สวัสดีครับทุกท่าน ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานที่พม่า แบบเร่งด่วน สองวัน เป็นวันจันทร์ กับอังคาร 555 ความคิดมันประกายขึ้นมาเลยว่า ไปเที่ยวดูราดราวก่อนดีกว่าวันเสาร์ อาทิตย์ พอดีเลย ...
หาข้อมูลการเดินทาง พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวเลย ใน Pantip เรานี้แหละมีข้อมูลเพียบเลย
ผมใช้บริการสายการบิน Air Asia (ราคาไม่แพงและมีเที่ยวบินตอนเช้าเลย จะได้มีเวลาเที่ยว) ผมเลือกเวลา 07:15 ถึง 08:00 น. ซึ่งเวลาพม่าจะช้ากว่าเรา 30 นาที
แนะนำให้มาถึงก่อนสัก 1-2 ชม. อย่างน้อยก่อนขึ้นเครื่อง เพราะคนเยอะพอสมควรเลย ไม่ต้องรีบมาก สามารถหาไรกินรองท้องก่อนขึ้นเครื่องได้เลย
พอผ่านการตรวจสอบของสนามบิน ผมก็ไปหาที่แรกเงิน แลกเป็น US ไป แนะนำให้หาสมุดไปสักเล่มเล็ก ๆ สำหรับเก็บแบงค์ เพราะที่พม่าถ้าแบงค์เก่า มีรอย หรือมีการขีดเขียน ไม่รับแรกเป็นจ๊าด เลย เราแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เราไปแรกเงินได้เลยครับ ว่าเราจะไปพม่า เดียวเจ้าหน้าที่จัดแบงค์ใหม่เอี่อมให้เราเลย
นั่งเครื่องประมาณ 1 ชม. นิด ๆ ถึงสนามบินย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ไม่ยุ่งยากมาก รอรับกระเป๋าสัมภาระ เรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินไปแรกเงินจาก US เป็นเงินจ๊าด สำหรับใช้จ่ายที่พม่า ไม่ต้องยุ่งยากครับ ที่สนามบินมีให้บริการเลย
หลังจากนั้นก็เดินไปหาซื้อ Sim สำหรับใช้งานที่พม่า ผมเลือก Telenor ราคาก็ 7500 จ๊าด ก็ประมาณ 200 กว่าบาท ไม่แพงเลยครับ ได้เน็ต 2 GB. โทร 60 นาที ในเครื่อข่าย Telenor
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็สอบถาม Taxi ในสนามบิน จะมีให้บริการเราแบบมีแอร์ กับไม่มีแอร์ ต่างกันประมาณ 500 จ๊าดได้ ผมเลือกรถที่มีแอร์ แบบเหมาะทั้งวัน
ก็ 60US จะได้ไม่ต้องยกของขึ้นลงตอนเปลี่ยนรถ Taxi ซึ่ง Taxi ที่ผมใช้บริการ สามารถพูดไทยได้นิดหน่อย และภาษาอังกฤษได้ อัธยาศัยดีเลยแหละ ผม Recommend เลยครับ ชื่อ Ko Zaw ให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ดีเลยแหละ 555 เป็นไกด์ให้ผมในตัวเลยครับ ชอบบบ All In One
รายละเอียดสำหรับติดต่อนะครับ
รถ Taxi ที่ใช้บริการ
เริ่มออกเที่ยวกันเลยครับ
ที่แรก วัดพระหินขาว หรือวัดเจ๊าต่อจี Lawka Chanthar Ahbaya
วัดพระหินขาว หรือวัดเจ๊าต่อจี เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 11 เมตร แกะสลักจากหินอ่อนก้อนใหญ่ๆก้อนเดียว สวยมากครับ
ที่ 2 ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden)
ภาพอาจดูช่างตัวเล็ก แต่จริง ๆ มีขนาดใหญ่ครับ
ที่ 3 วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี หรือ วัดเมียดเซดอร์ Swal Daw Pagoda
เป็นวัดที่เคยประดิษฐานพระธาตุเขี้ยวแก้ว จากนครปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งถูกนำมาประดิษฐานที่วัดนี้ชั่วคราวและได้อัญเชิญกลับไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วองค์จำลองแทน เจดีย์สร้างเป็นทรงแปดเหลี่ยม ศิลปะพุกาม ยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ สวยมากครับ
