หมกอยู่แต่ในก้นครัวมัวทำแต่กับข้าวมานานหลายปีดีดัก ถ้าพูดถึงนิคเนม "สล่าปู่" ใครที่ผ่าน ๆ ทางห้องก้นครัว
คงจะพอคุ้น ๆ ตาอยู่ เพราะอยู่แต่ที่นั่นอย่างเดียวมา 4 - 5 ปีแล้ว ไม่เคยก้าวออกจากบ้านไปไหนเลย
ไหน ๆ ใกล้สิ้นปีแล้ว วันนี้จะลองก้าวขาออกจากห้องก้นครัว เอาประสบการณ์เล็กน้อยที่ประสบพบเห็นผ่านมาเมื่อ
ไม่กี่วันนี้เองมาเล่า พร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าจะไปไหวไหมเรื่องเล่า เรื่องโม้ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ตนเองพบเห็น
ถ้าเป็นที่น่าสนใจ อาจจะมีรายการอิ่นเกี่ยวกับป่าเขาลำเนาไพร ดอยสูง ทะเลหมอก ตามมาอีกในโอกาสต่อ ๆ ไป
แม่ระมาด เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตาก อยู่กึ่งกลางระหว่างอำเภอแม่สอดกับอำเภอท่าสองยาง ใครที่เคยใช้เส้นทาง
แม่สอด - แม่สะเรียง จะต้องเคยผ่านทุกคน
เนื่อจากเป็นกระทู้แนะนำตัวและชิมลาง ไม่ได้ตั้งใจจะไปเก็บข้อมูลและถ่ายภาพเพื่อมาเขียนกระทู้โดยตรง เพราะฉะน้น
ในเรื่องข้อมูลและภาพถ่ายประกอบอาจดูหลวม ๆ ออกแนวเล่าสิ่งที่ประสบพบเห็นเสียมากกว่าข้อมูลที่เป็นทางการอย่าง
จริงจัง
สล่าปู่เป็นคนแม่สะเรียง พอดีมีกิจต้องเดินทางร่วมกับคณะไปทำภารกิจที่ศูนย์ กศน. อ.แม่ระมาด เนื่องจากติดรถไปกับคณะ
การประสบพบเห็นอะไรระหว่างทาง บางคร้งความอยากที่จะถ่ายรูปก็ต้องได้ขอร้องโชเฟอร์ช่วยหยุดให้หน่อย ครั้นจะบ่อย ๆ
ก็เกรงใจเพื่อนร่วมทาง จึงได้อะไรมาเท่าที่พอได้ ถึงจะไม่ละเอียดมากนักทำให้นึกในใจ วันไหนตรูได้ขับรถไม่เอง มันส์แน่ ๆ
เรื่องของถนนหนทาง จากแม่สะเรียงไปแม่ระมาด ระยะทางร่วม 200 ก.ม ถนนราดยางแทบจะตลอดเส้นทาง ณ วันที่ไป
8 ธ.ค. 59 เหลือเพียงช่วงสั้น ๆ ที่เขากำลังเร่งบดอัดถนนเพื่อราดยาง คาดว่า ณ วันที่เขียนนี้อาจไร้ลูกรังแล้วก็ได้
อย่างเยี่ยมเลยครับ ใครที่เคยหวาดผวาเส้นทางสายนี้ดูรูปนี้ได้เลย
มีบางช่วง น่าจะไม่เกิน 5 ก.ม. เจ้าหน้าที่กำลังเร่มระดมกันอย่างหนัก คาดว่าก่อนสิ้นปีนี้ต้องเสร็จแน่นอน
ริมถนนข้างทางขาไป มีเป็นจุด ๆ ที่เห็นชาวบ้านมาตั้งเพิงชั่วคราวเพื่อขายผักไม้ หรือของพื้นบ้าน ของป่า
พวกเราแวะดูสอบถามราคา ส่วนมากที่ที่เห็นก็จะเป็นผักสดที่เห็นตามตลาดเสียเป็นส่วนใหญ่ เป็นข้อผิดพลาด
อย่างมากมายที่ไม่ได้ถามคนขายว่าลูกค้าส่วนใหญ่คือใคร จะว่าคนในหมู่บ้านเท่าเห็นก็เป็นป่าไม่มีหมู่บ้านเลย
จะว่าขายให้คนขับรถผ่านหรือนักท่องเที่ยว ก็เป็นผักที่ส่วนใหญ่สามารถหาซื้อได้ในตลาดที่ราบทั่วไป
