[CR] Day3 : บุกไปทานอูนิร้าน Uni Murakami เที่ยว Mount Hakodate และ Red Brick Warehouse

แผนการท่องเที่ยวทั้งหมด
Day 1 : สุวรรณภูมิ > โฮจิมินห์ซิตี้ > โตเกียว : http://ppantip.com/topic/35893968/
Day 2 : Ueno  ตะลุย Isomaru Suisan / Sushi Zanmai ร้านอาหารเปิด 24 ชั่วโมง : http://ppantip.com/topic/35893968/comment1
Day 3 : Hakodate บุกไปทานอูนิร้าน Uni Murakami เที่ยว Mount Hakodate และ Red Brick Warehouse : http://ppantip.com/topic/35895845
Day 4 : Hakodate สวาปามรอบตลาด ไปแอบดูลิงลงออนเซน ส่องวิวเมืองอีกด้านจาก Goryokaku Tower : http://ppantip.com/topic/35896919
Day 5 : Aomori กิน Nokkedon ที่ตลาดปลา Furukawa และชมหลากหลายผลิตภัณฑ์จากแอปเปิ้ลที่ A Factory : http://ppantip.com/topic/35902012
Day 6 : Sendai บุกตลาดปลา Shiogama ทานอาหารทะเลสดๆ ต่อด้วยชิมลิ้นวัวย่างและถั่วซึนดะ ของขึ้นชื่อของเซ็นได : http://ppantip.com/topic/35908992
Day7 : Tokyo ตะลุยกินย่านชินจูกุ เริ่มด้วยร้านเนื้อย่างเจ้าดัง Rokkasen ปิดด้วยบุฟเฟต์ผลไม้แสนอร่อย Takano Fruit Parlour : http://ppantip.com/topic/35912605/
Day 8 : Tokyo ตระเวนรอบตลาดปลา Tsukiji ชมวิวโตเกียวทาวเวอร์ แวะห้าง Yodobashi akiba ย่าน Akihabara : http://ppantip.com/topic/35922623
Day 9 : ย้อนรอย Isomaru Suisan บุก Asakusa บวกเนื้อย่าง Heijoen ซื้อของฝากที่ตึกม่วง ปิดท้ายด้วย ซูชิหน้าล้น : http://ppantip.com/topic/35936269

หลังจากทานซูชิช่วงเช้ามืดเสร็จแล้วแล้ว ผมก็รีบลากกระเป๋าบึ่งไปที่สถานีอุเอโนะทันที เพื่อรอขึ้นรถ Shinkansen เที่ยวแรกตอน 6.38 เพื่อไปฮาโกดาเตะ


ตอน 5.10 เงียบกริ๊บ แต่พอเปิดสถานีตอนประมาณ 05.30 ก็มีคนมาทันที


จะสังเกตว่า Shinkansen รอบ 6.38 แถวล่างสุดจะมีสองขบวนคือ Hayabusa และ Komachi นะครับ ไอสองขบวนนี้อะมันจะพ่วงกันมาแบบจูบปากกันเลยแหละ Komachi สีแดง Hayabusa สีเขียว ก่อนขึ้นดูดีๆ นะเออ โดยทั้งสองขบวนนี้จะไปแยกกันที่สถานี Morioka ทาง Komachi จะพุ่งแยกไปทาง Akita ส่วน Hayabusa จะพุ่งขึ้นไป Shin-Hakodate

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอเห็นมั้ยจูบกันมาจริงๆ = w =


เอ้า เหมือนเดิม เล็งขบวนรถ เล็งที่นั่งดีๆ นะ


ก่อนขึ้นขออุดหนุนข้าวกล่องรถไฟหน่อยเผื่อหิวระหว่างทาง ซื้อตรงนี้ก็ได้ หรือจะรอไปซื้อบนรถก็ได้นะ มีขายเหมือนกัน แต่เหมือนเคยได้ยินมาว่าจะแพงกว่าซื้อที่สถานี


