ผมได้ยื่นฟ้องผู้จัดการมรดก เพื่อขอแบ่งทรัพย์สินในกองมรดกที่ผู้จัดการมรดกไม่ยอม จัดแบ่งให้ ใช้เวลาดำเนินการ ก.พ. 57 ถึง ธ.ค. 59 รวมระยะเวลา 2 ปี 9 เดือนเศษ ในเบื้องต้นที่ไปปรึกษาทนายคนที่ 1 ให้ฟ้องเป็นคดีอาญา เรื่องยักยอกทรัพย์ ผลคือแพ้ขาดไป 2 ศาล ชั้นต้นและอุทธรณ์ หลังจากนั้นกลับมาตั้งลำใหม่ ยื่นฟ้องแพ่งไปอีกครั้ง ในช่วง พ.ย. 58 ศาลนัดครั้งแรกผมไปศาล แต่จำเลยไม่มา ศาลก็นัดใหม่เรียกว่านัดพร้อม ทนายผมแจ้งว่าผมไม่ต้องมาก็ได้ ผมก็เลยให้ทนายดำเนินการไป ศาลก็นัดเรื่อยๆ อีกประมาณ 3 ครั้ง แต่จำเลยก็ไม่มา ในครั้งที่ 3 เป็นนัดในเดือนสิงหาถ้าจำไม่ผิดผมบอกทนายให้แจ้งศาลท่านว่าขอนัดสืบพยาน พอถึงใกล้วันนัดก็เลย line คุยกับทนายว่าครั้งนี้ผมจะไปศาลด้วย (เพราะสงสัยว่าทำไม ไม่สืบพยานซักที) ทนายแจ้งกลับมาว่าเยี่ยมเลย เราก็นึกว่าจะได้ไปด้วยกันอะไรทำนองนี้ กลับกลายเป็นว่า เยี่ยมเลยเพราะผมไปคุณด้วยไม่ได้เนื่องจากผมมีนัดที่ศาลอื่นในวันเดียวกันนี้ คุณลูกความไปเองนะ ผมเห็นว่าถ้าปล่อยทนายคนที่ 1 ทำต่อผมคงเสียเวลา และเงินค่าทนายฟรี ๆ แน่ ในการทำงานแบบนี้
จากกระทู้
http://ppantip.com/topic/34834599 ผมเคยขอเบอร์ทนายจากเจ้าของกระทู้ (ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้เป็นอย่างสูงอีกครั้งครับที่ให้ช่องทางการติดต่อกับพี่ทนายกัมพล) ไว้ช่วงเดือนเมษายน จึงตัดสินใจโทรหาทนายคนที่ 2 เล่าเรื่องราวให้พี่ทนายคนที่ 2 ฟัง และแจ้งว่าจะเข้าไปคุยรายละเอียดต่างๆด้วยตัวเองที่สำนักงานทนายความ เมื่อถึงวันนัดผมไปศาลคนเดียวปรากฎว่าโดนยำเละเลย ทิศทางในตอนนั้นคือแพ้คดีเห็นๆ ผมเกือบถอดใจยอมถอนฟ้องตามแรงกดดัน ศาลท่านให้หาข้อสรุปผมจึงแจ้งไปว่าขอให้ทางจำเลยจ่ายให้ซักจำนวนหนึ่ง และนัดมาตกลงกัน ที่ศาลในครั้งหน้า เมื่อเลิกศาลในวันนั้น ผมเดินทางไปพบพี่ทนาย คนที่ 2 ที่สำนักงานทนายความ เมื่อคุยรายละเอียดเรียบร้อยพี่ทนายจะรับว่าความให้ โดยมีข้อแม้ว่าผมต้องเคลียร์กับทนายคนเก่าก่อน
เมื่อถึงวันนัดผมมาศาลพร้อมกับพี่ทนายคนที่ 2 แต่ทนายจำเลยและจำเลยไม่มาให้ทนายขอแรงมาคุยแทน พี่ทนายคนที่ 2 จึงคุยกับศาล และนัดสืบพยาน โดยกำหนด 2 วัน โจทย์วันแรก จำเลยวันที่2 และเมื่อถึงวันสืบพยาน พี่ทนายทำหน้าที่ได้สมบูรณ์มาก สามารถเป็นปากเป็นเสียงแทนได้ และทักท่วงข้อพิดพลาดจากความสับสนของผม ในระหว่างที่ให้การกับศาล จนในที่สุดได้ข้อสรุปออกมาตามรูปครับ
เรื่องที่เอามาเล่านี้ดูจบแบบผมแฮปปี้ แต่จริงๆแล้วผมรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกว่าชนะเลย แค่รู้สึกดีที่ได้เงินในส่วนของตัวเองคืนมา จึงอยากเตือนคนที่กำลังจะตกอยู่ในสถานะการณ์แบบผม หรือใครก็ตามที่อาจช่วงหนึ่งของชีวิตแบบผม ว่าถ้าคุณมีการจัดตั้งผู้จัดการมรดก ถ้าคุณมีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกร่วมอย่ารีรอ อย่าเกรงใจ อย่าแสดงความบริสุทธิ์ใจโง่ๆแบบผม อย่าเชื่อคำว่ากลัวบาปกรรม ไม่โกงแน่นอน ให้คุณดำเนินการตามขั้นตอนและขอเป็นผู้จัดการร่วมกับผู้มีสิทธิ์คนอื่นเลย ถ้าคุณให้คนอื่นจัดการคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าเค้าขายทรัพย์มรดกไปในราคาจริงเท่าไหร่ ใช้หนี้กองมรดกจริงไปเท่าไหร่ เหลือเงินมาแบ่งให้คุณเท่าที่แจ้งคุณจริงหรือไม่