ที่เห็นมีของพื้นบ้านที่ดูแปลกตาและน่าสนใจก็มีบ้าง เช่นกล้วยที่วางขาย อยู่ 2 หวี เจ้าของตัดมาขายเองเลย
ถามแล้วได้ความว่าเขาเรียก "กล้วยครั่ง" ขายหวีละ 40 บาท
เนื่องจากต้องไปปฏิบัติหน้าที่และค้างคืน จึงยังไม่ซื้ออะไรสักอย่าง 148 ก.ม. จากแม่สะเรียง-บ้านแม่ต้าน ซึ่ง
เป็นที่ตั้งของ อ.ท่าสองยาง อันนี้ทำให้คนงุนงงมานักต่อนักแล้วว่าจะไปอำเภอท่าสองยางแล้วทำไมต้องไปที่
บ้านแม่ต้าน บอกได้แบบลูกทุ่ง ๆ ตอนนี้ก่อนว่า ตัวอำเภอที่ชื่อท่าสองยางตั้งอยู่ที่เขตเทศบาลแม่ต้าน ส่วน
ตำบลท่าสองยางจริง ๆ จะอยู่ค่อนไปทางอำเภอสบเมยโน่น
ขับรถวนเข้าไปในตัวอำเภอท่าสองยางหาข้าวกลางวันกิน บ้านเมืองเขาสงบเงียบดีครับ เป็นอำเภอที่ติดกับประเทศ
เมียนมาร์ โดยมีแม่น้ำเมยกั้นกลาง ไปเห็นน้ำเมยแล้วนึกถึงเพลงแม่สอดสะอื้นขึ้นมาทันใด
ท่าสองยางวันนี้
หาอะไรอิ่มท้องอย่างง่ายก่อนเดินทางต่อ
เป็นเพราะไม่ได้คิดว่าจะได้มารีวิว เลยรู้แต่เพียงว่าจากท่าสองยางไปแม่ระมาด ไม่ไกลเท่าไหร่เกือบ ๆ 50 โลว่างั้น
ใครพอมีข้อมูลแน่ชัดช่วยเสริมให้ด้วยครับ
ระหว่างทาง มีอยู่ช่วงหนึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์อพยพชาวเมียนมาร์ จำชื่อไม่ได้รู้แต่ว่าอยู่ในหมู่บ้านแม่หละ ตั้งบ้านเรือน
กันอยู่ข้างถนนในสภาพแออัดระยะทางยาวร่วม 3 ก.ม.
จอดรถถ่ายรูปตรงจุดที่นึกว่าทิวทัศน์น่าถ่ายที่สุด เด็ก ๆ เหมือนจะรู้เพราะตรงนั้นจะมีเด็ก ๆ มารวมตัวกันอยู่และทักทายอย่าง
เป็นมิตรด้วยท่าทางและคำพูด เขาคงคุ้นเคยและเคยได้อะไรกับนักท่องเที่ยวอย่างดี พอดีวันนั้นไม่ได้เตรียมอะไรติดไปด้วย
ก็เลยทำมือโบก ๆ แล้วบอกว่า โน ๆ เขาก็รับรู้นะแต่ท่าทีที่เป็นมิตรกลายเป็นเฉย ๆ ทันที
ไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงที่หมาย แวะลงทะเบียนที่ปั๊มปตท. ว่ามาถึงแล้วนะ
ถึงจะเป็นเมืองเล็ก ๆ ก็มีเสน่ห์เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสตลอดและหลากหลายกลุ่มหลายสไตล์
เข้าไปในตัวเมือง เกือบ 5 โมงเย็น ก่อนเข้าที่พักคุยกันว่าหาอะไรกินกันก่อน เจอร้านข้าวแกงตามสั่ง จัดการ
อิ่มท้องให้ตนเองเป็นข้าวราดง่าย ๆ
ในตัวเมืองจริง ๆ สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นแม่ระมาด คือเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างตามถนนจะมีสัญญลักษณ์ เป็นตัวช้าง
อยู่ตรงยอดเสาอย่างสง่างาม มีป้ายเล็ก ๆ ติดตัวอักษรคำว่า "มาศเมือง" ซึ่งยังเป็นปริศนาสำหรับสล่าปู่จนเดียวนี้
ที่ว่า มาศเมืองนั้นมันมีที่มาและหมายความว่าอย่างไร