เมนูมีให้เลือกเยอะแยะ ไม่ไก่กานะเออ อาหารทะเลเพียบ แต่ผมเอียนอาหารทะเลแล้วเลยเลือกเป็นชุดข้าวหน้าลิ้นวัวมา


เจ้าเมนูทางซ้ายนี่ไง ข้าวหน้าลิ้นวัว ทางขวาเป็นข้าวอบเห็ดราดหน้าด้วยหอยนางรม จริงๆ ก็น่าลองแต่ขอพักอาหารทะเลก่อนนะ ไว้รอไปลุยที่ฮาโกะดาเตะยาวๆ


หลังจากขึ้นมาบนรถแล้ว ทางด้านหน้ากับด้านหลังขบวนจะมีที่ใส่กระเป๋า ผมแนะนำให้เก็บบริเวณนี้มากกว่าแบกไปกับตัวนะ เพราะถึงที่นั่งจะกว่าง ที่ยืดขาเยอะ แต่มันเกะกะน่ะ แต่ตัวเบาะนั่งสบายมาก ปรับองศาเก้าอี้ได้จากปุ่มข้างที่วางแขนนะ ส่วนด้านข้างเบาะริมหน้าต่างก็มีที่แขวนเสื้อคลุม แลวก็มีโต๊ะทานอาหารแบบเครื่องบินด้วย มีที่สำหรับใส่แก้วอีกต่างหาก เรียกได้ว่าครบครันสุดๆ พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย



พอรถวิ่งไปสักพักนึง สายๆ ก็เริ่มหิว เลยขอจัดการข้าหน้าลิ้นวัวก่อนเลย ตามสเตปที่พี่พนักงานบอกมาและมีเขียนไว้ข้างกล่องด้วย ทันทีที่เราจะทานให้ดึงเส้นเชือกด้านข้างให้สุด อย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นจะเกิดปฏิกิริยาอะไรสักอย่างของสารเคมีด้านล่างกล่องทำให้เกิดไอน้ำร้อนพุ่งขึ้นไปอบเจ้าข้าวหน้าลิ้นวัวของเรา โดยรอแค่ประมาณ 5-6 นาทีก็จะได้ข้าวหน้าลิ้นวัวกลิ่นหอมฉุยมาทานแล้ว Amazing สุดๆ


ลิ้นวัวร้อนๆ กรุบกรอบมาก ทานกับข้าวอุ่นๆ ฟินสุดๆ บอกตรงๆ ว่าจริงๆ ผมเป็นคนไม่ทานผัก ซึ่งไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างอย่างยิ่ง แต่ถั่วงอกในกล่องนี่ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวเลยนะ ลองแอบเอามาชิมเม็ดนึงก็ทานได้ ไม่เหม็น แต่ยังไงก็เขี่ยทิ้งอยู่ดีอะนะ แอบเสียดายเหมือนกัน


หลังจากอิ่มท้อง แอบงีบไปพักนึง วิวข้างนอกก็เริ่มเปลี่ยนไป ตรงนี้น่าจะเริ่มเข้าภูเขาก่อนถึงอาโอโมริแล้ว หิมะสะพรั่งมาก ผมนี่หลับไม่ลงเลย เอาแต่ดูวิว แต่หลังๆ มีแต่อุโมงค์แล้วนะ เข้าใจแหละว่าต้องลอดหลายภูเขา แต่ก็แอบหวังว่าจะดูวิวน่ะ T^T



ถึงสถานี Shin Hakodate แล้วต้องต่อรถไฟ JR Line เข้าไปที่สถานี Hakodate อีกทอดนึง


แลนมาร์คหน้าสถานีฮาโกดาเตะ แต่ตอนนี้ฝนตกอยู่ หนาวเวอร์ๆ เลวร้ายพอกะหิมะเลย ฮืออออ หนาวววววว

