อันนี้เล่าความอึดอัดใจให้เพื่อนๆ ฟังนิดหน่อย (เพิ่งเคยเขียนกระทู้ครั้งแรก. ปกติแค่แสดงความคิดเห็นตามกระทู้ที่โดนใจ มีอันไหนบกพร่องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ) เรื่องมีอยู่ว่า สองสามวันก่อน บังเอิญว่าวันเกิดเพื่อนสนิทค่ะ. เราก็ต้องมีของขวัญไปร่วมงาน ซึ่งเราเป็นคนไม่ค่อยมีเวลามากบางงานก็ฝากเพื่อนที่มีเวลาซื้อ บางทีก็แชร์ค่าของขวัญ แล้วเราก็ดันมานึกได้ว่าเย็นวันนั้นเพื่อนจัดงานวันเกิด. ยังไม่ได้เลือกชุดยังไม่ได้ซื้อของขวัญ เลยรีบกุรีกุจอออกจากคอนโดไปห้างที่ใกล้ที่สุด นั่นคือห้างดัง อย่างสยามพารากอน ปกติเดินห้างนี้บ่อยค่ะเพราะใกล้คอนโดดี ด้วยความรีบร้อนเพื่อไปซื้อของขวัญก็แต่งตัวธรรมดามากๆ  กางเกงวอร์มเสื้อยืดแบบสไตล์สปอร์ต รองเท้าสลิปออน  ปกติแต่งแบบนี้เวลาไปไหนใกล้ๆไม่เน้นเจอเพื่อน  สำหรับเพื่อนผู้หญิงเลยนึกออกว่าต้องซื้อเครื่องสำอางค์ให้ก็เสริชรีวิวสินค้าเครื่องสำอางค์ว่าตัวไหนกำลังนิยมระหว่างการเดินทางไปถึงห้างพอไปถึงก็เดินไปที่เคาน์เตอร์แบรนด์ดังอย่าง Lancôme เพราะเคยได้ยินเพื่อนคนนี้พูดถึงบลัชของยี่ห้อนี้ที่เป็นแบบคลุชชั่น สีออกกลีบกุหลาบสวยๆกับลิปสติก เราก็ไปยืนเก้ๆกังๆหน้าเคาน์เตอร์ที่โชว์สินค้าและตัวอย่างนานก็เห็น BA ยืนอยู่อีกโซนประมาน 3-4 คน แต่ไม่มีใครหันมามองเลยเราส่งเสียงนิดหน่อยว่าขอสอบถามสินค้า ก็มี BA 1 คนเดินมาหน้าตาก็สวยดีแต่สีหน้าและแววตาคือ. มองเราหัวจรดเท้าเลยเหมือน งงๆกับอะไรสักอย่างในตัวเรา เราก็ถามพนง

เรา : บลัชคุชชั่นตัวนี้มีกี่สีค่ะ พอจะแนะนำไหมว่าถ้าคนผิวขาวมากๆควรใช้สีไหนพอดีจะซื้อเป็นของขวัญเพื่อนค่ะพร้อมเปิดรูปเพื่อนที่มีในโทรศัพให้ BA ดูลักษณะเพื่อน.
BA : มองดูรูปเพื่อนเราผ่านมือถือแบบเหมือนไม่ตั้งใจมองคือมองไกลมาก แล้วพูดว่าจริงๆผิวขาวใช้สีอะไรก็ได้หมด ดูที่สำตล์การแต่งหน้าดีกว่าเค้สชอบแต่งแบบไหน.
เรา : น่าจะแบบเรียบๆนะคะเพราะปกติเพื่อนคนนี้หน้าหมวยน่ารักเห็นจะชอบเน้นสีปากโทนแดงๆ. เราควรเลือกบลัชชมพูไหม
BA : ไม่ตอบ. นิ่งมองเราพูดแต่ไม่เสนออะไรต่อ.
เรา : งั้นรบกวนเทาที่มือให้ดู 2 สีนี้ได้ไหมค่ะ. เราชี้ไปที่สีชมพูกับออกส้ม
BA : แตะเทสเตอร์แล้วก็มาเทสที่มือให้เแต่ไม่พูดไร ไม่มีสอบถามหรือชวนคุยอะไร
เรา : เสร็จเราก็ยกมือมาดมกลิ่นค่ะเพราะเราอยากรู้กลิ่นประมานไหนเงยหน้ามองหาอีกที BA เดินไปไหนไม่รู้ เห็นแต่เดินกลับมาพร้อมกระดาษทิชชู่หรือสำลีไม่รู้เราก็นึกว่านางจะเอามาเผื่อเราเพื่อเช็ด คสอที่เพิ่งป้ายเทสต์ไป. ปรากฎว่านางเช็ดแค่ที่มือนางค่ะ. ยังงงว่ามือนางเปื้อนไร (หรือเปื้อนที่โดนมือเรา)
ไม่มีของเรา แล้วนางก็ยืนหน้านิ่งต่อไปไม่มีแนะนำหรือสอบถามว่าเป็นไงสนใจไหม
เรา: งั้นขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล (อันนี้ประชด) นางก็เฉยค่ะและเดินหันหลังกลับทันทีที่สิ้นประโยค
เดินไปเคาน์เตอร์อื่นๆได้รับการต้อนรับปกตินะคะไม่ว่าจะ ดิออร์ แมค ลอร่า แต่ไม่เข้าใจกับ Lancôme จริงๆค่ะทำไมแสดงกิริยาเยี่ยงนั้น
สรุปวันนั้นเราจัดเซคลิปกลอสและลิปสีเป็นเซตน่ารักๆมีกระจกในเซต ของ Laura mercier ไปค่ะ เพื่อนสาวนางชอบถูกใจไป
เพราะน้อง. BA ที่ลอร่า บริการดีมากแนะนำเราและยังช่วยเลือกแบบสีหรือดูลักษณะเพื่อนเราด้วยค่ะ.
ปล : ปกติเราก็ใช้คสอแบรนด์นะคะแต่ด้วยแบบงานไปตปทบ่อยเลยจะซื้อใน duty free มากกว่าเลยไม่ค่อยรู้ราคาตามช๊อปแต่เห็นพนงที่ duty free ที่ซื้อทุกคนบริการดีนะคะให้คำแนะนำลองสินค้าให้ดูตลอด ฝากถึง BA แบรนด์ดังๆด้วยนะคะบางทีคุณเองก็ได้ผลประโยชน์จากลูกค้าที่ซื้อคุณนะถ้าบริการจริงใจตามงานที่สมัครเข้ามาแบบเต็มที่ไม่เลือกลูกค้าคุณก็ได้ค่าคอมเยอะไม่ใช่หรือค่ะ. ลูกค้าบางคนเขาเงินน้อยแต่ถ้าคุณบริการดี. เขาก็อาจจะลงทุนซื้อคุณก็ได้ค่ะ หรือว่าตั้งใจเก็บแรงไว้ขายแต่เศรษฐี. ภายนอกค่ะคุณ.