เป็นเมืองเงียบอีกเช่นเคย
มีคนบอกว่ายามค่ำคินจะหาอะไรกินแสนยาก จะตุนอะไรก็ต้องจัดการไว้ตอนนี้ เล่นไม่ยากครับ 7-11 มี โลตัสเล็ก มี
เข้าที่พัก ข้อมูลและรายละเอียดไม่ได้ถามมา แบบว่าเป็นคนใจง่ายเขาพาไปนอนที่ไหนก็ตามนั้น
บ้านสายลมจอย
ดูจากสภาพภายนอกทั่ว ๆ ไป น่าจะเปิดบริการมาได้ไม่นาน เป็นห้องเดี่ยว ๆ เหมือนว่าจะเปิดบริการทั้งเช่าอยู่เป็นเดือน
และสำหรับบุคคลทั่วไปเข้าพักรายคืน
แม่ระมาด นึกว่าอากาศคงหนาวมาก แต่คืนนั้นผ่านไปถือว่าเป็นต้นหนาวที่ยังต้องเปิดแอร์ในห้องนอนอยู่เลย
คืนที่ไป ทีวีมีการถ่ายทอดฟุตบอล ไทย - เมียนมาร์ ถือโอกาสนอนดูถ่ายทอดสดแล้วก็นอนหลับ เพื่อเตรียม
ตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อไป
ลากันที่ภาพนี้นะครับสถานที่ที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจ และยังมีเวลาพอที่จะพาท่านไปแอ่ววัดดอนแก้ว พาไปไหว้
พระพุทธรูปหินอ่อน และชมบรรยากาศอันสวยงามและเงียบสงบของวัด ซึ่งคงขอเป็นตอนต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้ เป็นการโพสต์กระทู้แบบนำเที่ยวเป็นครั้งแรกอาจมีติด ๆ ขัด ข้อมูลไม่แน่นพอ
ยังไงก็ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยเสริม ๆ ให้ถูกต้องด้วยครับ
สวัสดีครับ
ลัดเลาะริมเมยเที่ยวแม่ระมาด โดยมือใหม่นำเที่ยว "สล่าปู่"
คงจะพอคุ้น ๆ ตาอยู่ เพราะอยู่แต่ที่นั่นอย่างเดียวมา 4 - 5 ปีแล้ว ไม่เคยก้าวออกจากบ้านไปไหนเลย
ไหน ๆ ใกล้สิ้นปีแล้ว วันนี้จะลองก้าวขาออกจากห้องก้นครัว เอาประสบการณ์เล็กน้อยที่ประสบพบเห็นผ่านมาเมื่อ
ไม่กี่วันนี้เองมาเล่า พร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าจะไปไหวไหมเรื่องเล่า เรื่องโม้ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ตนเองพบเห็น
ถ้าเป็นที่น่าสนใจ อาจจะมีรายการอิ่นเกี่ยวกับป่าเขาลำเนาไพร ดอยสูง ทะเลหมอก ตามมาอีกในโอกาสต่อ ๆ ไป
แม่ระมาด เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตาก อยู่กึ่งกลางระหว่างอำเภอแม่สอดกับอำเภอท่าสองยาง ใครที่เคยใช้เส้นทาง
แม่สอด - แม่สะเรียง จะต้องเคยผ่านทุกคน
เนื่อจากเป็นกระทู้แนะนำตัวและชิมลาง ไม่ได้ตั้งใจจะไปเก็บข้อมูลและถ่ายภาพเพื่อมาเขียนกระทู้โดยตรง เพราะฉะน้น
ในเรื่องข้อมูลและภาพถ่ายประกอบอาจดูหลวม ๆ ออกแนวเล่าสิ่งที่ประสบพบเห็นเสียมากกว่าข้อมูลที่เป็นทางการอย่าง
จริงจัง
สล่าปู่เป็นคนแม่สะเรียง พอดีมีกิจต้องเดินทางร่วมกับคณะไปทำภารกิจที่ศูนย์ กศน. อ.แม่ระมาด เนื่องจากติดรถไปกับคณะ