ผมรีบขนของไปที่โรงแรม ตอนนั้นประมาณเที่ยงกว่าๆ แต่โรงแรมจริงๆ Check-in ได้บ่ายสาม แต่พี่เจ้าของโรงแรมใจดีให้เข้าก่อนได้ เลยรีบเอาของไปเก็บ ล้างเนื้อล้างตัวแล้วบึ่งออกมาทันที แม้จะมาถึงตอนเที่ยงเกือบบ่ายๆ ตลาดวายหมดแล้ว แต่ก็ยังมีของขายในตลาดหลายร้านอยู่นะ โดยเฉพาะในตัวตึกตลาดเช้าที่มีกิจกรรมตกหมึกนั่นแหละ ของขายเพียบ ไปแอบส่องกันว่ามีอะไรบ้าง








หลังจากเดินอยู่สักพัก สุดท้ายก็ได้ซาลาเปาพี่หมึกมาประทังความหิว

สีสันตระการตามาก แป้งนุ่มสุดๆ ถึงราคาจะแอบแรงไปหน่อยสำหรับซาลาเปาแต่ก็ควรลองมากินซักครั้งนะ

ปลาหมึกข้างในท่วมท้นมาก



ร้านขายหอยปิ้งก็มี น่ากินมากๆ


งานปูทาราบะก็มา


จะอูนิ อิกุระ เมนไทโกะ มีครบหมด ตลาดนี้



เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอ ถนนดงบุริ หันหน้าเข้าประจันกับ JR Hakodate เลย มีเมนูต่างๆ ติดหน้าร้านให้เลือกกันมากมาย ราคาก็แตกต่างกันไป แต่เนื่องจากผมมาสายร้านบางร้านก็ทยอยปิดไปแล้ว แต่วันนี้ทางผมเองมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะมีลองของที่ร้านไหน โดยร้านแรกที่เราจะบุกไปคือ Uni Murakami ร้านที่เชี่ยวชาญด้านการแปรรูปอูนิและทำอูนิส่งออกไปในหลายๆ รูปแบบ โดยตัวร้านตั้งแอบอยู่ด้านในตลาดฝั่งใกล้ๆ ทะเล ต้องเดินไปไกลนิดนึง


เห็นลิบๆ แล้ว สุดทางนั่นแหละ

Information
Name : Uni Murakami
Location : Hakodate, Hokkaido
Opening Time : 9.00 - 14.30 / 17.00 - 22.00 (สำหรับ ตั้งแต่ 1 Nov - 15 Apr)
                       7.30 - 14.30 / 17.00 - 22.00 (สำหรับ ตั้งแต่ 16 Apr - 31 Oct)
Recommend Dish : Uni Don, Uni Graten, Fresh Uni
Desciption : ร้านนี้ขึ้นชื่อมากเรื่องเมนูจากหอยเม่น ด้วยความสดใหม่และเสียงเล่าปากต่อปาก ร้านนี้มีคะแนน Tabelog อยู่ที่ 3.70 ถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน ยังไงก็มาลองชิมกันดูว่าที่รีวิวกันมามันจริงเท็จแค่ไหน : P



หลังจากมาถึงร้าน พนักงานก็ต้อนรับอย่างดี มีผ้าเช็ดมือ ชาร้อน ตะเกียบวางรอไว้พร้อมก่อนเราจะสั่งอาหารอีก


ถ้ามาหลายคน มีห้องแบบม่านกั้นให้ด้วยนะครับ เผื่อต้องการความเป็นส่วนตัว




เมนูที่นี่มีภาษาอังกฤษพร้อมคำบรรยายให้พร้อม แต่ละเมนูราคาแรงใช่ย่อย แต่มาถึงนี่แล้วเราต้องจัดเต็ม ผมเลยสั่งข้าวหน้าโฮตาเตะกับอูนิมาลอง  แน่นอนว่าเอาแบบ Regular Size เพื่อความสะใจ และต้องมีเมนูเสริมอีกจาน นั่นคือ Uni Graten เป็นกราแตงอูนิ
ชื่อสินค้า:   Hakodate, Hokkaido, Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่