ประสบการณ์หลอนครั้งแรกในชีวิตที่สวนสาธารณะ Zanpa Park Okinawa
สวัสดีคะเพื่อนๆ เรื่องมีอยู่ว่า เราไปเที่ยวที่โอกินาว่าโดยเลือกไปพักที่บ้านของเพื่อน ประมาณ 5 ทุ่ม เรากับเพื่อนๆ ขับรถไปดูดาว ณ ที่แห่งหนึ่ง พอไปถึง พวกเราก็จอดรถไว้แล้วเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้าไปทางกังหันลม(ไม่รู้เรียกถูกรึเปล่า) ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินอยู่ที่ไหน รู้แค่ว่าสองข้างทางเป็นทุ่งหญ้ากว้างแล้วก็พุ่มไม้เล็กๆ สลับกันไป รอบๆ ตัวมืดมากๆๆๆๆ มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เห็นแค่ทางเดินสลัวๆ จากแสงไฟของพระจันทร์ส่องพอให้เห็นทาง พวกเราเดินแหงนคอกันไปด้วย พูดคุยกันไปด้วย จนมารู้สึกตัวอีกทีว่าเดินมาผิดทาง ก็เลยเดินกลับกัน ตอนกลับพวกเราเดินเลาะมาอีกทาง
(ตอนขาไปเราเดินกันไปตามเส้นปะสีเหลือง แต่พอขากลับเราเลาะมาทางเส้นปะสีฟ้า) เดินลัดเลาะทุ่งหญ้ามาโผล่ที่สนามเด็กเล่น(สามเหลี่ยมสีแดง) เลยรู้ว่านี่ตัวเองอยู่ในสวนสาธารณะนี่เอง เพื่อนๆที่มาด้วยกันพอเห็นสนามเด็กเล่ยก็วิ่งเขาไปเล่นเครื่องเล่นกันอย่างสนุกสนาน (ส่วนมิลค์นี่ยืนจินตนาการถึงผีในสวนสาธารณะเลยไม่กล้าเข้าไปเล่นกับคนอื่นๆ ได้แต่ยืนมองเค้าเล่นกันท่ามกลางความมืดและอากาศอันหนาวเหน็บ)
บางคนก็ไปเล่นสไลด์เดอร์ หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน สักพักก็เปลี่ยนไปเล่นชิงช้า พร้อมทั้งตะโกนโหวกเหวกโวยวายออกมาท่ามกลางความเงียบ( มิลค์นี่ยืนนึกถึงผีเล่นชิงช้าขึ้นมาทันที...ไอ้ตัวเราเป็นคนไทย คิดในใจแค่ว่า สถานที่แบบนี้เมิงไม่ควรเสียงดังนะ! ควรเคารพสถานที่สิ แต่ก็ได้แค่คิดในใจ) รู้สึกหลอนๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก มันไปนึกถึงเรื่องผีนั่งชิงช้า สักพักหลังจากที่ปล่อยแก่กันเสร็จแล้ว ในขณะที่พวกเรากำลังจะกลับ จู่ๆ ก็มีเสียงเดาะลูกบาสดังขึ้นแล้วก็หยุดไป ทุกคนหันไปมองตามเสียงที่ได้ยิน แต่ก็มองไม่เห็นอะไร เพราะว่ามันมืดมาก เพื่อนอีกคนก็ทักขึ้นว่า เฮ้ย! เหมือนเสียงเดาะบาสเลย.....ในขณะที่บางคนก็เฉยๆ กับเสียงที่ได้ยิน ไม่รู้ว่าเขาไม่สนใจหรือแกล้งไม่สนใจก็ไม่รู้ (ส่วนมิลค์นี่จิตตกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียง..รีบเดินเข้ามาชิดกับคนอื่นๆ ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม พูดกับตัวเองแค่ว่า ซวยแล้วไง!!)
หลังจากนั้นพวกเราก็รีบเดินจ้ำเท้ากัน ไม่รู้ว่าเพราะอากาศมันหนาวหรือเป็นเพราะเสียงที่ได้ยินกันแน่ สักพักพวกเราเดินมาถึงห้องน้ำสาธารณะ(สามเหลี่ยมสีน้ำเงิน) เพื่อนอีกคนก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ (คิดในใจ...กูอยากกลับแล้ว กูกลัว!!) ระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนเข้าห้องน้ำ พวกเราก็ไม่พูดอะไรกันได้แต่ยืนนิ่งยืนหนาว ไม่หัวเราะร่าเริงกันเหมือนเมื่อกี้(เป็นเพราะคิดถึงเสียงเมื่อกี้อยู่หรือว่าแค่ไม่อยากพูดกันก็ไม่รู้) พอเพื่อนที่เข้าห้องน้ำเดินออกมาปุ๊บ พวกเราก็มุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถทันที แต่ในขณะที่เรากำลังเดินอยู่นั้น เสียงเดาะลูกบาสก็ไล่ตามหลังมาอีก 2 ครั้ง พวกเราทั้ง 4 คนไม่มีใครพูดอะไรและไม่หันหลังกลับไปดูอะไรทั้งนั้น ได้แต่รีบเดินไปถึงที่รถให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้😣😣😣😣.....แล้วพวกเราทั้ง 4 คน ก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเสียงนั้นอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น
......มันน่ากลัวมาก นี่พิมพ์ไปด้วยขนลุกไปด้วย😣😣
จิตตกมากเลย ต้องเอาแมวมานอนกอดก่อนนอนถึงจะหลับ
ปล. ภาพนี้เอามาจากในเน็ต เป็นเส้นทางที่เราเดินดูดาวกัน สถานที่จริงหญ้าขึ้นมารกกว่านี้