การประสบพบเห็นอะไรระหว่างทาง บางคร้งความอยากที่จะถ่ายรูปก็ต้องได้ขอร้องโชเฟอร์ช่วยหยุดให้หน่อย ครั้นจะบ่อย ๆ
ก็เกรงใจเพื่อนร่วมทาง จึงได้อะไรมาเท่าที่พอได้ ถึงจะไม่ละเอียดมากนักทำให้นึกในใจ วันไหนตรูได้ขับรถไม่เอง มันส์แน่ ๆ
เรื่องของถนนหนทาง จากแม่สะเรียงไปแม่ระมาด ระยะทางร่วม 200 ก.ม ถนนราดยางแทบจะตลอดเส้นทาง ณ วันที่ไป
8 ธ.ค. 59 เหลือเพียงช่วงสั้น ๆ ที่เขากำลังเร่งบดอัดถนนเพื่อราดยาง คาดว่า ณ วันที่เขียนนี้อาจไร้ลูกรังแล้วก็ได้
อย่างเยี่ยมเลยครับ ใครที่เคยหวาดผวาเส้นทางสายนี้ดูรูปนี้ได้เลย
มีบางช่วง น่าจะไม่เกิน 5 ก.ม. เจ้าหน้าที่กำลังเร่มระดมกันอย่างหนัก คาดว่าก่อนสิ้นปีนี้ต้องเสร็จแน่นอน
ริมถนนข้างทางขาไป มีเป็นจุด ๆ ที่เห็นชาวบ้านมาตั้งเพิงชั่วคราวเพื่อขายผักไม้ หรือของพื้นบ้าน ของป่า
พวกเราแวะดูสอบถามราคา ส่วนมากที่ที่เห็นก็จะเป็นผักสดที่เห็นตามตลาดเสียเป็นส่วนใหญ่ เป็นข้อผิดพลาด
อย่างมากมายที่ไม่ได้ถามคนขายว่าลูกค้าส่วนใหญ่คือใคร จะว่าคนในหมู่บ้านเท่าเห็นก็เป็นป่าไม่มีหมู่บ้านเลย
จะว่าขายให้คนขับรถผ่านหรือนักท่องเที่ยว ก็เป็นผักที่ส่วนใหญ่สามารถหาซื้อได้ในตลาดที่ราบทั่วไป
ที่เห็นมีของพื้นบ้านที่ดูแปลกตาและน่าสนใจก็มีบ้าง เช่นกล้วยที่วางขาย อยู่ 2 หวี เจ้าของตัดมาขายเองเลย
ถามแล้วได้ความว่าเขาเรียก "กล้วยครั่ง" ขายหวีละ 40 บาท
เนื่องจากต้องไปปฏิบัติหน้าที่และค้างคืน จึงยังไม่ซื้ออะไรสักอย่าง 148 ก.ม. จากแม่สะเรียง-บ้านแม่ต้าน ซึ่ง
เป็นที่ตั้งของ อ.ท่าสองยาง อันนี้ทำให้คนงุนงงมานักต่อนักแล้วว่าจะไปอำเภอท่าสองยางแล้วทำไมต้องไปที่
บ้านแม่ต้าน บอกได้แบบลูกทุ่ง ๆ ตอนนี้ก่อนว่า ตัวอำเภอที่ชื่อท่าสองยางตั้งอยู่ที่เขตเทศบาลแม่ต้าน ส่วน
ตำบลท่าสองยางจริง ๆ จะอยู่ค่อนไปทางอำเภอสบเมยโน่น
ขับรถวนเข้าไปในตัวอำเภอท่าสองยางหาข้าวกลางวันกิน บ้านเมืองเขาสงบเงียบดีครับ เป็นอำเภอที่ติดกับประเทศ
เมียนมาร์ โดยมีแม่น้ำเมยกั้นกลาง ไปเห็นน้ำเมยแล้วนึกถึงเพลงแม่สอดสะอื้นขึ้นมาทันใด
ท่าสองยางวันนี้
หาอะไรอิ่มท้องอย่างง่ายก่อนเดินทางต่อ
เป็นเพราะไม่ได้คิดว่าจะได้มารีวิว เลยรู้แต่เพียงว่าจากท่าสองยางไปแม่ระมาด ไม่ไกลเท่าไหร่เกือบ ๆ 50 โลว่างั้น
ใครพอมีข้อมูลแน่ชัดช่วยเสริมให้ด้วยครับ
ระหว่างทาง มีอยู่ช่วงหนึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์อพยพชาวเมียนมาร์ จำชื่อไม่ได้รู้แต่ว่าอยู่ในหมู่บ้านแม่หละ ตั้งบ้านเรือน
กันอยู่ข้างถนนในสภาพแออัดระยะทางยาวร่วม 3 ก.ม.
