สวัสดีชาวพันติ๊บบบ.. กระทู้ตอนฮอกไกโดนี้วาฬได้รับเกียรติอย่างสูง จากคุณเพนกวิ้นให้มาเขียน อาจจะใช้คำบางคำไม่เหมาะสมหรือผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะก๊ะ ภาพถ่ายส่วนมากใช้กล้อง Fuji XM1 และรองลงมาก็จะมี Iphone 6plus, Iphone 5 มือใหม่หัดถ่าย ภาพเบลอบ้าง แตกบ้าง ติชมแนะนำได้เด้อ
ครั้งแรกของการเขียนรีวิวเล่าเรื่องประสบการณ์การเที่ยวเลย ขอเกริ่นไว้ก่อนว่า ฮอกไกโดนี่มันใช่มาก
ของกินอลังการงานสร้าง วิวทิวทัศน์เห็นละแบบคืออึ้ง อะไรมันเว่ออปานนั้น 555 เราจะเริ่มจากเมืองท่าน่ารักอย่างฮาโกดาเตะ ขับรถอย่างช้าๆ ชมวิวข้างทางต่อไปยังเมืองออนเซนโนโบริเบทสึ แวะชมดอกไม้ลำธารที่เมืองฟุราโน่ ชมความงดงามของศิลปะท้องทุ่งที่อาซาฮิกาว่า เดินเล่นที่คลองแห่งความโรแมนติกที่โอตารุ และปิดทริปแห่งความสุขกันที่ซัปโปโร ติดตามกันเรื่อยๆ นะคะ อ้อๆ ฝากกระทู้วันที่ 1-5 ที่แถบคันโตของคุณกวิ้นก่อน ใครสงสัยตรงไหนหรือยากได้ข้อมูลเพิ่มก็หลังไมค์ได้น้า
Day 1 Tokyo
http://ppantip.com/topic/34055051
Day 2 Kamakura - Fuji
http://ppantip.com/topic/34108279
Day 3 Fuji - Yamanashi - Isawa
http://ppantip.com/topic/34108374
Day 4 Yamanachi,Isawa - Kichijoji - Tokyo
http://ppantip.com/topic/34108499
Day 5 Tokyo - Imperial Palace - Ginza - Shibuyu - Harajuku
http://ppantip.com/topic/34108646
HOKKAIDO
Day 6 HAKODATE -
http://ppantip.com/topic/34133350
DAY 6 -- Hakodate
ตื่นเช้านิดหน่อยเพื่อจัดเตรียมส่งกระเป๋าที่แพคของที่ไม่จำเป็นไว้เมื่อคืน 1 ใบส่งไปที่สนามบินนาริตะโดย abc-transport เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเปลืองเนื้อที่ในการช๊อปของกินกลับเมืองไทย 5555 นี่คือพ๊อย เราจะบินข้ามเกาะไปยังเกาะฮอกไกโดกัน จุดหมายปลายทางวันนี้ของเราก็คือเมืองท่าฮาโกดาเตะ เราเลือกสายการบิน ANA ราคาอยู่ที่ 3040 บาทต่อคนค่ะ โดยเราจะเดินทางจากสนามบินฮาเนดะไปยังสนามบินฮาโกดาเตะ
ถึงสนามบินแล้วท้องร้องหนักมาก
เมื่อเช้านี่กินแค่ผลไม้กับสลัดมันปูที่พี่ๆ ซื้อมาฝากเมื่อวาน หาอะไรกินกันดีกว่า
นี่อาหารที่เราเลือกกับของคุณกวิ้น เป็นเส้นอุด้งคือเหนียวหนึบ หอมซอยเติมได้ไม่อั้น เคี้ยวไปหนึ่งคำแล้วไม่สามารถหยุดตักคำที่ 2 ได้เลย