ทาง
ประสบการณ์หลอนที่สวนสาธารณะโอกินาว่า
สวัสดีคะเพื่อนๆ เรื่องมีอยู่ว่า เราไปเที่ยวที่โอกินาว่าโดยเลือกไปพักที่บ้านของเพื่อน ประมาณ 5 ทุ่ม เรากับเพื่อนๆ ขับรถไปดูดาว ณ ที่แห่งหนึ่ง พอไปถึง พวกเราก็จอดรถไว้แล้วเดินไปตามเส้นทางเล็กๆ เพื่อมุ่งหน้าไปทางกังหันลม(ไม่รู้เรียกถูกรึเปล่า) ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินอยู่ที่ไหน รู้แค่ว่าสองข้างทางเป็นทุ่งหญ้ากว้างแล้วก็พุ่มไม้เล็กๆ สลับกันไป รอบๆ ตัวมืดมากๆๆๆๆ มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เห็นแค่ทางเดินสลัวๆ จากแสงไฟของพระจันทร์ส่องพอให้เห็นทาง พวกเราเดินแหงนคอกันไปด้วย พูดคุยกันไปด้วย จนมารู้สึกตัวอีกทีว่าเดินมาผิดทาง ก็เลยเดินกลับกัน ตอนกลับพวกเราเดินเลาะมาอีกทาง
(ตอนขาไปเราเดินกันไปตามเส้นปะสีเหลือง แต่พอขากลับเราเลาะมาทางเส้นปะสีฟ้า) เดินลัดเลาะทุ่งหญ้ามาโผล่ที่สนามเด็กเล่น(สามเหลี่ยมสีแดง) เลยรู้ว่านี่ตัวเองอยู่ในสวนสาธารณะนี่เอง เพื่อนๆที่มาด้วยกันพอเห็นสนามเด็กเล่ยก็วิ่งเขาไปเล่นเครื่องเล่นกันอย่างสนุกสนาน (ส่วนมิลค์นี่ยืนจินตนาการถึงผีในสวนสาธารณะเลยไม่กล้าเข้าไปเล่นกับคนอื่นๆ ได้แต่ยืนมองเค้าเล่นกันท่ามกลางความมืดและอากาศอันหนาวเหน็บ)
บางคนก็ไปเล่นสไลด์เดอร์ หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน สักพักก็เปลี่ยนไปเล่นชิงช้า พร้อมทั้งตะโกนโหวกเหวกโวยวายออกมาท่ามกลางความเงียบ( มิลค์นี่ยืนนึกถึงผีเล่นชิงช้าขึ้นมาทันที...ไอ้ตัวเราเป็นคนไทย คิดในใจแค่ว่า สถานที่แบบนี้เมิงไม่ควรเสียงดังนะ! ควรเคารพสถานที่สิ แต่ก็ได้แค่คิดในใจ) รู้สึกหลอนๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก มันไปนึกถึงเรื่องผีนั่งชิงช้า สักพักหลังจากที่ปล่อยแก่กันเสร็จแล้ว ในขณะที่พวกเรากำลังจะกลับ จู่ๆ ก็มีเสียงเดาะลูกบาสดังขึ้นแล้วก็หยุดไป ทุกคนหันไปมองตามเสียงที่ได้ยิน แต่ก็มองไม่เห็นอะไร เพราะว่ามันมืดมาก เพื่อนอีกคนก็ทักขึ้นว่า เฮ้ย! เหมือนเสียงเดาะบาสเลย.....ในขณะที่บางคนก็เฉยๆ กับเสียงที่ได้ยิน ไม่รู้ว่าเขาไม่สนใจหรือแกล้งไม่สนใจก็ไม่รู้ (ส่วนมิลค์นี่จิตตกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียง..รีบเดินเข้ามาชิดกับคนอื่นๆ ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม พูดกับตัวเองแค่ว่า ซวยแล้วไง!!)
หลังจากนั้นพวกเราก็รีบเดินจ้ำเท้ากัน ไม่รู้ว่าเพราะอากาศมันหนาวหรือเป็นเพราะเสียงที่ได้ยินกันแน่ สักพักพวกเราเดินมาถึงห้องน้ำสาธารณะ(สามเหลี่ยมสีน้ำเงิน) เพื่อนอีกคนก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ (คิดในใจ...กูอยากกลับแล้ว กูกลัว!!) ระหว่างที่รอเพื่อนอีกคนเข้าห้องน้ำ พวกเราก็ไม่พูดอะไรกันได้แต่ยืนนิ่งยืนหนาว ไม่หัวเราะร่าเริงกันเหมือนเมื่อกี้(เป็นเพราะคิดถึงเสียงเมื่อกี้อยู่หรือว่าแค่ไม่อยากพูดกันก็ไม่รู้) พอเพื่อนที่เข้าห้องน้ำเดินออกมาปุ๊บ พวกเราก็มุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถทันที แต่ในขณะที่เรากำลังเดินอยู่นั้น เสียงเดาะลูกบาสก็ไล่ตามหลังมาอีก 2 ครั้ง พวกเราทั้ง 4 คนไม่มีใครพูดอะไรและไม่หันหลังกลับไปดูอะไรทั้งนั้น ได้แต่รีบเดินไปถึงที่รถให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้😣😣😣😣.....แล้วพวกเราทั้ง 4 คน ก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเสียงนั้นอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น
......มันน่ากลัวมาก นี่พิมพ์ไปด้วยขนลุกไปด้วย😣😣
จิตตกมากเลย ต้องเอาแมวมานอนกอดก่อนนอนถึงจะหลับ
ปล. ภาพนี้เอามาจากในเน็ต เป็นเส้นทางที่เราเดินดูดาวกัน สถานที่จริงหญ้าขึ้นมารกกว่านี้
ทาง