป็นเที่ยงเลย ต้องรอ.. โอ้มายก้อดด จขกท.กับเพื่อนจึงมีความเหวออยู่ประมาณห้านาทีเศษ เพราะอย่างที่บอกเราเปลี่ยนแผนกระทันหันไม่ทันได้ศึกษาให้ถี่ถ้วน แต่ก็เดชะบุญ มีพี่ที่ขายตั๋ว วิ่งมาบอกเราว่า 'น้องๆ มีรถตกคิวคันนึง มีที่นั่งว่างไปมั้ย??' จกขท.ขอใช้คำว่า โอ้มายก้อดอีกหนึ่งครั้ง55555555555 ได้ไปแล้ววววว ตึกๆๆๆๆๆๆ(เสียงเนื้อเต้น) เมื่อได้ความดังนั้นจึงรีบตอบตกลงและไปซื้อตั๋วทันที สองคน 260 บาท ก็จะเท่ากับคนละ 130 บาทเท่านั้นเองงงง
ปอลิง. หน้าหมอชิต มีรถแท๊กซี่เยอะมาก ถ้าเลี่ยงได้อย่าพยายามเดินเข้าไปในรัศมี เพราะจะเจอเสนอขาย จ่ายแบบเหมาๆเลยนะน้อง

- เมื่อขึ้นรถตู้ ก็หลับไปยาวๆ ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง ก็ถึงที่หมายคือ บขส. กาญจนบุรี ฮี่ๆ มองซ้าย มองขวา มองนาฬิกา เวลายังเหลือ และมีความหิว เดินออกไปรอบๆ บขส.จะมีร้านข้าว เซเว่น นู่นนี่ เต็มไปหมด แต่มันจะมีอยู่ร้านนึงที่ตอน จขกท.ไปเขายังสร้างไม่เสร็จดี (แต่ป่านนี้คงจะเสร็จแล้ว) เป็นร้านอาหารกึ่งๆ ร้านกาแฟด้วย

ถ่ายมาให้ดูไม่เยอะ เพราะมัวแต่กิน 5555555555555555555555

- และพออิ่มท้องแล้ว ก็ไปถึงขั้นตอนในการเตรียมเสบียง เพราะเดี๋ยวไปถึงข้างในของแพง สิ่งที่ตุนไว้ก็จะมีน้ำอัดลม เครื่องดื่มนิดหน่อยเท่านั้น
- หลังจากที่เตรียมเสบียงเรียบร้อย ก็เตรียมตัวไปขึ้นรถเข้าที่พักกัน ขอบอกว่า ใช้เวลานานมากกกกก (กอไก่ 7 ตัวพอ) เราต้องต่อรถเข้าไปในที่พัก จาก บขส.กาญ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง โหห นี่อยู่จังหวัดเดียวกันจริงหรอ55555 เดินไปหารถที่จะผ่าน บ้านแก่งจอ ถ้าไม่เจอก็ถามเขาเอาได้นะ รถสีแดง มันจะเขียนว่า กาญจนบุรี - สังขละ

เมื่อขึ้นรถปุ๊ป จะมีกระเป๋ามาเก็บค่ารถ บอกเขาไปว่า ถึงบ้านแก่งจอแล้ว รบกวนช่วยเรียกด้วยนะคะ ค่ารถก็คนละ 80 บาทเท่านั้น ขอบอกว่านานมาก ใครหลับได้หลับเลยนะ

- ถึงล้าววว บ้านแก่งจอ (เสียงพี่กระเป๋ารถ) -
- อะๆ ถึงแล้วก็ลงซะ 5555555555555555555555 ที่ห้ามลืมคือเบอร์โทรที่พักที่เราได้ทำการจองไว้ เขาจะส่งรถออกมารับเราเข้าที่พัก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที ทางที่ดีกะเวลาตั้งแต่บนรถ แล้วโทรเลยจะดีมาก

รูปนี้เป็นรูปจุดสังเกตุ เราต้องมายืนรอตรงนี้นะ นกสองตัวนี้ จำไว้ๆ หรือไม่จำก็ได้

รถมารับแล้วจ้าาา ขึ้นปุ๊บพอผ่านทางเข้าได้ประมาณ100 เมตร วิวรอบข้างจะสวยมาก ยังไม่ทันถึงที่พัก ก็รู้สึกได้ถึงความสงบเลยอ่ะ ระหว่างไปที่พัก ก็จะผ่านที่พักอื่นบ้าง ล้วนคุ้นหน้าคุ้นตาจากใน พันทิป5555 แต่ที่ที่เราจะไปพักคือ ไทรโยค วิว ราฟ์ท นั้นเอง ส่วนค่าที่พักเขาคิดเป็นหัวนะ ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าคนละเท่าไหร่ (นานแค่ไหนถามใจดู)  เมื่อถึงที่พักแล้ว ก็มุ่งหน้าไปเช็คอินทันที ทันเวลาเป๊ะๆ เลยขอบอก555 ก็ตามคาดสวยงามตามท้องเรื่อง ตรง lobby ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมัวแต่เพลิดเพลินจำเริญใจ เลยไม่ทันได้ถ่ายรูป เช็คอินเสร็จแล้ว ก็จะมีพนักงานพาเราไปเข้าที่พัก ขอบอกตามตรงนะ ที่นี่เงียบมาก เงียบแบบเงียบสงบจริงๆ พนักงานก็น้อยด้วย หรืออาจจะเป็นเพราะเราไปวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะเท่าไร่ เราไปดูภายในห้องกันเถอะ ห้องพักที่เราได้จะเป็นแบบ เตียงใหญ่1 เล็ก 1 มีไดร์เป่าผมให้ แก้วน้ำ ผ้าห้ม อุปกรณ์ในห้องน้ำครบอยู่นะ ข้อดีคือมันติดริมน้ำแบบจริงจังเลยอ่ะ เราชอบมาก เป็นกระจกใส สามารถมองออกไปแบบฟินมาก (สำหรับเรานะ) ข้อเสีย คือ เครื่องทำน้ำอุ่น คือควรเปลี่ยนชื่อเป็นเครื่องทำน้ำร้อน หมุนซ้าย ก็ร้อน หมุนขวาก็ร้อน 55555555555555555

อันนี้คือหน้าห้องนะ แบบค่อนข้างเริ่ดเวอร์ ถ้าแดดเบากว่านี้หน่อย

เมื่อเก็บสัมภาระเสร็จแล้ว ก็มาต่อกันที่ส่วนพักผ่อนหย่อนใจ (ซึ่งไม่เหมาะในเวลาที่แดดร้อนมากมาก) แต่ จขกท. ด้อนท์แคร์ค่าาาา ฮิฮิ ในส่วนตรงนี้จะมีร้านขายน้ำ ขายเครื่องดื่มต่างๆ ขายขนม ขายมาม่า ขายน้ำแข็งซึ่งน่าจะเอามาจากการ์ตูน FORZEN เพราะแพง shipหายย 55555555 จริงๆแล้วก็แพงทุกอย่างนั่นแหละ จขกท.เองก็มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อน้ำแข็ง หนึ่งถังเขียว 80 บาท อ้ะ อย่าเพิ่งตกใจ ค่าน้ำแข็ง 30 ค่าถัง 50 (มัดจำไว้) คงเพราะกลัวเราทิ้งขว้าง เราก็เห็นสมควรก็จ่ายไป แต่ด้วยความที่ จขกท.ก็มีความหิวขนม เลยถามคนขายว่า เลย์ถุงเท่าไร่จ้ะ นางตอบ 50 จ้ะ เอิ่มมม บ๊ายยยย ไม่ แdก จ้า 5555 ดีนะที่เราซื้อน้ำอัดลม ต่างๆ มาจากข้างนอกแล้วเห็นราคาแล้วซื้อไม่ลงอ่ะ เรามาดูรูปตรงส่วนพักผ่อนที่แสนจะคูลกันดูนะจ้ะ มีความมีสระว่ายน้ำในร่ม และ กลางแจ้ง เผื่อต้องการอาบแดด

เมื่อจับจองมาม่า และ น้ำท่า กันเรียบร้อยก็มีความนั่งกิน และ เม้าท์มอยกันริมน้ำ รอเวลาไปเล่นแพเปียกเวลา หกโมงเย็นจ้า มารวมกันที่แพรวม และจับจองเสื้อชูชีพ เตรียมลอยทวนกระแสน้ำ เริ่ดดดดดดด เท่าที่ จขกท.รู้มาคือ วัน จันทร์-พฤหัส จะมีแพเปี่ยกแค่หนึ่งรอบคือเวลา หกโมงเย็น แต่ถ้า ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีสองรอบคือ สี่โมง และ หกโมงเย็น (อันนี้ไม่รู้จะเปลี่ยนไปหรือยังนะ) ที่ จขกท.พลาดมากมากเลยคือ ไม่เอากล้องออกมาตอนเล่นแพเปียก เลยไม่มีรูปมาฝาก ก็เค้าไม่รู้ว่ามันมีคนเฝ้าให้ เลยไม่กล้าเอาออกมากลัวหาย มือถือก็กลัวเปียกไว้ในห้องแม่มหมดเลย555555555555555

อ่ะๆๆๆ เมื่อเล่นแพเปียกเสร็จแล้วช่ำชื้นชุ่มชื่นหัวใจมากเวอร์ ก็ได้เวลาอาหารเย็น อาหารเย็นที่นี่เป็นบุฟเฟต์ตักกินเอง เวลาอาหารจะเริ่ม หนึ่งทุ่ม ถึง สามทุ่ม ก็พอมีเวลาเหลืออยู่นิดหน่อยที่จะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และด้วยความหิว ก็ไม่ถ่ายรูปไว้อีกเช่นเคยยยย 55555

อาหารก็จะประมาณนี้นะคะ

มาต่อที่บรรยากาศตอนกลางคืนกันเต้อะ คือดียยยยย ดียมากจริงๆนะ เงียบ สงบ เย็นสบาย นี่สิที่พักผ่อนของจริง สบายยิ่งกว่าการนอนหลับ ฮืออออ เราควรพาตัวเองมาที่นี่บ่อยๆ

หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศอันแสนสุข แสนสงบ ก็นั่งเม้ามอยหอยกาบ เครื่องดื่มแสนพริ้ว ท่ามกลางหมู่ดาว (อันนี้ไม่ได้เวอร์) ก็ได้เวลาเข้านอนซะที เพราะตอนเช้าคิดว่าอากาศน่าจะต้องดีมาก แน่นอน เตรียมนอนเพื่อตื่นมาฟินตอนเช้าค่ะ

เป็นไปตามคาด อากาศดีจริงๆด้วย แบบตื่นมานี่ฟุ้งเวอร์เป็นอากาศที่เจ้าของกระทู้ชอบมากมาก ฟิวแบบที่กรุงเทพไม่มีทางได้เจอแน่ๆ เย็นสบาย เสียงน้ำไหลไปเรื่อย (ขอบอกว่าตอนเช้าน้ำเชี่ยวมากไม่ให้ลงเล่น)

อันนี้คือตอนที่แบบเริ่มสายหน่อยๆแล้วค่ะ พอเริ่มสายน้ำค้างจะเยอะหน่อย อากาศจะเริ่มชื้นๆ แต่ก็ยังแบบเย็นสบายอยู่นะ จขกท.ก็เลยไปเดินเล่นตากอากาศรอเวลาอาหารเช้าค่ะ  เช่นเคยนะคะอาหารเช้าก็จะเป็นแบบบุฟเฟต์เหมือนมื้อเย็น จะเริ่มเจ็ดโมงเช้า-สิบโมงเช้า ก็จะมีมากมายเช่นเดิม ข้าวต้ม ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปัง แยมต่างๆ แต่จขกท.กินเป็นไม่กี่อย่าง (แต่เยอะ) 5555555

ประมาณนี้นะคะ อิอิ เยอะเว่อร์ เหมือนหิวมาแล้วสามศตวรรษ
เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ไปเดินย่อยอาหารสักหน่อย

เมื่อเดินเที่ยวซึมซับบรรยากาศเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมเข้าที่พัก อาบน้ำ เก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์จ้า เฮ่อออออ ไม่อยากกลับเลย แต่ก็ต้องกลับ โลกแห่งความจริงรออยู่ บรึ๋ยยยยยยยยยยยยยย

สรุปโดยรวมนะคะ จขกท. ชอบที่นี่แบบมาก และคิดว่าจะกลับไปอีกแน่นอน ส่วนกระทู้นี้ ถ้าหากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะเจ้าาา หากรายละเอียดไม่ครอบคลุมก็ต้องขอประทานโทษอย่างแรง เพราะต้องบอกว่าทริปนี้ถ่ายรูปมาน้อยจริงๆ เพราะบรรยากาศมันทำให้ละสายตาไม่ได้ (สำหรับเรานะ) เดี๋ยวจะหาว่ามาอวยใส้แตก 555555

ขอจบกระทู้แค่นี้นะคะ เพราะคิดไม่ออกแล้ว 555555
สวัสดีค่า