ด้านซ้ายคืออาหารตุรกี เป็นเนื้อย่างคล้ายๆ เคบับ เนื้อล้ำมาก เค้ากินเคียงกับโยเกิร์ตสดที่ราดมาด้านข้างซึ่งเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ส่วนรูปขวาเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ นุ่มชุ่มลิ้นมาก แบ่งกันกัดคนละคำ นี่เป็นข้อดีของการไปหลายคนจิงๆ ได้แชร์กันชิม
อิ่มท้องแล้วอะไรๆ ก็ดีไม่หมดดด ได้เวลาแล้วว ไปหลับบนเครื่องกันดีกว่าาา เครื่องบินลำใหญ่นั่งสบายมาก รักเลยย
เธอเห็นอะไรในภาพมั้ย ชั้นเก็บเอาไว้ให้เธอ ฮัมเพลง เพลงมั่วๆ สไตล์คุณวาฬ
เมฆขาวราวปุยนุ่น อยากจะเอามือไปจับจิงๆ
เครื่องแลนดิ้งที่ สนามบินฮาโกดาเตะประมาณบ่าย 3 โมง อากาศช่างเป็นใจ แดดออกดีเว่อ สนามบินที่นี่สงบ สะอาด
พวกเราหอบกระเป๋าลงมาที่ชั้น 1 เพื่อไปขึ้น Airport bus เป็นรถบัสเพื่อเข้าไปยังเมืองฮาโกดาเตะ รถออกทุก 20 นาที และใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีก็ถึงหน้า JR Hakodate station ละ ราคา 410 เยนต่อคนค่ะ
พอลงบันไดเลื่อนถึงชั้น 1 คุณวาฬมองขวาแว๊บบ ร้านขายยา!! กรีดร้องวิ่งเข้าใส่แบบไม่สนใจใคร คือเราเป็นคนบ้าเครื่องสำอางมากเลย ชอบเข้าร้านขายยาที่ญี่ปุ่นมาก เพราะนางมีสินค้าแบบบำรุงผิว ครีมกันแดด มาร์คหน้า เครื่องสำอางค์ ของกระจุกกระจิ๊ก รักนางมากกก..
คุณเพนกวิ้นเลยเบรคไว้ว่าเดี๋ยวไปช๊อปที่ซัปโปโรนะๆ กระเป๋าจะล้นก่อน...
นั่งรถบัสผ่านนั่นนี่ก็อยากถ่ายเก็บไว้ เราเป็นคนติดกล้องมาก อยากถ่ายเก็บไว้เยอะๆ เก็บบรรยากาศเผื่อได้มีโอกาสได้เล่าเรื่องผ่านภาพแบบนี้ให้ลูกให้หลานฟัง ประสบการณ์ที่มีความสุขจะสุขแท้จริงตรงที่เราได้แบ่งปันความสุขเหล่านั้นให้ผู้อื่น แต่ว่าความรู้สึกตอนที่เราได้เที่ยวได้พบเจอนี่มันบอกอย่างลึกซึ้งผ่านการเล่าไม่ได้ ถูกมั้ยคะ ฉะนั้น คุณวาฬสนับสนุนให้ทุกคนเที่ยวค่ะ 555 ที่ไหนก็ได้ แล้วมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
ถึงแล้ว... จอดที่หน้าสถานีพอดีเป๊ะ
จากนั้นเราทั้ง 5 ก็มองหาโรงแรมที่จองไว้แล้ว โรงแรมที่เราพักอยู่ตรงข้ามสถานีเด๊ะๆ ชื่อ Smile Hotel Hakodate เราจะพักกันที่ 1 คืน ราคาชิลๆ 4200 เยนต่อคน
ภาพห้องพักค่ะ เตียงนุ่มนิ่ม ผ้าห่มอุ่น สบายมากๆ
เก็บสัมภาระ โบ๊ะหน้าอีก 1 รอบ เตรียมตัวไปเดินเที่ยวเมืองท่าน่ารักอย่างฮาโกดาเตะกัน
ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่ใหญ่ติดอันดับ 3 ของเกาะฮอกไกโด (อ่านข้อมูลก่อนเที่ยวนิสสนึงจาก Wikipedia) ด้วยภูมิประเทศที่ติดทะเลก็เลยขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล นึกภาพตามนะคะ Uni สดๆ หวานชุ่มลิ้นละลายในปาก ปูขนเนื้อหวานหอมมันปู หอยเชล์โฮตาเตะตัวโตจิ้มโชยุบวกวาซาบิ หื้มมมม บรรยายไปก็ท้องร้องไป ไม่ต้องพูดถึงความสด สดกว่านี้ไม่มี๊ไม่มี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายก็อย่างเช่น ขึ้น Ropeway ไปดูวิวเมืองที่ยอดเขาฮาโกดาเตะ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ โกดังอิฐแดง โบสถ์คริสต์ต่างๆ เป็นต้นค่ะ
คนญี่ปุ่นจะดูชิลๆ ชิคๆ จะบอกว่าได้อารมณ์มากๆ กับการนั่งเสพบรรยากาศในวันอากาศดีๆ
เดินออกมาจากโรงแรมซักพัก เอ๊! เมื่อกี๊ยังแดดออกอยู่เลย ครึ้มฟ้าครึ้มฝนซะงั้น ลมพัดมาแบบเย็นยะเยือก วันนี้เรามีนัดขึ้นกระเช้าดูวิวเมืองกันนะ อย่าตกเลยๆ (ภาวนาในใจ)
การเดินทางเที่ยวในเมืองวันนี้เราจะใช้รถราง ครั้งแรกเลยในชีวิต รถรางสีเหลืองลายการ์ตูนหน้าตาน่ารักน่าชังมาก อีกอย่างที่ชอบมากในญี่ปุ่นก็คือ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสินค้าหรือสถานที่ท่องเที่ยว เค้าจะใช้ตัวการ์ตูนต่างๆ นานา ที่น่ารัก น่าชม เข้ามาตกแต่งทำให้น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น น่ารักอ้ะะะ
การนั่งรถราง เราจะใช้ 1-day pass ราคา 600 เยน นั่งไปมา 3 รอบขึ้นไปถึงคุ้ม อ๊ะๆ บอกก่อนว่า ซื้อบนรถรางที่ Hakodate station หน้าตาของตั๋วตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ ข้างในจะเป็นแผนที่ซึ่งเราอ่านไม่ออกเลย 555 แค่ใช้โชว์เวลาถึงสถานีที่จะลงกับคนขับรถราง แค่นี้ค่ะง่ายๆ สำหรับนักเดินทางที่อยากจะแบคแพคเที่ยวเองอย่างคุณวาฬ
เมื่อตกเย็นท้องเริ่มหิวอีกแล้วค่ะ เย็นนี้เราจะฝากท้องกับร้านเนื้อสุกี้ยากี้ที่ติดมิชลิน 1 ดาว ชื่อร้านว่า 阿さ利本店 อ่านไม่ออก 555 ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษเลย คือที่เลือกร้านนี้ เพราะเราวางแผนหาของกินที่ฮาโกดาเตะมาแล้ว อาเจ้ของเราได้หาข้อมูลจากเวป tabelog เวปรีวิวของญี่ปุ่น เตรียมความพร้อมให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
การเดินทางคือนั่งรถรางไปลงที่สถานี Horaicho แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงร้านแล้วว
ถึงหน้าร้าน เอ๊ ! ทำไมหน้าร้านเป็นเงียบๆ น้า อาเจ้ก็เดินเข้าไปถามเผื่อมีการรอคิว แม่เจ้า !! สรุปคือ วันนี้คิวจองเต็มแล้ววว พลาดสุดในชีวิต น้ำลายไหลตั้งแต่ดูรูปแล้ว คืออดไง คือเจ็บปวด ร้องไห้หนักมากกก
เพื่อนๆ คนไหนที่มาเมืองนี้ควรมาจองก่อน 1 วันนะคะ ปิดวันพุธ รูปอาหารและราคาตามลิงค์นี้เลยยย