ภายในสวยงามมากครับ
พระธาตุ
ที่ 4 พระเจดีย์กาบาเอ Kaba Aye Pagoda
ภายในจะมีผู้คนปฏิบัติธรรม และมีเจ้าหน้าที่จัดคิวเพื่อเข้าไปดูพระธาตุ ผ่านแว่นขยาย ผมเองได้เข้าไปดูด้วยครับ
*** สำหรับการเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ต้องเสียค่าธรรมเนียม เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวบ้านเราครับ แนะนำให้จ่ายเป็นเงินจ๊าดครับ จะถูกกว่าจ่ายเป็น US ครับ
เที่ยวมาพักใหญ่ก็เริ่มหิว ถามคนขับ Taxi Ko Saw ว่ามีร้านไหนแนะนำบ้างแถวนี้ แบบไม่แพงมาก และอร่อยด้วย แนะนำร้าน Min Lan Traditional Seafood ครับ ราคาไม่แพง รสชาติพอใช้ได้ครับ
กินกันเรียบครับ แบบว่าใช้พลังงานเยอะ หิวโซๆๆๆ
ค่าอาหารก็ประมาณ 700 กว่าบาทได้เทียบเป็นเงินไทย
*** รูปอาจเยอะหน่อย อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ ^-^
หลังจากกินอิ่มก็มาเที่ยวกันต่อเลยครับ
ที่ 5 เจดีย์โบดาทาวน์ ขอพร เทพทันใจ ( นัตโบโบจี ) และเทพกระซิบ
เจดีย์โบดาทาวน์ เป็นสถานที่ศักดิ์อีกแห่งหนึ่งที่ชาวพม่าให้ความเคารพและบูชาครับ นักเที่ยวอย่างเราๆ ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดเลยครับ เจดีย์โบดาทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหารครับ ในยุดสมัยของพระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญนั่นเอง ได้ทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพนั้นตั้งแถวถวายสักการะ แด่พระเกศาธาตุ ที่นายวานิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือ และมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้นั่นเอง จึงสร้างเจดีย์โบดาทาวน์ ไว้เป็นที่ระลึกครับ พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ ก่อนนำไปบรรจุในมหาเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์ที่สำคัญอื่น ๆ
ภายในเจดีย์ ติดแอร์เย็นมากครับ เราจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกันตามทางเดินตลอดครับภายในเจดีย์
หลังจากนั้นเดินออกจากเจดีย์ออกมาด้านซ้าย เพื่อมาไหว้เทพทันใจครับ
ขอพรกินเรียบร้อยแล้วก็เดินชมความสวยงามของพระพุทธศาสนากันได้เลยครับ
พอเราเดินมาถึงด้านหน้าทางออกจะมีที่นั่งท่องเที่ยวนิยมไปขอพร กันอีกที่ ผมเองก็จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรเหมือนกันครับ
ที่ 6 National Museum (Yangon)
*** จุดนี้เขาไม่ให้ถ่ายรูป อดเลย ด้านในใหญ่ มากครับ มี 4 ชั้น เดินกันเมื่อยเลย ได้เรียนรู้ประวัติของพม่าได้เยอะเลย ***
ที่ 7 วัดงาทัตจี Nga Htat Gyi Pagoda
พระพุธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่องาทัตจี แปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์)
ที่ 8 วัดเจ๊าทัตยี Chauk Htat Gyi pagoda
วัดเจ๊าทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ตั้งอยู่ที่ถนนชเวกองเต็ง เมืองตำเว เป็นที่ประดิษฐานของพระตาหวาน โดยมีโครงเหล็กความยาว 65 เมตร กั้นและหลังคาคลุมถึง 6 ชั้น รอบๆ องค์พระนอน มีอุโบสถ ซึ่งมีพระสงฆ์จำวัดกว่า 600 รูป เพื่อศึกษาพระไตรปิฎก
ที่ 9 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง Shwedagon Pagoda
ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 โดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีพี่น้องพ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์จึงประทานพระเกศามา 8 เส้น สำหรับให้พ่อค้าทั้งสองรับไว้บูชา
พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระเจ้าพินยาอู ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตร ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 แผ่นดินไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อยมาทำให้พระเจดีย์ได้รับความเสียหาย และเมื่อปี พ.ศ. 2311 (ในสมัยกรุงธนบุรี) ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก ทำให้ยอดของพระเจดีย์หักถล่มลงมา
ประตูทางเข้าจะมี 4 ทิศนะครับ สามารถเข้าได้หลายทาง จะเดินหรือขึ้นลิฟท์ก็ได้ครับ เสียค่าเข้า 8000 จ๊าด
เริ่มกันเลยครับ ตามมา ๆ
ทางเดินเข้าทิศเหนือ ถ้าจำไม่ผิด
ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็ซื้อตั๋วเข้าชมครับ บางทีอาจเสียค่ากล้องถ่ายรูปเพิ่มด้วย ประมาณ 500 จ๊าด
เจอเขากำลังเตรียมทำความสะอาดพอดีเลย
สำหรับที่นี่ใหญ่และสวยมากสำหรับผม ควรมาช่วงเย็นจะได้ไม่ร้อนมาก และที่สำคัญเราต้องถอดรองเท้าถุงเท้า เดินเท้าเปล่าเท่านั้น จะได้ไม่ร้อนมากคร
[CR] สะพายเป้เที่ยวพม่า ย่างกุ้ง (Yangon) หงสาวดี (Bago) แบบเร่งด่วน 2 วัน 1 คืน
สวัสดีครับทุกท่าน ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานที่พม่า แบบเร่งด่วน สองวัน เป็นวันจันทร์ กับอังคาร 555 ความคิดมันประกายขึ้นมาเลยว่า ไปเที่ยวดูราดราวก่อนดีกว่าวันเสาร์ อาทิตย์ พอดีเลย ...
หาข้อมูลการเดินทาง พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวเลย ใน Pantip เรานี้แหละมีข้อมูลเพียบเลย
ผมใช้บริการสายการบิน Air Asia (ราคาไม่แพงและมีเที่ยวบินตอนเช้าเลย จะได้มีเวลาเที่ยว) ผมเลือกเวลา 07:15 ถึง 08:00 น. ซึ่งเวลาพม่าจะช้ากว่าเรา 30 นาที
แนะนำให้มาถึงก่อนสัก 1-2 ชม. อย่างน้อยก่อนขึ้นเครื่อง เพราะคนเยอะพอสมควรเลย ไม่ต้องรีบมาก สามารถหาไรกินรองท้องก่อนขึ้นเครื่องได้เลย
พอผ่านการตรวจสอบของสนามบิน ผมก็ไปหาที่แรกเงิน แลกเป็น US ไป แนะนำให้หาสมุดไปสักเล่มเล็ก ๆ สำหรับเก็บแบงค์ เพราะที่พม่าถ้าแบงค์เก่า มีรอย หรือมีการขีดเขียน ไม่รับแรกเป็นจ๊าด เลย เราแจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เราไปแรกเงินได้เลยครับ ว่าเราจะไปพม่า เดียวเจ้าหน้าที่จัดแบงค์ใหม่เอี่อมให้เราเลย
นั่งเครื่องประมาณ 1 ชม. นิด ๆ ถึงสนามบินย่างกุ้ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ไม่ยุ่งยากมาก รอรับกระเป๋าสัมภาระ เรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินไปแรกเงินจาก US เป็นเงินจ๊าด สำหรับใช้จ่ายที่พม่า ไม่ต้องยุ่งยากครับ ที่สนามบินมีให้บริการเลย
หลังจากนั้นก็เดินไปหาซื้อ Sim สำหรับใช้งานที่พม่า ผมเลือก Telenor ราคาก็ 7500 จ๊าด ก็ประมาณ 200 กว่าบาท ไม่แพงเลยครับ ได้เน็ต 2 GB. โทร 60 นาที ในเครื่อข่าย Telenor
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็สอบถาม Taxi ในสนามบิน จะมีให้บริการเราแบบมีแอร์ กับไม่มีแอร์ ต่างกันประมาณ 500 จ๊าดได้ ผมเลือกรถที่มีแอร์ แบบเหมาะทั้งวัน
ก็ 60US จะได้ไม่ต้องยกของขึ้นลงตอนเปลี่ยนรถ Taxi ซึ่ง Taxi ที่ผมใช้บริการ สามารถพูดไทยได้นิดหน่อย และภาษาอังกฤษได้ อัธยาศัยดีเลยแหละ ผม Recommend เลยครับ ชื่อ Ko Zaw ให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ดีเลยแหละ 555 เป็นไกด์ให้ผมในตัวเลยครับ ชอบบบ All In One
รายละเอียดสำหรับติดต่อนะครับ
รถ Taxi ที่ใช้บริการ
เริ่มออกเที่ยวกันเลยครับ
ที่แรก วัดพระหินขาว หรือวัดเจ๊าต่อจี Lawka Chanthar Ahbaya
วัดพระหินขาว หรือวัดเจ๊าต่อจี เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 11 เมตร แกะสลักจากหินอ่อนก้อนใหญ่ๆก้อนเดียว สวยมากครับ
เป็นภาพวาดการทำองค์พระ
ที่ 2 ปางช้างเผือกหลวง (Royal White Elephant Garden)
ที่ 3 วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี หรือ วัดเมียดเซดอร์ Swal Daw Pagoda
เป็นวัดที่เคยประดิษฐานพระธาตุเขี้ยวแก้ว จากนครปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งถูกนำมาประดิษฐานที่วัดนี้ชั่วคราวและได้อัญเชิญกลับไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วองค์จำลองแทน เจดีย์สร้างเป็นทรงแปดเหลี่ยม ศิลปะพุกาม ยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ สวยมากครับ
ภายในสวยงามมากครับ
พระธาตุ
ที่ 4 พระเจดีย์กาบาเอ Kaba Aye Pagoda
ภายในจะมีผู้คนปฏิบัติธรรม และมีเจ้าหน้าที่จัดคิวเพื่อเข้าไปดูพระธาตุ ผ่านแว่นขยาย ผมเองได้เข้าไปดูด้วยครับ
*** สำหรับการเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ต้องเสียค่าธรรมเนียม เหมือนสถานที่ท่องเที่ยวบ้านเราครับ แนะนำให้จ่ายเป็นเงินจ๊าดครับ จะถูกกว่าจ่ายเป็น US ครับ
เที่ยวมาพักใหญ่ก็เริ่มหิว ถามคนขับ Taxi Ko Saw ว่ามีร้านไหนแนะนำบ้างแถวนี้ แบบไม่แพงมาก และอร่อยด้วย แนะนำร้าน Min Lan Traditional Seafood ครับ ราคาไม่แพง รสชาติพอใช้ได้ครับ
กินกันเรียบครับ แบบว่าใช้พลังงานเยอะ หิวโซๆๆๆ
ค่าอาหารก็ประมาณ 700 กว่าบาทได้เทียบเป็นเงินไทย
*** รูปอาจเยอะหน่อย อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ ^-^
หลังจากกินอิ่มก็มาเที่ยวกันต่อเลยครับ
ที่ 5 เจดีย์โบดาทาวน์ ขอพร เทพทันใจ ( นัตโบโบจี ) และเทพกระซิบ
เจดีย์โบดาทาวน์ เป็นสถานที่ศักดิ์อีกแห่งหนึ่งที่ชาวพม่าให้ความเคารพและบูชาครับ นักเที่ยวอย่างเราๆ ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาดเลยครับ เจดีย์โบดาทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหารครับ ในยุดสมัยของพระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญนั่นเอง ได้ทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพนั้นตั้งแถวถวายสักการะ แด่พระเกศาธาตุ ที่นายวานิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือ และมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้นั่นเอง จึงสร้างเจดีย์โบดาทาวน์ ไว้เป็นที่ระลึกครับ พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ ก่อนนำไปบรรจุในมหาเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์ที่สำคัญอื่น ๆ
ภายในเจดีย์ ติดแอร์เย็นมากครับ เราจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิกันตามทางเดินตลอดครับภายในเจดีย์
หลังจากนั้นเดินออกจากเจดีย์ออกมาด้านซ้าย เพื่อมาไหว้เทพทันใจครับ
ขอพรกินเรียบร้อยแล้วก็เดินชมความสวยงามของพระพุทธศาสนากันได้เลยครับ
พอเราเดินมาถึงด้านหน้าทางออกจะมีที่นั่งท่องเที่ยวนิยมไปขอพร กันอีกที่ ผมเองก็จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรเหมือนกันครับ
ที่ 6 National Museum (Yangon)
*** จุดนี้เขาไม่ให้ถ่ายรูป อดเลย ด้านในใหญ่ มากครับ มี 4 ชั้น เดินกันเมื่อยเลย ได้เรียนรู้ประวัติของพม่าได้เยอะเลย ***
ที่ 7 วัดงาทัตจี Nga Htat Gyi Pagoda
พระพุธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่องาทัตจี แปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง (สมัยมัณฑเลย์)
ที่ 8 วัดเจ๊าทัตยี Chauk Htat Gyi pagoda
วัดเจ๊าทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ตั้งอยู่ที่ถนนชเวกองเต็ง เมืองตำเว เป็นที่ประดิษฐานของพระตาหวาน โดยมีโครงเหล็กความยาว 65 เมตร กั้นและหลังคาคลุมถึง 6 ชั้น รอบๆ องค์พระนอน มีอุโบสถ ซึ่งมีพระสงฆ์จำวัดกว่า 600 รูป เพื่อศึกษาพระไตรปิฎก
ที่ 9 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง Shwedagon Pagoda
ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 โดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีพี่น้องพ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์จึงประทานพระเกศามา 8 เส้น สำหรับให้พ่อค้าทั้งสองรับไว้บูชา
พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระเจ้าพินยาอู ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตร ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 แผ่นดินไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อยมาทำให้พระเจดีย์ได้รับความเสียหาย และเมื่อปี พ.ศ. 2311 (ในสมัยกรุงธนบุรี) ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก ทำให้ยอดของพระเจดีย์หักถล่มลงมา
ประตูทางเข้าจะมี 4 ทิศนะครับ สามารถเข้าได้หลายทาง จะเดินหรือขึ้นลิฟท์ก็ได้ครับ เสียค่าเข้า 8000 จ๊าด
เริ่มกันเลยครับ ตามมา ๆ
ทางเดินเข้าทิศเหนือ ถ้าจำไม่ผิด
ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็ซื้อตั๋วเข้าชมครับ บางทีอาจเสียค่ากล้องถ่ายรูปเพิ่มด้วย ประมาณ 500 จ๊าด
เจอเขากำลังเตรียมทำความสะอาดพอดีเลย
สำหรับที่นี่ใหญ่และสวยมากสำหรับผม ควรมาช่วงเย็นจะได้ไม่ร้อนมาก และที่สำคัญเราต้องถอดรองเท้าถุงเท้า เดินเท้าเปล่าเท่านั้น จะได้ไม่ร้อนมากคร