จอดรถถ่ายรูปตรงจุดที่นึกว่าทิวทัศน์น่าถ่ายที่สุด เด็ก ๆ เหมือนจะรู้เพราะตรงนั้นจะมีเด็ก ๆ มารวมตัวกันอยู่และทักทายอย่าง
เป็นมิตรด้วยท่าทางและคำพูด เขาคงคุ้นเคยและเคยได้อะไรกับนักท่องเที่ยวอย่างดี พอดีวันนั้นไม่ได้เตรียมอะไรติดไปด้วย
ก็เลยทำมือโบก ๆ แล้วบอกว่า โน ๆ เขาก็รับรู้นะแต่ท่าทีที่เป็นมิตรกลายเป็นเฉย ๆ ทันที
ไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงที่หมาย แวะลงทะเบียนที่ปั๊มปตท. ว่ามาถึงแล้วนะ
ถึงจะเป็นเมืองเล็ก ๆ ก็มีเสน่ห์เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสตลอดและหลากหลายกลุ่มหลายสไตล์
เข้าไปในตัวเมือง เกือบ 5 โมงเย็น ก่อนเข้าที่พักคุยกันว่าหาอะไรกินกันก่อน เจอร้านข้าวแกงตามสั่ง จัดการ
อิ่มท้องให้ตนเองเป็นข้าวราดง่าย ๆ
ในตัวเมืองจริง ๆ สิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นแม่ระมาด คือเสาไฟฟ้าให้แสงสว่างตามถนนจะมีสัญญลักษณ์ เป็นตัวช้าง
อยู่ตรงยอดเสาอย่างสง่างาม มีป้ายเล็ก ๆ ติดตัวอักษรคำว่า "มาศเมือง" ซึ่งยังเป็นปริศนาสำหรับสล่าปู่จนเดียวนี้
ที่ว่า มาศเมืองนั้นมันมีที่มาและหมายความว่าอย่างไร
เป็นเมืองเงียบอีกเช่นเคย
มีคนบอกว่ายามค่ำคินจะหาอะไรกินแสนยาก จะตุนอะไรก็ต้องจัดการไว้ตอนนี้ เล่นไม่ยากครับ 7-11 มี โลตัสเล็ก มี
เข้าที่พัก ข้อมูลและรายละเอียดไม่ได้ถามมา แบบว่าเป็นคนใจง่ายเขาพาไปนอนที่ไหนก็ตามนั้น
บ้านสายลมจอย
ดูจากสภาพภายนอกทั่ว ๆ ไป น่าจะเปิดบริการมาได้ไม่นาน เป็นห้องเดี่ยว ๆ เหมือนว่าจะเปิดบริการทั้งเช่าอยู่เป็นเดือน
และสำหรับบุคคลทั่วไปเข้าพักรายคืน
แม่ระมาด นึกว่าอากาศคงหนาวมาก แต่คืนนั้นผ่านไปถือว่าเป็นต้นหนาวที่ยังต้องเปิดแอร์ในห้องนอนอยู่เลย
คืนที่ไป ทีวีมีการถ่ายทอดฟุตบอล ไทย - เมียนมาร์ ถือโอกาสนอนดูถ่ายทอดสดแล้วก็นอนหลับ เพื่อเตรียม
ตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อไป
ลากันที่ภาพนี้นะครับสถานที่ที่ต้องไปปฏิบัติภารกิจ และยังมีเวลาพอที่จะพาท่านไปแอ่ววัดดอนแก้ว พาไปไหว้
พระพุทธรูปหินอ่อน และชมบรรยากาศอันสวยงามและเงียบสงบของวัด ซึ่งคงขอเป็นตอนต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้ เป็นการโพสต์กระทู้แบบนำเที่ยวเป็นครั้งแรกอาจมีติด ๆ ขัด ข้อมูลไม่แน่นพอ
ยังไงก็ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยเสริม ๆ ให้ถูกต้องด้วยครับ
สวัสดีครับ