http://tabelog.com/hokkaido/A0105/A010501/1003362/ ได้ถ่ายแค่รูปหน้าร้านสุกี้เทพพพของเราา
อาเจ้เลยบอกไม่เป็นไรๆ ไว้เราค่อยมาเมืองนี้อีกรอบเนาะ (ความคิดดี๊ดี คริ) เจ้มีอีกร้านเตรียมไว้แล้ว เอารูปให้คุณวาฬดู นี่มันนน Uni หนิคะ จะช้าอยู่ใยเจ้ เดินนำทางเลยค่าา ร้านที่ว่านี้คือร้าน うに むらかみ อูนิมุราคามิ ตามลิงค์นี้
http://www.uni-murakami.com/hakodate/mainmenu.html (ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดอีกแล้ว) นั่งรถรางจากสถานี Horaicho ย้อนกลับไปสถานี Ekimae เดินต่อไปอีกนิด ร้านนี้ต้องเดินผ่านตลาดเช้าฮาโกดาเตะซึ่งในขณะที่เราไปตลาดได้ปิดแล้วค่ะ อยู่สุดๆ ตลาดเลยนะคะ
หน้าตาหน้าร้านเป็นดังรูปเลยยย มีเมนูอันโต๊โตวางให้เปิดดูก่อนเข้าไปนั่งค่ะ ส่วนเราทั้ง 5 ไม่มีการดูใดๆ ทั้งสิ้น เดินเข้าไปแล้วพูด 5 persons โชคดีที่ไม่มีคิวก่อนหน้าได้นั่งเลย
พนักงานเอาเมนูมาให้แล้วก็แจ้งว่ามีเวลากินแค่ 1 ชั่วโมง ฉะนั้น ปิ้งย่างคือกินไม่ได้อยู่แล้วเพราะใช้เวลานาน ไหนว่าปิด 4 ทุ่มไงงง ทำไมทำเยี่ยงนี้ สรุปคือหลังจากเวลา 2 ทุ่มมีคนจองทุกโต๊ะแล้ว จ้าาา เราเลยสั่งแบบเต็มที่ให้อิ่มแบบเดินไม่ได้เลย
จะบอกว่าที่สั่งมาเราจิ้มๆ ตามรูปสั่งเลย ไม่รู้จักชื่อเมนูเลยก็ว่าได้ อย่าถือสาสาวไทยตัวน้อยเลยเน้อ
เริ่มจากเรียกเมนูเรียกน้ำย่อย ให้ชื่อว่า สลัดซาชิมิ แล้วกันนะคะ หวานทุกสิ่งอย่างที่เข้าไปในปากเลยค่ะ
เมนูนี้เค้าเรียกกันว่า โฮยะ ค่ะ เป็นเพรียงหัวหอม อันนี้เห็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไทยลง เห็นหน้าตาแปลกดี บวกทั้งคนที่เคยกินสาธารยายว่ามันหวานๆ กรึบๆ มีกลิ่นเฉพาะตัว เลยขอชิมซะโหน่ย รสชาติก็อร่อยสมคำเล่าลือเจงๆ มาถึงนี่ต้องชิมนะคะ
ส่วนเมนูนี้เป็นคล้ายๆกราแตง อูนิผสมกับเนยนมชีส ซักอย่าง กินแล้วหอม มันคล้ายมูสนะ แต่เนื้อหนึบๆ แน่นกว่า แซ่บบ คอนเฟิร์มม
อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรใช่มั้ยย ขวัญใจนักกินอาหารญี่ปุ่นเลย ข้าวหน้าซาชิมิ...
ต่อเลยๆ ปลาหมึกตัวอ้วน เนื้อหวานเด้ง หอมมาก รักอ่าา
ชามนี้คือข้าวหน้าอูนิที่เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปอูนิ เอาเป็นว่ากลิ่นอูนินี่ติดในลำคอถึงพรุ่งนี้เลย ถึงรสถึงเครื่องเลยจิงๆ ค่ะ
คุณกุ้งโบตัน 2 ตัวนี้ สดแบบยังขยับอยู่เลยค่ะ (งดดราม่านะคะ) รสชาตินี่หวานนน..
มาถึงพระเอกของงานค่ะ เมนูนี้มาถึงไม่สั่งไม่ได้เลย นั่นคืออ... ข้าวหน้าอูนิ แบบเต็มที่มากก
Zoomm in.....