สุดท้ายหวังว่าเรื่องของผมคงช่วยใครได้บ้างนะครับ
ขอความกรุณา Admin คือผมสิงอยู่รัชดากับสินธรก็เลย แท็ก สองห้องนี้ไว้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้แท็กกลับไปไว้ที่สองห้องนี้ครับ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ
คดีผมจบแล้ว เปลี่ยนม้ากลางศึกเค้าว่า แต่ผมว่าไม่ใช่ และขอบคุณชุมชน pantip ครับ
จากกระทู้ http://ppantip.com/topic/34834599 ผมเคยขอเบอร์ทนายจากเจ้าของกระทู้ (ต้องขอบคุณเจ้าของกระทู้เป็นอย่างสูงอีกครั้งครับที่ให้ช่องทางการติดต่อกับพี่ทนายกัมพล) ไว้ช่วงเดือนเมษายน จึงตัดสินใจโทรหาทนายคนที่ 2 เล่าเรื่องราวให้พี่ทนายคนที่ 2 ฟัง และแจ้งว่าจะเข้าไปคุยรายละเอียดต่างๆด้วยตัวเองที่สำนักงานทนายความ เมื่อถึงวันนัดผมไปศาลคนเดียวปรากฎว่าโดนยำเละเลย ทิศทางในตอนนั้นคือแพ้คดีเห็นๆ ผมเกือบถอดใจยอมถอนฟ้องตามแรงกดดัน ศาลท่านให้หาข้อสรุปผมจึงแจ้งไปว่าขอให้ทางจำเลยจ่ายให้ซักจำนวนหนึ่ง และนัดมาตกลงกัน ที่ศาลในครั้งหน้า เมื่อเลิกศาลในวันนั้น ผมเดินทางไปพบพี่ทนาย คนที่ 2 ที่สำนักงานทนายความ เมื่อคุยรายละเอียดเรียบร้อยพี่ทนายจะรับว่าความให้ โดยมีข้อแม้ว่าผมต้องเคลียร์กับทนายคนเก่าก่อน
เมื่อถึงวันนัดผมมาศาลพร้อมกับพี่ทนายคนที่ 2 แต่ทนายจำเลยและจำเลยไม่มาให้ทนายขอแรงมาคุยแทน พี่ทนายคนที่ 2 จึงคุยกับศาล และนัดสืบพยาน โดยกำหนด 2 วัน โจทย์วันแรก จำเลยวันที่2 และเมื่อถึงวันสืบพยาน พี่ทนายทำหน้าที่ได้สมบูรณ์มาก สามารถเป็นปากเป็นเสียงแทนได้ และทักท่วงข้อพิดพลาดจากความสับสนของผม ในระหว่างที่ให้การกับศาล จนในที่สุดได้ข้อสรุปออกมาตามรูปครับ
เรื่องที่เอามาเล่านี้ดูจบแบบผมแฮปปี้ แต่จริงๆแล้วผมรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้สึกว่าชนะเลย แค่รู้สึกดีที่ได้เงินในส่วนของตัวเองคืนมา จึงอยากเตือนคนที่กำลังจะตกอยู่ในสถานะการณ์แบบผม หรือใครก็ตามที่อาจช่วงหนึ่งของชีวิตแบบผม ว่าถ้าคุณมีการจัดตั้งผู้จัดการมรดก ถ้าคุณมีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกร่วมอย่ารีรอ อย่าเกรงใจ อย่าแสดงความบริสุทธิ์ใจโง่ๆแบบผม อย่าเชื่อคำว่ากลัวบาปกรรม ไม่โกงแน่นอน ให้คุณดำเนินการตามขั้นตอนและขอเป็นผู้จัดการร่วมกับผู้มีสิทธิ์คนอื่นเลย ถ้าคุณให้คนอื่นจัดการคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าเค้าขายทรัพย์มรดกไปในราคาจริงเท่าไหร่ ใช้หนี้กองมรดกจริงไปเท่าไหร่ เหลือเงินมาแบ่งให้คุณเท่าที่แจ้งคุณจริงหรือไม่
สุดท้ายหวังว่าเรื่องของผมคงช่วยใครได้บ้างนะครับ
ขอความกรุณา Admin คือผมสิงอยู่รัชดากับสินธรก็เลย แท็ก สองห้องนี้ไว้ ถ้าเป็นไปได้อยากให้แท็กกลับไปไว้ที่สองห้องนี้ครับ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอบคุณครับ