[CR] Day4 : สวาปามรอบตลาด ไปแอบดูลิงลงออนเซน ส่องวิวเมืองอีกด้านจาก Goryokaku Tower

แผนการท่องเที่ยวทั้งหมด
Day 1 : สุวรรณภูมิ > โฮจิมินห์ซิตี้ > โตเกียว : http://ppantip.com/topic/35893968/
Day 2 : Ueno  ตะลุย Isomaru Suisan / Sushi Zanmai ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง : http://ppantip.com/topic/35893968/comment1
Day 3 : Hakodate บุกไปทานอูนิร้าน Uni Murakami เที่ยว Mount Hakodate และ Red Brick Warehouse : http://ppantip.com/topic/35895845
Day 4 : Hakodate สวาปามรอบตลาด ไปแอบดูลิงลงออนเซน ส่องวิวเมืองอีกด้านจาก Goryokaku Tower : http://ppantip.com/topic/35896919
Day 5 : Aomori กิน Nokkedon ที่ตลาดปลา Furukawa และชมหลากหลายผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลที่ A Factory : http://ppantip.com/topic/35902012
Day 6 : Sendai บุกตลาดปลา Shiogama ทานอาหารทะเลสดๆ ต่อด้วยชิมลิ้นวัวย่างและถั่วซึนดะ ของขึ้นชื่อของเซ็นได : http://ppantip.com/topic/35908992
Day7 : Tokyo ตะลุยกินย่านชินจูกุ เริ่มด้วยร้านเนื้อย่างเจ้าดัง Rokkasen ปิดด้วยบุฟเฟต์ผลไม้แสนอร่อย Takano Fruit Parlour : http://ppantip.com/topic/35912605/
Day 8 : Tokyo ตระเวนรอบตลาดปลา Tsukiji ชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ แวะห้าง Yodobashi akiba ย่าน Akihabara : http://ppantip.com/topic/35922623
Day 9 : ย้อนรอย Isomaru Suisan บุก Asakusa บวกเนื้อย่าง Heijoen ซื้อของฝากที่ตึกม่วง ปิดท้ายด้วย ซูชิหน้าล้น : http://ppantip.com/topic/35936269

กราบงามๆ ให้ไวน์แดงเมื่อคืน หัวถึงหมอนก็น็อคทันที ตื่นมาอีกทีตีสี่เลยครับ อาบน้ำแต่งตัวให้พร้อม เตรียมออกไปทัวร์ตลาดเช้ากันเถอะ
พอเปิดดูสภาพอากาศ ท่าทางวันนี้จะสาหัสใช่ย่อย โปรแกรมเยอะด้วยสิเรา

พื้นเป็นน้ำแข็งเลย ต้องเดินดีๆ ไม่งั้นมีหงายเงิบแน่นอน ตอนเช้ามืดที่ผมเดินออกมาไม่มีหิมะตก แค่เมื่อคืนน่าจะตกมาชุดใหญ่อยู่

ฝากรอยเท้าเอาไว้ ~


ตลาดเช้ายังไม่เปิดซักร้านเลยแฮะ งั้นเราก็เดินเล่นรอบๆ ตัวตลาดไปก่อนละกัน

เดินนานๆ ก็ไม่ไหวแฮะ ผมขอหลบอากาศหนาวที่ถนนดงบุริก่อนละกัน ส่องเมนูอาหารเช้าไปด้วยในตัว หิวจังเลย T w T

Poster Chrismas Festival กับภาพ Motomachi Slope เห็นละอยากมาช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วยเลย

ตีห้านิดๆ ร้านรวงเริ่มทยอยเปิดกันบ้างแล้ว

และแล้วผมก็เจอร้านอาหารที่เปิดร้านแรก Kikuyo Shokudo !!


Information
Name : Kikuyo Shokudo
Location : Hakodate, Hokkaido
Opening Time : 5.30 - 14.00 (อาจเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา)
Recommend Dish : Kaisen Don, BBQ Seafood
Desciption : ร้านนี้เป็นร้านอาหารเก่าแก่แถบฮอกไกโด ปัจจุบันขยายไปหลายสาขา ขนาดในตลาดเช้า Asaichi เอง ยังมี 2 สาขาอยู่ห่างกันนิดเดียว สว่นเรื่องรสชาติเดี๋ยวต้องพิสูจน์ครับ

อือหือ กำลังย่างหมึกเลย

บรรยากาศในร้าน มีชื่อดาราที่เคยมาทานติดอยู่เต็มร้านไปหมดเลย ด้วยความหิว สั่งไปอย่างรวดเร็วจนลืมถ่ายเมนูกันเลยทีเดียว แปปเดียวอาหารก็มาเสริ์ฟฟฟฟฟฟ

อาหารเช้าวันนี้ประกอบไปด้วย ข้าวหน้าสามสี (ปูซูไว-กุ้งโบตั๋น-อูนิ) และมีแขกรับเชิญพิเศษคือ คุณปลา Gindara ย่างเกลือ

ไล่ทีละอย่างนะ

ปลา Gindara ย่างมาใหม่ๆ หอมมากๆ เนื้อสัมผัสคล้ายๆ ปลาอินทรีย์บ้านเรานะ แต่เนื้อแน่นและอร่อยกว่า ผมกินตัดกับพวกของสดบนข้าวสามสี โคตรฟิน

มาที่ข้าวหน้าสามสีบ้าง เริ่มจากกุ้งโบตั๋น อันนี้หวานสุดเหมือนกัน สารภาพว่าเพิ่งเคยกินครั้งแรกด้วย ปกติที่ไทยไม่ค่อยสนใจกุ้งญี่ปุ่นเท่าไหร่เพราะมันแพงและตัวเล็ก จนได้มากินที่นี่แหละ ผมพยายามแคะมันกุ้งมากินด้วย มันอร่อยมากๆ เลยล่ะ

ต่อด้วยปูซูไว เห็นร่วนๆ แบบนี้ แต่ก็หวานอร่อยมากนะ นี่ก็ครั้งแรกที่กินปูซูไวเหมือนกัน


และปิดท้ายด้วย อูนิ หรือไข่หอยเม่น ความเป็นครีมมี่ดีมากเลยนะ แต่ความหวานความหอมยังห่างจากที่กินที่ อูนิมุราคามิ ไกลพอสมควรเลยล่ะ อันนี้ถือว่ากลางๆ ละกันเนอะ

หลังจากสวาปามจนเรียบแล้ว ค่าเสียหายอยู่ที่ 2,780 เยน (ประมาณ 900 บาท) แต่ยังไม่ค่อยอิ่มเลยอะ = 3 =''

สวัสดีจ้า = w =

เดินเล่นในตลาดต่อแปปเดียวก็จ๊ะเอ๋ พี่พ่อค้าในตลาดชวนทานปู ไอตัวผมด้วยความตะกละ ก็เลยถามว่าพอจะมีแบบแยกขายเป็นส่วนๆ มั้ย (ทั้งตัวถูกสุด 6,000 เยน แต่เราแค่อยากลองน่ะ ไม่อยากกินทั้งตัว T^T) แกก็บอกให้รอแปปและกลับมาพร้อมก้ามปูทาราบะหนึ่งอัน ใหญ่พอดูเลยล่ะ (1,500 เยน) ก็รบกวนให้เฮียแกย่างโลด แอบสั่งโฮตาเตะแบบใหญ่สุดเท่าที่มีมาอีกตัว (800 เยน)

หลังจากนั้นไม่นาน ...

ตู้วหูวววว อันนี้น่าจะเป็นลูกพี่ของโฮตาเตะที่ร้าน Isomaru Suisan อีกที หยิบมาเป็นๆ จากบ่อเลย ใหญ่มากกกก เนื้อสัมผัสแน่น กลิ่นหอม ไม่ต้องเติมอะไรก็อร่อยที่สุดอยู่แล้ว กินร้อนๆ ฮอกไกโดสุโก้ยจริงๆ ไม่ได้โม้

อูว้าวววว เนื่องจากอันนี้เป็นก้ามปู Frozen หลังเอามา Thaw และย่างแล้ว มันเลยอาจจะกระด้างนิดนึง แต่ผมว่ามันก็ยังอร่อยและเนื้อเยอะอยู่ดีนะ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมชอบรสแบบปูทะเลหลังเขียวบ้านเราตัวใหญ่ๆ มากกว่า เนื้อปูทาราบะมันเยอะจริง แต่มันไม่แน่นหวานแบบปูทะเลอะ มันจะออกเป็นขุยๆ หน่อย ตรงก้ามกินง่าย อร่อย โอเคมาก แต่ตรงแขนมัน ต้องแคะพักนึงเลย แต่สุดท้ายผมก็กวาดเรียบนะ อิอิ

อันนั้นหลังเขมือบโฮตาเตะเสร็จ ดูขนาดฝาสิ ใหญ่จะเท่าจานละ = =''

ในส่วนของก้ามปูทาราบะนั้น = w =

ขอบคุณพี่พ่อค้าสำหรับอาหารครับ หลังจ่ายตัง ก็ขอบคุณกันไป ขอบคุณกันมาพักใหญ่เลย 555

ยัง ความพังของวันนี้ยังแค่เพิ่มเริ่มต้นเท่านั้น เดินมาอีกนิดเดียว ผมก็ต้องปะทะกับ ...

เห็นแล้วใช่มั้ย อูนิ ไง วางเป็นถาดสดๆ เลยน่ะ T ^ T

พักความตื่นเต้นมาสังเกตราคาของอูนิทั้ง 4 แบบตามภาพ จากที่ถามคุณแม่ค้ามา แกก็ช่วยใจดีอธิบายให้ฟังว่า อูนิที่จับได้เนี่ย มันมีสองแบบคือ
1. พันธุ์มุราซากิ
2. พันธุ์บาฟุน

โดยหอยเม่นพันธุ์มุราซากิจะให้ไข่ต่อตัวได้เยอะกว่าพันธุ์บาฟุน แต่ไข่หอยเม่นพันธุ์บาฟุนจะมีรสชาติหอมหวานกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความน้อยของตัวไข่หอยเม่นที่ได้ ทำให้ไข่หอมเม่นพันธุ์บาฟุน (ไอกล่องที่แพงๆ 3,300 เยน กับ 2,800 เยน) มีราคาสูงกว่าพันธุ์มุราซากิ (ผมเดาเอาว่าไข่หอยเม่นที่ร้านอุนิ มุราคามิ ใช้ทำอูนิด้ง น่าจะเป็นพันธุ์บาฟุนนี่แหละ) ส่วนที่ราคาที่ต่างกันทั้งๆ ที่เป็นไข่หอยเม่นพันธุ์เดียว เป็นเพราะช่วงที่จับ ซึ่งแบบที่ถูกจะเป็นแบบที่จับมานานพักนึงแล้ว แต่แบบที่แพงคือจับมาสดๆ แต่เรามีวิธีการเก็บรักษาที่ดีเพราะฉะนั้นความสดไม่ต้องพูดถึง

อุตส่าห์ให้เจ๊เค้าช่วยอธิบายมาขนาดนี้เลยขออุดหนุนหอยนางรมย่างแกหนึ่งตัว น่ากินมากกกกกก

แต่สุดท้ายก็ไม่หนีไม่พ้นความอยากลองครับ T^T เลยได้มากล่องนึงเลย ฟินมากแต่ก็สงสารเงินในกระเป๋ามากเช่นกัน ยังไม่ทันเที่ยงเลยหมดไปทะลุ 6,000 เยนแหล่ว แต่เนื้อไข่หอยเม่น แม้จะเป็นพันธุ์มุราซากิที่ถูก แถมเก็บมาพักนึงแล้ว (ผมสั่งแบบ 1,500 เยนมา) แต่ก็ยังอร่อยมากๆ อยู่เลยนะครับ ยืนยันการันตี งวดหน้าไปไม่พลาดบาฟุนแน่ๆ

เดี๋ยวดึกๆ มาต่อนะครับ พิมพ์ไปก็หิวไป ไม่ไหวละเนี่ย
ชื่อสินค้า:   Hakodate, Hokkaido, Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่