ไม่ผิดหวังเลยที่อาเจ้พามากินร้านนี้ทุกอย่างลงตัวมาก ราคาทั้งหมดทั้งมวลที่สั่งมาอยู่ประมาณ 17000 เยน คุ้มเว่อ
[CR] กินเที่ยวญี่ปุ่น 14 วันแบบเต็มอิ่ม 70,000 ตอน ฮอกไกโด Day 6 -- ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
ครั้งแรกของการเขียนรีวิวเล่าเรื่องประสบการณ์การเที่ยวเลย ขอเกริ่นไว้ก่อนว่า ฮอกไกโดนี่มันใช่มาก ของกินอลังการงานสร้าง วิวทิวทัศน์เห็นละแบบคืออึ้ง อะไรมันเว่ออปานนั้น 555 เราจะเริ่มจากเมืองท่าน่ารักอย่างฮาโกดาเตะ ขับรถอย่างช้าๆ ชมวิวข้างทางต่อไปยังเมืองออนเซนโนโบริเบทสึ แวะชมดอกไม้ลำธารที่เมืองฟุราโน่ ชมความงดงามของศิลปะท้องทุ่งที่อาซาฮิกาว่า เดินเล่นที่คลองแห่งความโรแมนติกที่โอตารุ และปิดทริปแห่งความสุขกันที่ซัปโปโร ติดตามกันเรื่อยๆ นะคะ อ้อๆ ฝากกระทู้วันที่ 1-5 ที่แถบคันโตของคุณกวิ้นก่อน ใครสงสัยตรงไหนหรือยากได้ข้อมูลเพิ่มก็หลังไมค์ได้น้า
Day 1 Tokyo http://ppantip.com/topic/34055051
Day 2 Kamakura - Fuji http://ppantip.com/topic/34108279
Day 3 Fuji - Yamanashi - Isawa http://ppantip.com/topic/34108374
Day 4 Yamanachi,Isawa - Kichijoji - Tokyo http://ppantip.com/topic/34108499
Day 5 Tokyo - Imperial Palace - Ginza - Shibuyu - Harajuku http://ppantip.com/topic/34108646
HOKKAIDO
Day 6 HAKODATE - http://ppantip.com/topic/34133350
DAY 6 -- Hakodate
ตื่นเช้านิดหน่อยเพื่อจัดเตรียมส่งกระเป๋าที่แพคของที่ไม่จำเป็นไว้เมื่อคืน 1 ใบส่งไปที่สนามบินนาริตะโดย abc-transport เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเปลืองเนื้อที่ในการช๊อปของกินกลับเมืองไทย 5555 นี่คือพ๊อย เราจะบินข้ามเกาะไปยังเกาะฮอกไกโดกัน จุดหมายปลายทางวันนี้ของเราก็คือเมืองท่าฮาโกดาเตะ เราเลือกสายการบิน ANA ราคาอยู่ที่ 3040 บาทต่อคนค่ะ โดยเราจะเดินทางจากสนามบินฮาเนดะไปยังสนามบินฮาโกดาเตะ
ถึงสนามบินแล้วท้องร้องหนักมาก เมื่อเช้านี่กินแค่ผลไม้กับสลัดมันปูที่พี่ๆ ซื้อมาฝากเมื่อวาน หาอะไรกินกันดีกว่า
นี่อาหารที่เราเลือกกับของคุณกวิ้น เป็นเส้นอุด้งคือเหนียวหนึบ หอมซอยเติมได้ไม่อั้น เคี้ยวไปหนึ่งคำแล้วไม่สามารถหยุดตักคำที่ 2 ได้เลย
ด้านซ้ายคืออาหารตุรกี เป็นเนื้อย่างคล้ายๆ เคบับ เนื้อล้ำมาก เค้ากินเคียงกับโยเกิร์ตสดที่ราดมาด้านข้างซึ่งเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก ส่วนรูปขวาเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ นุ่มชุ่มลิ้นมาก แบ่งกันกัดคนละคำ นี่เป็นข้อดีของการไปหลายคนจิงๆ ได้แชร์กันชิม
อิ่มท้องแล้วอะไรๆ ก็ดีไม่หมดดด ได้เวลาแล้วว ไปหลับบนเครื่องกันดีกว่าาา เครื่องบินลำใหญ่นั่งสบายมาก รักเลยย
เธอเห็นอะไรในภาพมั้ย ชั้นเก็บเอาไว้ให้เธอ ฮัมเพลง เพลงมั่วๆ สไตล์คุณวาฬ
เมฆขาวราวปุยนุ่น อยากจะเอามือไปจับจิงๆ
เครื่องแลนดิ้งที่ สนามบินฮาโกดาเตะประมาณบ่าย 3 โมง อากาศช่างเป็นใจ แดดออกดีเว่อ สนามบินที่นี่สงบ สะอาด
พวกเราหอบกระเป๋าลงมาที่ชั้น 1 เพื่อไปขึ้น Airport bus เป็นรถบัสเพื่อเข้าไปยังเมืองฮาโกดาเตะ รถออกทุก 20 นาที และใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีก็ถึงหน้า JR Hakodate station ละ ราคา 410 เยนต่อคนค่ะ
พอลงบันไดเลื่อนถึงชั้น 1 คุณวาฬมองขวาแว๊บบ ร้านขายยา!! กรีดร้องวิ่งเข้าใส่แบบไม่สนใจใคร คือเราเป็นคนบ้าเครื่องสำอางมากเลย ชอบเข้าร้านขายยาที่ญี่ปุ่นมาก เพราะนางมีสินค้าแบบบำรุงผิว ครีมกันแดด มาร์คหน้า เครื่องสำอางค์ ของกระจุกกระจิ๊ก รักนางมากกก..
คุณเพนกวิ้นเลยเบรคไว้ว่าเดี๋ยวไปช๊อปที่ซัปโปโรนะๆ กระเป๋าจะล้นก่อน...
นั่งรถบัสผ่านนั่นนี่ก็อยากถ่ายเก็บไว้ เราเป็นคนติดกล้องมาก อยากถ่ายเก็บไว้เยอะๆ เก็บบรรยากาศเผื่อได้มีโอกาสได้เล่าเรื่องผ่านภาพแบบนี้ให้ลูกให้หลานฟัง ประสบการณ์ที่มีความสุขจะสุขแท้จริงตรงที่เราได้แบ่งปันความสุขเหล่านั้นให้ผู้อื่น แต่ว่าความรู้สึกตอนที่เราได้เที่ยวได้พบเจอนี่มันบอกอย่างลึกซึ้งผ่านการเล่าไม่ได้ ถูกมั้ยคะ ฉะนั้น คุณวาฬสนับสนุนให้ทุกคนเที่ยวค่ะ 555 ที่ไหนก็ได้ แล้วมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
ถึงแล้ว... จอดที่หน้าสถานีพอดีเป๊ะ
จากนั้นเราทั้ง 5 ก็มองหาโรงแรมที่จองไว้แล้ว โรงแรมที่เราพักอยู่ตรงข้ามสถานีเด๊ะๆ ชื่อ Smile Hotel Hakodate เราจะพักกันที่ 1 คืน ราคาชิลๆ 4200 เยนต่อคน
ภาพห้องพักค่ะ เตียงนุ่มนิ่ม ผ้าห่มอุ่น สบายมากๆ
เก็บสัมภาระ โบ๊ะหน้าอีก 1 รอบ เตรียมตัวไปเดินเที่ยวเมืองท่าน่ารักอย่างฮาโกดาเตะกัน
ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่ใหญ่ติดอันดับ 3 ของเกาะฮอกไกโด (อ่านข้อมูลก่อนเที่ยวนิสสนึงจาก Wikipedia) ด้วยภูมิประเทศที่ติดทะเลก็เลยขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล นึกภาพตามนะคะ Uni สดๆ หวานชุ่มลิ้นละลายในปาก ปูขนเนื้อหวานหอมมันปู หอยเชล์โฮตาเตะตัวโตจิ้มโชยุบวกวาซาบิ หื้มมมม บรรยายไปก็ท้องร้องไป ไม่ต้องพูดถึงความสด สดกว่านี้ไม่มี๊ไม่มี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายก็อย่างเช่น ขึ้น Ropeway ไปดูวิวเมืองที่ยอดเขาฮาโกดาเตะ ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ โกดังอิฐแดง โบสถ์คริสต์ต่างๆ เป็นต้นค่ะ
คนญี่ปุ่นจะดูชิลๆ ชิคๆ จะบอกว่าได้อารมณ์มากๆ กับการนั่งเสพบรรยากาศในวันอากาศดีๆ
เดินออกมาจากโรงแรมซักพัก เอ๊! เมื่อกี๊ยังแดดออกอยู่เลย ครึ้มฟ้าครึ้มฝนซะงั้น ลมพัดมาแบบเย็นยะเยือก วันนี้เรามีนัดขึ้นกระเช้าดูวิวเมืองกันนะ อย่าตกเลยๆ (ภาวนาในใจ)
การเดินทางเที่ยวในเมืองวันนี้เราจะใช้รถราง ครั้งแรกเลยในชีวิต รถรางสีเหลืองลายการ์ตูนหน้าตาน่ารักน่าชังมาก อีกอย่างที่ชอบมากในญี่ปุ่นก็คือ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสินค้าหรือสถานที่ท่องเที่ยว เค้าจะใช้ตัวการ์ตูนต่างๆ นานา ที่น่ารัก น่าชม เข้ามาตกแต่งทำให้น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น น่ารักอ้ะะะ
การนั่งรถราง เราจะใช้ 1-day pass ราคา 600 เยน นั่งไปมา 3 รอบขึ้นไปถึงคุ้ม อ๊ะๆ บอกก่อนว่า ซื้อบนรถรางที่ Hakodate station หน้าตาของตั๋วตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ ข้างในจะเป็นแผนที่ซึ่งเราอ่านไม่ออกเลย 555 แค่ใช้โชว์เวลาถึงสถานีที่จะลงกับคนขับรถราง แค่นี้ค่ะง่ายๆ สำหรับนักเดินทางที่อยากจะแบคแพคเที่ยวเองอย่างคุณวาฬ
เมื่อตกเย็นท้องเริ่มหิวอีกแล้วค่ะ เย็นนี้เราจะฝากท้องกับร้านเนื้อสุกี้ยากี้ที่ติดมิชลิน 1 ดาว ชื่อร้านว่า 阿さ利本店 อ่านไม่ออก 555 ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษเลย คือที่เลือกร้านนี้ เพราะเราวางแผนหาของกินที่ฮาโกดาเตะมาแล้ว อาเจ้ของเราได้หาข้อมูลจากเวป tabelog เวปรีวิวของญี่ปุ่น เตรียมความพร้อมให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง การเดินทางคือนั่งรถรางไปลงที่สถานี Horaicho แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงร้านแล้วว
ถึงหน้าร้าน เอ๊ ! ทำไมหน้าร้านเป็นเงียบๆ น้า อาเจ้ก็เดินเข้าไปถามเผื่อมีการรอคิว แม่เจ้า !! สรุปคือ วันนี้คิวจองเต็มแล้ววว พลาดสุดในชีวิต น้ำลายไหลตั้งแต่ดูรูปแล้ว คืออดไง คือเจ็บปวด ร้องไห้หนักมากกก เพื่อนๆ คนไหนที่มาเมืองนี้ควรมาจองก่อน 1 วันนะคะ ปิดวันพุธ รูปอาหารและราคาตามลิงค์นี้เลยยย http://tabelog.com/hokkaido/A0105/A010501/1003362/ ได้ถ่ายแค่รูปหน้าร้านสุกี้เทพพพของเราา
อาเจ้เลยบอกไม่เป็นไรๆ ไว้เราค่อยมาเมืองนี้อีกรอบเนาะ (ความคิดดี๊ดี คริ) เจ้มีอีกร้านเตรียมไว้แล้ว เอารูปให้คุณวาฬดู นี่มันนน Uni หนิคะ จะช้าอยู่ใยเจ้ เดินนำทางเลยค่าา ร้านที่ว่านี้คือร้าน うに むらかみ อูนิมุราคามิ ตามลิงค์นี้ http://www.uni-murakami.com/hakodate/mainmenu.html (ภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดอีกแล้ว) นั่งรถรางจากสถานี Horaicho ย้อนกลับไปสถานี Ekimae เดินต่อไปอีกนิด ร้านนี้ต้องเดินผ่านตลาดเช้าฮาโกดาเตะซึ่งในขณะที่เราไปตลาดได้ปิดแล้วค่ะ อยู่สุดๆ ตลาดเลยนะคะ
หน้าตาหน้าร้านเป็นดังรูปเลยยย มีเมนูอันโต๊โตวางให้เปิดดูก่อนเข้าไปนั่งค่ะ ส่วนเราทั้ง 5 ไม่มีการดูใดๆ ทั้งสิ้น เดินเข้าไปแล้วพูด 5 persons โชคดีที่ไม่มีคิวก่อนหน้าได้นั่งเลย
พนักงานเอาเมนูมาให้แล้วก็แจ้งว่ามีเวลากินแค่ 1 ชั่วโมง ฉะนั้น ปิ้งย่างคือกินไม่ได้อยู่แล้วเพราะใช้เวลานาน ไหนว่าปิด 4 ทุ่มไงงง ทำไมทำเยี่ยงนี้ สรุปคือหลังจากเวลา 2 ทุ่มมีคนจองทุกโต๊ะแล้ว จ้าาา เราเลยสั่งแบบเต็มที่ให้อิ่มแบบเดินไม่ได้เลย จะบอกว่าที่สั่งมาเราจิ้มๆ ตามรูปสั่งเลย ไม่รู้จักชื่อเมนูเลยก็ว่าได้ อย่าถือสาสาวไทยตัวน้อยเลยเน้อ
เริ่มจากเรียกเมนูเรียกน้ำย่อย ให้ชื่อว่า สลัดซาชิมิ แล้วกันนะคะ หวานทุกสิ่งอย่างที่เข้าไปในปากเลยค่ะ
เมนูนี้เค้าเรียกกันว่า โฮยะ ค่ะ เป็นเพรียงหัวหอม อันนี้เห็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไทยลง เห็นหน้าตาแปลกดี บวกทั้งคนที่เคยกินสาธารยายว่ามันหวานๆ กรึบๆ มีกลิ่นเฉพาะตัว เลยขอชิมซะโหน่ย รสชาติก็อร่อยสมคำเล่าลือเจงๆ มาถึงนี่ต้องชิมนะคะ
ส่วนเมนูนี้เป็นคล้ายๆกราแตง อูนิผสมกับเนยนมชีส ซักอย่าง กินแล้วหอม มันคล้ายมูสนะ แต่เนื้อหนึบๆ แน่นกว่า แซ่บบ คอนเฟิร์มม
อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอะไรใช่มั้ยย ขวัญใจนักกินอาหารญี่ปุ่นเลย ข้าวหน้าซาชิมิ...
ต่อเลยๆ ปลาหมึกตัวอ้วน เนื้อหวานเด้ง หอมมาก รักอ่าา
ชามนี้คือข้าวหน้าอูนิที่เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปอูนิ เอาเป็นว่ากลิ่นอูนินี่ติดในลำคอถึงพรุ่งนี้เลย ถึงรสถึงเครื่องเลยจิงๆ ค่ะ
คุณกุ้งโบตัน 2 ตัวนี้ สดแบบยังขยับอยู่เลยค่ะ (งดดราม่านะคะ) รสชาตินี่หวานนน..
มาถึงพระเอกของงานค่ะ เมนูนี้มาถึงไม่สั่งไม่ได้เลย นั่นคืออ... ข้าวหน้าอูนิ แบบเต็มที่มากก
Zoomm in.....
ไม่ผิดหวังเลยที่อาเจ้พามากินร้านนี้ทุกอย่างลงตัวมาก ราคาทั้งหมดทั้งมวลที่สั่งมาอยู่ประมาณ 17000 เยน คุ้มเว่อ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น